ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 48 ยุคแห่งความโกลาหล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 50 พ่ายแพ้หมดท่า

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 49 ราคาของการเอาแต่ใจ


ตอนที่ 49 ราคาของการเอาแต่ใจ

ผู้กำกับหลี่คุ้นเคยกับละแวกชุมชนในเฮ่ยเจียเป็นอย่างดียิ่ง รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรวมของซงเจียงด้วย แม้ว่าบุคคลนี้มักจะดูเรียบง่ายติดดิน และมักจะชอบใช้ทัศนคติปานกลางเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น แต่ประสาทสัมผัสเรื่องเกมการเมืองของเขาก็ยังมีมากกว่าคนจำนวนมาก

เมื่อการต่อสู้ด้วยอาวุธของคนเพียงไม่กี่คนบนถนนถู่จ้ากลายเป็นเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างกลุ่ม ผู้กำกับหลี่เลือกที่จะขอให้กองทหารรักษาการณ์เข้ามาช่วยปราบปราม ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นสิ่งถูกต้องที่ต้องทำ เพราะความสัมพันธ์ของหยวนหัวที่กรมตำรวจนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ หากผู้กำกับหลี่เลือกที่จะนำเรื่องนี้ไปขอให้กรมตำรวจช่วยเหลือ และผู้บังคับบัญชาถ่วงเวลาเขาไปสองชั่วโมง นั่นจะทำให้สถานการณ์บนถนนถู่จ้าแย่ลงไปอีก เขาอาจต้องเป็นคนรับคำกล่าวโทษอย่างหนัก เพราะว่าเขตเฮ่ยเจียเป็นพื้นที่ภายใต้เขตอำนาจดูแลของเขา หากเกิดปัญหาใหญ่เช่นนี้ เขาคือบุคคลหลักที่ต้องรับผิดชอบ

หม่าเถื้อเอ้าเป็นทหารมีระดับที่ประจำการในกองทหารรักษาการณ์ รู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับผู้กำกับหลี่มาก่อน ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่ลังเลใจที่จะช่วย หลังจากได้รับการติดต่อมา และแล้วกองทัพสองกองก็มาถึงในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทหารเหล่านี้แตกต่างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพวกนี้เป็นผู้ที่มีประสบการณ์รับมือกับความขัดแย้งและการจลาจลทางทหารมาหลายครั้ง จึงมีความเด็ดขาดและแข็งแกร่งในเรื่องแบบนี้

หลังจากที่ทหารติดอาวุธหลายพันคนรีบรุดไปที่ถนนดินด่างด้วยรถหุ้มเกราะ สถานการณ์ก็พลิกผันทันที

ไม่ว่าแก๊งค้ายาเสพติดจะดุร้าย ร่ำรวย หรือโหดร้ายเพียงใด ก็ไม่สามารถเทียบกับกองทัพภายใต้กลไกทางการเมืองได้ ดังนั้นเมื่อคนเหล่านี้เห็นว่าทหารกล้ายิงจริงๆ พวกเขาก็ต้องถอยแยกย้ายกันไปทันที แม้แต่ผู้เฒ่าหม่า ที่เดิมทีตั้งใจจะไปคลับแกรนด์พาเลซ ก็ได้ลูกน้องพาหนีไปอย่างทันท่วงที

เมื่อกองทัพเข้ามา เรื่องที่เหลือก็ง่ายลงมาก เพราะความสับสนอลหม่าน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจได้ เว้นแต่จะลงโทษกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างรุนแรง ดังนั้นกองทัพจึงวางแผนอย่างเป็นระบบแล้วเริ่มจับกุมผู้นำการก่อเหตุได้เป็นจำนวนมาก แต่การจลาจลครั้งนี้ ไม่มีพวกอันธพาลกลุ่มฟ้าคำรามกล้าโผล่มาโจมตีตำรวจบนถนนถู่จ้าเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงแกนนำของแก๊งค้ายาเสพติดเท่านั้น ที่วิ่งพล่านกันอยู่ในเหตุการณ์นี้

……

บนชั้นสองของบ้านเดี่ยวสามชั้นที่ถนนเซ็นจูรี่อเวนิว

เมื่อหยวนหัวกำลังจะถามเกี่ยวกับสถานการณ์บนถนนถู่จ้า ผู้ติดตามคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกและพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “พี่หัว จู่ๆ กองทหารก็เข้ามาที่ถนนโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าและมียิงปืนขู่ด้วย ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายถูกแยกจากกันแล้ว แต่พี่น้องของเราหลายคนถูกควบคุมตัว และชาวบ้านหลายสิบคนถูกจับกุมที่สี่แยกฟู่หยวนครับ”

“กองทหารมาที่นี่?” หยวนหัวอึ้งไปชั่วครู่

“เพราะไม่มีข่าวล่วงหน้า เราเลยคิดว่าเฒ่าหลี่จะรายงานเรื่องไปที่กรมตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ…แต่จู่ๆ เขาก็ติดต่อไปที่กองทหารรักษาการณ์ครับ” ผู้ติดตามตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

เมื่อหยวนหัวได้ยินดังนั้น เขาก็ผลักไพ่นกกระจอกออกไปพร้อมกับขมวดคิ้ว ก้มลงจุดบุหรี่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบลง “เฒ่าหลี่คนนี้มีไพ่มากมายซ่อนอยู่ในมือ ฉันยังไม่รู้เบื้องหลังของเขามากพอ มันน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทหารรักษาการณ์อยู่”

ทุกคนที่ได้ยินไม่มีใครตอบอะไร

“กองทหารออกมาแล้ว ดังนั้น หยุดปฏิบัติการ” หยวนหัวสั่งทันที “ให้คนที่ทำงานด้านล่างแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว แล้วพวกหัวหน้ากลุ่ม ให้หลบไปที่เขตใหม่สักพัก”

“เข้าใจแล้วครับ” หลังจากที่ผู้ติดตามพยักหน้า เขาก็บอกเพิ่มเติมอีกเรื่อง “เรื่องเจ้าฉินหยู่ พวกฟ้าคำรามสามคนจากนอกเขตเข้าจัดการมัน แต่เด็กคนนี้มันใจเด็ด วิ่งหลบเข้าไปในร้านขายเนื้อ เหมือนมันจะไม่รอด...แต่เจ้าสามคนนั่นก็ถูกถ่วงเวลาจนพวกเจ้าฉินหยู่มาช่วยไว้ทัน งานก็เลยยังไม่เสร็จ แต่เจ้าฉินหยู่มันน่าจะได้รับบาดเจ็บครับ”

“เขาเป็นเบี้ยตัวเล็กๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่ถ้าเป็นเจ้าฉีหลิน ไอ้นั่นมันตบหน้าตระกูลเรา ถ้าเราไม่กระทืบมันให้ตายเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็น พวกเฒ่าหลี่จะไม่กลัวจนตัวสั่น” หยวนหัวสูบบุหรี่เข้าเฮือกใหญ่ “ปล่อยมันไปสักพัก แค่นี้มันก็อาจจะกลัวหัวหดแล้ว แต่มันยังเป็นคนของเฒ่าหลี่ จากนี้ไปมันจะต้องระวังตัวแน่นอน เอาไว้ค่อยจัดการมันทีหลัง”

“ครับพี่หัว”

“ไปได้” หยวนหัวบอกผู้ติดตาม และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเดินไปที่หน้าต่าง แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของกรมตำรวจ

ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงตามสายก็ดังขึ้น “คุณกำลังทำอะไร ส่งเสียงดังขนาดนี้!”

“ถ้าไม่กำจัดช่องทางแหล่งค้าส่ง ในอนาคตเราจะขาดทุนขนาดไหน หากเฒ่าหม่าได้ติดต่อกับแหล่งค้าส่งนี้อีก ถ้าเราไม่กำจัดมันตอนนี้ มันจะเหมือนการเลี้ยงเสือนอกกรงหรือเปล่า?” หยวนหัวตอบด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ

“งั้นก็เถอะ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ นี่จะสร้างแรงกดดันให้กับกรมตำรวจอย่างมากเลยนะ”

“ทหารไม่ออกไปแล้วหรือ?” หยวนหัวตอบด้วยน้ำเสียงสงบ “พวกเขาจะไม่ปล่อยให้กองทัพจับกุมคนที่ควรถูกจับด้วยหรือ?”

อีกฝ่ายเงียบไป

“ผู้บัญชาการวู่ คนของฉันถูกจับแล้ว เราหยุดปฏิบัติการได้แล้ว ฉันจะร่วมมือกับระดับสูงในการจัดการพวกมัน แต่คราวนี้มันจะทำให้เฒ่าหม่าเจ็บปวด” หยวนหัวพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องบีบมันให้ตายคามือ”

“ฉันจะกดดันกองกำกับการตำรวจเฮ่ยเจีย” อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณก็จัดหาบางสิ่งที่คุณสามารถจัดหาได้  และควรจัดการเรื่องเฒ่าหม่าให้เรียบร้อย”

“เหอะเหอะ โอเค” หยวนหัวพยักหน้า

……

อาณาจักรของตระกูลหม่านั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ชายขอบของเขตเฮ่ยเจียโดยเฉพาะบริเวณถนนถู่จ้า ก่อนหน้านี้ตระกูลหม่ามีอิทธิพลและกำลังคนที่อาจจะแข็งแกร่งกว่าตระกูลหยวนเสียอีก แต่หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ทำไมน่ะหรือ?

เพราะกลุ่มผลประโยชน์ที่ผงาดขึ้นมาโดยหยวนหัว ได้มาถึงระดับที่สามารถนั่งร่วมโต๊ะพูดคุยกับกลุ่มบุคคลระดับสูงได้ แต่ผู้เฒ่าหม่าทำไม่ได้

ตระกูลหม่าขายยาที่ถนนถู่จ้าในราคาถูกและสมเหตุสมผล เป็นราคาที่ต่ำกว่าโรงพยาบาลและสถานที่จ่ายยาของกรมการแพทย์อย่างน้อย 70% ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาสามารถเริ่มธุรกิจได้ในเวลาอันสั้น แล้วสร้างชื่อเสียงกับอิทธิพลบางอย่างบนถนนถู่จ้า คนแก่ คนอ่อนแอ คนป่วย กับคนพิการที่ไม่สามารถซื้อยาได้ ผู้ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ รวมทั้งพี่น้องที่ยากจนซึ่งป่วยหนัก ต่างรำลึกถึงความมีน้ำใจของตระกูลหม่าอยู่เสมอ เมื่อถึงช่วงเวลาวิกฤติ

ชาวบ้านจึงเต็มใจช่วยเหลือพวกเขา

แต่ไม่ว่าจะมีเจตนาดีแค่ไหน มันกลายเป็นเรื่องที่เปราะบางไปทันที เมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และอำนาจทางการเมือง

บางครั้งท่ามกลางความคิดของคนนับหมื่น อาจไม่มีพวกระดับสูงคนใดคิดว่า

เรื่องไร้สาระบนโต๊ะไวน์จะเป็นเรื่องสำคัญไปได้

ผู้บัญชาการวู่ แห่งกรมตำรวจ กล่าวเพียงประโยคเดียวในการประชุมลับในวันถัดมา “สอบสวนแก๊งค้ายาเสพติดตระกูลหม่าอย่างจริงจัง!” เจ้าหน้าที่อาวุโสของแต่ละแผนกสามารถทำได้เพียงปฏิบัติตามเจตนาของผู้นำอย่างเคร่งครัดเท่านั้น พวกเขาเริ่มจับกุมสมาชิกในทีมตระกูลหม่าอย่างไม่ลดละ แม้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขาถูกบังคับให้ต่อสู้กลับเมื่อคืนนี้

แม้ว่าทุกคนที่ถูกจับกุมที่บริษัทหยวนหัวจะถูกโยนเข้าคุก แต่พวกผู้บริหารระดับสูงที่หลีกเลี่ยงเหตุการณ์จลาจล ก็ยังคงสามารถเข้าและออกจากสถานที่สาธารณะต่างๆ ได้เป็นปกติ แต่ตระกูลหม่าทำได้หรือ? พวกเขาทำไม่ได้ หลังจากความเอาแต่ใจ พวกเขาก็ทำได้เพียงหลบหนีด้วยความอับอายเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันที่กำลังจะเกิดขึ้น

ภายในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหม่ามากกว่าสิบคนที่รับผิดชอบด้านการจำหน่ายยา ถูกกองกำกับการตำรวจของเขตต่างๆ ในซงเจียงกวาดล้างออกไป นอกจากคนหลายสิบคนที่ถูกจับกุมในเหตุการณ์เมื่อคืนนี้แล้ว... ภายในแค่คืนเดียว กองกำลังผู้เฒ่าหม่าก็แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

……

คืนที่สอง

ผู้เฒ่าหม่าโทรหาแมวแก่และพูดอย่างรวบรัด “ช่วยดูแลต้าหมินและเสี่ยวเอ้อด้วย ตอนนี้ฉันออกไปข้างนอกไม่ได้”

แมวแก่นั่งบนเก้าอี้ในโรงพยาบาลและตอบอย่างช่วยไม่ได้ “พี่หม่า คุณโผล่ออกมาไม่ได้อีกแล้ว คำสั่งเพิ่งออกมาในวันนี้ คุณคือบุคคลที่กรมตำรวจระบุชื่อว่าต้องการตัวคุณไปสอบปากที่นั่น”

“ผู้กำกับหลี่ว่ายังไงบ้าง?” ผู้เฒ่าหม่าถาม

“เขาไม่มีอำนาจในเรื่องนี้แล้ว พี่หม่ากำลังสร้างปัญหามากเกินไป” แมวแก่ตอบพร้อมกับขมวดคิ้ว

“เขายังได้รับผลเสียไปด้วย”

“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” ผู้เฒ่าหม่าไม่ได้กดดันผู้กำกับหลี่เพื่อขอความช่วยเหลืออีกต่อไป แต่พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ฉันยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว”

“เอาล่ะ เรามาทำสิ่งนั้นก่อน”

หลังจากสิ้นคำพูด ทั้งสองก็วางสาย

……

คืนนั้นตอนสามทุ่ม ผู้กำกับหลี่นั่งอยู่ในรถหลังจากประชุมมาทั้งวัน และถามคนขับรถด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า

“ฉินหยู่อยู่ที่ไหน?”

“ในโรงพยาบาลครับ”

“ไปหาเขา” ผู้กำกับหลี่อ้าปากค้าง “ฉันต้องคุยกับเขา”

…………………………………………………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด