ตอนที่แล้วตอนที่ 198 ถึงรอยแยก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 200 อ้วกแตก

ตอนที่ 199 ตกลงไปในรอยแยก


ตอนที่ 199 ตกลงไปในรอยแยก

ไนเรลและกลุ่มของเขาที่ประกอบไปด้วย เอวา เมสัน จูเรีย และโลแกนที่มาพร้อมกับมนุษย์ชั้นสูงในกองกำลังหมาป่าอีก 10 คนตามมาด้วย

ส่วนนิเรียนั้นเนื่องจากถึงช่วงเวลาสำคัญในการยกระดับพลังไปขั้น สูง เธอจึงไม่ได้มาด้วย แต่อยู่ที่ค่ายกองกำลังหมาป่าโดยมีมะลิและธีโอ อยู่ด้วย

ทั้งกลุ่มเดินทางกันอย่างรวดเร็ว ด้วยระยะทางแค่ 20 กิโลเมตรมันไม่ได้ไกลมากนักสำหรับมนุษย์ชั้นสูงระดับสูงอย่างพวกเขา

ไนเรลเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเรือบินหมายเลข 1 ที่จอดทิ้งไว้อยู่ มันมีร่องรอยของความเสียหายอยู่ให้เห็น มีทั้งกรงเล็บลากยาวที่น่ากลัวและคราบตะไคร่น้ำที่เกราะอยู่ทั่วเรือบินราวกับว่ามันถูกทิ้งล้างไว้

ไนเรลใช้มือลูบไปที่รอยกรงเล็บที่น่ากลัวขณะที่โลแกนก็พูดเรื่องที่เขาเจอเรือบิน

“ตอนที่เราเจอมันก็มีสภาพแบบนี้แล้ว ดูเหมือนเรือบินจะเสียหายอย่างหนัก คนด้านในตายหมดแล้วหรือไม่ก็อาจจะหนีไปหมดแล้วก็ได้”

“ตรงนั้นมีทางเข้าอยู่ มันเกิดจากการระเบิดขนาดใหญ่” โลแกนอธิบายและเดินนำไป

เมื่อเข้ามาด้านใน พื้นของเรือบินดูจะเอียงเล็กน้อย

“ทางเดินส่วนใหญ่ถูกเปิดออกแล้วและเคลียร์ด้านในจนหมด กลับไม่พบใครเลย”

“เข้าไปลึกกันแค่ไหน”

“เราเข้าไปถึงชั้น B10 แต่ยังไม่ได้ลงไปลึกกว่านั้นเพราะทางเดินมันถูกซากเรือบินพังขวางไว้ และมันยากพอสมควรที่จะใช้กำลังพังเข้าไปเพราะอาจจะทำให้เรือบินเสียสมดุลและตกลงในรอยแยกได้”

“ไปที่ส่วนกลางกันก่อนก็แล้วกัน”

โลแกนก็พยักหน้าเห็นด้วย ทั้งกลุ่มพากันเข้าไปในชั้น B10 ซึ่งเป็นชั้นห้องควบคุมกลางแต่พอไปถึงไนเรลก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะมันสภาพเละเทะมาก มีร่องรอยของการต่อสู้ เลือดและกลิ่นเหม็นเน่าอยู่ด้วย

“สภาพที่นี่ยังกับสุสานขยะ” เมสันพูดไปก็ขมวดคิ้วไป ขณะที่เดินไปรื้อทางนั้นทีทางนี้ที

“หน้าที่ของคุณและจูเรียแล้ว” ไนเรลเดินออกไปดูทางเดินที่โลแกนบอกว่าพังทลายโดยมีเอวาและโลแกนตามมาด้วย ส่วนคนที่ติดตามมาอีก 10 คนก็ถูกทิ้งไว้ให้ช่วยทั้งสองคน

“ฟู่” จูเรียเป่าลมใส่หน้าตัวเองจจากนั้นก็ตั้งหน้าทำงาน เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดว่าจะได้เล่นของเล่นพวกนี้ แต่ในเวลานี้เธอต้องใช้มันให้คุ้มค่า

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง...

“บัดซบ ใครมันทำลายตัวจ่ายพลังงานที่นี่...เฮ้ย ยกตรงนั้นไปที่นั่น ยกตรงนั้นไปที่โน่น นั้นและ ใช่ใส่เข้าไป...” เมสันสั่งไปก็ด่าไป เพราะคนพวกนี้ทำงานไม่ได้เรื่อง “รู้อย่างนี้ให้คนของฉันมาด้วยดีกว่าให้ไปนอนเล่นที่ค่าย”

หลังจากหัวหมุนอยู่ 10 นาที เมสันหยิบแก่นพลังงานระดับ 4 ออกมาใส่เข้าไปในช่องหนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินมาเตรียมจะกดปุ่มหนึ่ง เพื่อเปิดตัวจ่ายพลังงานอีกครั้ง

“เอาละเรามาดูกันจะใช้ได้ไหม”

เมสันกดปุ่มลงไป หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวินาที พลังงานจากแก่นพลังงานระดับ 4 ที่เมสันใส่ก็ปลดปล่อยพลังงานออกมาไหลไปตามเส้นทางของเครื่อง

“ฮ่า ๆ ๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ” เมสันหัวเราะด้วยความสะใจ จากนั้นก็เดินไปหาจูเรียที่นำแล็ปท็อปของตัวเองออกมาเชื่อยสายและทำบางอย่างอยู่

“นังหนูจูเรียว่าไง พอไหวไหม” เมสันเดินมาถามจูเรีย

“สบายมาก เพราะฉันคือ ทูตสวรรค์ไซเบอร์ ระบบแค่นี้ไม่มีทาง...ที่จะหยุด...ฉันได้...เรีบร้อยแล้ว” จูเรียพูดลากเสียงยาวพร้อมกับกด ENTER ทันใดนั้นระบบทุกอย่างก็ถูกเธอเจาะเข้าไปได้

“อืม...มีข้อมูลเสียหายมากเกินไป ต้องใช้เวลากู้คืน”

...

ทางด้านของไนเรลเขากำลังยืนอยู่หน้าเส้นทางที่เต็มไปด้วยเศษซากเรือบินที่ปิดทางไว้อยู่

“มีเส้นทางอื่นอีกไหม”

“ไม่น่าจะมี ส่วนนี้เป็นส่วนที่อยู่ใต้ท้องเรือที่ยื่นลงไปในรอยแยก ดังนั้นการเคลื่อนย้ายอะไรต้องระวังพอสมควร คุณจะทำอย่างไร?”

“ง่ายมากก็แค่เข้าไปดู” ไนเรลต้องเขาไปข้างในนี้ เพราะมันเป็นส่วนที่เก็บร่างของปู่

ร่างจิตของไนเรลลอยผ่านซากที่ขวางทางอยู่เข้าไปจากความสามารถจิตเคลื่อนย้าย โลแกนมองดูภาพตรงหน้าหลังจากนั้นไนเรลก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขา

“ข่าวลือที่ว่าประธานไนเรลมีความสามารถมากว่า 1 อย่างคงเป็นความจริง”

ด้านในที่มืดมิดไนเรลปรากฏตัวอยู่หลังเศษซากพังที่ห่างไปเกือบ 30 เมตร ไนเรลมองด้านหน้าไม่เห็นสิ่งใดสักอย่างเพราะความมืดมิดที่แสงไม่สามารถส่องเข้ามาได้

ทุกอย่างในนี้เป็นเหมือนกับถ้ำปิดตาย

แต่ยังดีที่มีอากาศหายใจแม้จะไม่มากก็ตาม ไนเรลใช้ความสามารถสนามพลังอากาศ สร้างเป็นหลุมอากาศรอบตัวกักเก็บออกซิเจนที่เหมาะให้เขาหายใจได้สะดวกมากขึ้น

ไนเรลยกแขนทั้งสองข้างขั้นจากนั้นก็ตบมือจนมันดังสนั่นไปทั่วบริเวณทำลายความเงียบภายในนี้จนหมด พร้อมกันนั้นภาพในหัวของไนเรลที่สร้างขึ้นมาด้วยเสียงสะท้อนจากความสามารถสัมผัสเสียง

ทำให้เขามีภาพสามมิติในระยะ 20 ที่เหมือนระลอกน้ำกระเพื่อมผ่านได้อย่างชัดเจน ทำให้เขารับรู้สิ่งสิ่งได้ยิ่งกว่าตาเห็นเสียอีก

ไนเรลเดินมาไม่กี่ก้าวพร้อมกับเกิดเสียงที่ทำให้เขาสร้างภาพสะท้อนอย่างต่อเนื่องจากเสียงเท้าที่เดิน

เดินมาได้ไม่ไกลก็เจอเข้ากับประตู ไนเรลลองลูบมันทำให้รู้สึกเย็นมากมันทำจากเหล็กกล้า

แคร๊ง

ไนเรลเคราะมันอย่างแรงทำให้เขาพอจะสร้างภาพด้านหลังประตูได้บ้าง “ด้านหลังเหมือนจะมีตัวบางอย่างอยู่”

กึก! กึก! กึก!

เสียงฟันดังกระทบกันอย่างต่อเนื่อง

“ซอมบี้!” ไนเรลรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขากลัวมันก็แค่ซอมบี้เท่านั้นตอนนี้ระดับของเขาสูงมากซะจนแค่ 1 การโจมตีก็ค่ามันได้หมดแล้ว

ไนเรลไม่ได้ทุบประตูเข้าไป แต่เขาใช้ร่างจิตเคลื่อนย้ายผ่านเข้าไปแทน

ทันทีที่ตัวเขาโผล่ออกมาซอมบี้หก็ร้องคำรามวิ่งเข้ามากัดเขาทันที

ซอมบี้ 10 ตัวนี้เป็นแค่ระดับต่ำเท่านั้น ดูเหมือนพวกมันกลายเป็นซอมบี้และติดอยู่ด้านในจึงไม่ได้วิวัฒนาการระดับขึ้นมา

ไนเรลเพียงยกมือขึ้นและตบไปที่ร่างของซอมบี้อย่างไม่ใส่ใจที่ระตัวทีละตัว เมื่อโดนมือของไนเรลตบใส่ตัวของซอมบี้พวกนี้ก็ไม่อาจจะต้านทานได้ระเบิดเป็นเศษเนื้อ

ไนเรลเดินเหยียบซากเลือดเนื้อเน่าเหม็นสีดำพวกนั้นไปยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งมีซอมบี้เยอะเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงสร้างใบมีดวารี 5 เล่มบินวนรอบ ๆ เพื่อฆ่าซอมบี้รอบ ๆ ทั้งหมดแทนการตบพวกมันที่ละตัว

ไนเรลลงมาถึงชั้นที่เป็นที่เก็บศพของเรือบิน ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะมีร่างของปู่ภายใน แต่พอคนไปจนทั่ว

“มันไม่มี เกิดอะไรขึ้น? ทำไมปู่ถึงไม่อยู่ที่นี่”

ไนเรลเปิดดูทุกช่องที่เก็พศพ แต่เจอแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ในตอนนั้นเองเขาก็เจอกับศพที่โดนฆ่าตายมันคือเจ้าหน้าที่ที่โดนดูดเลือดจนแห้งนอนอยู่มุมหนึ่ง

“สองศพนี้มันไม่ได้ตายแบบปกติ” แม้จะรู้แบบนั้นแต่เขาก็ไม่ใช่นักพยากรณ์ที่สามารถรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่

“คงต้องรอดูว่าจูเรียและเมสันหาอะไรเจอบ้าง หรืออาจจะให้วินาพยากรณ์ดู”

แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเดินที่หนักหน่วงมาทางไนเรล

“ซอมบี้ไททัน พวกที่วิวัฒนาการจากมนุษย์ชั้นสูง”

โฮกกก!!!

มันร้องคำรามด้วยความหิวกระหายก่อนจะพุ่งมาจรงมาหาไนเรล แต่ก่อนที่จะมาถึงไนเรลก็ยกมืออย่างง่าย ๆ

“อ่อนแอเกินไป” ใบมีดวารีตัดหัวของมันขาดทันที ร่างของมันที่หนักหลายตันล้มลงดัง ตึ้ง! เข้ากับซากเหล็กจำนวนมาก จากนั้นซากเหล็กก็พังลงตามมาด้วยการสั่นไหวอย่างรุนแรงของเรือบินเป็นลูกโซ่ออกไปเรื่อย ๆ

“ซวยละสิ ร่างมันไปล้มใส่ซากเหล็กทำให้สมดุลเรือบินเปลี่ยนไป” ไนเรลรีบออกไปจากตรงนี้ทันที

...

ผ่านไปได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่ไนเรลเข้าไป โลแกนยังคงรออย่างเงียบ ๆ และในตอนนั้นเองก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง โลแกนรีบถอยออกมาจากตรงนี้ทันทีเพื่อกลับไปหาคนอื่น ๆ เขาต้องพาทุกคนออกไปจากเรือบิน

ขณะที่วิ่งอยู่ไนเรลก็โผล่ออกมาเหมือนกับตอนที่เขาหายไป

“ท่านประธาน”

“รีบพาทุกคนออกไปจากเรือบิน” พูดจบไนเรลก็ตรงไปที่ห้องควบคุม

ที่ห้องควบคุมจูเรียและเมสันกำลังทำงานถึงช่วงเวลาสำคัญพอดี

“บัดซบใครไปทำอะไรจนเรือบินสั่นไปทั้งลำกัน” เมสันบ่นไม่หยุด

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็แกล้งไอเล็กน้อย “อะแฮ่ม...จูเรียใกล้เสร็จหรือยัง”

ไนเรลถามขณะที่เข้าไปในห้องควบคุม

“อีก 10 วินาที” จูเรียตอบโดยไม่หันกลับมามองเขา

“คนอื่น ๆ พากันออกไปเร็ว” โลแกนสั่งให้ทุกคนออกไปจากเรือบินทันทีและหันมาถามไนเรล “ท่านไนเรลเราควรรีบออกจากที่นี่”

“ออกไปก่อนเดี๋ยวฉันกับจูเรียตามไป”

โลแกนพยักหน้าและพาทุกคนออกไป เมสันก็ตามไปเช่นกัน

เรือบินเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง จากนั้นมนก็เอียงมากขึ้นเรื่อย ๆ กว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า ไนเรลเดินเข้ามาจับไหล่ของจูเรียไว้ไม่ให้เธอกิ้งลงไปกับพื้น

“เร็วกว่านี้อีก”

“สำเร็จ!ข้อมูล 30 วันล่าสุดถูกกู้กลับมาแล้ว” เธอตะโกนบอกด้วยความดีใจ พร้อมกับดึงไดรฟ์ออกมา พร้อมกันนั้นเรือบินก็ไม่สามารถรักษาสมดุลได้อีกมันพลิกตัวหล่นลงไปในรอยแยก

ไนเรลที่จับไหล่ของจูเรียเตรียมตัวไว้อยูก่อนแล้วรีบดึงเธอเข้าไปในเงาและฉีกกระฉากกำแพงเรือบินออกไปทันที

ที่ด้านนอกโลแกนและเมสันพร้อมกับคนอื่น ๆ ออกมาได้อย่างฉิวเฉียดพวกเขาหันกลับไปมองเรือบินที่ตกลงไปในรอยแยกด้วยใบหน้าตกใจ เพราะถ้าช้ากว่านี้เล็กน้อย แม้พวกเขาจะเป็นมนุษย์ชั้นสูงก็ลงตกลงไปกลายเป็นเนื้อบดในเรือบินนั่น

ตูม!

ในขณะเดียวกันนั้นไนเรลก็พุ่งออกมาจากเรือบินลอยอยู่ด้านบินก่อนที่เรือบนจะตกลงไปทั้งลำ

ไนเรลบินอยู่เหนือรอยแยกมองดูเรือบินที่หล่นลงไปหลายนาทีต่อมาก็เกิดเสียงดังสนั่นทำเอาหิมะรอบ ๆ สั่นไหวเล็กน้อย

เขาบินเข้าหาทุกคนจากนั้นก็ปล่อยจูเรียที่หน้าซีดเล็กน้อยออกมา

“เกือบไปแล้ว แต่ก็ตื่นเต้นมาก” จูเรียพูดไปก็ใจเต้นแรงไป เธอยังตื่นตกใจ และตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

จนไนเรลที่อยู่ข้าง ๆ เดาอารมณ์ของเธอไม่ออกกันเลยทีเดียว

หลังจากนั้นทั้งกลุ่มก็กลับมาที่ค่ายเพื่อนที่จะดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรือบินกันแน่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด