Ep.1064 - หนึ่งคำปลุกจากฝัน
Ep.1064 - หนึ่งคำปลุกจากฝัน
ระหว่างรอ ฉินเฟิงไม่เสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ เดินทางไปยังห้องทดลองของแซด
ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ฉินเฟิงก็ยิ่งอยากรู้ข้อมูลของจ้าวเหนือหัวมากขึ้นเท่านั้น
ครั้งนี้แซดไม่ได้กำลังทำการทดลองกับตัวเอง แต่กำลังสกัดอะไรบางอย่างที่ฉินเฟิงไม่สามารถเข้าใจได้ ทว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง เขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจมัน ขอแค่รู้ว่านั่นไม่ใช่กับดักของแซดก็พอแล้ว
“ดูเหมือนช่วงนี้นายจะสนใจการทดลองของฉันเป็นพิเศษนะ” เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงแวะมาอีกแล้ว แซดก็เอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น
“เปล่าหรอก อันที่จริงแล้วผมมีบางอย่างอยากให้คุณดู”
ฉินเฟิงกล่าวพลางหยิบขวดใบหนึ่งออกมา
ขวดนี้ไม่เล็กเลย มันสูงถึง 1 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 ซม. และข้างในมีเลือดหนึ่งหยดลอยอยู่
เลือดหยดนี้โปร่งแสง แม้ถูกเก็บไว้ในขวด แต่มันก็ยังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ราวกับมีชีวิต
ลมหายใจของแซดขาดห้วงไปอย่างฉับพลัน
“เจ้าสิ่งนี้คืออะไรกัน? ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนมีพลังอันยิ่งใหญ่อยู่ข้างในนั้น!”
แซดฉกมือเข้าคว้าขวดทันที แต่ฉินเฟิงชักมือกลับไม่ให้แซดคว้าไป ก่อนค่อยรู้สึกตัวว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ ยอมมอบให้อีกฝ่ายแต่โดยดี
“นี่คือเลือดของจ้าวเหนือหัว”
“ว่าไงนะ!?” แซดตะโกน เบิกตากว้าง “นี่นายฆ่าจ้าวเหนือหัวได้งั้นหรอ?”
แต่หลังจากพูดประโยคนี้ออกไป แซดก็ส่ายหัว หักล้างคำกล่าวของตัวเอง
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ตอนนี้นายแข็งแกร่ง ต่อให้นายมีแก่นอบิลิตี้ใหญ่กว่าคนอื่นถึง 10 เท่า แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะสังหารจ้าวเหนือหัวได้ เพราะโครงสร้างทางกายภาพของพวกเขาไม่เหมือนกับนาย!”
แม้แซดจะเอ่ยว่าเป็นไปไม่ได้ที่ฉินเฟิงจะสังหารจ้าวเหนือหัว แต่สำหรับฉินเฟิง คำนี้ราวกับสายฟ้าฟาด ผ่าจิตใจของเขาให้กระจ่างทันที
ใช่แล้ว เขาแข็งแกร่งกว่าผู้ใช้พลังคนอื่นๆถึง 10 เท่า ไม่ว่าจะเป็นในด้านกายภาพหรืออบิลิตี้ ดารากำลังภายในก็เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ในตอนที่ฉินเฟิงกำลังกินแกนมิติบาฮามุท เขาไม่กล้ากินมันทั้งหมด เพราะกลัวว่าหากโลภมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อตนเอง
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่ความกลัวที่เกิดจากความไม่รู้ก็เท่านั้น
การที่เขาระมัดระวังเกินไป กลับกลายเป็นการพลาดโอกาส
อันที่จริง เส้นผ่านศูนย์กลางของแก่นอบิลิตี้ของเขา ขีดจำกัดของมันสมควรอยู่ที่ 999 เมตร ตราบใดที่เส้นผ่านศูนย์กลางยังไม่ถึง 1,000 เมตร เขาก็ยังไม่จำเป็นต้องตัดผ่านสู่ขอบเขตจ้าวเหนือหัว
เช่นเดียวกันกับดารากำลังภายในทั้งเก้าของเขา เมื่อมันแข็งแกร่งกว่าคนอื่น 10 เท่า เช่นนั้นก็น่าจะมีขีดจำกัดมากกว่าคนอื่นๆ 10 เท่าเช่นกัน
… ที่แท้ฉินเฟิงก็เข้าใจผิดมาโดยตลอด!
“ท่านประธาน พอจะมอบสิ่งนี้ให้ฉันได้รึเปล่า?” เมื่อเสียงของแซดดังขึ้น ฉินเฟิงก็ได้สติกลับมา
แซดไม่ได้ถามว่าฉินเฟิงได้เลือดหยดนี้มาอย่างไร เขาแค่อยากรู้ว่าตนเองจะได้ครอบครองมันหรือไม่
ตอนนี้ฉินเฟิงอารมณ์ดีมาก คำพูดประโยคเดียวของแซดสามารถปลุกสติให้แก่เขา ดังนั้นฉินเฟิงไม่คิดตระหนี่ถี่เหนียว
“เอาไปเถอะ”
งานวิจัยของแซด ข้อมูลทั้งหมดถูกแบ่งปันกับกลุ่มเฟิงหลี ขณะเดียวกันเมื่อความแข็งแกร่งของฉินเฟิงเพิ่มขึ้น ต่อไปเขาก็จะสามารถได้รับวัตถุดิบของจ้าวเหนือหัวมามากมาย ตราบใดที่แซดไม่สมองเสื่อมจนโง่งม เขาย่อมอยู่ที่นี่เพื่อรอรับวัตถุดิบทดลอง ไม่ยอมเป็นศัตรูกับฉินเฟิง กระทั่งตอนนี้ อีกฝ่ายก็มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของฉินเฟิง
ก็เพราะฉินเฟิงสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการทดลองให้แก่เขาได้
เมื่อได้ยินแบบนั้น แซดก็เปิดขวดอย่างไม่ลังเล หยิบเลือดหยดนั้นขึ้นมา
ฉินเฟิงสังเกตเห็นว่า เมื่อแซดสัมผัสกับเลือดหยดนั้น มือข้างที่จับมันจู่ๆก็โปร่งใสและกลายเป็นกรงเล็บมังกร แปรเปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบพลังงานที่ค่อนข้างพิเศษ
ด้วยมือที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้แซดสามารถกุมเลือดทั้งหยดได้ในคราเดียว จากนั้นผสานมันซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ฉินเฟิงรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าความแข็งแกร่งของแซดเพิ่มขึ้น และผลมันชัดเจนมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้จะเป็นแค่เลือดหยดเดียว แต่สำหรับแซดที่เป็นแค่เลเวล S มันคือสมบัติอันล้ำค่า
“ความรู้สึกนี้ … ความรู้สึกแบบนี้ ไม่รู้ว่ากี่ปีแล้วที่ฉันไม่ได้รู้สึกถึงมัน!” แซดพึมพำ เขาตระหนักดี ว่านี่คือความรู้สึกยามยกระดับ
ฉินเฟิงมองไปยังใบหน้าสุขล้นของแซด ไม่คิดรบกวนอีกฝ่าย ถอยออกจากที่นี่ไป
ต่อมา ฉินเฟิงเข้าไปในห้องทดลองของชูฟ่าน เนื่องจากรอยแยกมิติถูกปิดกั้นโดยไป๋หลี ทำให้งานวิจัยใหม่ของชูฟ่านลดลงถึงครึ่งหนึ่ง แต่เขามีเรื่องให้ค้นคว้าอีกมากมาย ดังนั้นไม่ใส่ใจ
อย่างไรก็ตาม การมาเยือนของฉินเฟิง ทำให้การทดลองของชูฟ่านต้องเปลี่ยนแผนอีกครั้ง
“ชูฟ่าน ฉันเอาเนื้อของจ้าวเหนือหัวมาให้นาย ช่วยวิจัยมันให้หน่อยได้ไหม ว่าพอที่จะสามารถทำให้คนที่มีเลเวล SSS9 กลายเป็นจ้าวเหนือหัวได้รึเปล่า”
สถานที่ในตำนานที่สามารถถือกำเนิดจ้าวเหนือหัว ฉินเฟิงไม่มีความมั่นใจเลยว่าเขาจะได้ไปที่นั่นหรือไม่ บางครั้งเราไม่สามารถวางไข่ลงในตะกร้าใบเดียว ฉินเฟิงจึงวางแผนให้ชูฟ่านทำการทดลองด้วยเช่นกัน
“ผมจะลองดู เดิมทีผมพอมีความรู้จากงานวิจัยยาปลุกพลังของแซดอยู่แล้ว อันที่จริงงานวิจัยนี้ ช่วงหลังๆมีโอกาสสำเร็จสูงกว่าเดิมมาก ยิ่งได้รับเซลล์ของจ้าวเหนือหัวมา ก็น่าจะยิ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าเดิม!”
“ได้ยินแบบนั้นฉันก็โล่งใจ”
ชูฟ่านรีบเตือนทันทีว่า “แต่ยานี้ไม่เหมาะสำหรับคนธรรมดา มันต้องฉีดเมื่อผู้ใช้พร้อมเป็นจ้าวเหนือหัว มิฉะนั้นสุดท้ายจะเกิดปฏิกิริยาระเบิดตัวแตกตาย”
เฉกเช่นเดียวกับพวกองค์กรมืดในตอนแรกๆ ที่สุดท้ายพอถูกฉีดก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด
“ฉันเข้าใจ ยาตัวนี้ไม่จำเป็นต้องผลิตมาก แค่หลอดเดียวก็พอแล้ว!”
หลอดเดียวที่เป็นไพ่ตายของฉินเฟิง!
หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็มอบอุปกรณ์รูนมิติที่ได้รับมาจากการโจมตีครั้งสุดท้ายโดยใช้จิตวิญญาณของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวแก่ซูซิงฝู
และสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดจะต้องถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นแหล่งพลังงาน เพื่อเติมเต็มดารากำลังภายในของฉินเฟิง เพื่อให้เขาได้รับอำนาจในการต่อสู้มากกว่าคนอื่นๆสิบเท่า
หลังจากที่ติดต่อคนอื่นๆจนวุ่น เวลาหนึ่งวันก็ล่วงเลยผ่านไป มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิง ในที่สุดก็อัพเกรดเสร็จสมบูรณ์
บนรูบิควิเศษ เกิดรอยร้าวเล็กๆสามรอยปรากฏขึ้น
“กังวลจริงๆ ว่ารูบิควิเศษจะอดทนจนอาวุธของฉันถึงระดับจ้าวเหนือหัวได้ไหม”
ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงสามารถพึ่งพาได้แค่รูบิควิเศษเท่านั้น มิฉะนั้นหากเขาใช้วิธีปกติในการหลอมมีดกษัตริย์คราม น่ากลัวว่าจะต้องไปอ้อนวอนร้านตีเหล็กระดับสูง และคนที่สามารถสร้างอุปกรณ์รูนระดับจ้าวเหนือหัวได้ เกรงว่าจะมีเฉพาะจ้าวเหนือหัวด้วยกันเท่านั้น
“สู้เขา!”
คราวนี้ฉินเฟิงโยนวัตถุดิบอย่างเหล็กตัดดารา และยอดกระดองของเต่ายักษ์ลงไปในรูบิควิเศษ
รูบิควิเศษสั่นสะเทือนในทันที
ส่วนวัตถุดิบอย่างเหล็กตัดดารากับยอดกระดองเต่ายักษ์ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ราวกับว่าพวกมันไม่มีปฏิกิริยาใดเลย
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงสังเกตเห็นว่าอากาศรอบวัสดุเหล่านั้น กำลังกระเพื่อมอย่างช้าๆ
ช้าชนิดที่ว่าอาจใช้เวลาในการหลอมละลายถึง 10 ปี
“ไว้ค่อยมาดูแล้วกัน!” ฉินเฟิงโยนรูบิควิเศษลงในมิติเร่งกระแสเวลา มองจากภายนอก ยอดกระดองเต่าและเหล็กตัดดารา ในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหว ทว่าบนรูบิควิเศษ รอยแตกร้าวอื่นๆเริ่มปรากฏขึ้นตามมา
คลิก คลิก คลิก!
รอยร้าวเหล่านี้มีขนาดเล็กมากก็จริง แต่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
