ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 57 เสื้อคลุมหนังแกะตัวใหญ่กับผมหางม้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 59 ฟ้าประทานใส่บ่าแบกรับความผิดของคนอื่น (อัปเดตเพิ่มเติม 2)

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 58 ตัวเชื่อมต่อที่ถูกลักพาตัว (พร้อมอัปเดต 1)


ตอนที่ 58 ตัวเชื่อมต่อที่ถูกลักพาตัว (พร้อมอัปเดต 1)

ฉินหยู่ แมวแก่ และฉีหลิน วิ่งจากทางเดินไปที่หน้าต่างก้มหน้าลงมองลงไปและพบว่ามีแพล็ตฟอร์มสำหรับซ่อมแซมตึกตั้งอยู่ข้างภายนอกชั้นสองด้านล่าง ชายผมหางม้าและคนอื่นๆ กระโดดจากที่นี่ไปยังแพล็ตฟอร์ม แล้วจากแพล็ตฟอร์มก็มีบันไดที่สามารถเดินลงไปที่พื้นได้

ฉินหยู่ยืนอยู่ที่หน้าต่างและเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้า และเห็นว่าชายผมหางม้าและคนอื่นๆ ได้จับพี่คังเป็นตัวประกันรีบรุดวิ่งไปที่อีกฟากหนึ่งของถนน และเดินอย่างรวดเร็วไปยังตรอกแห่งหนึ่ง

“พี่คังเพิ่งขอให้เราช่วยเขา ซึ่งหมายความว่าเขารู้ว่าสถานการณ์ของเขาอันตรายมาก” ฉีหลินพูดกับทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงร้อนรน “เขาต้องรอด ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งที่เราทำมาจะสูญเปล่า”

ฉินหยู่เข้าใจว่าฉีหลินหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่มีเวลาลังเลมากเกินไปในเวลานี้ เขาหันไปมองแมวแก่แล้วพูดว่า “นายขับรถไป ฉีหลินกับฉันจะวิ่งตามไปทางนี้”

“โอเค พวกนายระวังตัวด้วย” แมวแก่เตือน

“ได้รถแล้วโทรบอกด้วย” ฉินหยู่พูดจบ จากนั้นปีนขึ้นไปบนขอบหน้าต่างพร้อมตะโกนบอกฉีหลิน “ไปกันเร็ว!”

หลังจากพูดจบ ทั้งสองก็กระโดดลงจากขอบหน้าต่างทีละคน ในขณะที่แมวแก่ก็หันหลังกลับ เดินอย่างรวดเร็วไปยังบันไดลงไปชั้นสอง

หลังจากเดินเลี้ยวมุมห้องสองครั้ง แมวแก่กำลังเดินจะลงไปชั้นล่าง แล้วเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร็วๆ จากด้านล่าง จากนั้นก็เห็นชายหนุ่มเจ็ดแปดคนสวมชุดฟอร์มของบัคกิ้งแฮมพาเลซวิ่งเข้ามาพร้อมกับอาวุธในมือ

ทั้งสองฝ่ายมองหน้ากัน และแมวแก่ก็โต้ตอบอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่ทางเดินด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและตะโกนว่า “แม่ง พวกนายเพิ่งมาเหรอ มีคนยิงกันเมื่อกี้ แล้วมีคนถูกมัดด้วย เห็นว่ากระโดดออกไปนอกหน้าต่างทางโน้นแน่ะ”

“มีกี่คน?” หัวหน้าพนักงานถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฉันมองเห็นไม่ชัด อาจจะสี่หรือห้าคน” แมวแก่ก้าวออกไปข้างๆ ขณะที่เขาตอบ

ทันทีที่ทุกคนเห็นว่าแมวแก่อยู่คนเดียวและไม่มีอาวุธติดตัว พวกเขาก็รีบรุดไปข้างหน้าทันทีโดยไม่คิดอะไรมาก รีบวิ่งไปที่หน้าต่างทันที

แมวแก่ปาดเหงื่อจากหน้าผากแล้ววิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็วและสาปแช่ง “ให้ตายเหอะ วันธรรมดาๆ อย่างนี้ กลับกลายเป็นวันที่โคตรตื่นเต้นไปได้ไง...”

……

คลับบัคกิ้งแฮมพาเลซ

หลังจากที่ฉินหยู่รีบวิ่งลงบันไดของแพล็ตฟอร์ม เขากำลังจะข้ามถนน จู่ๆ ฉีหลินก็ดึงเขาให้หยุด “พวกมันดูเหมือนยังไม่รู้ว่ายังมีคนติดตามมันอยู่  ฉันว่าอย่าเร่งเกินไปดีกว่า เกาะติดพวกมันไปเรื่อยๆ ก่อน แล้วค่อยลงมือเถอะ”

ฉินหยู่ชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงจึงหันกลับไปตอบฉีหลิน “รู้แล้ว”

หลังจากคุยแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ ทั้งสองก็รีบข้ามถนนแล้วเดินเข้าไปในตรอก

ระบบจ่ายไฟในพื้นที่โครงการพัฒนาอยู่ในสภาพไม่ดีอยู่แล้ว พื้นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะมืดหลังสี่ทุ่มเป็นต้นไป ไม่ต้องเอ่ยถึงตรอกซอกซอยที่ไม่มีการจัดการจากรัฐบาลท้องถิ่นเช่นนั้น ดังนั้นฉินหยู่และฉีหลินจึงเดินช้าๆ ในตรอก แม้ว่าพวกเขาจะมองเห็นได้ชัดเจนเพียงพอในระยะไกล แต่โชคดีที่อีกฝ่ายมองเห็นกลับมาได้ยาก ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามและรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยไว้ได้

ภายในตรอกยาวและแคบเล็กน้อย ฉินหยู่และฉีหลินเดินตามไปเป็นระยะทางกว่า 200 เมตร พร้อมถือปืนในมือ หลังจากเดินลัดเลี้ยวสองโค้ง พวกเขาก็เห็นจุดสิ้นสุด

ริมถนนปากตรอกมีรถกระบะออฟโรดทรุดโทรมคนหนึ่งจอดอยู่ ชายผมหางม้าจ่อปืนที่หัวพี่คัง ทันทีที่เดินไปที่รถ มีหนุ่มคนหนึ่ง ชายสวมแจ็กเกตหนังสีดำเดินมาทางซ้ายกระซิบบางอย่างกับเขา

เป็นเพราะระยะห่างจากกันมากระหว่างทั้งสองฝ่าย ทำให้ฉินหยู่และฉีหลินไม่รู้ว่าชายหนุ่มในเสื้อหนังพูดอะไรกับชายผมหางม้า แต่ทั้งคู่รู้สึกว่าคนกลุ่มนี้อาจจะกำลังถอยหนีไป

“รีบเข้าไปจับมันสักคนดีไหม?” ฉีหลินถามด้วยเสียงต่ำพร้อมกับขมวดคิ้ว

ฉินหยู่มองเห็นชายผมหางม้าและคนอื่นๆ ได้อย่างชัดเจนจากไฟรถ ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวแล้วตอบว่า “ฉันไม่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นอันธพาลรับจ้างธรรมดาหรอก พวกมันมีเสื้อผ้าหนังตัวใหญ่และรองเท้าบูตมาร์ติน พวกมันดูเหมือนพวกที่อยู่ในพื้นที่ดินแดนไร้มนุษย์ ไม่รวมถึงว่าเราสองคนแม่งมีแค่ปืนสั้นเล็กๆ สองกระบอก ถ้าเข้าไปชนพวกมันในระยะใกล้ ไม่รู้ว่าพวกมันจะเอาอะไรยิงสวนออกมานะสิ”

ฉีหลินครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นก็กัดฟันพูดว่า “หากสิ่งต่างๆ ไม่เวิร์ก นายยังคงสามารถกลับไปยังพื้นที่โครงการพัฒนาได้ และแมวแก่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการอยู่รอดเพราะมีผู้กำกับหลี่ดูแล แต่ฉัน ฉีหลิน มีอะไรล่ะ? ที่ฉันสามารถอยู่รอดได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะพึ่งพานายสองคนที่มาดูแลฉัน สายส่งยาเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะฟื้นตัวกลับขึ้นมา ฉันจะสู้จนตายเพื่อเอามันมาให้ได้”

ฉินหยู่สะดุ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“วันนี้ ถ้ามันจะเอาปืนครกออกมายิง ฉันก็จะดวลกับมัน” ฉีหลินกลั้นใจฮึดสู้ ก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกับปืนสั้นในมือ “ฉันจะยิงก่อน”

ที่ริมถนน

ชายผมหางม้าหยิบเงินก้อนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อกันลม โยนให้ชายหนุ่มในแจ็กเกตหนังสีดำข้างๆ เขาแล้วพูดว่า “ขอบใจ แล้วพบกันใหม่”

“ยินดีรับใช้ครับพี่เซียว หากพี่ต้องการอะไรกรุณาโทรหาฉันได้เลย ที่นี่มีคนพลุ่นพล่านเกินไป ฉันขอไปก่อน” ชายในแจ็กเกตหนังสีดำพยักหน้าและโค้งคำนับ

ภายในตรอก

ฉินหยู่และฉีหลินเดินเคียงข้างกัน คนหนึ่งทางซ้ายและอีกคนหนึ่งทางขวา สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ชายผมหางม้า และพร้อมที่จะเหนี่ยวไกปืนตลอดเวลา

สิบห้าเมตร

สิบเมตร

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายสั้นลง ฉินหยู่เงยหน้าขึ้นมองฉีหลินและพูดกับเขาเบาๆ “ถ้านายจัดการพวกมันทั้งหมดหนักๆ รวดเดียวไม่ได้ ฉันจะจัดการสองคนที่อยู่ข้างๆ นาย แล้วนายจัดการเจ้าตัวใหญ่นะ”

“เข้าใจแล้ว” ฉีหลินก้มลงและเตรียมวิ่งเข้าจู่โจม

“กริ๊งง!”

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเหมือนเร่งด่วน

ที่ริมถนน ชายผมหางม้าก็หันขวับมามองตามเสียงทันที

……

สองนาทีก่อนหน้า

แมวแก่รีบวิ่งออกจากบัคกิ้งแฮมพาเลซที่วุ่นวาย ข้ามถนนอย่างรวดเร็วแล้วขึ้นรถ

“บรึ้นน!”

หลังจากสตาร์ตรถแล้ว แมวแก่ก็ยื่นมือไปเข้าเกียร์ เตรียมขับรถออกไปจากเมืองบันเทิง

“กึก กึก!”

มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบหญิงสาวสวยมีเสน่ห์เดินมาจากด้านหลังรถแล้วเอื้อมมือออกไปเปิดประตูผู้โดยสาร

แมวแก่หันมองเมื่อได้ยินเสียง และจู่ๆ ก็อึ้งตัวแข็งไปทันที

หญิงสาวเข้ามาในรถด้วยรอยยิ้ม นั่งบนเบาะผู้โดยสารพร้อมกลิ่นหอมกรุ่น ปิดประตูรถแล้วพูดว่า

“พี่ชายน้อย คืนนี้ฉันจะไปกับคุณนะคะ”

“โคโค่?” หลังจากที่แมวแก่นึกดีๆ ก็จำได้ว่าเป็นหญิงสาวสวยที่เพิ่งดื่มกับเขาในห้องก่อนหน้า

“เฮ้ คุณยังจำชื่อฉันได้หรือคะ” โคโค่ตอบด้วยรอยยิ้ม

แมวแก่ไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับอีกฝ่าย เขาขมวดคิ้วพร้อมเร่งเร้า “ออกไปจากรถเร็วๆ คืนนี้ฉันไม่ว่าง”

“คุณไม่อยากจะทำอะไรกับฉันเหรอคะ? ดูกระวนกระวายจัง” โคโค่ถามขณะที่เธอโน้มตัวเข้ามาหาแมวแก่

“ฉันบอกให้เธอลงจากรถ!” แมวแก่ตะคอกอย่างร้อนรน “ออกไปเร็วๆ ฉันมีเรื่องต้องทำ”

“ก็ได้ค่ะ อยากหนีเหรอ?” โคโค่ถามพลางจ้องมองแมวแก่

แมวแก่อึ้งปนงงงวย “เธอหมายความว่าไง?”

“ขอให้เพื่อนสองคนพาพี่คังกลับมาหาฉัน” รอยยิ้มบนใบหน้าของโคโค่หายไป

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แมวแก่ก็ตกตะลึงไปสองวินาทีและแตะปืนที่เอวของเขาทันที

ชายสามคนในชุดสูทเดินเข้ามาจากด้านหลังรถอย่างเงียบๆ มาหยุดข้างหน้าต่างคนขับ พวกเขาไม่ได้ขยับหรือหยิบอาวุธ เพียงยืนนิ่งไร้อารมณ์ จ้องมองแมวแก่อย่างเย็นชา

“อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นไม่รับประกันนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฮ่าฮ่า” โคโค่ชี้ไปที่หน้าอกของแมวแก่ด้วยนิ้วหยกเรียวงามอันเปราะบาง “โทรหาเพื่อนของคุณ”

“เธอเป็นใคร” แมวแก่ถามด้วยแววตาประหลาดใจ

โคโค่กะพริบตาที่สดใสของเธอ ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของแมวแก่ หยิบโทรศัพท์ออกมาให้เขาแล้วพูดว่า

“ฉันเป็นเจ้านาย”

แมวแก่ตะลึงเมื่อได้ยินเสียง

โคโค่ถือโทรศัพท์และสั่งอย่างชัดเจน “ถ้านายไม่อยากตายในเจียงโจว ปลดล็อกมือถือแล้วโทรหาเพื่อนของนายเดี๋ยวนี้”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด