ตอนที่แล้วEp.1072 - ความแข็งแกร่งทางกายภาพถูกเติมเต็ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1074 - ใส่ร้าย

Ep.1073 - จับกุมซูซิงฝู


Ep.1073 - จับกุมซูซิงฝู

“ขอบคุณจ้าวเหนือหัวเฉียน หลังจากนี้ไป ถ้ามีเรื่องไหว้วานอะไร โปรดติดต่อมาหาผม” ฉินเฟิงกล่าว

แม้เขาจะเอ่ยเช่นนั้น แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เฉียนมู่จะมองฉินเฟิงแบบเดิมเหมือนเมื่อครึ่งเดือนก่อน เขาไม่มีทางไหว้วานฉินเฟิงในฐานะผู้ใช้พลังที่มีสถานะต่ำกว่าได้อีกแล้ว

นับจากนี้ไป ด้วยความสามารถในการต่อสู้ที่ฉินเฟิงมี เขาคงสามารถกวาดล้างสัตว์ยักษ์หลายชนิดได้อย่างแน่นอน

จ้าวเหนือหัวไซเร็นมองฉินเฟิงอย่างลึกล้ำ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา หันหลังฉีกรอยแยกมิติ แล้วจากไปทันที

อีกด้านหนึ่ง ปีศาจเสพวิญญาณวาดแขนออกไป จากนั้นเงาหัวกะโหลดปรากฏขึ้นในอวกาศ ห่อหุ้มปีศาจเสพวิญญาณเอาไว้ จากนั้นหัวกะโหลกค่อยๆถอยหลังกลับไป ยิ่งไกลยิ่งหดเล็กลง ทะลุมิติจากไปเช่นกัน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว องค์กรมืดไม่เหมือนพันธมิตรมนุษย์ หากปรากฏจ้าวเหนือหัวขึ้นในพันธมิตรมนุษย์  จ้าวเหนือหัวคนอื่นๆย่อมออกมาแสดงความยินดี ทำความรู้จัก และผูกมิตร

แต่ในฝั่งพันธมิตรองค์กรมืด แค่ไม่ทะเลาะหรือฆ่ากันเอง ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว

นี่คือสาเหตุที่พอจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตปรากฏกายขึ้น จ้าวเหนือหัวไซเร็นจึงตัดสินใจลงดาบอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล

เมื่อเห็นจ้าวเหนือหัวทั้งสองจากไป ฉินเฟิงก็กล่าวว่า “ผมอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีคนเคยบอกผมว่า ถ้าอยากวิวัฒนาการไปสู่ลักษณะทางชีวภาพอย่างจ้าวเหนือหัว จำเป็นต้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าพิกัดของมันคือตำแหน่งใด หรือว่ามีแต่จ้าวเหนือหัวเท่านั้นถึงจะพาคนอื่นไปได้?”

จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่พอได้ฟังว่าฉินเฟิงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับจ้าวเหนือหัวเลย ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายอาจมีจ้าวเหนือหัวอยู่เบื้องหลังเป็นอันปัดทิ้งไป ทว่าถึงจะไม่ใช่ แต่ตัวฉินเฟิงในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถยั่วยุได้โดยง่ายอยู่ดี

“ตำแหน่งของมิติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เกิดขึ้นในจุดเดิมซ้ำๆ อีกประเด็นก็คือระหว่างทางพลังงานจักรวาลมีความรุนแรงมาก และจำเป็นต้องรอให้กระแสการไหลของเวลารวมตัวกันเป็นปึกแผ่น จึงจะให้กำเนิดบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ ยังไงก็ตามถึงเวลานั้นมันจะไม่ได้มีแค่พวกเรา แต่ยังมีสัต์ร้ายอีกเป็นพันล้านสายพันธุ์ เข้าร่วมแย่งชิง ดังนั้นต่อให้รู้ทางเข้า แต่คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าไปเองได้?”

“พันล้านเผ่าพันธุ์?” ฉินเฟิงรู้สึกตกใจกับข้อมูลนี้

จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่พยักหน้า และกล่าวว่า “ถูกต้อง พันล้านที่ว่ารวมถึงสัตว์ร้ายและพวกแมลง  ทั้งหมดจะไปรวมตัวกันที่นั่น ถึงเวลานั้น พวกเราจะเดินทางร่วมกับจ้าวเหนือหัวของพันธมิตรมนุษย์ แต่คนที่รอดมาได้แบบมีชีวิต ไม่รู้ว่าจะมีซักกี่คน”

ฉินเฟิงขมวดคิ้ว

ร่วมเดินทางไปกับจ้าวเหนือหัวของพันธมิตรมนุษย์อย่างนั้นหรือ?

เฉียนมู่สังเกตเห็นสีหน้าฉินเฟิง และถึงจะไม่ตรงซะทีเดียว แต่เขาก็พอจะเดาสิ่งที่อยู่ในใจฉินเฟิงได้ กล่าวปลอบว่า

“ไม่จำเป็นต้องคิดมาก ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ยังไงก็สามารถเอาชนะเผ่าพันธุ์พวกนั้นได้สบาย สามารถขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้แน่นอน!”

ฉินเฟิงพยักหน้า “เช่นนั้น ผมคงต้องรบกวนจ้าวเหนือหัวเฉียนแล้ว อีกสามเดือนพวกเราค่อยกลับมาเจอกันใหม่!”

“ไม่มีปัญหา!”

หลังจากทั้งสองเอ่ยคำร่ำลา ก็แยกย้ายกันฉีกมิติ ออกจากสถานที่แห่งนี้ไป

ส่วนการล่มสลายของเมืองลอยฟ้า จะมีการสถาปนามันขึ้นอีกหรือไม่ เรื่องพวกนี้ระดับจ้าวเหนือหัวไม่สนใจ

ปัจจุบันเหลือแค่พวกผู้ใช้พลังที่ใจกล้า ตัดสินใจรับชมการต่อสู้ระหว่างจ้าวเหนือหัวเท่านั้นที่ยังอยู่ การได้เป็นประจักษ์พยานการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์นี้ ทำให้หัวใจของพวกเขาพองโต ข่าวคราวที่เกิดขึ้นแพร่กระจายออกไปชนิดความเร็วแสง

แต่เรื่องพวกนี้ ฉินเฟิงไม่รู้เลย

และที่ยิ่งไม่รู้ก็คือ ชื่อของจอมมารซวนเฟิง ได้แพร่กระจายออกไปทั้งจักรวาลที่มนุษย์อาศัยอยู่แล้ว สมาชิกพันธมิตรองค์กรมืดได้ขนานนามเขาว่า ‘กึ่งจ้าวเหนือหัว’ (ครึ่งก้าวสู่ตำแหน่งจ้าวเหนือหัว)

ในมิติบลูสตาร์ เมืองเฟิงหลี

เมื่อฉินเฟิงได้ขึ้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของบลูสตาร์ เมืองนี้ก็ยิ่งเจริญรุ่งเรือง มีชีวิตชีวาถึงขีดสุด แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เจ้าเมืองเฟิงหลี ประสบพบพานการต่อสู้แสนยิ่งใหญ่แบบใดมา?

ฉินเฟิงทิ้งตัวลงบนเตียงในวิลล่า ผล็อยหลับไป

แม้ความแข็งแกร่งทางกายภาพจะถูกเติมเต็มจนอยู่ในสภาวะขีดสุดแล้วก็ตาม แต่

ความเจ็บปวดจากการถูกควบคุมเลือดให้ระเบิดจากในร่างกาย ทำให้เขาเหนื่อยล้า ในที่สุดตอนนี้ก็ได้พักผ่อนสบายๆเสียที

ห้วงหลับใหลนี้ ฉินเฟิงนอนไม่ลุกเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

อีกด้านหนึ่ง ในอาณาเขตของพันธมิตรมนุษย์  ซูซิงฝูกำลังซื้อขายมิติระดับสูง

ทรัพยากรใหม่ที่ฉินเฟิงนำมานั้นล้ำค่ามาก ซูซิงฝูอยู่ในพันธมิตรมนุษย์เลยไม่ต่างจากปลาได้น้ำ ว่ายไปเรื่อยๆอย่างสนุกสนาน

เขาได้รู้จักกับนักธุรกิจมากมาย และการซื้อขายในคราวนี้ คือการแลกเปลี่ยนกับตัวตนทรงอำนาจเลเวล SSS

มันคือมิติที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ทรัพยากรค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แกนมิติมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 100 เมตร

หลังจากที่ซูซิงฝูซื้อมัน เขาก็มาพบไป๋หลีทันที

ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังมิติแห่งนั้นอย่างรวดเร็ว

“ไปรอฉันข้างนอก” ไป๋หลีสั่ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองคนทำแบบนี้ ดังนั้นซูซิงฝูรีบบินขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่อวกาศ ก้มมองดวงดาวเบื้องล่างตนเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ดวงดาวก็เริ่มเกิดการสั่นสะเทือน ปรากฏรอยร้าวบนแผ่นดิน ราวกับว่ากำลังจะล่มสลาย

นี่แสดงให้เห็นว่า ไป่หลีได้รับแกนมิติของที่นี่มาเรียบร้อยแล้ว

สัตว์ยักษ์มิติช่างร้ายกาจจริงๆ

อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเอง บนอวกาศเหนือดวงดาวแห่งนี้ จู่ๆก็มีรอยแยกมิตินับสิบรอยปรากฏขึ้น เมื่อมันกางออก ผู้ใช้พลังกลุ่มหนึ่งก็บินออกมา

ไม่เพียงแค่นั้น  แต่ความแข็งแกร่งของผู้ใช้พลังเหล่านี้ ค่อนข้างทรงพลัง ทั้งหมดเป็นผู้ใช้พลังเลเวล SS และมีหนึ่งคนในกลุ่มที่มีเลเวล SSS

ยิ่งไปกว่านั้น เลเวล SSS คนนี้ มิใช่ใครอื่น แต่เป็นเส้าตงเฟิงที่เป็นปรปักษ์กับฉินเฟิง

พลังการรับรู้ของเส้าตงเฟิงกวาดออกไป มองไปยังดวงดาวที่สั่นสะเทือน ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที จากนั้นเขาตระหนักถึงซูซิงฝู ร่างกายอันสูงใหญ่ของเขา บินข้ามอวกาศตรงเข้าหาทันที

จากนั้น แรงกดดันมหาศาลกดทับลงบนร่างของซูซิงฝู

“ชื่อซูซิงฝูใช่ไหม? ฉันในนามตัวแทนของสำนักงานใหญ่พันธมิตรมนุษย์ ขอจับกุมคุณอย่างเป็นทางการ!” เส้าตงเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ซูซิงฝูที่ถูกกดดันจนแผ่นหลังงองุ้ม กัดฟันถามกลับไป “จับฉัน? เพราะอะไร? ฉันทำผิดอะไร!?”

เส้าตงเฟิงหัวเราะเย็นชา กล่าวว่า “หลักฐานทั้งหมดก็อยู่นั่นไง คุณยังต้องการจะปฏิเสธอีกหรือ? จากผลการตรวจสอบของพวกเรา พบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณทำลายแกนมิติ แต่อีกกว่า 50 มิติที่คุณครอบครอง ก็มีสภาพไม่ต่างจากที่นี่ บอกตามตรงว่าแม้แต่ฉันก็ยังอดสงสัยไม่ได้ ว่าคุณเป็นสายลับขององค์กรมืด!”

ซูซิงฝูฟังคำพูดของเส้าตงเฟิง เขายอมรับว่าท่อนแรกเป็นเรื่องจริง แต่ไอ้เรื่องสายลับองค์กรมืดอะไรนั่น ใส่ความกันชัดๆ

“มิติพวกนี้เคยมีคนค้นพบมันมาก่อนแล้ว ซึ่งตามกฏของพันธมิตรมนุษย์ ผู้ที่ค้นพบมิติ จะมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการ และลงทะเบียนเป็นเจ้าของมิติได้ และฉันก็ใช้ช่องทางปกติซื้อมิติจากพวกเขา ระดับสูงต่ำต่างกันไป และในเมื่อฉันซื้อมาแล้ว จะทำยังไงกับมิติเหล่านี้มันก็ธุระของฉัน อีกอย่างบนดาวดวงนี้ ไม่มีเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่ ทำไมฉันถึงไม่สามารถยึดเอาแกนมิติของมันมาครองได้?”

ซูซิงฝูเป็นนักธุรกิจ แต่เขาก็รู้ดีว่าในโลกใบนี้ ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นใหญ่ที่สุด นักธุรกิจถึงรวยแค่ไหนก็สู้สิ่งที่กล่าวมาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังตัวมาก เพื่อไม่ให้ใครจับจุดอ่อนได้ง่ายๆ

แต่คราวนี้ เห็นได้ชัดว่าเส้าตงเฟิงเตรียมการมาพร้อม

“ใครบอกว่ามิติแห่งนี้ไม่มีเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา?”

สิ้นเสียง เส้าตงเฟิงวาดมือออกไป  ภายในมิติที่กำลังล่มสลาย บางสิ่งบางอย่างวิ่งออกมาจากรอยแยกอย่างต่อเนื่อง และในบรรดาเผ่าพันธุ์ที่กำลังหลบหนี มีเผ่าพันธุ์มนุษย์กินคนเลเวล A รวมอยู่ด้วย มันถูกเส้าตงเฟิงฉุดลากขึ้นมาในอวกาศ

ด้วยความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ของมนุษย์กินคน มันไม่มีทางอยู่ในอวกาศได้ ทันทีที่หลุดเข้ามา สองมือของมันก็คว้าคอตัวเองทันที แสดงออกอย่างน่าเวทนาว่าหายใจไม่ออก จากนั้นตามตัวก็เริ่มไหม้เกรียม กลายเป็นศพน่าเกลียดในที่สุด

“ว่าอย่างไร นี่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาหรอกหรือ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด