ตอนที่แล้วEp.1046 - ราชาไร้มงกุฎ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1048 - กลับไปบาฮามุทอีกครั้ง

Ep.1047 - ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีที่สุด


Ep.1047 - ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีที่สุด

“จอมพลฉิน ยินดีต้อนรับกลับ!” หลงกงรีบก้าวเข้ามาต้อนรับ

คนอื่นๆโห่ร้อง ทักทายด้วยความอบอุ่น ฉินเฟิงกลายเป็นศูนย์รวมใจของทุกคน

“ผมได้ยินเรื่องที่ไป๋หลีทำแล้ว บางทีแบบนั้นอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดก็ได้ ยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่ดำเนินมานานกว่า 200 ปีแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมา มนุษย์ไม่เคยได้พักหายใจอย่างสงบสุขเลย แต่นับจากนี้ไป คนรุ่นหลังจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมมากขึ้น”

หลงกงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ในพันธมิตรหัวเซี่ยของพวกเรา มีอาวุโสหลายคนที่อยู่มาตั้งแต่ยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่เช่นกัน แต่พวกเขาไม่มีเบอร์ติดต่อคุณ ดังนั้นทุกคนเลยฝากข้อความมา ว่าขอบคุณที่ทำเพื่อบลูสตาร์ของพวกเรา คุณเป็นคนดีมากจริงๆ”

ฉินเฟิงส่ายหัว ไม่กล้ารับคำชมนี้

“ผมแค่ทำในสิ่งที่สมควรทำ”

“มหาบุรุษมักไม่ได้ต้องการความดีความชอบใส่ตัว มีแต่คนอื่นผลักไสความดีความชอบนั้นให้เขา ต่อให้คุณไม่รับ แต่คนอื่นก็ยัดเยียดให้อยู่ดี” หลี่หยวนที่อยู่ข้างๆเอ่ยออกมา แต่หากสังเกตดีๆจะพบว่าในดวงตาเขากำลังทอประกายซับซ้อน

ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว ในตระกูลหลี่ของพวกเขา ไม่ใช่ว่าก็เคยปรากฏมหาบุรุษเช่นกันหรอกหรือ? แต่แล้วจู่ๆคนๆนั้นก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน ทั้งๆที่พวกเขายังไม่ได้รับเกียรติยศสูงสุดแห่งความรุ่งโรจน์เลย ทุกอย่างสลายไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ตอนนั้นมนุษย์ยังคงอ่อนแอ มิเช่นนั้นตระกูลหลี่อาจถูกกลืนกินไปแล้ว

ถัดออกไปจากกลุ่มเลเวล SS ที่รุมล้อม ผู้ใช้พลังเลเวล S หลายคนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งหมดต่างพยักหน้าเห็นด้วย ในมุมมองของพวกเขา ฉินเฟิงแม้ไม่ยอมรับสถานะมหาบุรุษ แต่นับจากนี้ไป เขาจะกลายเป็นตำนานและที่จดจำของทุกคน

ในบริเวณจีนมุงวงนอก องค์ชายเซียวแห่งตระกูลหลี่กำลังมองมาทางฉินเฟิง ในงานประลองเพื่อสันติภาพครั้งก่อน จวบจนถึงตอนนี้ที่ฉินเฟิงสามารถสังหารเผ่ามังกรอย่างองอาจ ทำให้หลี่เซี่ยวยอมรับนับถือเขาแล้ว ไม่มีความคิดที่จะต่อต้านแข็งขืนอีกต่อไป แน่นอน ตอนนี้ความคิดดังกล่าวมันได้กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว

“ทุกท่าน ตอนนี้สถานการณ์เพิ่งจะคลี่คลาย ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ ผมตั้งใจจะกลับไปยังเมืองเฟิงหลี คงต้องขอตัวก่อน”

คนอื่นๆพอได้ยินว่าฉินเฟิงกำลังจากไป แม้พวกเขาต้องการพูดมากกว่านี้ และอยากให้แก้ไขปัญหาเรื่องมิติที่พวกตนครอบครอง สุดท้ายก็ทำได้แค่ยอมถอยออกมาด้วยความเสียใจ

แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ทั้งหมดมองไปยังกลุ่มพันธมิตรองค์กรมืดไม่กี่คนที่ยังอยู่ในที่นี้ ราวกับว่ากำลังรอว่าอีกฝ่ายจะไปด้วยเลยไหม

องค์กรมืดไม่กล้าจากไป เพราะกลัวว่าฉินเฟิงจะสังหารพวกเขาทันทีที่ขยับตัว

“พวกคุณก็ไปเถอะ ถึงเส้นทางของพวกเราจะแตกต่าง แต่แค่ไม่ก้าวก่ายกันมันก็พอแล้ว ผมแค่ต้องการให้พวกคุณควบคุมคนของตัวเอง ถ้าเป็นฝ่ายเดียวกันจะฆ่า ปล้น หรืออะไรก็ทำไปเถอะ แต่อย่าให้ผมรู้ว่าพวกคุณไปข่มเหงสถานชุมชนที่ไหนแล้วกัน”

คำพูดของฉินเฟิง ตอนนี้เปรียบดั่งวาจาประกาศิต คนเหล่านั้นรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าแข็งขืน

นับแต่นี้ไป พันธมิตรองค์กรมืดและพันธมิตรมนุษย์ในบลูตาร์ ได้แบ่งแยกพื้นที่กันอย่างชัดเจน คนฝ่ายองค์กรมืดไม่กล้าล่วงล้ำ หาเหาใส่หัวตนเองอีกเลย

ฉินเฟิงกลับมายังเมืองเฟิงหลี เขาเลือกเข้าพบซูซิงฝูเป็นคนแรก

ซูซิงฝูไม่รู้ว่าฉินเฟิงมาหาเขาทำไม แต่เรื่องในเมืองหลวงมังกรใหญ่โตมาก ในเวลานั้น ตัวตนทรงอำนาจเผ่ามังกรมหึมาเป็นอย่างยิ่ง ปลายหางของมันสามารถมองเห็นได้เลยจากอีกซีกโลกหนึ่ง ดังนั้นซูซิงฝูย่อมทราบข่าวนี้

และยังกระจ่างแจ้งแก่ใจ ว่ายิ่งฉินเฟิงแข็งแกร่งเท่าไหร่ สถานะของกลุ่มเฟิงหลีก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้ ซูซิงฝูกำลังพิจารณา ว่าจะเริ่มรับสมาชิกตรงส่วนไหนดี ถึงจะทำให้กลุ่มเฟิงหลีเข้มแข็งยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามผู้แข็งแกร่งที่สมัครเข้ามาในภายหลัง หากอยากให้ทำตัวว่าง่ายอยู่ในกฏเกณฑ์ มันอาจต้องใช้เวลา ในด้านการทำเงิน ซูซิงฝูเชื่อมั่นว่าไม่มีใครดีไปกว่าเขา แต่กำลังพลที่แข็งแกร่งนั้น หากมีคนกุล่มนี้ มันจะช่วยให้เฟิงหลีขยับแข้งขยับขาได้ง่ายขึ้น สามารถขยับขยายกิจการได้ทั้งภายในและภายนอก

“พี่ซู ความแข็งแกร่งของคุณ ทำไมมันยังอยู่แค่นี้?” ฉินเฟิงพอได้เจอซูซิงฝู ก็อดถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

ความแข็งแกร่งของซูซิงฝู ปัจจุบันยังอยู่ในเลเวล C5 เท่านั้น ในขณะที่คนอื่นๆที่ติดตามฉินเฟิงมาตั้งแต่ช่วงต้นๆ หลังจากผ่านมาห้าปี ตอนนี้หลายคนขึ้นเป็นเลเวล B กันหมดแล้ว และขอแค่เวลาอีกไม่กี่ปี ย่อมสามารถขึ้นเป็นเลเวล A ได้ ส่วนผู้มีพรสวรรค์ อาจถึงขั้นสามารถเป็นเลเวล S

“ฮ่าฮ่า พอดีช่วงนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่กับกิจการของกลุ่มน่ะ” ใบหน้าของซูซิงฝูเริ่มแดงด้วยความอับอาย หากให้ทุ่มเทฝึกฝนโดยที่ยังมีภารกิจให้คอยพะวงหลังอยู่ตลอดเวลา หัวใจเขาไม่อาจยอมรับ และลงมือทำได้จริงๆ

ฉินเฟิงทำอะไรไม่ถูก กล่าวว่า “คุณรักในการทำธุรกิจ แต่ในเมื่อได้เงินมาเยอะแล้ว ทำไมไม่เอาพวกนั้นไปใช้จ่ายบ้าง คุณจะไม่ซื้อทรัพยากรมาฝึกฝนเลยหรือ แล้วแบบนี้ต่อให้ทำเงินได้มากมาย มันจะมีประโยชน์อะไร?”

การมีเสื้อผ้าดีๆสวมใส่ มีอาหารดีๆให้ดื่มกิน นั่นคือชีวิตที่คนธรรมดาต้องการ แต่มันไม่ใช่วิถีชีวิตของผู้ใช้พลัง เพราะตราบใดที่คุณแข็งแกร่ง คุณสามารถมีบ้านในเมืองหลวงมังกร สามารถอาศัยอยู่ในคฤหาสน์บนชั้นสูงสุด ทุกวันอิ่มเอมไปกับเนื้อสัตว์ร้ายชั้นสูง

“ก็ฉันไม่มีเวลาไปทำอะไรแบบนั้น ..” ใบหน้าของซูซิงฝูแสดงออกถึงความขมขื่นเล็กน้อย “ฉันเองก็อยากยกระดับความแข็งแกร่งเหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้ ที่นี่มีงานมากมายต้องทำ หลังจบโปรเจ็คหนึ่ง ก็มีอีกโปรเจ็คตามมา แล้วแบบนี้ฉันไปเอาเวลาที่ไหนมาฝึกยุทธ”

ฉินเฟิงส่ายหัว “งั้นคุณต้องทำตามวิธีการของผม ถ้าไปทำเหมือนคนอื่น คุณก็คงไม่มีเวลาไปฝึกแน่!”

ในชีวิตก่อนของฉินเฟิง ซูซิงฝูยังสามารถขึ้นเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A ได้เลย ฉะนั้นในชีวิตนี้อีกฝ่ายจะทำไม่ได้ได้อย่างไร?

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า หากเราแข็งแกร่ง อย่างน้อยก็พอมีที่ยืน หลายคนจะไม่กล้าหยิ่งผยองอวดดีใส่ มีลูกน้องเลเวลสูงคอยตามหลัง ตรงกันข้าม หากคุณไม่มีสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ ก็อาจถูกคนอื่นกลืนกินเอาได้ง่ายๆ จนไม่เหลือกระทั่งกระดูก

อย่างเช่นฉินเฟิง หลังจากที่ฉินเฟิงเปลี่ยนชะตากรรมของซูซิงฝู เจ้าตัวพยายามพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเผยเขี้ยวเล็บออกมา และไม่มีใครเอาชนะเขาได้ ซูซิงฝูเองก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ เกรงว่าต่อให้เป็นเลเวล S หรือ SS ก็ยังต้องปฏิบัติต่อซูซิงฝูด้วยความสุภาพ

ฉินเฟิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะในบรรดาลูกน้องจำนวนมากของฉินเฟิง ซูซิงฝูเป็นคนเดียวที่พัฒนาการด้านการยกระดับอยู่ในขั้นติดลบ!

เพียงแต่ว่า ซูซิงฝูเห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดของฉินเฟิง เขากล่าวว่า“มนุษย์เราแต่ละคนมีความทะเยอทะยานต่างกัน อยากแข็งแกร่งก็ในส่วนอยากแข็งแกร่ง ไม่มีใครสามารถตัดสินได้ด้วยกำลังเพียงอย่างเดียว ฉันสามารถทำเงินได้มหาศาล นั่นถือเป็นจุดแข็งของฉัน อา! อย่างเช่นในแต่ละโปรเจ็ค ช่วงหลังๆก็จะยิ่งยากขึ้น เพราะฉันต้องการก้าวข้ามตัวตนในปัจจุบัน เจ้าสิ่งนี้ไม่ใช่ว่ามันก็คือการฝึกฝนในรูปแบบหนึ่งหรอกหรือ?”

ซูซิงฝูกลัวว่าฉินเฟิงจะคิดว่าเขาขี้เกียจ ใช่ว่าเจ้าตัวไม่ชอบฝึกฝน ตรงกันข้าม เขากำลังฝึกฝนอยู่ทุกวี่วัน หากแต่เป็นในเส้นทางอื่นก็เท่านั้นเอง

“คุณพูดมีเหตุผลจริงๆ” แม้ปากกล่าวเช่นนั้น แต่ในใจฉินเฟิงกลับบ่นอุบ ทว่าในตอนนั้นเอง เขาเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เผยยิ้มเล็กน้อย “แต่นับจากนี้ไป ธุรกิจในบลูสตาร์จะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ผมเลยอยากจะให้โอกาสคุณ เดินทางไปเปิดหูเปิดตาที่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรมนุษย์!”

“สำนักงานใหญ่อะไร?”

แม้ซูซิงฝูจะเป็นนักธุรกิจชั้นนำ แต่ความแข็งแกร่งของเขายังต่ำเกินไป ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลระดับสูงได้

ขนาดฉินเฟิง กว่าเขาจะได้ยินเรื่องนี้ ก็ปาเข้าไปเลเวล A แล้ว

ฉินเฟิงอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของสำนักงานใหญ่พันธมิตรมนุษย์ให้ซูซิงฝูฟัง จากนั้นกล่าวจุดประสงค์ของเขา

“ยังไงก็ตาม สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรมนุษย์ เงื่อนไขขั้นต่ำที่จะสามารถเข้าไปได้ คือต้องเป็นผู้ใช้พลังเลเวล S”

“ประธาน งั้นที่พูดมาทั้งหมดคงเสียเวลาเปล่าแล้วล่ะ”

“ไม่หรอก ผมมีวิธีช่วยให้คุณกลายเป็นเลเวล S ในระยะเวลาสั้นๆ สนใจจะลองไหม?” ฉินเฟิงบอกซูซิงฝูเกี่ยวกับมิติเร่งเวลา ว่าหนึ่งปีข้างใน จะเท่ากับข้างนอกแค่หนึ่งวัน ซึ่งหมายความว่า ต่อให้ซูซิงฝูใช้เวลา 10 ปีเพื่อยกระดับเป็นเลเวล S ภายนอกจะเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ 10 วันเท่านั้น

เพียงแต่ว่า … วิธีนี้ไม่ต่างจากการเสียเวลาชีวิตไปหลายปี ในขณะเดียวกัน ระหว่างนั้นก็ต้องเฝ้าทนฝึกฝนอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย

แต่สำหรับซูซิงฝู พอได้ยินเรื่องนี้ ดวงตาของเขากลับเปล่งประกายสดใสขึ้นมาทันที

“ประธาน ที่แท้คุณก็มีของดีแบบนี้อยู่ในมือ ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรก! แค่ 10 ปีเองไม่ใช่หรอ? ถ้าสามารถไปถึงเลเวล S ได้ อายุขัยจะสามารถยืดยาวได้เป็น 100 ปี ฉะนั้นเสียเวลาแค่ 10 ปีไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจเลย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด