ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 การประลองสะท้านฟ้า

ตอนที่ 1 เริ่มต้นใหม่


ตอนที่ 1 เริ่มต้นใหม่

ข้าได้ร่วงมาจากที่แห่งหนึ่ง ผ่านความมืดที่ทอดยาวไม่สิ้นสุด มันมืดจนมองอะไรไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย ที่คอของข้านั้นราวกับถูกกรีดมาจากภายใน แม้ว่าจะพยายามส่งเสียงออกมาดังแค่ไหน ข้าก็ไม่ได้ยินเสียงของตัวเองแม้แต่น้อย

ที่แย่ไปกว่านั้น คือข้าจำอะไรไม่ได้เลย

ไม่สิ ไม่ใช่ ข้ายังจำชื่อตัวเองได้ ข้าชื่อไมเคิล ที่ข้าไม่รู้จริงๆคือ ข้ามากจากไหน ข้าอายุเท่าไหร่ แล้วตอนนี้ข้าตกลงมาที่แห่งนี้ได้อย่างไร?

ข้าชื่อไมเคิล เขาพูดชื่อตัวเองซ้ำๆ แม้นั่นจะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญมาก แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาจำได้ขณะที่เขากำลังร่วงลงมาท่ามกลางความมืด

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไม่สิ อาจจะ หนึ่งวันหือหนึ่งสัปดาห์แล้ว

เขายังคงร่วงลลงมาท่ามกลางความมืด

เขาพยายามส่งเสียงออกมา

สุดท้าย เขาก็ทนไม่ไหว เขาอ่อนล้าเกินกว่าที่ฝืนได้ เขาหมดสติไปแล้วหวังแต่ว่าเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาจะไปโผล่ที่ไหนสักที่

...

มีมือมาตบหน้าข้าเบาๆ “ตื่นได้แล้วไอ้หนู อย่าให้อาจารย์รอ”

ไมเคิลส่งเสียงครวญครางออกมา ร่างกายของเขารู้สึกกเจ็บปวดแม้ว่าเขาจะไม่มีร่องรอยหรือแผลฟกช้ำใดๆก็ตาม ตอนนี้ ไมเคิลต้องการที่จะกลับไปนอนอีกครั้ง เขาจึงสะบัดมือของคนๆนั้นออก

ชายคนนั้นดึงไมเคิลอีกครั้งหนึ่ง ถึงอย่างนั้นไมเคิลก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เขาถูกเตะเข้าที่ท้องอย่างแรงจนลงไปนอนขด “ไอ้บ้าเอ้ย” ไมเคิลสบถออกมา

“อย่ารุนแรงนัก สเทน ข้ายังจำเป็นที่ต้องมีเจ้าหมอนี่อยู่” เสียงของใครบางคนพูดออกมา มันเป็นเสียงที่นุ่มนวล แม้คนๆนั้นจะพูดสั่งก็ตาม

“ขออภัยท่านอาจารย์” สเทนกล่าว “ข้าจะระวังให้มากกว่านี้ ข้าสัญญา”

ความเจ็บปวดที่ท้องของไมเคิลค่อยๆลดลงในขณะที่เขาค่อยๆลืมตาขึ้น ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นดินที่มีเศษดินและหินกระจัดกระจายอยู่รอบๆ มีโดมที่ส่องแสงสว่างคลุมไว้รอบบริเวณ มันสูงประมาณ 3-4 เมตร แต่ภายนอกโดมก็ยามถูกปกคลุมด้วยความมืดเหมือนเดิม

อยู่ๆเขาก็ตัวสั่นเมื่อความทรงจำของเขาก่อนหน้านี้ค่อยๆเริ่มกลับมา

สายตาของเขามองไปที่พื้นดินอีกครั้ง เหมือนว่าเขาจะมาถึงปลายทางของความมืดนั้นแล้ว แม้ว่าเขาจะเจ็บตัวไปบ้าง แต่นั่นก็ถือว่าโชคดีที่เขายังมีชีวิตรอดอยู่

ข้าอยู่ที่ไหนกัน?

เขาไม่รู่ว่าอยู่ที่ไหน สิ่งเดียวที่จำได้คือเขาชื่อไมเคิล เขาพูดกับตัวเอง “เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ตอนนี้เขาต้องรู้สถานการณ์ในปัจจุบันก่อน”

ไมเคิลเอนหลังอีกครั้งและพบว่าสองคนที่รบกวนการนอนของเขากำลังเฝ้าดูอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นทั้งสองคนนั้น ความกลัวก็ได้ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา ร่างกายของทั้งสองนั้นผิดธรรมชาติอย่างมาก

คนที่สองคนนั้นเรียกว่าอาจารได้ลอยขึ้น ไมเคิลหันไปมอง เขาเห็นรองเท้าที่ลอยอยู่บนพื้นประมาณ 1 ฟุต ดวงตาของไมเคิลเบิกกว้าง สิ่งที่ทำให้เขาตกใจนั่นก็คือขนาดตัวของคนๆนั้นใหญ่โตมาก

เขาสูงอย่างน้อย 3 เมตร

ไมเคิลกลืนน้ำลายอึกใหญ่และหันไปมองที่สเทน เขาเอากระดูกชิ้นหนึ่งมาให้ไมเคิลกิน ขณะที่ไมเคิลสังเกตุไปที่สเทน เขามีร่างกายที่เป็นโครงกระดูกทั้งตัว “นี่มันอะไรกันเนี่ย” เขาแอบพูดกับตัวเองเบาๆ

หรือว่าที่นี่คือนรก? เขาหัวเราะแล้วคิดว่า “บางทีที่นี่อาจเป็นที่ๆเหมาะกับข้าจริงๆนั่นแหละ”

“หัวเราะอะไร เจ้ามนุษย์”? สเทนถามด้วยความสงสัย นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง “เจ้าคิดว่านี่มันเป็นเรื่องตลกอย่างงั้นเหรอ”? เขาเดินเข้าไปถามสเทนเหมือนคนที่กำลังจะเข้าไปหาเรื่อง

เขาพยายามจะถอยหนีขณะที่คิดในใจไปว่า “ไม่น่าเลย อยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้ยังจะไปหาเรื่องกับคนที่ไม่รู้จักอีก บ้าเอ้ย”

“พอแค่นั้นแหละสเทน” อาจารย์ของเขาตะคอก “ลากตัวเขาขึ้นมา”

สเทนคอตกเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็วางอาวุธของเขาลง มันเป็นขวานที่มีด้านคมสองด้าน ส่วนมันทำมาจากอะไรนั้น ไมเคิลเองก็ไม่รู้

สเทนเดินมาหยุดอยู่หน้าไมเคิล แล้วจับตัวไมเคิลให้ลุกยืนขึ้นมา

เขาสะดุ้งเพราะความปวดที่สเทนไปจับส่วนที่เขาบาดเจ็บอยู่ เมื่อไมเคิลได้ยืนอยู่ข้างสเทนเขาได้สังเกตุว่า ความสูงของพวกเขานั้นต่างกันอย่างชัดเจน สเทนสูงประมาณ 3 เมตร ส่วนไมเคิลสูงประมาณ 170 เซนติเมตร

“ข้าดูเตี้ยไปเลยแหะ แต่อย่างน้อยข้าก็มีกล้ามเนื้อแหละ”

“ดีขึ้นแล้วนี่” อาจารย์ของสเทนพูด ไมเคิลยังไม่เห็นหน้าของอาจารย์คนนั้น เสื้อคลุมสีดำขนาดใหญ่คลุมเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า มีเพียงรองเท้าบูทหุ้มเหล็กและถุงมือหนังเท่านั้นที่มองเห็นได้

“ยินดีต้อนรับไมเคิล” อาจารย์คนนั้นพูด

ไมเคิลรู้สึกสงสัยเลยถามไปว่า "ทำไมถึงรู้ว่าข้าชื่ออะไร?"

อาจารย์คนนั้นส่ายหัว “ข้าบอกเจ้าไม่ได้ไมเคิล ความทรงจำของเจ้าถูกลบล้างออกไปตอนที่ถูกพามาที่นี่ เหลือเพียงชื่อของเจ้า ในตอนนี้เจ้าเป็นแค่กระดาษเปล่าหนึ่งแผ่นที่จะได้เขียนเรื่องราวต่างๆลงไปด้วยตัวของเจ้าเอง”

“พามาที่นี่?” ไมเคิลถามออกไปด้วยความไม่พอใจกับคำตอบของอาจารย์คนนั้น “ใครพาข้ามาที่นี่? ท่านงั้นหรือ?”

“ระวังคำพูดหน่อยเจ้าหนู” สเทนคำราม

อาจารย์คนนั้นโบกมือให้ลูกศิษย์ของเขาเงียบ “ไม่ ไม่ใช่ข้า ข้าไม่มีอำนาจที่จะทำอะไรแบบนั้นได้” เขาหยุดก่อนจะพูดอีกครั้ง “ฟ้าประทานเจ้ามาต่างหากล่ะ”

ไมเคิลจ้องมองด้วยความงงก่อนที่อาจารย์คนนั้นจะพูดต่อ “จงตั้งสติและสนใจในเรื่องที่ข้าพูดทำจิตใจให้สงบนิ่งก่อนที่จะทำอะไร บางทีมันอาจทำให้เจ้าเห็นอะไรต่างๆชัดเจนขึ้น”

ไมเคิลสงสัยในสิ่งที่ชายคนนี้พูด เขากำลังพูดถึงอะไร? ก่อนที่จะหันไปหาทางสเทน ไมเคิลพบว่า ทั้งสเทนและอาจารย์ของเขากำลังมองตัวไมเคิลด้วยความหวัง

พวกเขาสองคนเป็นอะไรกันแน่? และไมเคิลก็ไตร่ตรองในคำพูดของคนที่เป็นอาจารย์ของสเทน ไม่ว่ายังไงเขาเองก็ไม่รู้อะไรอยู่แล้ว ในตอนนี้เขาก็คงต้องทำแบบนั้นไปก่อน มันไม่ได้เสียหายอะไรใช่ไหมล่ะ?

ไมเคิลหลับตาลงและพยายามทำให้จิตใจสงบ หลายนาที่ผ่านไปก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นี่มันไร้สาระสิ้นดี” ไมเคิลพูดอย่างหมดหวัง "ไม่มีอะไรที่เป็น-"

ไมเคิลยังพูดไม่ทันจบประโยค อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นมา

ยินดีต้องรับสู่จักรวรรดิค้ำฟ้า ไมเคิล

เจ้าคือผู้ที่นำพาแสงสว่างมายังจักรวรรดิแห่งนี้เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ อันเป็นผลมาจากการกระทำของเจ้าในชาติที่แล้ว ทำให้เจ้าได้รับตำแหน่งเป็นผู้เล่นในเกมนี้

วางใจได้ เจ้าได้เลือกที่จะเข้าสู่จักรวรรดิค้ำฟ้าด้วยความเต็มใจของตัวเจ้าเอง เพื่อรักษาสติสัมปชัญญะของเจ้าและให้เจ้าได้สะสมประสบการ์ณขึ้นมาใหม่โดยปราศจากภาระจากอดีต ความทรงจำของเจ้าจึงภูกลบล้างออกไป

ขอให้เจ้าโชคดีและโชคดีกับการแข่งขันของเจ้า!

ไมเคิลอ้าปากค้าง “เมื่อกี้มันคือะไรกัน” เขาถามกับตัวเองหลังจากที่พูดได้ปกติ

อาจารย์คนนั้นหัวเราะและแม้แต่สเทนเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน

“นั่นคือเสียงของผู้ตัดสินน่ะไมเคิล” อาจารย์คนนั้นพูด “ในตอนนี้เจ้าคือผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนล่าสุดยังไงล่ะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด