ตอนที่แล้วEp.1084 - กระบวนการพังทลายของยีน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1086 - มิติบลูสตาร์จะไม่มีวันดับสูญ

Ep.1085 - ผู้ปกครองเหนือมิติทั้งปวง!


Ep.1085 - ผู้ปกครองเหนือมิติทั้งปวง!

ฉินเฟิงยืนอย่างองอาจระหว่างสองเขา เหนือหัวของจิตวิญญาณนักรบเทาเที่ย มีไป๋หลีคอยยืนเคียงข้าง ภาพนี้ราวกับเทพเจ้าที่มองทุกสรรพชีวิตจากมุมสูง

ร่างมโหฬารของเทาเที่ย มีขนาดใหญ่เป็นสิบเท่าของจ้าวเหนือหัวยักษ์วิญญาณ ซึ่งจริงๆแล้วเทียบกันได้เลยกับเผ่ามังกรยักษ์

สัตว์ร้ายที่กระโจนเข้ามา พริบตานั้นชนเข้ากับจิตวิญญาณนักรบของฉินเฟิง ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่า จิตวิญญาณนักรบนี้ มันคือส่วนหนึ่งของร่างกายฉินเฟิง

ตอนแรกมันเป็นแค่ร่างเงาเหมือนภาพลวงตา แต่เวลานี้ทุกเส้นขนล้วนเหมือนของจริง ซึ่งทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากพลังงานชีวิต

จิตวิญญาณนักรบเทาเที่ยจำเป็นต้องใช้พลังสมาธิของฉินเฟิงในการควบคุม นี่ก็เหมือนกับการควบคุมเครื่องจักรผ่านพลังสมาธิ สามารถขยับแขน ขา กระทั่งนิ้วมือได้ตามต้องการ

กรงเล็บมังกรของเทาเที่ยเอื้อมออกไป กรงเล็บฉกเข้าใส่ร่างของสัตว์ร้ายตนนั้น กุมมันเป็นแม่นมั่น แม้อีกฝ่ายจะเป็นร่างพลังงานก็ตาม แต่ช่วงเวลานี้ จะทำอย่างไรมันก็มิอาจสลัดหลุด

ช่วงเวลาต่อมา หน้ามนุษย์ของเทาเที่ยพลันอ้าปากกว้าง ก้มหัวลง งับ!ร่างสัตว์ร้ายในกุมมือ

ปากของเทาเที่ยขยุกขยิกราวกับกำลังดูดเยลลี่ ร่างพลังงานของสัตว์ร้ายตัวนั้น ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของฉินเฟิงจนหมดสิ้น

กร้วม กร้วม กร้วม!

ใบหน้ามหึมาเริ่มขยับเคี้ยว สุดท้ายโยนแก่นพลังงานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตรเข้าไปในปาก ท่าทีไม่ต่างจากกินถั่วต้มน้ำตาล กลืนมันลงไป

ในขณะเดียวกัน เผ่าพันธุ์อีกนับไม่ถ้วนก็กำลังโถมโจมตีฉินเฟิง

สัตว์ยักษ์หลายสิบตัวห้อมล้อมฉินเฟิง ไม่ว่าจะกรงเล็บ , อาวุธแหลมคม ล้วนฟาดล้วนฟันลงบนร่างเทาเที่ย นั่นเพราะทุกตนต่างทราบดี ว่านี่คือร่างพลังงานของฉินเฟิง โจมตีมันก็เหมือนโจมตีฉินเฟิงเช่นกัน

แต่หลังจากที่อาวุธของพวกมันปะทะเข้ากับร่างเทาเที่ย กลับให้สัมผัสคล้ายเสียงโลหะกระทบกันดังกึ้ง!

ปรากฏว่าขนของเทาเที่ยนั้นมิอาจทำลายได้ การโจมตีของเหล่าจ้าวเหนือหัวไร้ผล

--ร่างพลังงานของฉินเฟิง มันสมบูรณ์แบบเกินไป!

“เป็นไปไม่ได้!”

“ไม่ใช่ว่าเจ้าเพิ่งวิวัฒนาการขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวหรอกหรือ? เหตุใดถึงสามารถครอบครองพลังเช่นนี้?”

“ถอย! รีบถอยกันก่อนเร็ว!”

จ้าวเหนือหัวจากเผ่าพันธุ์หนึ่งรู้สึกท่าไม่ดี โพล่งออกมาทันที ดีดทั้งตนทั้งร่างของมันถอยกลับไป เพียงแต่ว่ากว่ามันจะนึกได้ ก็สายเกินไปแล้ว

ตามตัวของจิตวิญญาณนักรบเทาเที่ย ขนของมันกลายเป็นพลังงานแห่งความมืดมิด อสรพิษหน้าคนผุดพรายออกมาอีกครั้ง พันธนาการจ้าวเหนือหัวเหล่านั้นเอาไว้

ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงสังหารหมู่พวกเลเวล SSS9 ไป และตอนนี้ เขาได้วิวัฒนาการเป็นจ้าวเหนือหัวแล้ว ดังนั้นต่อให้เผชิญหน้ากับศัตรูในระดับเดียวกัน ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นการสังหารหมู่!

บรรดาจ้าวเหนือหัวที่ถูกอสรพิษหน้าคนของฉินเฟิงกัดเอา ร่างของทั้งหมดโป่งพองราวกับลูกโป่ง

“ตอนนี้ บอกให้ฉันฟังทีสิ ว่าฝ่ายไหนกันที่เป็นมดปลวก? แล้วฝ่ายไหนคือผู้แข็งแกร่งที่สุด!? --เผ่ามนุษย์ของฉัน นับจากนี้ไปพวกเราจะลุกขึ้นสู้! มีหน้ามีตาท่ามกลางมิตินับร้อยพันล้าน!”

พลังสมาธิของฉินเฟิง ถ่ายทอดคำพูดกระจายออกไปอย่างทรนง

เพียงแต่ว่าคำประกาศนี้ ท่ามกลางมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์นับล้าน มันถือเป็นการยั่วยุอย่างสิ้นเชิง

“เผ่ามนุษย์? นั่นมันชื่อเผ่าอะไรกัน?”

“ก็แค่สิ่งมีชีวิตที่ไม่ต่างจากเศษซากขยะ พวกเราจะปล่อยให้มันเย่อหยิ่งเช่นนี้ต่อไปได้อย่างไร?”

“คิดว่าแค่ได้ขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว ตัวเองก็กลายเป็นคงกระพันไม่มีผู้ใดเทียบแล้วหรือ?”

เผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนที่ถูกฉินเฟิงยั่วโมโห แสดงเจตนาฆ่าฟันอย่างบ้าคลั่ง

พวกมันทั้งหมดเชื่อว่า เผ่าพันธุ์ที่รุมล้อมฉินเฟิงก่อนหน้านี้ แท้จริงแล้วอ่อนแอเกินไป เลยพบกับจุดจบเช่นที่ปรากฏ

แม้แต่การดำรงอยู่อย่างเผ่ามังกรยักษ์ก็มองมาทางฉินเฟิง ทันใดนั้นอ้าปากกว้าง

“ก๊าซซซซซซซ!!!!”

เสียงมังกรคำราม ระเบิดขึ้นท่ามกลางจักรวาล พลังงานที่ลุกไหม้เป็นเปลวเพลิงขนาดยักษ์ มหึมาจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากระยะไกล ก่อตัวขึ้นในปากมังกร

ในเวลานี้ ฉินเฟิงก็ควบคุมเทาเที่ยเช่นกัน ปากมันเริ่มอ้าออก สร้างบอลพลังงานสีดำควบรวมกันแน่น อีกทั้งความเร็วยังมากกว่าฝ่ายมังกรซะอีก

ในพริบตาเดียว พลังงานแห่งความมืดก่อตัวเป็นดาวเคราะห์ทมิฬ ก่อนถูกยิงออกไป

ขณะเดียวกัน ฝ่ายมังกรยักษ์ก็ปลดปล่อยลมหายใจมังกร

เสารังสีพลังงานแห่งความมืดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหมื่นเมตรเข้าทานรับ

ทั้งสองหักหาญยื้อยุทธกันและกัน เกิดการหลอมละลาย สุดท้ายเป็นอำนาจมืดที่เหนือกว่า ปัดเสาเปลวเพลิงสลายไปข้างทาง

เพียงชั่วพริบตา ความมืดมิดทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ดับเปลวเพลิงอันร้อนแรง จากนั้นกวาดกลืนท่วมทับมังกรยักษ์ที่มีขนาดเท่าดวงดาว

ชั่วเวลานั้นเอง พลังชีวิตในร่างศัตรู แห้งเหือดลงอย่างรวดเร็ว อวัยวะส่วนต่างๆค่อยๆสลายหายไป ราวกับมันกำลังพังทลายลง เผยให้เห็นถึงกระดูก , อวัยวะภายใน และสุดท้ายแก่นพลังที่กำลังลุกไหม้

แต่ไม่ถึงเสี้ยวลมหายใจ ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็ถูกความมืดเข้ากลืนกิน เหลือทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า ราวกับเศษถ่านที่มอดม้วย ถูกพัดไปตามกระแสลมอวกาศ

มังกรยักษ์ตัวที่เหลือ เมื่อเห็นภาพนี้ ทั้งหมดโกรธแค้นเป็นอย่งามาก

วินาทีต่อมา มังกรหลายสิบตัว อ้าปากและพ่นเสาเปลวเพลิงออกไป

ตูม ตูม ตูมมมม!

เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามส่วนต่างๆบนร่างเทาเที่ยถูกยิงจนเกิดควันพวยพุ่ง บดบังวิสัยทัศน์จนไม่อาจมองเห็น แต่ไม่มีใครเชื่อเลยว่าฉินเฟิงจะสามารถรอดชีวิตไปได้ เพราะในบรรดาเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วน ไม่มีใครหรอกที่กล้าท้าทายเผ่ามังกรยักษ์ แล้วทำให้พวกมันโกรธ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเฝ้ารอจนกระทั่งฝุ่นควันจางหายไป ทุกสายตากลับพบว่า ร่างอันน่าสะพรึงของเทาเที่ยกับฉินเฟิงที่ยืนอยู่บนหัวมัน กลับยังคงปลอดภัยดี ไม่มีบุบสลายใดๆ อีกทั้งเวลานี้ยังปรากฏโล่แสงโปร่งใสล้อมรอบตัวเขา

นี่คือโล่พลังงานของจ้าวเหนือหัว ต้นกำเนิดก็เหมือนโล่ปราณกำลังภายใน ฉะนั้นลองคิดเอาเถิด ว่าดารากำลังภายในของฉินเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหน? จากเดิมดารากำลังภายในทั้งเก้าดวง ดวงละ 1,000 เมตร เมื่อหลอมรวมกันจะเท่ากับดารากำลังภายในที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 9 กิโลเมตร

แค่นี้ก็คงชัดเจนแล้วล่ะมั้ง?

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าเขาได้ดูดซับแก่นแท้พลังงานก้อนใหญ่ยักษ์ และพลังงานเหล่านั้น ไหลทะลักไปในทะเลแห่งจิตวิญญาณ ช่วยพัฒนาการเทาเที่ยจนมีระดับความสูงเป็น 10,000 เมตร!

และหากอ้างอิงตามการคำนวณตามปกติ จะเท่ากับว่า ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง มันมากกว่าของคนอื่นๆนับร้อยเท่า!

ดังนั้นการรุมโจมตีจากเผ่ามังกร จึงไม่มีผลใดๆต่อเขา

ฉินเฟิงหยิบมีดกษัตริย์ครามออกมา อัดฉีดกำลังภายในเข้าไป ต่อมา ใบมีดเริ่มขยายใหญ่ กลายเป็นมโหฬารอย่างหาที่เปรียบมิได้

เดิมมีดกษัตริย์ครามเป็นอาวุธในระดับจ้าวเหนือหัว ภายในหลอมรวมไว้ด้วยวัสดุมากมาย ทว่าก่อนหน้านี้ เพียงเพราะฉินเฟิงยังอยู่ในร่างมนุษย์ ดังนั้นมันจึงยังคงรูปลักษณ์ของให้มนุษย์สามารถใช้งานได้ และตอนนี้ ในที่สุด มีดกษัตริย์ครามก็สามารถสำแดงอำนาจที่แท้จริงของมันออกมา

“หน้าไหนต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของฉัน มันผู้นั้นต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่เต็มไปด้วยเลือด!”

“หน้าไหนต้องการจะหยุดฉัน มันผู้นั้นต้องทุกทรมาน!!”

“หน้าไหนไม่เชื่อฟังฉัน มันผู้นั้น … ต้องตาย!!!”

ฉินเฟิงโบกสะบัดมีดกษัตริย์ครามออกไป

“ท่าวิญญาณสะบั้น!”

ด้วยกำลังภายในมหาศาลที่อัดฉีดลงไป เหล่าภูติผีวิญญาณแผดร้องสุดเสียง โหยหวนจนห้วงอวกาศคล้ายกลายเป็นห้วงนรกภูมิ

วิญญาณของจ้าวเหนือหัวหลายตนลอยออกมา ตามมาติดๆด้วยวิญญาณเลเวล SSS นับไม่ถ้วน ซึ่งในจำนวนนี้ รวมไปถึงเลเวล SSS9 ที่แก่งแย่งแก่นแท้พลังงานกันในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

ช่วงเวลานี้ ท่าวิญญาณสะบั้นได้ปลดปล่อยพลังอย่างที่มันไม่เคยมีมาก่อน

ในจังหวะเดียวกัน ศัตรูที่อยู่ในรัศมีของฉินเฟิง ทั้งหมดถูกกวาดกลืน โดนบดขยี้ด้วยอานุภาพของคมมีดเล่มนี้

จ้าวเหนือหัวทยอยกันล้มตายลงตามเส้นทางที่ใบมีดตัดผ่าน

ไม่เว้นกระทั่งเผ่ามังกรยักษ์ มันถูกฟันแยกเป็นสองซีกเช่นกัน

ตูม ตูม ตูมมมมม!

แก่นพลังของเหล่าจ้าวเหนือหัวถูกสะบั้น กลิ่นอายแห่งชีวิตแผ่วจางลง ท่ามกลางมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จ้าวเหนือหัวเหล่านี้ เริ่มสลายกลายเป็นเม็ดทราย

ฆ่า! ฆ่า!! ฆ่า!!!

ตลอดทั้งมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญ จ้าวเหนือหัวนับไม่ถ้วนกรีดร้องตื่นตระหนก เผ่าพันธุ์นับล้านที่ปิดล้อมฉินเฟิง กลายเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางนองเลือดของเขา

ทุกชีวิตที่โจมตีเขา ถูกลงโทษด้วยความตาย!

ไม่ทราบเหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน แต่สภาพแวดล้อมรอบตัวฉินเฟิง เวลานี้ไม่มีจ้าวเหนือหัวคนไหนกล้าโจมตีเขาอีกแล้ว

ท่ามกลางฉากสังหารหมู่ จักรวาลกลายเป็นเวิ้งว้างว่างเปล่า

เผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอ เผ่าพันธุ์ที่เดินทางมาถึงช้า เผ่าพันธุ์ที่ตามมาทีหลัง ยามนี้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใน ภายในมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงปรากฏการดำรงอยู่อันน่าสยองขวัญเช่นนี้ขึ้นมาได้?

แต่พวกมันยังพอจดจำได้ ว่านี่คือเผ่าพันธุ์มนุษย์!

ฉินเฟิงค่อยๆหันร่างของเขา ไม่เอ่ยคำใด แต่สายตากวาดมองไปยังเหล่าจ้าวเหนือหัวรอบๆที่ยังรอดชีวิต

จ้าวเหนือหัวจากเผ่าพันธุ์นับล้าน ขณะนี้อกสั่นขวัญแขวน พากันก้มศีรษะลง แสดงท่าทีว่ายอมจำนนต่อฉินเฟิง

นี่เท่ากับเป็นการให้การยอมรับแล้ว ว่าฉินเฟิงคือจ้าวเหนือหัวอันคงกระพัน--

--กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมิติทั้งปวง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด