ตอนที่แล้วEp.1029 - มิติวงแหวนดาวตกที่ล่มสลาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1031 - มัวชักช้า

Ep.1030 - เรียกระดมพล


Ep.1030 - เรียกระดมพล

สำหรับฉินเฟิง หากคิดสังหารสัตว์ร้ายพวกนี้ เป็นแค่เรื่องง่ายดาย

ขณะที่คนอื่นๆกำลังดิ้นรนต่อสู้อย่างหนัก ฉินเฟิงเพียงยกมือแล้วชี้นิ้วออกไป ศัตรูก็ถึงแก่ความตาย ฉากนี้มันน่าทึ่ง และสะดุดตาเกินไป

ทุกคนในที่นี้ล้วนเป็นผู้ใช้พลังเลเวล S ขึ้นไปทั้งสิ้น ดังนั้นพลังสมาธิและพลังการรับรู้กว้างใหญ่พอที่จะครอบคลุมทั้งสนามรบ ไม่มีสิ่งใดไม่อาจมองเห็นได้

ฉินเฟิงไม่สนใจสายตาของคนอื่นๆ เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานจำนวนมากที่อยู่ในร่างของดาราเกราะเหล็ก ทำการดูดซับมันด้วยพลังพิเศษดูดกลืน ผสานรวมเข้ากับร่างกายตัวเอง

ความคิดบางอย่างวาบผ่านเข้ามาในหัวใจเขา

‘ดาราเกราะเหล็กพวกนี้ เป็นสัตว์ร้ายที่วิวัฒนาการเน้นไปทางด้านความแข็งแกร่งทางกายภาพ ดังนั้นร่างกายของมันจึงเหมือนเกราะเหล็ก หลังจากที่ฉันดูดซับมัน เลยให้ผลลัพธ์ดีเกินคาด’

เจ้าสิ่งนี้เป็นของดีอย่างแน่นอน เพราะการสังหารดาราเกราะเหล็กเพียงหนึ่งตัว มันได้รับพลังงานจากเลือดและเนื้อเทียบเท่ากับการสังหารเผ่าแมลงสายพันธ์อื่นถึงสิบตัว!

และฉินเฟิงเองก็ตระหนักดี ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขายังด้อยกว่าในส่วนอื่นๆ ดังนั้นเพื่อยกระดับเลเวลร่างกาย ฉินเฟิงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากออกไล่ล่าสังหารหมู่เท่านั้น

แต่ยิ่งร่างกายทรงพลังมากเท่าไหร่ มันก็จำเป็นต้องใช้พลังงานในปริมาณมากขึ้นเท่านั้น ทุกอย่างต้องค่อยๆขัดเกลา ไม่ใช่เหมือนสมัยก่อนที่สามารถดูดซับแก่นพลังงานก็เสริมสร้างความแข็งแกร่งได้

เขาจะต้องฆ่า! ต้องการเลือดเนื้อสดใหม่ให้พลังพิเศษดูดกลืน!

คิดได้แบบนี้ พลังสมาธิของฉินเฟิงแพร่กระจายออกไปทันที ภายใต้รัศมีพลังสมาธิของเขา มีดาราเกราะเหล็กอย่างน้อยนับพันตัว ในขณะที่พันธมิตรมนุษย์ทั้งหมดที่ประจำการอยู่ที่นี่ มีราวๆ 5 - 6 พันคน พวกเขาทั้งหมดล้วนถูกเรียกตัวมาทำภารกิจ

ผู้ใช้พลังทั้ง 5 - 6 พันคน ทั้งหมดต่างรวมตัวกันในสถานชุมชนนี้ เพื่อต่อต้านการรุกรานของดาราเกราะเหล็ก แต่ที่โชคดีหน่อยก็คือ ดาราเกราะเหล็กเหล่านี้มีขนาดตัวใหญ่โต ดังนั้นเลยถูกขวางทางโดยสหายเผ่าพันธุ์เดียวกัน ไม่อาจบุกเข้ามาได้ และตรงจุดนั้นยังไม่มีมนุษย์คนไหนสนใจ

ฉินเฟิงพอเห็นแบบนี้ ก็ไม่มีความคิดที่จะปิดซ่อนความสามารถ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาใกล้เคียงกับเลเวล SS แล้ว ชนิดที่ว่าพวกผู้ใช้พลังเลเวล SSS ระดับสามัญยังต้องหวาดกลัว

ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถกระทำตามใจตนเองได้อย่างอิสระเท่านั้น

“เทคนิคท่องสู่ความมืดมิด!”

ร่างของฉินเฟิงผลุบหายเข้าไปในเงาทันที ท่องไปตามความมืด ไร้ซึ่งอุปสรรคใดกีดขวาง บุกไปยังแนวหลังของกองทัพดาราเกราะเหล็ก ก่อนผลุบขึ้นมา

รอบกายเขาเวลานี้รายล้อมไปด้วยดาราเกราะเหล็กมากกว่า 200 ตัว ในมุมมองสายตาของฉินเฟิงเห็นแค่เพียงแข้งขานับร้อยพันทิ่มลึกลงไปบนพื้นดินสีเทา

โคตรดาวเคราะห์ทมิฬถูกเปิดใช้งาน รัศมีแห่งความมืดอันน่าสยดสยองปกคลุมพื้นที่หลายกิโลเมตร

เมื่อเทียบกับสัตว์ยักษ์แล้ว ขนาดตัวของฉินเฟิงดูอ่อนแอมาก ทว่าพลังโจมตีที่ปลดปล่อยออกมานั้นช่างน่าอัศจรรย์ใจ

“เขตแดนแห่งความมืด!”

สิ่งที่ฉินเฟิงปลดปล่อยออกมา คือคือเขตแดนแห่งความมืดที่ธรรมดาที่สุด เพียงแต่ว่ารัศมีแห่งความมืดกลับสามารถรุกล้ำเข้าไปภายในร่างของฝูงดาราเกราะเหล็กโดยที่พวกมันไม่อาจขัดขืน

ดาราเกราะเหล็กมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งสุดๆ แถมเปลือกมันยังแข็งอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทว่าเมื่อต้องเผชิญรูนมืด สิ่งเหล่านี้กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ภายใต้รัศมีแห่งความมืด ดาราเกราะเหล็กเริ่มล้มลงกับพื้นทีละตัว ทีละตัว สุดท้ายตายจนหมดสิ้น

ฉินเฟิงดูดซับพลังงานจากเลือดและเนื้อของพวกมัน

“มันน้อยเกินไป ..” ฉินเฟิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ย้ายไปปลดปล่อยอบิลิตี้มืดในตำแหน่งต่อไปอีกครั้ง

สามารถกล่าวได้ว่า พลังโจมตีจากการใช้อบิลิตี้มืดของฉินเฟิง ร้ายแรงเทียบเท่ากับการลงมือของเลเวล SSS เดิมการต่อสู้นี้สมควรกินเวลาทั้งวันทั้งคืน แต่ตอนนี้เริ่มได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างก็จบแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดาราเกราะเหล็กมีจำนวนมากเกินไป แถมเวลานี้เขาไม่มีไป๋หลีอยู่เคียงข้าง ฉินเฟิงเองก็ไม่ค่อยสนใจเปลือกของดาราเกราะเหล็กเหล่านี้ ดังนั้นจึงขายศพพวกมันให้กับสำนักงานใหญ่ของพันธมิตรมนุษย์

ที่นี่ก็เหมือนกับดาวทะเลดอกไม้ จำเป็นต้องใช้ศพสัตว์ร้ายเพื่อแลกเปลี่ยนกับแต้มสงคราม แต่ในมิติวงแหวนดาวตกที่มีสภาพเช่นนี้ เขาจะสามารถใช้แต้มสงครามกับอะไรได้บ้าง?

แน่นอน สิ่งที่สามารถใช้แต้มสงครามแลกเปลี่ยนได้ ก็ต้องเป็นของที่มิติแห่งนี้มี

เช่นนั้นไม่ต้องสงสัยเลย เพราะสิ่งที่มิติแห่งนี้มี มันคือแร่!

ในมือของฉินเฟิง มีวัตถุดิบอย่างแม่แมลงตะขาบกระหายเลือดเลเวล SS อยู่แล้ว ที่ยังขาดเหลือคือแร่ธาตุล้ำค่า สำหรับใช้อัพเกรดมีดกษัตริย์คราม

ถึงเวลานั้น มีดกษัตริย์ครามจะได้พัฒนาขึ้นสู่เลเวล SS อย่างสมบูรณ์เสียที

หลายวันผ่านไป ภายในมิติวงแหวนดาวตก เกิดการบุกโจมตีของกองทัพแมลงขึ้นเป็นครั้งคราว ขณะที่มนุษย์ไม่สามารถออกสำรวจได้ไกล ต้องปักหลักอยู่ใกล้ๆกับสถานชุมชน หากไม่ใช่เพราะมีประตูมิติ คนที่ถูกส่งมาคงรู้สึกว่าตนกำลังติดเกาะอย่างเดียวดาย

ช่วงเวลานี้ ผู้ใช้พลังเลเวล SSS ที่ซ่อนอยู่ในมุมมืด กำลังขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงถึงความวิตกกังวล

ผู้ใช้พลังเลเวล SSS ผู้นี้ ถูกเรียกว่าจ้าวเก๋อ ได้รับคำสั่งโดยตรงจากจ้าวเหนือหัวอันผิง ว่าให้กำจัดฉินเฟิง

เพียงแต่ว่าความแข็งแกร่งของฉินเฟิง มันเหนือความคาดหมายของเขาไปมาก

แมลงสัตว์ร้ายบุกมาโจมตีเข้ามาตั้งหลายครั้ง แต่ฉินเฟิงกลับไม่เผยจุดอ่อนใดๆให้เห็นเลย ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าเขาสามารถสังหารสัตว์ร้ายได้มากมาย เก็บรวบรวมแต้มสงครามจนสามารถนำไปแลกเปลี่ยนแร่เลเวล SS ได้เป็นจำนวนมาก

แต่ที่ทำแบบนั้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะฉินเฟิงเพียงคนเดียว สังหารศัตรูเทียบเท่ากับผู้คนนับพันในที่นี้

“ความแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่สามารถเฝ้ารอให้เขาเผยจุดอ่อนออกมาได้ ดูเหมือนว่าพวกเราต้องใช้วิธีอื่น”

ว่าจบ จ้าวเก๋อเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ประกาศเรียกรวมพล

วันรุ่งขึ้น ผู้ใช้พลังทุกคนในสถานชุมชน ทั้งหมดมารวมตัวกันในลานโล่ง รอคำสั่งจากจ้าวเก๋อ

“หน้าที่ของพวกเราคือเข้ามาประจำการแค่ระยะเวลาสั้นๆ เพราะทุกครั้งที่มิตินี้ถูกบุก ปกติแล้วชาวพื้นเมืองมักจะกวาดล้างพวกมันได้ยากเสมอ แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเราจะเจอตอแข็งเข้าให้แล้ว”

“อย่างที่ทุกคนรู้ ดาราเกราะเหล็กไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอะไร แต่มันมีความสามารถในการสืบพันธุ์ค่อนข้างสูง ดังนั้นฉันเลยวางแผนที่จะระดมพลผู้ใช้พลังกลุ่มหนึ่ง บุกเข้าไปสังหารนางพญาดาราเกราะเหล็กโดยตรง เชื่อว่าวิธีนี้จะสามารถจบทุกอย่างได้”

“ดังนั้นที่เรียกมาในวันนี้ เพราะฉันอยากเห็นทุกคนก้าวเท้าเข้าอาสา และฉันตัดสินใจแล้ว ว่าจะนำแร่เลเวล SS ส่วนหนึ่งเป็นรางวัล และคนสุดท้ายที่สังหารนางพญา จะได้รับรางวัลนี้ไปครอง”

เงื่อนไขที่จ้าวเก๋อกำหนด น่าดึงดูดมาก แต่ก็ยังมีหลายคนที่สามารถคงความเยือกเย็น

“ท่านผู้ใหญ่เก๋อ ถึงท่านจะบอกว่ามีรางวัลให้ แต่ฉันก็ยังอยากถาม ว่าการศึกในครั้งนี้ ท่านจะมีส่วนร่วม หรือแค่ยืนดูเฉยๆ?”

จ้าวเก๋อบอกว่าเป็นการระดมพล แต่ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นผู้นำทีมด้วยตัวเองหรือไม่ บางทีเขาอาจนั่งนิ่งอยู่เฉยๆในสถานชุมชน ไม่ช่วยเหลืออะไรเลยก็ได้!

หลังจากต่อสู้มาหลายวัน ฉินเฟิงได้สำแดงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงของตนออกมา และทุกคนคิดว่าเขาร้ายกาจไม่ด้อยไปกว่าผู้ใช้พลังเลเวล SSS เลย แต่ระหว่างที่ฉินเฟิงต่อสู้อย่างขยันขันแข็ง ในทางตรงกันข้าม จ้าวเก๋อกลับมิได้กระทำสิ่งใด

สำหรับจ้าวเก๋อ การล่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของพวกตัวรับกระสุนที่มีไว้ใช้แรงงานเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องถึงมือเขา ตรงกันข้ามกับฉินเฟิงที่ทุ่มเทต่อสู้ ดังนั้นหลายคนจึงเชื่อมั่นในตัวฉินเฟิงมากกว่าจ้าวเก๋อ

“แน่นอนว่าฉันจะเข้าร่วมด้วย อ้อจริงสิ ภารกิจครั้งนี้ฉันเชื้อเชิญตามความสมัครใจก็จริง แต่ว่านะฉินเฟิง ภารกิจนี้ฉันอยากให้คุณเข้าร่วมด้วย ฉันคิดว่าความแข็งแกร่งของคุณไม่เลวเลย คงมากพอที่จะใช้ปราบนางพญาได้  ทีมเราต้องการคนแข็งแกร่งเช่นคุณ!”

จ้าวเก๋อพูดเหมือนกำลังขอร้อง แต่ในฐานะผู้ใช้พลังเลเวล SSS เขาจะถูกปฏิเสธได้อย่างไร? สำหรับเรื่องนี้ หากจ้าวเก๋อเอ่ยปาก นั่นคือตกลงแล้ว

ดวงตาของฉินเฟิงเปล่งประกาย จู่ๆเขาก็รู้สึกว่า นี่ช่างเป็นแผนสมคบคิดที่ลื่นไหลซะจริง แนบเนียนไร้ช่องโหว่

สิ่งที่จ้าวเก๋อยกขึ้นมาพูด มันสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก แม้ภารกิจนี้จะเสี่ยงไปบ้าง แต่ถ้านางพญาดาราเกราะเหล็กเป็นแค่ระดับเทวะเลเวล SS เมื่อมีจ้าวเก๋อกับคนอื่นๆร่วมสู้ มันก็ไม่น่ายากจนเกินไป

อย่างไรก็ตาม หากจ้าวเก๋อดึงดันที่จะสู้จนถึงที่สุด กว่านางพญาจะตายมันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน? ในทางกลับกันช่วงเวลาเหล่านั้น อีกฝ่ายจะฉวยจังหวะลอบโจมตีฉินเฟิงหรือไม่?

แต่แน่นอน คนอย่างฉินเฟิงจะปล่อยให้จ้าวเก๋อทำตามอำเภอใจได้อย่างไร?

ยังเหลือเวลาอีกราวๆ 20 วันกว่าไป๋หลีจะออกมา ดังนั้นฉินเฟิงต้องถ่วงเวลาให้ถึง 20 วันให้จงได้

“ตกลง ผมก็จะเข้าร่วมด้วย แต่การปิดล้อมปราบปรามนางพญาคงไม่ใช่เรื่องง่าย ผมคิดว่า … พวกเราควรกวาดล้างดาราเกราะเหล็กก่อนจะดีกว่า เอาไว้หนึ่งเดือนจากนี้ ค่อยไปโจมตีรังนางพญากัน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด