ตอนที่แล้วEp.1078 - กลายเป็นคนพิการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1080 - รวมพลจ้าวเหนือหัว

Ep.1079 - นี่น่ะหรือมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์


Ep.1079 - นี่น่ะหรือมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

หลังจากเหตุการณ์ขัดแย้งกันระหว่างฉินเฟิงกับจ้าวเหนือหัวอันผิงคลี่คลาย ทุกคนที่สามารถเดินทางเข้าสู่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรมนุษย์ ต่างรู้จักและได้ยินชื่อเสียงของฉินเฟิง

เพราะเรื่องราวในครั้งนี้ มันโด่งดังเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ความขัดแย้งในครั้งนี้ เป็นจ้าวเหนือหัวอันผิงที่ยอมประนีประนอม สถานการณ์ดังกล่าว ยิ่งขับหนุนให้ชื่อเสียงของฉินเฟิงขจรขจายไปทั่ว

แต่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีผลอะไรกับฉินเฟิง คนที่ได้รับผลประโยชน์เต็มๆ เกรงว่าจะเป็นซูซิงฝู

เพราะใครๆก็รู้ ว่าซูซิงฝูคือหนึ่งในลูกน้องของฉินเฟิง ดังนั้นไม่มีใครกล้าเอารัดเอาเปรียบเขา

ขณะเดียวกัน เนื่องจากฉินเฟิงเป็นบุคคลอันดับหนึ่งที่เป็นรองแค่จ้าวเหนือหัวเท่านั้น ทำให้ในมือของเขา มีทรัพยากรมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนนับไม่ถ้วนตามหาตัวซูซิงฝู เพื่อขอแลกเปลี่ยนกับเขา

ธุรกิจของซูซิงฝูเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มิติที่เขาซื้อขายในตอนนี้ ทั้งหมดเป็นมิติระดับสูงขึ้นไปทั้งสิ้น

ฉินเฟิงท่องไปทั่วมิติของมนุษย์ กลืนกินแกนมิตินับไม่ถ้วน ความแข็งแกร่งพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง

สามเดือนต่อมา

ท่ามกลางอวกาศที่ว่างเปล่า รังสีคมมีดอันน่าสะพรึงได้กวาดไปทั่วจักรวาล สัตว์ยักษ์มิติกรีดร้องน่าสังเวช ก่อนลมหายใจของมันจะขาดห้วงไป

พลังแห่งความมืดเข้าโอบคลุมศพของมัน แก่นอบิลิตี้ถูกกลืนกินในพริบตา พลังสมาธิมหาศาลถูกดูดซับเข้าสู่อีกร่างหนึ่ง

ตูม!

พลังสมาธิตัดผ่านไปอีกขั้น ก้าวมาถึงในจุดที่แทบจะสมบูรณ์แบบ

ฉินเฟิงลอยอยู่ในอวกาศ ซึมซับความรู้สึกที่เกิดจากการยกระดับพลังสมาธิในเวลานี้

พลังสมาธิของเขาได้มาถึงเลเวล SSS9 เป็นที่เรียบร้อย

ช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ฉินเฟิงไม่อยู่เฉย ออกล่าสัตว์ร้ายตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม สัตว์ร้ายระดับจ้าวเหนือหัว ไม่ง่ายเลยที่จะพบเจอ ฉินเฟิงไม่มีโอกาสได้สังหารจ้าวเหนือหัวเป็นตัวที่สอง ได้แต่ไล่สังหารสัตว์เทวะเลเวล SSS เท่านั้น

จนตอนนี้ ฉินเฟิงจำไม่ได้แล้วว่าเขาสังหารสัตว์เทวะเหล่านั้นไปกี่ตัว

ระหว่างที่ฉินเฟิงกำลังซึมซับความรู้สึกนี้ บนอุปกรณ์สื่อสารพิเศษ จู่ๆก็มีข้อความถูกส่งเข้ามา

“หืม? เริ่มแล้วงั้นหรอ” ฉินเฟิงได้รับข้อความ ในหัวใจเต้นครึกโครมปั่นป่วนรุนแรง

ช่วงระยะเวลาสามเดือน ในสายตาของฉินเฟิง มันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า

เพราะหนทางสู่จ้าวเหนือหัว มันอยู่ห่างจากเขาเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น แต่เป็นครึ่งก้าวที่ไม่สามารถเหยียบย่างผ่านเข้าไปได้

“น่าเสียดาย ที่แก่นกำลังภายในของฉัน ดารากำลังภายในทั้งเก้ายังไม่สามารถขยายไปถึงเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 เมตรได้”

คำนวณตามปริมาตรและความบริสุทธิ์หลังการดูดซับและกลั่นกรองพลังงาน ฉินเฟิงจำเป็นต้องกลืนกินแกนมิติอย่างน้อย 10,000 ดวง เพื่อให้เก้าดารามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร

ในขณะที่งานประลองเพื่อสันติภาพ ที่มักจะจัดขึ้นทุกๆ 2 - 3 ปี มีมิติที่ถูกค้นพบใหม่แค่ 2,000 - 3,000 ดวงเท่านั้น

และในบรรดาที่กล่าวมา จะมีสักกี่มิติเชียวที่ไม่มีเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่?

ขณะเดียวกัน ถ้าต้องให้เลือกกลืนกินมิติที่แห้งแล้ง แบบนั้นมันก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของฉินเฟิง

อย่างไรก็ตาม ดารากำลังภายในทั้งเก้าของฉินเฟิง ตอนนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากถึง 500 เมตรแล้ว

ถ้าให้อธิบายอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงในตอนนี้ มันทรงพลังถึงขั้นน่าสยดสยองแล้ว!

“ตอนยกระดับกำลังภายในสู่เลเวล S ฉันได้สร้างดาราทั้งเก้าดวงขึ้นมา แค่ตอนนั้นก็แข็งแกร่งกว่าคนอื่นมากแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ไม่ควรโลภมากเกินไป ได้เท่านี้ก็พอ!”

มิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยรอใคร ดังนั้นฉินเฟิงไม่ยึดติดกับเรื่องที่ต้องขยายขนาดดารากำลังภายในจนเต็ม

เขาเดินทางกลับสู่มิติบลูสตาร์ จากนั้นบอกกลุ่มเฟิงหลีว่าเขากำลังจะไปตัดผ่านสู่ตำแหน่งจ้าวเหนือหัว

ตลอดหลายปีมานี้ มีผู้ใช้พลังจำนวนมากที่สามารถยกระดับขึ้นสู่เลเวล SSS9 ทว่าในหมู่พันธมิตรมนุษย์และพันธมิตรองค์กรมืด ช่วงที่ผ่านมากลับไม่มีจ้าวเหนือหัวปรากฏขึ้นเลย นี่แสดงให้เห็นว่าการตัดผ่านสู่ขอบเขตจ้าวเหนือหัวยากเย็นเพียงใด

ฉินเฟิงเตรียมใจไว้แล้วเช่นกัน  แต่หลังจากหันไปมองไป๋หลี ฉินเฟิงก็รู้สึกว่า ความยากลำบากทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้น มันไม่ใช่อุปสรรค

เขายังมีไป๋หลี เขาและเธอจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ผ่านพ้นมันไปให้จงได้

“ไปกันเถอะ”

หลังจากอธิบายทุกอย่างแล้ว ฉินเฟิงฉีกมิติ มุ่งหน้าไปยังเมืองลอยฟ้าแห่งหนึ่งในอาณาเขตของพันธมิตรองค์กรมืด ในพิกัดที่เฉียนมู่ให้มา

เขามาถึงก่อนเวลา หลังจากรอสักพัก ผู้ใช้พลังเลเวล SSS ก็เริ่มปรากฏขึ้นทีละคน ฉินเฟิงค่อยๆสังเกตผู้มาใหม่ที่มาเยือน

พบว่าผู้ใช้พลังเหล่านี้ มีตั้งแต่อายุมาก คล้ายไม่เหลือความแข็งแกร่งอีกต่อไป ไล่มาจนถึงพวกที่อายุยังน้อย สีหน้าท่าทีของคนกลุ่มหลังเปี่ยมไปด้วยความทะนงตน กระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อว่าโชคชะตาของพวกเขา จะสามารถติดปีกโผบินขึ้นสู่สวรรค์ สามารถขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวในอนาคตได้

แต่มนุษย์ประเภทที่สองที่อธิบายมา มีน้อยมากๆ

ท่ามกลางพันธมิตรมนุษย์และพันธมิตรองค์กรมืด จำนวนผู้ใช้พลังเลเวล SSS9 มีไม่น้อย แต่ในหมู่คนที่เดินทางมายังมิติแห่งนี้ คนที่ดูเหมือนว่าจะเดินทางมาเพื่อยกระดับขึ้นสู่ขอบเขตจ้าวเหนือหัว  กลับมีเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น

ครึ่งวันต่อมา กลิ่นอายอันเงียบสงบ ได้ปรากฏขึ้นเบื้องหลังคนเหล่านั้น

หากไม่ใช่เพราะพลังแห่งความมืดอันเฉียบคมของฉินเฟิง เขาคงไม่สามารถตระหนักถึงการปรากฏตัวของอีกฝ่ายเลย

“จ้าวเหนือหัวไซเร็น!” หัวใจของฉินเฟิงเริ่มเต้นรัว

จากนั้น ตามมาติดๆด้วยผู้ติดตามของจ้าวเหนือหัวไซเร็น เป็นผู้ใช้พลังเลเวล SSS9 จำนวน 8 คน

จ้าวเหนือหัวไซเร็นคราวนี้อยู่ในร่างมนุษย์ ไม่สูงใหญ่ แต่สำหรับนักฆ่าคนนี้ที่สามารถขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้ การมีร่างกายใหญ่โต ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ตรงกันข้าม ร่างผอมบางต่างหากที่จะทำให้ผู้คนลดความระวัง สามารถฉวยโอกาสสังหารได้ในกระบวนท่าเดียว

แต่ไม่นาน ฉินเฟิงก็พบว่า จ้าวเหนือหัวอีกคนที่มา ก็ลดขนาดร่างอันใหญ่โตของเขาลงเช่นกัน

ผู้มาเยือนอีกคนมิใช่ใครอื่น เป็นจ้าวเหนือหัวปีศาจเสพวิญญาณ

“ฮึ่ม!”  ปีศาจเสพวิญญาณมองฉินเฟิง แค่นเสียงเย็นชา แต่ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร บางทีอาจเป็นเพราะ เขารู้สึกได้ ว่าฉินเฟิงแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของพลังสมาธิ ฉินเฟิงอยู่ใกล้ขอบเขตจ้าวเหนือหัวเพียงแค่เอื้อม

มีผู้ติดตามอีกสิบกว่าคนเบื้องหลังจ้าวเหนือหัวปีศาจเสพวิญญาณ แต่ทั้งหมดเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจเสพวิญญาณทั้งสิ้น

และคนสุดท้ายที่มาถึง คือจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่  ร่างของเฉียนมู่เวลานี้อยู่ในขนาดเท่ามนุษย์เช่นกัน ในฐานะเผ่าโดร่า เฉียนมู่มีผมยาวสีทอง ประกายแสงสีทองสะท้อนจากดวงตาเขา ขับหนุนให้ดูหล่อเหลา วิจิตรงดงามยากหาผู้ใดเทียบ

“จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่!”

“ท่านผู้ใหญ่สบายดี?”

“นายแห่งข้า!”

กลุ่มคนต่างพากันน้อมคำนับเขา ผู้ใช้พลังเลเวล SSS9 หลายคนที่มารออยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ทั้งหมดได้รับคำเชิญจากเฉียนมู่ รวมไปถึงฉินเฟิงด้วย

ในพันธมิตรองค์กรมืด จ้าวเหนือหัวไซเร็นมักเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว ขณะที่จ้าวเหนือหัวปีศาจเสพวิญญาณอันตรายเกินไป ตรงกันข้าม จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ไม่เหมือนสองคนที่กล่าวมา แม้อยู่ในฐานะองค์กรมืด แต่เขาค่อนข้างใจดีกว่าคนอื่นๆ

เขาเลยกลายเป็นความหวังของคนระดับต่ำในองค์กรมืด และเป็นที่นิยมอย่างมาก

ยังไงก็ตาม ห้ามลืมว่าเขาก็แข็งแกร่งเช่นกัน เพราะหากอ่อนแอ ต่อให้มีแต่คนนับหน้าถือตา ก็อาจถูกโค่นล้มได้ตลอดเวลา

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ถึงเป็นที่รักใคร่ ดังนั้นคนที่จะติดตามเฉียนมู่ในครั้งนี้ จึงมีมากถึง 30 คน

รวมๆแล้วคนที่จะไปมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ฝั่งองค์กรมืดมีทั้งสิ้นราวๆ 60 คน

“ตามฉันมา”

เฉียนมู่กล่าว

“ขอรับ!”

ทุกคนตอบกลับ

จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่เปิดช่องว่างมิติอย่างรวดเร็ว จากนั้นก้าวเข้าไป

ฉินเฟิงไป๋หลีมองหน้ากัน ทั้งคู่ก้าวตาม

หลังจากที่คนอื่นๆมาถึงมิติแห่งนี้แล้ว พวกเขาไม่ทันได้มีเวลาสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆ  เฉียนมู่จู่ๆก็กวาดมือ ชักนำพวกเขาไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

เวลานี้ ฉินเฟิงและคนอื่นๆไม่พูดอะไร  ติดตามไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ

ไม่นาน พวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติ

นี่คือรอยแยกมิติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอักษรรูนลอยล่องอยู่นับไม่ถ้วน

ฉินเฟิงมองมายังฉากที่คุ้นเคยนี้ อดรู้สึกตะลึงไม่ได้

เพราะอันที่จริงนี่มันเหมือนกับมิติมวลหมู่ดาวรูนที่เขาเคยพบในมิติบลูสตาร์เลย

หรือว่าจริงๆแล้ว … เป็นไปได้ไหมว่าที่นั่นคือมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด