Ep.1053 - มิติบาฮามุทล่มสลาย
Ep.1053 - มิติบาฮามุทล่มสลาย
“ก่อนยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น มีตำนานเล่าขานถึงสัตวร้ายมากมายในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ หรือสัตว์โบราณ ฯลฯ ทว่าในวันนี้ ในยุคที่สามารถเดินทางข้ามมิติหากันและกันได้ ตำนานเหล่านั้น ส่วนใหญ่ได้รับคำเฉลย ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอยู่จริง!”
“ท่ามกลางบรรดาสัตว์ร้ายเหล่านั้น มีตัวหนึ่งชื่อว่าเทาเที่ย มันสามารถเขมือบแผ่นฟ้ากินปฐพี สวาปามทุกสิ่งไม่เลือกหน้า จนสุดท้ายก็กลืนกินตัวเองเข้าไป”
“เรื่องราวของมันสอนให้รู้ว่า หากฉันมีความโลภในใจ สุดท้ายมันจะกลายเป็นการทำลายตัวเอง เหมือนกับในกรณีของของนางพญาดาราเกราะเหล็ก!”
เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉินเฟิงก็ไม่มีแผนที่จะลงมืออีกต่อไป โคตรดาวเคราะห์ทมิฬใต้ฝ่าเท้าเขาย่อขนาดลง กลับคืนสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึก
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปยังแกนกลางมิติของบาฮามุท ซึ่งจากในตอนแรกมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างใหญ่ถึง 800 เมตรแล้ว ฉินเฟิงก็เผยรอยยิ้มจาง
“ในเมื่อฉันกลืนกินมันไม่ได้ แกนมิติตรงหน้ายังจะมีประโยชน์อะไรอีก? งั้นก็ทำลายมันซะเลย!”
พอตัดสินใจได้ ฉินเฟิงก็ง้างแขนขึ้นทันที เรียกมีดกษัตริย์ครามออกมา
ท่ามกลางของเหลวพลังงานสีดำมืดมิด คุณสมบัติของมีดกษัตริย์มครามยิ่งเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ กระแสน้ำรอบๆถูกตัดเป็นรอยแยกมิติ เปลวเพลิงแผดเผาจนเกิดฟองอากาศจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีความผันผวนที่เกิดจากการสั่นสะเทือน แพร่กระจายไปรอบๆ
จากนั้น ฉินเฟิงเริ่มอัดฉีดกำลังภายในลงในมีดกษัตริย์คราม
กำลังภายในของดวงดาราผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับมัน
บนมีดกษัตริย์ครามร่างเงามโหฬารของสัตว์ร้ายปรากฏขึ้น
จิตวิญญาณของนางพญาดาราเกราะเหล็กถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง
สัตว์ยักษ์น่าพรั่นพรึงเช่นนี้ ทุกครั้งที่เรียกมันออกมาใช้งาน ต้องแลกกับกำลังภายในจำนวนมหาศาล หากมีดกษัตริย์ครามเล่มนี้ไปตกอยู่ในมือคนอื่นที่ไม่ใช่จ้าวเหนือหัวแล้วล่ะก็ พวกเขาย่อมไม่มีทางใช้เทคนิคกำลังภายในโคตรทรงพลังเช่นนี้ได้
จำเป็นต้องอยู่ในมือของฉินเฟิงเท่านั้น มันถึงจะสามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาได้
“มหากาพย์วิญญาณสะบั้น!”
กระบวนท่านี้ ไม่สามารถเรียกว่าล้านวิญญาณสะบั้นได้อีกต่อไป เพราะสิ่งที่ฉินเฟิงเรียกใช้งาน มีเพียงนางพญาดาราเกราะเหล็กเท่านั้น
วินาทีถัดมา จิตวิญญาณที่เกือบสามารถตัดผ่านสู่ขอบเขตจ้าวเหนือหัว ก็พุ่งเข้าหาแกนกลางมิติของบาฮามุท ระเบิดอำนาจทำลายจนแหลกเป็นชิ้นๆ!
กลุ่มองค์กรมืดคนอื่นๆที่อยู่บนเรือ ทั้งหมดปากอ้าตาค้าง มองไปยังแกนมิติอันมหึมา ถูกสะบั้นขาด 1 ส่วน 3
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น กลุ่มองค์กรมืดเลเวล SSS ก็ถูกคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรแห่งความมืดพัดพาจากไป มิอาจมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อีกเลย
ท่ามกลางกระแสน้ำคลั่ง ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า เก็บเอาหนึ่งในสามของแกนมิติเข้าในอุปกรณ์รูนมิติ จากนั้นเริ่มสับลงไปอีกครั้ง
ปริมาตรอีกหนึ่งในสามของแกนมิติถูกตัดออก
กลายเป็นชิ้นเค้กก้อนสุดท้ายลอยอยู่เบื้องหน้า
“เอาอีกครั้ง!”
ฉินเฟิงสะบั้นมีดกษัตริย์ครามลงไปอีกครา แบ่งชิ้นเค้กสีดำออกเป็นสองส่วน จุดศูนย์กลางซึ่งมีตำแหน่งใหญ่ที่สุดถูกสับแยกจากกัน ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายแกนมิติอย่างสมบูรณ์
พริบตาเดียว กระแสมหาสมุทรแห่งความมืดรอบๆ พลันหลุดพ้นจากไร้แรงดึงดูดจากแกนมิติ มันแตกกระจายสะเปะสะปะ เริ่มทะลักออกไปนอกพื้นที่โซนแกนกลางล้นขึ้นไปถึงพื้นดินเบื้องบนของทวีปบาฮามุท ขุนเขาสั่นสะเทือน ภูเขาไฟสีดำปะทุ อำนาจทำลายล้างอันร้ายกาจถูกปลดปล่อยออกมาสู่ภายนอก
คนอื่นๆที่อยู่ในทวีปบาฮามุทตอนแรกไม่ได้สนใจ แต่ผู้คนในสถานีอวกาศที่อยู่ใกล้เคียง ต่างเห็นกับตาว่าภูเขาบริเวณหางมังกรยักษ์กำลังเริ่มพังทลายลง
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่ามิติจะเริ่มล่มสลายแล้ว?”
“ดูนั่นสิ ดวงดาวรอบตัว ไม่ได้โคจรวนรอบบาฮามุทอีกต่อไปแล้ว!”
“คงไม่ว่าแกนมิติแห่งนี้เสร็จกลุ่มเลเวล SSS ไปแล้วหรอกนะ? มันจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ! บ๊ะ! ทำไมฉันถึงไม่แข็งแกร่งแบบนั้นบ้าง!”
เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล S ที่เข้ามาสำรวจหาสมบัติในทวีปบาฮามุท ต่างบ่นอุบด้วยความอิจฉา
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใช้พลังเลเวล SSS ที่กำลังถูกพูดถึง เวลานี้ในหัวใจของเขารู้สึกฝาดไปด้วยความขมขื่น
หลังจากที่พวกเขาถูกกระแสมหาสมุทรแห่งความมืดพัดออกมา ก็พบว่าภายในภูเขาเกิดการสั่นสะเทือนและแผ่นดินกำลังเคลื่อนตัว หุบเขาไขกระดูกมังกรเกิดการพังทลาย ดังนั้นพวกเขาเลยต้องรีบหนีเอาชีวิตรอด ไม่ทันได้คว้าสมบัติใดๆ
แต่ในเวลาเดียวกัน ภาพของฉินเฟิงที่สะบั้นแกนมิติขาดในคราเดียว ได้ผุดขึ้นมาในจิตใจของพวกขเา
‘แข็งแกร่งมาก … ‘
‘ชายคนนั้นเป็นเผ่ามนุษย์ พวกนายสองคนรู้กันเขาไหม?’ มนุษย์กินคนหันไปถามสมาชิกใหม่ทั้งสอง
“ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย แต่ดูเหมือนเขายังไม่วิวัฒนาการขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว ฉันต้องรายงานเรื่องนี้กับจ้าวเหนือหัวมังฮะ บางทีเขาอาจจะสนใจ!”
“บ้าเอ๊ย! ในมิติบาฮามุทเต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าสุดท้ายดันถูกทำลายแบบนี้ ฉันรับไม่ได้จริงๆ!”
“นั่นเป็นเหตุผลให้พวกเราต้องหาวิธีขูดรีดจากเขา เดิมทีทรัพยากรในที่นี้มันเป็นของพวกเรา ฉะนั้นจะปล่อยให้เขาได้มันไปคนเดียวไม่ได้!”
“คอยจับตาดูเขาให้ดี!”
เพียงแต่ว่ากลุ่มเลเวล SSS คงไม่ทันคิด ว่าฉินเฟิงไม่ใช่พันธมิตรองค์กรมืด
ณ ขณะนี้ หลังจากที่ฉินเฟิงเก็บรวบรวมแกนมิติบาฮามุทแล้ว เขายังใช้วิธีเดียวกันกับมนุษย์หมาป่าในครั้งก่อน แยกตัวเองออกจากมิติรอบตัว จากนั้นเปิดใช้งานตัวเชื่อมมิติ เดินทางกลับเมืองเฟิงหลี
ส่วนมิติบาฮามุท ทั้งหมดถึงคราวล่มสลาย และนับแต่นั้นมา ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็ไร้ผู้คน เศษซากแผ่นดินใหญ่ของมันถูกทอดทิ้งไว้ในมุมที่ไม่ใครสนใจอีก
…
ณ เมืองเฟิงหลี
ซูซิงฝูออกมาจากเขตแดนลับได้สามวันแล้ว เมื่อเขาได้ยินว่าฉินเฟิงกลับมา ก็รีบออกไปต้อนรับทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ท่านประธานในที่สุดคุณก็มา ฉันแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะเดินทางไปยังพันธมิตรมนุษย์!” ซูซิงฝูกล่าว ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ได้มาถึงขอบเขตเลเวล S แล้ว ที่เหลือก็แค่รอเปิดตัวเท่านั้น
“เอาล่ะๆ ก่อนจะไป มีบางอย่างที่ผมต้องเตือนคุณ” ฉินเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวต่อว่า “สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรมนุษย์ ทุกคนล้วนอยู่ในเลเวล S ขึ้นไปทั้งสิ้น ความแข็งแกร่งของคุณยังไม่ดีพอ ดังนั้นอย่าถลำลึกเกินไป ทำเท่าที่พอทำได้--”
“--ไปซื้อดาวเคราะห์มา เอาดาวเคราะห์แบบที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง ...”
ฉินเฟิงพบว่าอีกเรื่องที่กำลังจะเอ่ยนี้ ยากนักที่ซูซิงฝูจะทำสำเร็จ แต่ให้ทดลองดูก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
“ท่านประธาน คุณลองบอกฉันมาได้ ฉันมั่นใจว่าตราบใดที่เรื่องนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ลองจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มันจะเป็นอย่างไรหากซูซิงฝูทำสำเร็จจริงๆ?
“จงไปค้นหาข้อมูล ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะก้าวขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้ ผมได้ยินมาว่า การยกระดับสู่จ้าวเหนือหัวจำเป็นต้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ไปสืบมาว่าที่นั่นคือที่ไหน และมีพิกัดมิติอะไร!”
“จ้าวเหนือหัว?” ซูซิงฝูรู้สึกประหลาดใจ นี่เป็นข้อมูลที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จักจ้าวเหนือหัว แต่เขาไม่รู้ว่าการขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว จำเป็นต้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งก่อนด้วย
“อืม ตกลง ไม่มีปัญหา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ข้อมูลนี้มีค่ามาก นั่นหมายความว่า มันก็มีโอกาสใช้ของมีค่าซื้อมาได้เหมือนกัน!”
แม้สิ่งที่ต้องแลกไป จะเป็นจำนวนมหาศาลก็ตามน่ะนะ
ทว่าต่อให้มหาศาลแล้วอย่างไร? หากสามารถช่วยให้ฉินเฟิงขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัวได้ ผลประโยชน์นับว่าสุดยอดของสุดยอดแห่งความคุ้มค่า
ดังนั้น ซูซิงฝูจึงตัดสินใจรับหน้าที่นี้เอาไว้ ยึดถือมันเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่ต้องทำ
หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็มอบอุปกรณ์รูนมิติที่ได้มาจากมิติเผ่ามังกรให้แก่ซูซิงฝู ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการ
สมบัติพวกนี้ ฉินเฟิงเชื่อว่ามันน่าจะสามารถนำไปซื้อมิติระดับล่างได้สักหลายสิบแห่ง
“ดารากำลังภายในและดาวเคราะห์อบิลิตี้ของผม ทั้งสองได้มาถึงเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมสำหรับการตัดผ่านสู่ระดับจ้าวเหนือหัวแล้ว จะเหลือก็แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากเลือดเนื้อในการเติมเต็มเท่านั้น”
“ถ้ายังไงคุณก็รวดลองค้นหาข้อมูลตำแหน่งรังของแม่แมลงดูก็ได้”
เพราะท้ายที่สุดแล้ว แค่นางพญาดาราเกราะเหล็กตัวเดียว ก็ช่วยให้ฉินเฟิงยกระดับจากความแข็งแกร่งทางกายภาพในเลเวล S7 เลื่อนขึ้นมาเป็นเลเวล SS ได้ในคราวเดียว นั่นหมายความว่า สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ ครอบครองพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่
แต่สิ่งมีชีวิตประเภทนี้ ก็ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ
ยังไงก็ตาม ท่ามกลางพันธมิตรองค์กรมืด น่าจะยังมีบันทึกข้อมูลของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เอาไว้บ้าง เพราะอย่างไรเสีย ด้วยอุปนิสัยของพวกองค์กรมืด ที่ชมชอบรุกรานมิติผู้อื่น บางทีในบรรดาดวงดาวที่คนเหล่านั้นเคยสอดส่อง อาจมีเป้าหมายที่ฉินเฟิงสนใจอยู่ก็ได้
คนพวกนี้ก็เหมือนตั๊กแตน ที่ไล่กัดกินไร่ข้าวโพดโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
เรื่องนี้ทำให้ฉินเฟิงเกิดความคิดดีๆอย่างหนึ่งขึ้น
