ตอนที่แล้วตอนที่ 3 ข้าคือบิดาแห่งความโชคดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 การก่อตัวของสวรรค์และโลก

ตอนที่ 4 ยกเลิกการหมั้น


ตอนที่ 4 ยกเลิกการหมั้น

ลู่สุ่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวที่เขามีกับตระกูลมู่คือทะเบียนสมรสของเขากับมู่เซี่ยเท่านั้น

ถึงอย่างนั้น มันก็เร็วเกินไปสำหรับการแต่งงาน

เขามีจะธุระอะไรกับตระกูลมู่นอกจากการแต่งงาน?

สมาชิกในตระกูลต้องการให้เขาแต่งงานก่อนกำหนดหรือไม่? มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?

แม้ว่าจะมีคำถามมากมายผุดขึ้นในความคิดของเขา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมาผ่านบนใบหน้าของเขา เขารอให้ผู้อาวุโสลำดับสามพูดให้จบก่อน

ผู้อาวุโสลำดับสามมองไปที่ลู่สุ่ยและพูดว่: “มู่เซี่ยแห่งตระกูลมู่… เจ้ามีความประทับใจในตัวนางบ้างไหม?”

เขาจะประทับใจเธอได้อย่างไร?

ระเบิดห้องลับของเขา ทำร้ายเขาแม้แต่ลูกก็ไม่ยอมให้มีด้วย

เมื่อเขาขอให้เธอไปรับการตรวจทุกอย่างก็ออกมาปกติดี แต่หลังจากนั้นเธอก็โกรธและทุบตีเขาเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน

จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องหนีไปฝึกตนที่อื่น

อ้อใช่ เขาได้ยินมาว่าตระกูลลู่ทั้งหมดอยู่ในภาวะคับขันในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

หลังจากนึกถึงสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ลู่สุ่ยก็พูดอย่างเงียบๆว่า “หญิงสาวในทะเบียนสมรสนั่นน่ะหรือ?”

ผู้อาวุโสลำดับสามพยักหน้า “ใช่ หญิงสาวในทะเบียนสมรสคนนั้นแหละ ภายใต้สถานการณ์ปกติ เธอควรจะเป็นคู่หมั้นของเจ้า”

เมื่อลู่สุ่ยได้ยินคำว่า 'ภายใต้สถานการณ์ปกติ' เขาถามทันที “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

ผู้อาวุโสลำดับสามมองดูลู่สุ่ยด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “ฉลาดขึ้นหรือเปล่าเนี่ย? ใช่แล้ว มีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ ข้าต้องการให้เจ้าไปเยี่ยมบ้านของตระกูลมู่”

มันทำให้ลู่สุ่ยประหลาดใจเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น ก่อนหน้านี้ตระกูลมู่ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกตินี่?

ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้พูดขัดอะไร เขารอให้ผู้อาวุโสลำดับสามพูดจบก่อน

ผู้อาวุโสลำดับสามกล่าวต่อ “เราพบว่ามู่เซี่ยลูกสาวของมู่เจี่ย สูญเสียการฝึกตนของเธอไปและตอนนี้กลายเป็นคนธรรมดาแล้ว ที่แย่ไปกว่านั้นคือตระกูลมู่พยายามปกปิดเรื่องนี้ไว้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่สุ่ยก็ขมวดคิ้ว มู่เซี่ยสูญเสียการฝึกตนของเธองั้นหรือ? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ก่อนหน้านี่เธอก็ยังดูปกติอยู่เลย

เนื่องจากการเกิดใหม่ของเขาเต็มเป็นด้วยเรื่องแปลกๆต่างๆมากมาย ลู่สุ่ยจึงยังไม่เข้าใจบางสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่แน่ใจว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเพราะการเกิดใหม่ของเขาหรือไม่

“ผู้อาวุโสลำดับสามท่านกำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่”? ลู่สุ่ยถาม

“เราจะไม่รับคนธรรมดาเป็นลูกสะใภ้ เอาทะเบียนสมรสของเจ้าและไปที่ตระกุลมู่เพื่อยกเลิกการหมั้นซะ” ผู้อาวุโสลำดับสามพูดพลางมองดูลู่สุ่ย

เขายืนขึ้นและพูดว่า “รักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าด้วยในอีกสามวันข้างหน้าเจิ้นหวู่กับเจิ้นหลิงจะไปกับเจ้าด้วย อย่าลืมยกเลิกการหมั้นด้วยล่ะ”

หลังจากพูดจบเขาก็จากไป

แทนที่จะถามลู่สุ่ยก่อน เขากลับสั่งให้เขายกเลิกการหมั้นทันที

แต่ลู่สุ่ยไม่สนใจ เขายิ้มและพึมพำ “ยกเลิกการหมั้น? น่าสนใจเหมือนกัน”

ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บเขาจะไปในทันที

ไม่น่าแปลกใจที่ผู้อาวุโสลำดับสามขอให้ลู่สุ่ยไปด้วยตัวเอง เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องน่าอายที่ต้องทำ และลู่สุ่ยเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำเรื่องนี้

เพราะหลังจากนั้น เขาก็จะไม่สูญเสียชื่อเสียงอีกรอบ

หลังจากออกจากห้องโถง ลู่สุ่ยก็ไปที่สวนยาอายุวัฒนะเพื่อเลือกน้ำอมฤต จากนั้นเขาก็กลับไปที่ศาลาของเขา

เขาจำเป็นต้องรักษาอาการบาดเจ็บของเขาอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นมันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้

หลังจากที่อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว การฝึกตนของเขาต่างหากที่สำคัญ อันที่จริง พื้นฐานการฝึกตนของเขาไม่ได้แย่ขนาดนั้น มิฉะนั้นเขาจะไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการให้ตระกูลลู่สืบทอดเชื้อสายอย่างแน่นอน

ในชาติที่แล้วหลังจากแต่งงานแล้วเขาก็ยังขยันอ่านหนังสืออยู่หลายเล่ม จนอยุ่มาวันหนึ่งเขาก็เจอหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ในตระกูลของเขา

หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า 'ลำดับสวรรค์และพิภพ' เขาต้องการที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างมาก

หลังจากตัดสินใจแล้ว ลู่สุ่ยก็หยิบสมุนไพรจากสวนยาอายุวัฒนะมาบด

เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เขาจึงยกเสื้อผ้าขึ้นและใช้ยาทาลงไปบนบาดแผล

“โอ้ยย เจ็บ”

เขารู้สึกว่าแผลของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากใช้ยา

อย่างน้อยก็ไม่เจ็บเหมือนตอนแรกที่เขาตื่นมาในศาลาแหละ

ในตอนนี้ มีคนกำลังเข้าไปในศาลาที่เขากำลังพักผ่อนอยู่

ลู่สุ่ยใส่เสื้อผ้าของเขาและมองไปที่คนๆนั้นอย่างสงสัย

คนๆนั้นเป็นผู้หญิงสวยที่มีสาวใช้เดินตามเธออีกที

สาวใช้คนนั้นก็ไม่ใช่ใครนอกจาก ฉีซี่

ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยก็เข้ามาหาลู่สุ่ย เธอมองไปที่ศาลาในห้องและบอกฉีซี่ว่า “ออกไปก่อนและอย่าให้ใครเข้ามาได้ล่ะ”

“รับทราบค่ะ” ฉีซี่ตอบรับ

จากนั้นเธอก็มองไปที่ลู่สุ่ยและพูดว่า “กำลังทายางั้นหรือ? มานี่แม่จะช่วยเอง”

หญิงสาวคนนี้เป็นแม่ของลู่สุ่ย หลินยิ่น ตงเฟ่ย เธอเป็นคนที่แต่งงานกับคนในตระกูลลู่

ว่ากันว่าผู้อาวุโสที่ตำแหน่งสูงสุดได้เลือกหญิงสาวคนบางคนในตระกูลฝั่งตะวันออกเป็นการส่วนตัวและพาเธอเข้ามาในจักรวรรดิแห่งนี้แล้วพาเธอมาแต่งงาน

หลู่สุ่ยมองไปที่แม่ของเขาและโดยรู้สึกอะไรเลย ในชาติที่แล้ว แม่ของเขาก็ดูสบายดี

เขายังคงรักแม่ของเขา แต่บางครั้งเขาก็ไม่สนใจ

“ไม่เป็นไรหรอกท่านแม่ ข้าโตแล้ว ข้าทำเองได้”

เขาคุ้นเคยกับการทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง เขารู้สึกไม่สบายใจเมื่อมีคนอื่นมาช่วยเขา

บางครั้งมู่เซี่ยก็ช่วยเขาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันมากกว่า

แล้วคนรับใช้ล่ะ?

เขาก็ไม่ต้องการให้สาวใช้ทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน

หลินยิ่น ตงเฟ่ยมองไปที่ลู่สุ่ยอย่างเอ็นดู เธอพึมพำออกมาเบาๆ

“โตแล้วงั้นหรือ?”

เธอนั่งอยู่ข้างเขาและถอนหายใจ “ใช่ ข้าโตแล้ว…”

จากนั้นลู่สุ่ยก็ถามแม่ของเขา “ท่านแม่ การมาเยี่ยมของท่านมันกระทันหันมาก ท่านมีอะไรจะพูดกับข้าไหม”?

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชาย หลินยิ่น ตงเฟ่ยก็อารมณ์ดีขึ้นทันทีและพูดว่า “ใช่ แม่ได้ยินมาว่าลูกฆ่าปีศาจได้ แม่ก็เลยอยากมาดีใจกับลูกด้วย แต่เมื่อแม่ได้ยินเรื่องอย่างอื่น แม่ก็ไม่มีอารมณ์จะฉลองเลย”

ลู่สุ่ยยังคงบดยาเข้ากับน้ำอมฤตของเขาต่อไปและพูดว่า “ยกเลิกการหมั้น แล้วอยู่อย่างสันโดษใช่ไหม”?

หลินยิ่น ตงเฟ่ยพยักหน้าและพูดว่า “แม่กังวลว่าลูกจะไปที่ตระกูลมู่ เพื่อยกเลิกการหมั้นโดยป่าวประกาศให้คนอื่นๆได้รู้ด้วย”

ลู่สุ่ยไม่ได้พูดอะไร

เพราะเขาเคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน

“ลูกควรทำตามคำสั่งเท่าที่ลูกจะทำได้ ต่อให้ไม่อยากฟังแม่พูดก็อย่าไปพูดอะไรแย่ๆที่บ้านของตระกูลมู่เด็ดขาด ถ้าลูกคุยกับพวกเขาอย่างเป็นมิตร พวกเขาก็จะเข้าใจความรู้สึกของลูกแน่นอน” หลินยิ่น ตงเฟ่ยถอนหายใจ

มันอาจไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันจะไม่ส่งผลอันตรายต่อชีวิตของเขา แต่เขาต้องประพฤติตนให้ดีเพราะตระกูลมู่เป็นตระกูลที่สำคัญมากๆอีกตระกูลหนึ่งเช่นกัน

ถ้าลู่สุ่ยทำให้ตระกูลมูขุ่นเคืองโดยไปทำอะไรเสียๆหายๆถึงถื่นของพวกเขา มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีมากสักเท่าไหร่

หลังจากฟังคำพูดของแม่ ลู่สุ่ยรู้สึกว่าความไม่รู้ครั้งก่อนของเขาทำให้แม่ของเขาต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจบางอย่าง เมื่อเขากำลังจะพูดคำปลอบโยน เขาก็ต้องระงับความรู้สึกผิดในครั้งก่อนเมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของแม่

“ถ้าลูกได้ภรรยาใหม่ก็ให้กำเนิดลูกชายให้แม่อีกคนนะ”

ลู่สุ่ยชี้ไปที่ประตูแล้วพูดว่า “แม่ กลับไปซะ”

“ไม่ ฟังแม่ก่อน...”

ก่อนที่แม่ของเขาจะพูดจบ ลู่สุ่ยก็พูดว่า “ไม่”!

ดูเหมือนว่าลูกชายของเธอยังอยู่ในวัยต่อต้าน

หลังจากที่หลินยิ่น ตงเฟ่ยจากไป ลู่สุ่ยก็เริ่มทายาอีกครั้ง

ส่วนวิธีการพูดคุยกับสมาชิกตระกูลมู่ แน่นอนว่าเขาจะคิดหลังจากที่ไปถึงที่นั่นแล้ว

ถึงจะมีเรื่องให้คิดมากมาย แต่การยกเลิกงานหมั้นนั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก

เขาต้องการหย่าจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด