ตอนที่แล้วEp.1071 - สังหารจ้าวเหนือหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1073 - จับกุมซูซิงฝู

Ep.1072 - ความแข็งแกร่งทางกายภาพถูกเติมเต็ม


Ep.1072 - ความแข็งแกร่งทางกายภาพถูกเติมเต็ม

ตอนแรกเฉียนมู่คิดแค่ว่าจะให้รางวัลแก่ฉินเฟิง รางวัลที่อีกฝ่ายน่าจะสามารถใช้มันได้ในอีก 100 ปีให้หลัง แต่ไม่นึกฝันเลย ว่าในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน เหล็กตัดดารานั้นถูกหลอมเข้าไปอยู่ในอาวุธของฉินเฟิง

การจะโค่นจ้าวเหนือหัว ไม่เพียงแต่คุณต้องใช้เหล็กตัดดารา แต่อาวุธของคุณ อย่างน้อยมันต้องอยู่ในระดับจ้าวเหนือหัวเช่นกัน

ซู้ดดดด …

แม้แต่เฉียนมู่ก็ยังอดสูดหายใจลึกไม่ได้ เรื่องในครั้งนี้เหนือความคาดหมายมาก เขากระทั่งเกิดความสงสัยว่า ที่จริงแล้วฉินเฟิงมีจ้าวเหนือหัวคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่

แม้จ้าวเหนือหัวขององค์กรมืดทั้งหมดจะอยู่ที่นี่ แต่ท่ามกลางมิตินับแสนนับล้าน ยังมีจ้าวเหนือหัวเผ่าพันธุ์อื่นๆอยู่อีกเช่นกัน  เฉียนมู่ไม่ทราบว่าซวนเฟิงผู้นี้มีที่มาเช่นไร

ขณะเดียวกัน หลังจากฉินเฟิงฟันปีศาจเสพวิญญาณในมีดเดียว จู่ๆดาวเคราะห์ทมิฬขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นใต้เท้าเขา ทั่วทั้งเมืองลอยฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

ร่างเงาทะมึนของอสรพิษหน้าคนโผล่ออกมาจากดาวเคราะห์ทมิฬ โฉบเข้าพัวพันอสูรโลหิต

“ไม่!!” จ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตร้องโวยวาย แต่ครั้งนี้ เขาไม่มีอำนาจที่จะตอบโต้กลับอีกแล้ว

ก่อนหน้านี้ เพื่อมิให้ความอ่อนแอถูกเปิดเผยออกมา อสูรโลหิตได้ระเบิดพลังงานส่วนใหญ่ของเขา เพื่อต้านทานการโจมตีของไซเร็น ดังนั้นจึงไม่เหลือพลังงานอยู่ในตัวมากนัก ทุกสิ่งทุกอย่างตลอดเวลาตั้งแต่อสูรโลหิตโผล่มาในมิตินี้ ล้วนแล้วแต่เป็นการบลัฟทั้งสิ้น

“ปีศาจเสพวิญญาณ ช่วยข้าด้วย!”

พลังสมาธิอสูรโลหิตถ่ายทอดออกไปอย่างบ้าคลั่ง

แต่เห็นได้ชัดว่าปีศาจเสพวิญญาณลังเล

มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงชี้มายังปีศาจเสพวิญญาณ

แสงบนใบมีดกษัตริย์ครามสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง แต่วิญญาณเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวยังไม่ถูกเรียกออกมา

เพราะนี่เป็นแค่คำเตือน ราวกับเป็นการเอ่ยออกมาว่า หากปีศาจเสพวิญญาณกล้าก้าวออกมาแม้เพียงฝีเท้าเดียว ฉินเฟิงจะไม่ออมมือให้อีกเป็นครั้งที่สอง

ช่วงเวลานี้ ผู้ใช้พลังคนอื่นๆต่างเห็นการกระทำของฉินเฟิง ทั้งหมดตะลึงลานอย่างสิ้นเชิง

ทางหนึ่งควบคุมอสรพิษหน้าคนเข้าพัวพันอสูรโลหิต ทางหนึ่งกุมดาบในมือข่มขู่ปีศาจเสพวิญญาณ

ทว่ากลับสามารถสยบศัตรูทั้งสองได้อยู่หมัด

จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

น่าทึ่งเกินไปจริงๆ

สีหน้าของปีศาจเสพวิญญาณในเวลานี้ ยิ่งดูยิ่งน่าเกลียด แต่อาวุธที่ทำจากเหล็กตัดดารา มันสามารถทำร้ายเขาได้ เรื่องนี้ทำให้เขาลังเล

แล้วอีกอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างปีศาจเสพวิญญาณกับอสูรโลหิต ก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ถ้าจะให้ปีศาจเสพวิญญาณยอมบาดเจ็บเพื่อช่วยชีวิต เกรงว่าจะเป็นการเอาเปรียบกันเกินไป

ให้偷鸡不成蚀把米 (ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวอีกหนึ่งกำมือ) ปีศาจเสพวิญญาณจะไม่ทำอย่างแน่นอน

หลังจากหักล้างข้อดีข้อเสียในใจ สุดท้ายเงาร่างมหึมาของปีศาจเสพวิญญาณก็ถอยออกมาก้าวหนึ่ง

แม้จะแค่ก้าวเดียว แต่มันก็มากพอแล้วว่าที่จะแสดงจุดยืนว่าเลือกอะไร

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมถอย ปลายมีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิงก็หันเหทิศทาง สับเข้าใส่อสูรโลหิตอย่างดุเดือด

อสูรโลหิตปลดปล่อยเลือดเข้าต่อต้านไม่หยุดยั้ง แต่เมื่อต้องเผชิญทั้งอบิลิตี้และกระบวนท่าวรยุทธพร้อมกัน สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว

ตูมมม!

มหากาพย์วิญญาณสะบั้นตัดผ่านอวกาศ เมืองลอยฟ้าถูกลูกหลงสลายไปอย่างสิ้นเชิง

ร่างพลังงานของอสูรโลหิตถูกคมมีดฟันเข้าตรงเอว คมมีดกวาดลึกลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายถูกฟันแยกเป็นสองส่วนในฉับเดียว

นี่เป็นแบบนี้ก็เพราะเขาสูญเสียพลังงานชีวิตไปมากเกินไป

แก่นสีเลือดขนาดยักษ์ถูกเผยโฉมออกมา นี่คือแกนอำนาจที่ประกอบไปด้วยพลังทั้งหมดของเลือดของอสูรโลหิต

ตูม!

ร่างจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตราวกับดอกไม้ไฟสีแดงที่ปะทุบนท้องฟ้า ทว่ามันไร้ซึ่งกระดูก ไร้ซึ่งอวัยวะใดๆ ทุกสิ่งประกอบด้วยพลังเลือดทั้งสิ้น

พลังเลือดนี้กระจายไปในอวกาศที่ว่างเปล่า และเมื่อสัมผัสเข้ากับอักษรรูนรอบๆ ทันใดนั้นก็เริ่มกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดทันที

จ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตสังหารคนไปนับไม่ถ้วน และหลังจากความตาย ร่างกายก็จะเริ่มกลับมามีชีวิต เป็นวงจรสังสารวัฏ

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงทุ่มเทพยายามเป็นอย่างมาก เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ยอมให้จ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตกลับไปเกิดใหม่ ผู้ใช้พลังโดยปกติแล้วที่ทุ่มเทต่อสู้ก็เพื่อทรัพยากร และทรัพยากรในครั้งนี้ … คือของฉินเฟิงแต่เพียงผู้เดียว!

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

อบิลิตี้ติดตัวถูกเปิดใช้งาน ร่างอสรพิษหน้าคนทั้งสิบอ้าปากกว้าง เลื้อยไปในอวกาศ กลืนกินเลือดทั้งหมดของอสูรโลหิต

“อย่า!!”

คล้ายกับได้ยินถึงเสียงวิญญาณคำรามด้วยความเศร้าโศก แต่สักพักเสียงนั้นก็ค่อยๆหายไปอย่างสมบูรณ์

จ้าวเหนือหัวปกติแล้วเป็นอมตะไม่แก่เฒ่า ทว่าขณะเดียวกันในสภาวะเช่นนี้ มันสามารถสะท้อนให้เห็นได้ถึงเรื่องหนึ่งเช่นกัน นั่นคือแม้แก่นพลังของจ้าวเหนือหัวจะแตกสลาย แต่ตราบใดที่สามารถหลบหนีไปในฐานะสิ่งมีชีวิตเล็กๆได้ แล้วเริ่มต้นสะสมพลังใหม่อีกครั้งก็ยังมีโอกาสรอดชีวิต แต่น่าเสียดายที่จ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตไม่มีโอกาสนั้น

ฉินเฟิงไม่เปิดโอกาสให้แม้แต่น้อย เขาจะทำให้อสูรโลหิตจมลงสู่ขุมนรกอย่างสิ้นเชิง

ช่วงเวลานี้ จ้าวเหนือหัวอสูรโลหิตนับว่าจบชีวิตลงแล้วอย่างแท้จริง

การตกตายของจ้าวเหนือหัว เดิมสมควรนำมาซึ่งความวุ่นวายใหญ่หลวง ต่อให้เป็นแค่เลือดหยดเดียวของจ้าวเหนือหัว คนอื่นๆยังแย่งชิง แต่ในอวกาศ กลับไม่มีตัวตนทรงอำนาจคนไหนกล้าขยับ สามจ้าวเหนือหัวเองก็ไม่เคลื่อนไหว

เฉียนมู่ , ไซเร็น และปีศาจเสพวิญญาณ เฝ้ามองฉินเฟิงกลืนกินเลือดทั้งหมดของอสูรโลหิตเข้าไป และเวลาต่อมา ร่างกายของฉินเฟิงก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้น

ตูม!

ความแข็งแกร่งทางกายภาพยกระดับขึ้นสู่เลเวล SSS4!

ตูมม!!

SSS5!!

ตูมมม!!!

อบิลิตี้มืดอสรพิษหน้าคนสูบกลืนเลือดทั้งหมด ช่วยให้ฉินเฟิงพัฒนาร่างกายมาถึงเลเวล SSS6 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พลังแห่งความมืดเหล่านี้กลืนกินลงไป ยังมีอีกอย่างหนึ่ง

นั่นคือแกนกลางของจ้าวเหนือหัวอสูรโลหิต!

แกนกลางนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 เมตร แม้ว่าอสูรโลหิตจะได้รับบาดเจ็บ แต่แกนกลางของเขาไม่ธรรมดา มันมิใช่แกนกลางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตรของผู้ใช้พลังที่เพิ่งตัดผ่านสู่ขอบเขตจ้าวเหนือหัว

ทว่าตอนนี้ แกนกลางนั่นกำลังละลายลงอย่างรวดเร็ว ลดฮวบๆในอัตราที่น่าหวาดกลัว

ตรงกันข้ามกับความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ที่พุ่งทะยานสูงขึ้น

กว่าสามชั่วโมง จ้าวเหนือหัวทั้งสามเฝ้าชมปรากฏการณ์นี้อยู่ในจักราล ในจิตใจของพวกเขา บังเกิดความคิดนับไม่ถ้วนลอยฟุ้งออกมา

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้พลังคนอื่นๆเห็นกับตาตัวเอง ว่าผู้ใช้พลังเลเวล SSS3 ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สามารถปีนป่ายมาถึงเลเวล SSS9 ก่อนจะหยุดลง

และพวกเขายังมองออกเช่นกัน ว่าการยกระดับของฉินเฟิง มันได้มาถึงขีดจำกัดที่พร้อมขึ้นสู่จ้าวเหนือหัวอย่างแท้จริงแล้ว

ในใจของทุกคน ย้อนนึกไปถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉินเฟิง

“ร่างกายของฉันยังไม่แกร่งมากพอ ฉันต้องการแก่นจ้าวเหนือหัว มาเพิ่มพลังให้กับตัวเอง!”

เสียงที่เคยประกาศกร้าวในตอนแรก กังวานอยู่ในหูของผู้ใช้พลังในอวกาศ เดิมพวกเขาหัวเราะกับมันจนฟันแทบร่วง แต่ตอนนี้ พวกเขาบังเกิดความรู้สึกว่า ความคิดของตนเองช่างตื้นเขินนัก

--ชายผู้นี้สามารถทำได้จริงๆ!

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงลืมตาขึ้น ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา ได้มาถึงสถานะสูงสุดแล้ว เวลานี้ฉินเฟิงสัมผัสได้ว่ามีอุปสรรคกีดขวางที่มิอาจทลาย เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเอง ไม่มีทางพัฒนาได้อีกต่อไป

หากต้องการแข็งแกร่งไปอีกขั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงลักษณะทางชีวภาพ

เปลี่ยนแปลงสภาวะเลือดเนื้อให้กลายเป็นร่างพลังงานอย่างสิ้นเชิง

และเวลานั้น คือเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว!

ฉินเฟิงเก็บโคตรดาวเคราะห์ทมิฬใต้เท้าเขา หันไปมองจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่

ช่วงเวลานี้ เฉียนมู่รู้สึกสั่นสะท้านในจิตใจ สัมผัสเหมือนมีหยาดเหงื่อหยดย้อยลงมา แม้ตอนนี้เขาจะเป็นร่างพลังงาน ไม่มีเหงื่อก็ตาม

“ยินดีด้วยซวนเฟิง” พลังสมาธิของเฉียนมู่พยายามสื่อสารกับฉินเฟิงอย่างเป็นมิตร จากนั้นกล่าวว่า “สามเดือนจากนี้ มิติบ่อศักดิ์สิทธิ์จะเปิดขึ้น ฉันเชื่อว่าหากได้อาบน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ ซวนเฟิงจะยกระดับขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้อย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าในพันธมิตรองค์กรมืดของฉัน--

--จะมีจ้าวเหนือหัวเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด