ตอนที่แล้ว167 - เรื่องเดิมๆที่สุดแสนจะน่าเบื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป169 - พร้อมที่จะเริ่มต้น

168 - มีเพียงผู้ก่อตั้งเท่านั้นที่ทำได้


168 - มีเพียงผู้ก่อตั้งเท่านั้นที่ทำได้

เอี้ยนลี่เฉียงออกจากห้องเรียนและมองไปรอบๆโดยไม่สนใจเสียงในห้องเรียนที่อยู่ข้างหลังเขา เมื่อเขาเห็นชายชรากำลังออกจากสถาบันศิลปะการต่อสู้เขาก็รีบวิ่งไล่ตามทันที

"อาจารย์ขอรับ…!"

ชายชราหยุดเมื่อได้ยินเสียงของเอี้ยนลี่เฉียง เขาหันกลับมามองเอี้ยนลี่เฉียงอย่างจริงจัง หลังจากตระหนักว่าเสื้อผ้าที่เอี้ยนลี่เฉียงสวมนั้นเป็นเพียงของธรรมดาเขาก็ดูไม่สนใจทันที

ใบหน้าของชายชราคนนั้นก็เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและสีหน้าของเขาเคร่งเครียดอีกครั้ง

“สิ่งที่ข้าควรพูดก็พูดออกไปหมดแล้ว นั่นมันอยู่ที่ความพยายามของเจ้าเองต่างหาก”

ซ่งเทียนฮ่าวปรมาจารย์โดโจแห่งสำนักธงมังกรเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองผิงซี

ด้วยความสามารถของเขาที่ช่วยให้หลายคนผ่านขั้นตอนท่าม้ารวมถึงการสร้างรากฐานได้จึงมีผู้คนมากมายที่เรียกเขาว่าอาจารย์

นอกเหนือจากเรื่องการสร้างรากฐานแล้วยังมีอีกสามเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังชื่อเสียงของปรมาจารย์โดโจซ่ง

ประการแรก เขาโลภและบูชาทรัพย์สมบัติเหมือนชีวิต เขาซื้อที่ดินบางส่วนในเมืองผิงซีและทำธุรกิจต่างๆ อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนร่ำรวยและมีอำนาจในภูมิภาคนี้

นอกเหนือจากความโลภแล้ว เหตุผลที่สองที่ทำให้ปรมาจารย์โดโจซ่งเป็นประเด็นร้อนก็คือความจริงที่ว่าเขามีภรรยาสิบแปดคน

ภรรยาคนเล็กของเขาเพิ่งแต่งเข้าบ้านเมื่อปีที่แล้ว นางอายุเพียงสิบแปดในปีนี้ ส่วนประการที่สามนั้นเป็นเพราะว่าเขาเย่อหยิ่งจองหองมากเกินไปผู้คนจำนวนมากของภูมิภาคนี้จึงไม่ชอบเขา

“อาจารย์ขอรับ ข้าผ่านด่านท่าม้าไปแล้ว แต่ยังมีคำถามอยู่ในใจ เมื่อได้ยินอาจารย์พูดถึงขั้นตอนท่าม้าไปเมื่อสักครู่มันทำให้ข้านึกถึงเรื่องราวบางอย่าง”

ซ่งเทียนฮ่าวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเอี้ยนลี่เฉียงได้ผ่านขั้นตอนท่าม้าไปแล้ว เขานึกถึงอายุของเอี้ยนลี่เฉียงก่อนที่น้ำเสียงของเขาจะอ่อนลง

"มันคืออะไร?"

“หลังจากผ่านด่านท่าม้า ข้าตระหนักว่าร่างกายขอข้าสามารถรับพลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพี ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของข้าอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อข้าสอบถามเรื่องนี้ต่อคนอื่นพวกเขาบอกว่าการผ่านด่านท่าม้าคือ โอกาสเดียวที่บุคคลจะได้รับการเชื่อมต่อของพลังสวรรค์และปฐพี

จากจุดนั้นเป็นต้นไปไม่ว่าการฝึกฝนวิชาอื่นก็สามารถเชื่อมต่อพลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพีได้ ข้าสงสัยว่ามีใครที่สามารถทำเรื่องนี้ได้หรือไม่?

"ไม่มีแน่นอน" ซ่งเทียนฮ่าวตอบอย่างไร้อารมณ์

“โอ้ ไม่มีข้อยกเว้นอื่นใดอีกหรือในโลกนี้ไม่มีวิชาใดที่สามารถทำให้เชื่อมต่อสวรรค์และปฐพีได้นอกจากขั้นตอนท่าม้าจริงๆ…?”

"แน่นอนว่ามีข้อยกเว้น แต่มันจะไม่เกิดขึ้นกับเจ้าอย่างแน่นอน" ซ่งเทียนฮ่าวมองเอี้ยนลี่เฉียงแวบหนึ่งและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเล็กน้อย

"ทำไม?"

เอี้ยนลี่เฉียงจงใจแสดงออกอย่างไม่มั่นใจ

“ถ้าคนอื่นทำได้ ทำไมข้าจะทำไม่ได้ ข้าต้องการให้อาจารย์ไขข้อสงสัยเรื่องนี้!”

"ฮ่าๆๆๆๆ!!" ซ่งเทียนฮ่าวคำรามด้วยเสียงหัวเราะดูเหมือนเขาจะขบขันต่อความคิดของเอี้ยนลี่เฉียง

“ที่ข้าพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะว่าข้าเลือกปฏิบัติต่อเจ้าเพราะเห็นว่าเจ้าเป็นเด็กบ้านนอก เพียงแต่ว่าโลกนี้ยังมีหลายอย่างที่เจ้าไม่รู้ ความใหญ่โตของสวรรค์และปฐพีเป็นสิ่งที่เจ้าไม่สามารถสัมผัสได้

เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุไฉนคนพวกนี้ถึงเป็นข้อยกเว้น?”

“พวกเขาเป็นคนแบบไหนกัน?”

“ผู้ที่สามารถได้รับพลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพีอีกครั้งหลังจากผ่านด่านท่าม้าไปแล้วคือบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายต่างๆของอาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่” ซ่งเทียนฮ่าวมีความเคารพบนใบหน้าเมื่อพูดถึงผู้อาวุโสเหล่านั้น

“ผู้ก่อตั้งเหล่านี้คือคนที่เปิดทางแห่งการบ่มเพาะและรู้แจ้งในเต๋าอันยิ่งใหญ่ เมื่อพวกเขาสร้างวิชาลับหรือศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นครั้งแรก พวกเขาจะสะท้อนกับสวรรค์และปฐพีซึ่งอนุญาตให้พวกเขาทำเรื่องพวกนี้

พรนี้เรียกว่าสิ่งที่สวรรค์ประทานให้ มีเพียงคนที่สามารถสร้างวิชาอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาในโลกเท่านั้นถึงจะได้รับสิ่งนี้มิหนำซ้ำวิชาที่พวกเขาสร้างขึ้นพวกเขายังต้องฝึกฝนมันจนถึงระดับสูงสุดเท่านั้นถึงจะปรากฏเรื่องนี้ออกมาได้

หากเจ้าไม่ฝึกฝนมันเป็นเวลาสองสามทศวรรษเป็นอย่างน้อยมีหรือจะก้าวเข้าสู่ระดับสูงสุดได้ นี่คือลักษณะของอาณาจักรแห่งบ่มเพาะการต่อสู้ที่หลากหลายและเป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังสามารถเลียนแบบได้เท่านั้น

บุคคลที่สามารถเพลิดเพลินกับการประทานของสวรรค์เช่นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งไม่ได้ปรากฏในอาณาจักรฮั่นมาเป็นเวลาสองสามศตวรรษแล้ว

แม้แต่บรรดาชนชั้นสูงที่อยู่ในนิกายเหล่านั้นก็ยังไม่มีความสามารถที่จะทำเรื่องนี้ เหตุไฉนเด็กบ้านนอกคนหนึ่งอย่างเจ้าถึงคิดว่าจะทำเรื่องนี้ได้”

“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับอาจารย์!”

“หนุ่มน้อย อย่าประเมินตัวเองสูงเกินไปเพียงเพราะว่าเจ้าผ่านขั้นตอนท่าม้าแล้ว จงฝึกฝนอย่างหมั่นเพียรและกลายเป็นนักสู้ให้ได้ก่อนอายุ 20 ปี นั่นจึงจะทำให้อนาคตของเจ้าสดใสอย่างแท้จริงจงจำคำข้าไว้…”

ซ่งเทียนฮ่าวเหลือบมองเอี้ยนลี่เฉียงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป

เอี้ยนลี่เฉียงมองดูเงาที่หายไปของซ่งเทียนฮ่าวและกลืนน้ำลายหนึ่งคำ

แม้ว่าภายนอกของเขาจะดูสงบแต่หัวใจของเขาก็เต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง เลือดไหลเวียนไปที่ศีรษะของเขาอย่างรวดเร็วทำให้เขารู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย

นี่แสดงว่าลูกดอกอาบยาพิษของเขายังไม่มีใครในทวีปสีเงินเคยทำขึ้นมาก่อน? แม้ว่าลูกดอกที่เขาทำขึ้นจะดูน่าสมเพชเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนแรกที่สร้างมันขึ้นมาในทวีปสีเงิน...

เป็นเขาเอง... เขากลายเป็นผู้ก่อตั้งสำนักลูกดอกระเบิด! ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่จะถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์!

ตามคาด... ลูกดอกของเขาไร้เทียมทานจริงๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด