ตอนที่แล้วตอนที่ 206 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 208 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (4)

ตอนที่ 207 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (3)


ตอนที่ 207 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (3)

“เจ้าพูดภาษาของเราได้ พวกเราคือทหารขององค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอัคคี องค์ชายใหญ่สั่งว่าให้พวกเราตามหาคนของสมาพันธ์นักล่าช่วยเหลือพวกเขา” ยักษ์เถื่อนผู้มีรอยสักบนใบหน้ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง เมื่อพุดถึงองค์ชายใหญ่

‘องค์ชายใหญ่ของเผ่าอัคคี’ ไนเรลจ้องมองไปที่ยักษ์เถื่อนด้วยดวงตาสีเหลืองทองอย่างกดดันจากระดับสีม่วง

ยักษ์เถื่อนที่มีรอยสักบนใบหน้ากลืนน้ำลายด้วยความกลัว อาวุธที่อยู่ในมือสั่นไหว ราวกับร่างกายสั่งให้มันยกอาวุธขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากไนเรล

เขาพยายามสะกดความกลัวของตนเองและกล่าวต่อว่า “องค์ชายใหญ่ช่วยพวกมนุษย์ของสมาพันธ์นักล่า เพราะมีประสงค์ต้องการพูดคุยกับผู้นำของพวกเจ้า”

“พูดคุย...ยักษ์เถื่อนอย่างพวกแกคิดจะพุดคุยกับมนุษย์! หึ!” ไนเรลยกค้อนชนหินขึ้นช้า ๆ ทำให้ทหารยักษ์เถื่อนมีท่าทีระวังถอยหลังไปทันที

“พวกเราพูดจริง ยังมีมนุษย์อีกหลายคนที่ถูกช่วยไว้อยู่ที่ฐานของพวกเราอีกหลายคน” ยักษ์เถื่อนรอยสักบนใบหน้ารีบกล่าวออกมาก่อนที่ไนเรลจะลงมือ

ไนเรลชะงักไปชั่วครู่ ทหารยักษ์เถื่อนต่างกลืนน้ำลายเพราะความกลัวว่าค้อนเท่าภูเขาในมือชายคนนั้นจะฟาดใส่พวกมัน พวกมันรอดูท่าทีของไนเรลว่าจะเอายังไงต่อ ไม่ใช่แค่พวกยักษ์เถื่อน แต่ฝั่งไนเรลก็เช่นกัน

คนพวกนี้รู้ดีว่ายักษ์เถื่อนและมนุษย์เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันขนาดไหน

ยักษ์เถื่อนขึ้นมาจากใต้ดินและฆ่าล้างค่ายลี้ภัย เมืองย่อยไปหลายเมือง มนุษย์อย่างพวกเขาถูกยักษ์เถื่อนมองว่าต่ำต้อยมาตลอด แต่ตอนนี้พวกมันกลับแสดงท่าทีเป็นมิตร จึงมีความหวาดระแวงเป็นเรื่องธรรมดา

“ช่างเถอะ...นำทางไป!” ไนเรลเก็บค้อนชนหินเข้าไปในเงา พวกยักษ์เถื่อนต่างพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวการต่อสู้ แต่ไม่อยากจะสู้อย่างไร้ประโยชน์ที่นี่ และตายอย่างไร้ค่า

เมื่อเห็นไนเรลสามารถเก็บค้อนชนหินเข้าไปในเงา ก็ยิ่งหวั่นแกร่งไนเรลเข้าไปอีก ชายคนนี้มีความสามารถกี่อย่างกันแน่

กลุ่มของไนเรลเดินทางไปที่ฐานของพวกยักษ์เถื่อนโดยการนำของยักษ์เถื่อนเหล่านี้

ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงอีกหนึ่งในแท่นบูชา แต่ที่นี่มีกำแพงไม้ผสมดินสูง 100 เมตรล้อมรอบไว้ ฐานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นลักษณะฐานที่สร้างไว้ชั่วคราวเท่านั้น

ด้านล่างของกำแพงมีซากศพซอมบี้ทั้งซากซอมบี้ไททัน ซอมบี้ปีก ซอมบี้เงา ซอมบี้โล่ ซอมบี้แทบจะทุกสายพันธุ์ต่างตายอยู่จำนวนมาก ราวกับฐานแห่งนี้พึ่งผ่านการต่อสู้มาอย่างยากลำบาก

ในซากศพเหล่านั้นยังมีร่างของยักษ์เถื่อนอยู่ด้วย แต่ไม่มากนัก เพราะตอนนี้มียักษ์เถื่อนที่ทำหน้าที่เก็บร่างของพวกตนเองออกไปเผาตามพิธีความเชื่อ

เผ่าอัคคีนับถือเปลวไฟ เมื่อพวกเขาตายจะต้องได้กลับสู้เทพแห่งไฟ ส่วนเผ่าอื่น ๆ จะทำต่างออกไปเช่นกัน

“พวกเราทำสร้างความสู้กับซอมบี้มาสักพักแล้ว พวกมันมาจากเมืองทางเหนือ ตอนแรกเราคิดว่าพวกมันต้องการฆ่าพวกเรา แต่ไม่ใช่พวกมันต้องการของบางอย่างแถวนี้ ถ้าท่านอยากรู้อะไรคงต้องถามองค์ชายใหญ่” ยักษ์เถื่อนรอยสักบอกกับไนเรล มันพอจะเดาได้แล้วว่าชายคนนี้คงเป็นผู้นำที่องค์ชายต้องการพบ แม้จะไม่ใช่ แต่ชายคนนี้ก็แข็งแกร่ง ซึ่งพอจะทำให้ตนเคารพได้

ยักษ์เถื่อน หรือ เผ่าเทพไททัน เคารพผู้แข็งแกร่งเสมอ แม้จะเป็นศัตรูกันก็ตาม

ขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปในกำแพงฐานของยักษ์เถื่อนอยู่นั้น วินา หนึ่งในกลุ่มโนเนทที่มีความสามารถ [พยากรณ์ A] ก็เดินเข้ามาหาเขา

“ท่านไนเรล ฉันมีเรื่องที่ต้องบอกกับท่าน” เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน

ไนเรลพยักหน้าให้เธอพูดออกมาเท่านั้น ขณะที่สายตายังมองไปข้างหน้า

“ฉันเห็นนิมิตจากการพยากรณ์ ข้อมูลที่ผ่านมาตั้งแต่ลงจากรอยแยก พีระมิด เส้นทาง และ สุดท้ายคือประตูเคลื่อนย้าย ซึ่งมันเกิดตอนที่เคลื่อนย้ายผ่านประตูมา ทำให้ฉันเห็นภาพสามอย่าง แต่ทุกอย่างไม่ปะติดปะต่อกัน”

“ภาพจากการพยากรณ์?” ไนเรลมองไปที่วินาและกล่าวว่า “ลองเล่าต่อ”

“ภาพแรกที่เห็นคือ ผู้หญิงที่มีผมสีน้ำเงิน ฉันไม่กล้ามองมันนานเพราะกลัวจะเกิดอันตราย”

เพียงแค่วินาพูดถึงหญิงสาวผมสีน้ำเงินครามไนเรลถึงกับตะลึงไปทันที ‘เธอเป็นใครกัน ทำไมถึงเป็นหญิงสาวผมสีน้ำเงินอีกแล้ว ฉันต้องรู้จักเธอแต่ทำไมถึงนึกไม่ออกกัน เธอคือใครกันแน่’

วินายังคงกล่าวต่อ “หลังจากนั้นก็ยังมีภาพต่อมามันคือทะเลทรายที่แห้งแล้ง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็แห้งแล้งราวกับทุกอย่างกำลังจะตาย สุดท้ายคือ...เออ...”

“พูดออกมาเถอะ ฉันรอฟังอยู่”

“มันคือชายคนหนึ่งกำลังยืนดูศพ”

“ศพ?” ไนเรลถามและขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าภาพสุดท้ายเกี่ยวกับตัวเองอย่างไร

“ฉันคิดว่าซากศพนั้นเหมือนกับท่านเพราะมีสิ่งนี้อยู่” วินาไม่ได้พูดออกไปว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่เธอชี้ไปที่กลางหน้าอกตัวเองเป็นการบอกใบ้

ไนเรลเข้าในความหมายของเธอ วินากำลังหมายถึงเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่กลางหน้าอกของเขา

ตั้งแต่ที่ไนเรลได้ความสามารถเกราะดำมา เขาก็สร้างเกราะคุมหน้าอกไว้อยู่เสมอ เพื่อปกปิดเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการ

“เธอเห็นมันใช่ไหม”

วินาพยักหน้าด้วยสีหน้าที่น่ากลัว เธอไม่อยากจะคิดว่าศพนั้นคือไนเรล แต่เธอเห็นแบบนั้นจริง ๆ

คราวนี้ไนเรลช๊อคจริง ๆ มือเขาสั่นเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ‘คำพยากรณ์ที่วินาเห็นจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ฉันจะตายจริง ๆ งั้นเหรอ...ไม่! ฉันตายมาครั้งหนึ่งแล้ว แม้คำพยากรณ์คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป ถ้าเพียงมองอนาคต...อนาคตก็จะเปลี่ยน! มันยังเปลี่ยนได้!!!’

ไนเรลไม่ยอมตายเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทุกอย่างที่สร้างมาอาจจะพังทลายลงได้ ชีวิตนี้เขาไม่ได้ตัวคนเดียว เป็นปีศาจร้ายเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

เขาต้องปกป้องครอบครัว ปกป้องคนที่รัก ปกป้องคนของตัวเอง

......

เมื่อเดินเข้ามาในฐานของยักษ์เถื่อน ทุกสิ่งดูใหญ่ไปซะหมด ทหารยักษ์ที่มีรอยสักบนใบหน้าพาไนเรลเข้ามาที่ห้องหนึ่งในฐานของพวกมัน ส่วนคนอื่น ๆ ไนเรลให้รออยู่ข้างนอกไปก่อน

ไนเรลเข้ามาในห้องเขาก็เจอกับยักษ์เถื่อนตนหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดเกราะสีโลหะพิภพสลักด้วยเปลวไฟแดงฉาน บนหัวมีเขาสองข้างสีม่วงเข้ม ใบหน้าของยักษ์เถื่อนตนนี้สยบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคือใคร

“สวัสดี เราคือองค์ชายใหญ่ เทพไททันแห่งเผ่าอัคคี เจ้าคงเป็นไนเรลผู้นำของสมาพันธ์นักล่า”

ไนเรลยังไม่ตอบอะไร  เขาเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้มองอีกฝ่ายที่เรียกตนเองว่าองค์ชายใหญ่อย่างไร้ความรู้สึก

องค์ชายใหญ่ก็รอไนเรลอยู่เงียบ ๆ เช่นกัน ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก

“บอกสิ่งที่ต้องการมา” ไนเรลถามออกไปตรง ๆ

ใบหน้าขององค์ชายใหญ่เปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาเริ่มกล่าวขึ้นว่า “ข้าต้องการร่วมมือกับเจ้าเพื่อความอยู่รอด”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ร่วมมือ...” ไนเรลหัวเราะออกมากับคำพูดขององค์ชายยักษ์เถื่อน เขารู้สึกมันน่าขำที่สุด

“แน่นอน เจ้ารู้ใช่ไหมว่าที่นี่คือกรงขัง เราต้องการพาเผ่าอัคคีออกไปจากกรงขังนี่ และเจ้าคือมนุษย์ที่จะทำเรื่องนี้ได้”

ไนเรลนิ่งเงียบไปสักครู่แล้วกล่าวว่า “แกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาถามคือ องค์ชายใหญ่รู้เรื่องว่าที่เป็นกรงขังได้ยังไง

“เพราะเผ่าของพวกเราเคยลองที่จะออกไปจากที่นี่มาก่อน...”

ไนเรลได้ยินก็เข้มขึงขึ้นมา ‘เผ่ายักษ์เถื่อนเคยลองออกไปจากที่นี่มาก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่’

องค์ชายใหญ่กล่าวต่อว่า “แต่สิ่งนั้นขัดขวางเผ่าของพวกเราจากนั้นก็เปลี่ยนทาสของเรา เผ่าโฮโม หรือที่พวกนายเรียกกันว่ามนุษย์โบราณให้ก่อกบฏหักหลังพวกเผ่าเทพไททัน จนเผ่าทั้งหมดถูกจองจำในโลกใต้ดินหลายหมื่นปี ส่วนรายละเอียดต่อจากนั้นเจ้าจะมีโอกาสได้รู้อย่างแน่นอน ขอแค่รู้ไว้ว่าเราจริงใจที่จะร่วมมือกับเจ้า” องค์ชายใหญ่อธิบายให้ไนเรลฟังด้วยความจริงใจ

ไนเรลไม่ได้เชื่อทุกคำพูดขององค์ชายใหญ่ แต่เขารู้ว่าองค์ชายใหญ่รู้ถึงเรื่องระบบอย่างแน่นอน

“มียักษ์เถื่อนเผ่าไหนอีกที่รู้เรื่องนี้”

“มีแค่ไม่กี่ตนที่รู้เรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกราชวงศ์ แน่นอนว่ามีแค่เราที่ติดต่อและคิดจะร่วมมือกับเจ้า”

“ทำไมฉันต้องร่วมมือกับพวกแกด้วย ตอนนี้มนุษย์ไม่ได้อ่อนแออีกแล้ว ต่อให้เป็นเผ่ายักษ์เถื่อน หรือ อสูรเผ่าเจ้าสมุทร ก็ไม่สามารถจัดการพวกเราง่าย ๆ ได้”

“เผ่าเจ้าสมุทร...เจ้ารู้เรื่องพวกมันแล้วสินะ”

“ฉันยังรู้อีกมาก”

“แต่เจ้าอาจจะไม่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน เผ่าเทพไททันจับมือกับเผ่าเจ้าสมุทรในการจัดการกับเผ่ามนุษย์”

“หืม!” ไนเรลพูดพร้อมกับที่ระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง ‘เผ่าเจ้าสมุทรพึ่งถือกำเนิดขึ้น มันจะจับมือกับยักษ์เถื่อนได้ยังไง แต่ก็ไม่แน่ สัตว์ที่วิวัฒนาการเป็นอสูรมีหลายอย่างที่มนุษย์ยังไม่รู้ แม้แต่เรื่องนี้ในโลกก่อนก็ไม่มีใครรู้ ถ้าอย่างนั้นก็มีโอกาสที่ข้อมูลนี้จะเป็นความจริง ต้องรีบจบเรื่องที่นี่โดยไว และหวังว่าสหพันธ์มนุษยชาติจะต้านพวกมันไว้ได้’

“ก็ได้ แต่ฉันต้องการแผนที่พวกนายจะจัดการกับมนุษย์ยังไง”

“แผนเหรอ ผิดแล้วพวกเขาไม่ว่าจะทั้งเผ่าเทพไททันหรือเผ่าเจ้าสมุทรคิดแต่เพียงสิ่งเดียว”

“ฆ่ามนุษย์ทั้งหมดสินะ” ไนเรลพูดขัดทันที

“ใช่! แต่นั่นคือสิ่งเดียวที่จะหยุดพวกซอมบี้ เพราะเมื่อไม่มีมนุษย์ก็จะไม่มีซอมบี้ที่วิวัฒนาการขึ้นไปอีก ซอมบี้แม้จะกินแทบทุกสิ่งแต่มันกินมนุษย์เพื่อวิวัฒนาการ นั้นคือสิ่งที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์เชื่อ และหลังจากไม่มีซอมบี้โลกใบนี้ก็จะกลายเป็นทรัพยากรให้เผ่าเทพไททันใช้พัฒนาต่อไปได้จนสามารถออกไปจากโลกใบนี้”

องค์ชายใหญ่กล่าวต่อว่า “แต่มันจะไม่เป็นแบบนั้นเรารู้ดี”

ไนเรลมองยักษ์เถื่อนที่เรียกว่าองค์ชายใหญ่ที่เหมือนจะมีบางอย่างปิดบังอยู่

“ถ้างั้นคงถึงเรื่องสำคัญแล้ว ฉันว่าพวกยักษ์เถื่อนอย่างนายคงไม่ได้มาดักเจอฉันที่นี่อย่างแน่นอน พวกนายมาทำอะไรที่นี่” ไนเรลพูดอย่างเย็นชา เขาไม่เชื่อว่านี่พวกนี้มาหาเขาโดยเฉพาะ

แม้เขาจะตกลงร่วมมือกับองค์ชายใหญ่ เทพไททันแห่งเผ่าอัคคี แต่มันไม่ได้หมายความว่าความเป็นศัตรูของพวกเขาระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์จะหายไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด