ตอนที่แล้วEp.1031 - มัวชักช้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1033 - นางพญาดาราเกราะเหล็ก

Ep.1032 - มือไม่หวังดีจากเบื้องหลัง


Ep.1032 - มือไม่หวังดีจากเบื้องหลัง

ฉินเฟิงขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยิ้มและกล่าวว่า “ครับ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอเทพบุปผาที่นี่ เทพบุปผาคงได้ยินท่านผู้ใหญ่จ้าวประกาศว่าจะออกล่านางพญา เลยมาช่วยด้วยใช่หรือไม่?”

เทพบุปผาชะงักไป แน่นอนว่าเธอไม่ได้มาเพื่อช่วยล่านางพญาของจ้าวเก๋อ เธอแค่ได้ยินเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุที่นี่ เลยแวะมาดูว่าพอจะมีดินวิเศษอะไรไหม จะได้นำกลับไปเพาะปลูกสมุนไพรวิญญาณ

“แล้วคุณล่ะ จะเข้าร่วมด้วยรึเปล่า? ว่าแต่นางพญาแข็งแกร่งในระดับไหนกัน?” เทพบุปผาถาม

“น่าจะเป็นนางพญาดาราเกราะเหล็กเลเวล SS นะครับ”

ฉินเฟิงเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  แต่ด้วยความแข็งแกร่งใจปัจจุบันของเขา ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์เทวะเลเวล SS ก็ไม่หวาดกลัว

ในกรณีที่จ้าวเก๋อปกปิดความแข็งแกร่งของนางพญา แล้วส่งคนทั้งหมดไปตาย นั่นไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเองเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงเลยคาดเดาว่านางพญาไม่น่าจะแข็งแกร่งอะไรมากมาย

“ถ้ามันแข็งแกร่งแค่นั้นล่ะก็ ฉันจะช่วยด้วย!”

เทพบุปผากล่าว เดินไปหาจ้าวเก๋อ

จ้าวเก๋อแน่นอนว่าไม่อยากให้เทพบุปผาเข้ามาเกี่ยวข้อง ทว่าหากปฏิเสธแบบไร้เหตุผลเดี๋ยวมันจะสร้างปัญหา เขาได้แต่กัดฟัน ตอบรับข้อเสนอ

“รออีกสองสามวัน แล้วพวกเราจะออกเดินทาง”

เรื่องนี้ ในตอนนี้มีผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อยๆ หากทำไม่สำเร็จ จ้าวเก๋อก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน

แต่ที่แน่ๆ ฉินเฟิงจะต้องตาย

ช่วงเวลาครึ่งเดือนผ่านไป ระหว่างนั้นฉินเฟิงออกล่าดาราเกราะเหล็กมากขึ้นเรื่อยๆ เงื่อนไขความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาค่อยๆถูกเติมเต็ม จนเกือบทะลุขีดจำกัดสู่เลเวล S6 แต่ยังไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ เพราะมันจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากเลือดเนื้อที่แข็งแกร่งกว่าปกติเป็นตัวกระตุ้น จึงจะยกระดับได้สำเร็จ

หรือก็คือ หากสามารถสังหารนางพญา ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงย่อมก้าวกระโดดไปอีกขั้น

ในวันออกเดินทาง จ้าวเก๋อมองไปยังผู้ใช้พลังที่เข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้ เป็นเพราะภารกิจในครั้งนี้พวกเขาต้องออกเดินทางร่วมกัน ประจวบกับมีผู้ใช้พลังเลเวล SSS ถึงสองคนให้ความร่วมมือ จึงมีผู้ใช้พลังอาสาสมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมๆแล้วมากกว่า 1,000 คน

ในกองกำลังนี้ มีเลเวล SS อยู่มากถึง 200 คน สามารถกล่าวได้ว่าเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังรบเช่นนี้ มันไม่ยากเลยหากคิดสังหารนางพญาระดับเทวะเลเวล SS

ดังนั้น ทุกคนในกองทัพจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก

“ออกเดินทางได้!”

สีหน้าของจ้าวเก๋อดูแย่เล็กน้อย แต่ก็ยังออกคำสั่งอยู่ดี

มีคนเยอะเกินไป หากทั้งหมดนี้ต้องเสียชีวิต เกรงว่าเขาจะต้องรับผิดชอบด้วย

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ได้แต่ปล่อยให้คนเหล่านี้ถูกกลบฝังไปพร้อมกับฉินเฟิง ส่วนเทพบุปผา เธอไม่น่าจะตาย

เมื่อคิดได้อย่างนั้น จ้าวเก๋อก็รู้สึกผ่อนคลายลงมาก เขาสั่งการให้เปิดใช้งานเรือรบ พาทุกคนขึ้นไป

เรือรบแล่นผ่านแผ่นดินสีเทาอันกว้างใหญ่ มุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงสถานที่ที่ดูแปลกตา

มันคือหลุมลึกที่น่าจะเกิดจากการพุ่งชนของอุกกาบาต แต่หากก้มมองลงไป จะพบว่านี่ไม่ใช่แค่หลุม แต่ยังมีรูใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 20 เมตร และถ้ำเหล่านี้ ข้างในปากทางเข้าหลายร้อยทางเบื้องหน้า คือทางยาวลึกมากถึง 10,000 เมตร

เป็นรังของดาราเกราะเหล็ก!

จ้าวเก๋อตรวจสอบแผนที่แล้วกล่าวว่า “ไม่พบว่ามีถ้ำไหนใหญ่ไปกว่าที่แห่งนี้แล้ว นี่สามารถยืนยันได้ว่านางพญาอยู่ใต้ดิน มิได้ออกมา รู้กันอยู่แล้วใช่ไหม ว่านางพญาแมลงมีขนาดใหญ่มาก ถ้ามันวิวัฒนาการจากใต้ดิน มันก็จะติดอยู่ใต้ดิน ดังนั้นนี่คือข้อได้เปรียบของเรา ถึงเวลาลงมือ ตราบใดที่เราสามารถกำจัดดาราเกราะเหล็กที่อยู่รอบๆ เราก็จะสามารถปิดล้อมนางพญาได้”

คนอื่นๆฟังคำพูดของจ้าวเก๋อ ต่างพยักหน้าเห็นด้วย เพราะนี่คืออุปนิสัยของสัตว์ยักษ์ที่พวกเขารู้จัก และเมื่อเข้าใจนิสัยของมัน ก็ย่อมสามารถจับจุดอ่อนได้

“ทุกคนแยกย้าย เก็บกวาดรอบๆให้หมด!”

จ้าวเก๋อสั่งการ ซอยย่อยกองทัพกระจายเป็นทีมต่างๆ แยกย้ายกันออกไปเก็บกวาด นอกจากนี้ยังให้เทพบุปผาแยกตัวออกไปอีกทิศทางหนึ่งของถ้ำ และแน่นอน ฉินเฟิงได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมทีมของจ้าวเก๋อ

จ้าวเก๋อเดินไปยังทิศทางปากทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่ง คนอื่นๆเดินตาม ถ้ำพวกนี้ใหญ่พอที่จะให้ดาราเกราะเหล็กเข้าและออกได้ ดังนั้นกว้างขวางพอให้พวกเขาเดินทางสะดวก แต่สำหรับมนุษย์ ยังไงมันก็กว้างเกินไป ต่อให้จัดขบวนปูพรมแปดแถวก็ยังทำได้

จ้าวเก๋อเลือกถ้ำที่อยู่ตรงกลางที่สุด ฉินเฟิงสังเกตอย่างระแวดระวัง แต่ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่มองจากท่าทีมั่นอกมั่นใจของจ้าวเก๋อแล้ว ฉินเฟิงก็เริ่มตื่นตัว

ครืนนนน!

เสียงสั่นสะเทือนสะท้อนออกมาจากภายในถ้ำ เศษหินเศษดินร่วงหล่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีดาราเกราะเหล็กกำลังคลานออกมา

“ฉินเฟิง ใช้อบิลิตี้มืดลดการป้องกันของดาราเกราะเหล็กลงซะ”

จ้าวเก๋อสั่งการพร้อมให้เหตุผลทันที

ฉินเฟิงไม่โต้แย้ง แม้จ้าวเก๋อปรารถนาจะกำจัดเขา แต่ไม่น่ารีบลงมือตอนนี้ เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉินเฟิงก็ก้าวออกไปต้อนรับศัตรู

ดาราเกราะเหล็กที่กำลังคืบคลานขึ้นมา เห็นฉินเฟิงและคนอื่นๆ มันก็อ้าปากกว้างทันที

“หนึ่งดรรชนีแห่งความตาย!”

จ้าวเก๋อไม่คิดช่วยเหลือ ฉินเฟิงก็ไม่คิดยั้งมือ ปลดปล่อยอบิลิตี้มืดสังหารดาราเกราะเหล็กตายไปทั้งๆอย่างนั้นทันที

“ไม่เลว งั้นจากนี้ไปให้คุณรับหน้าที่เปิดทางข้างหน้า!” จ้าวเก๋อกล่าวชมเชย

‘จ้าวเก๋อผู้นี้ คงไม่ใช่ว่ากำลังพยายามลดทอนพลังสมาธิของฉันหรอกนะใช่ไหม?’

แต่พลังสมาธิของฉินเฟิงมหาศาลมาก ต่อให้โจมตีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เกรงว่า 10 วันถึงครึ่งเดือนก็คงไม่หมด แบบนั้นแผนการของอีกฝ่ายคงไม่มีทางประสบผลสำเร็จ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า เวลาสังหารดาราเกราะเหล็ก พลังงานของพวกมันจะไหลออกมา ช่วยฟื้นฟูพลังสมาธิให้ฉินเฟิงได้เล็กน้อย ดังนั้นหากคิดคำนวณอย่างรอบคอบ จะพบว่าฉินเฟิงแทบไม่สูญเสียพลังสมาธิไปเลย

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าจ้าวเก๋อไม่น่าจะทราบเรื่องนี้ แผนการของจ้าวเก๋อก็คือ ต้องการให้ฉินเฟิงเป็นแนวหน้า และสุดท้ายก็ปล่อยให้ถูกพวกแมลงรุมปิดล้อม

แต่ดูเหมือนความคิดนั้นจะไม่เป็นผลในเร็วๆนี้ เพราะดาราเกราะเหล็กที่บุกเข้ามา ทั้งหมดถูกกวาดล้างโดยฉินเฟิง จนในที่สุดทั้งทีมมุ่งลึกลงมาถึง 10,000 เมตร ก็พบกับปากทางข้างหน้า ที่นำไปสู่พื้นที่เปิดโล่ง

ที่นี่คือโพรงขนาดใหญ่ มิใช่ช่องทางเดินอีกต่อไป

โพรงนี้มีขนาดใหญ่มากจริงๆ ไม่รู้ว่ามันสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างไร แต่ข้างในเต็มไปด้วยดาราเกราะเหล็ก

“ระวังตัวด้วย! ตรงนี้น่าจะเป็นรังสาขา!”

เป็นเพราะนางพญาดาราเกราะเหล็กขยายพันธุ์ได้เร็วเกินไป พวกแมลงที่โตเต็มวัยจึงแยกย้ายออกมา เพื่อค้นหาอาหารมาเสริมสร้างร่างกายแก่ตนเอง พื้นที่ภายในรังไม่เพียงพอสำหรับใช้เป็นอาหารได้อีกต่อไป สุดท้ายเลยถูกบีบออกมา

ดังนั้นดาราเกราะเหล็กในรังสาขานี้ จึงเริ่มกัดแทะดินเป็นอาหาร ขยายพื้นที่รังออกมาอย่างต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งของพวกมันแต่ละตัว ล้วนอยู่ในระดับราชันย์

ส่วนเลเวลโดยรวมของดาราเกราะเหล็กพวกนี้ จะไม่ใช่แค่เลเวล S0 อีกต่อไป แต่อยู่ที่ราวๆ S3 - S5

“เตรียมการกวาดล้าง! ถ้ามีรังสาขาอยู่ที่นี่ แสดงว่ารังหลักของนางพญาต้องอยู่ใกล้ๆ!” ขณะสั่งการ จ้าวเก๋อชักดาบเล่มใหญ่ออกมา

“ทักษะหมื่นคมดาบ!” จ้าวเก๋อปลดปล่อยรังสีดาบออกมาหลายชุด ฉินเฟิงเคยเห็นกระบวนท่าวรยุทธนี้มาก่อน มันคือท่าเดียวกันกับที่รุ่ยฉง เจ้าเมืองฉงโหลวเคยใช้ ดูเหมือนว่าทักษะหมื่นคมดาบนี้ แท้จริงแล้วจะเป็นของพันธมิตรมนุษย์ที่ใช้กันในเลเวล S ขึ้นไป นอกจากนี้ยังเป็นทักษะการต่อสู้ที่นิยม หลังจากหลี่เซียวซื้อมันมา ก็สอนต่อให้แก่รุ่ยฉง

เพียงแต่ว่า ผลลัพธ์ของทักษะที่จ้าวเก๋อใช้ กับที่รุ่ยฉงใช้ มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ปราณดาบนับสิบล้านเล่มทะลักออกมา ตกลงไปในถ้ำ ฟาดฟันลงบนร่างของดาราเกราะเหล็ก

พริบตาเดียว ภายในโพรงใหญ่ มีอย่างน้อย 100,000 ดาราเกราะเหล็กถูกกระตุ้นจนเริ่มเคลื่อนไหว

“ฉินเฟิง ปลดปล่อยเขตแดนแห่งความมืดสิ!” จ้าวเก๋อกล่าว

แต่ระหว่างที่ฉินเฟิงกำลังเพ่งสมาธิอยู่นั้นเอง บนฝ่ามือของจ้าวเก๋ออัดฉีดไปด้วยกำลังภายใน ฟาดลงกลางแผ่นหลังของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ดวงตาของฉินเฟิงแข็งค้าง เขาไม่นึกเลยว่าจ้าวเก๋อจะอดใจรอไม่ไหวถึงขนาดนี้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด