ตอนที่แล้วEp.1024 - กลืนกินมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1026 - ความแข็งแกร่งคือเหตุผล

Ep.1025 - ภัยคุกคามจากเลเวล SS


Ep.1025 - ภัยคุกคามจากเลเวล SS

หนึ่งเดือนต่อมา ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ทั้งดวง ถูกรื้อถอนเต็มไปด้วยรูพรุน สภาพเช่นนี้ ต่อให้ใช้เวลาอีกหลายปี ดาวทั้งดวงก็ไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเดิมได้

ก่อนหน้านี้ เคยอธิบายสภาพแวดล้อมของที่นี่ว่าเต็มไปด้วยพืชพรรณ ป่าเขียวขจี แต่บัดนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงต้นหญ้าหรือดอกไม้ แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือความเสื่อมโทรม หลังจากถูกกัดกร่อนด้วยด้วยพลังแห่งความมืด

ฉินเฟิงไล่สังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในมิตินี้ ดูดซับพลังชีวิตของพวกมัน เสริมแกร่งให้ร่างกายตน ส่งผลให้ในท้ายที่สุด ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงสามารถยกระดับได้ 4 ครั้งติด วิวัฒนาการเป็นเลเวล S5

ดังนั้นภายนอก ตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้ใช้พลังเลเวล S5 เท่านั้น แต่กำลังภายในของเขา มันได้มาอยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับอบิลิตี้แล้ว

“ดูเหมือนว่า ฉันจะต้องกลับไปยังพันธมิตรมนุษย์ซะแล้ว  เพื่อตรวจสอบดูว่ามีภารกิจตามล่าสัตว์ยักษ์มิติให้รับบ้างหรือเปล่า!”

คำว่าสัตว์ยักษ์มิติไม่จำเป็นต้องหมายความว่าสัตว์ยักษ์มิติเหมือนกับไป๋หลีเสมอไป แต่มันสามารถหมายความรวมๆได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่แหวกว่าย เดินทางท่องอยู่ในอวกาศซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานอันคุกรุ่นรุนแรงของจักรวาลก็ได้เช่นกัน!

นอกจากนี้สัตว์ยักษ์มิติเหล่านั้นยังทรงพลังมาก แถมเมื่อพบเจอดาวเคราะห์ดวงใด ยังนิยมชมชอบบุกลงไปบนแผ่นดินของมิตินั้น เริ่มรุกราน ขุดลึกลงไปใต้ดินและกลืนกินแกนกลางดวงดาว

ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำให้หลายครั้งที่เมื่อมีรายงานเข้ามา ส่วนใหญ่จะพบว่าพวกมันเป็นระดับเทวะ ซ้ำยังอยู่ในเลเวล S เป็นขั้นต่ำ ซึ่งนั่นตอบโจทย์ที่ฉินเฟิงต้องการ

ดังนั้น สำหรับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ทางพันธมิตรมนุษย์ที่อาศัยอยู่ท่ามกลางมิติต่างๆ จึงต้องคอยต่อต้านการรุกรานของมันไม่หยุดหย่อน บ้างก็ส่งคำร้องภารกิจ ขอให้ผู้ใช้พลังคนอื่นๆไปร่วมด้วยช่วยกัน

เมื่อครั้งฉินเฟิงเข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษย์ในช่วงแรก หูซานเคยเตือนว่าอย่ารับภารกิจเหล่านี้ เพราะมันอันตรายเกินไป

และในเวลานั้นฉินเฟิงก็ไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับทำจริงๆ แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

ฉินเฟิงย้อนกลับมายังพันธมิตรมนุษย์ จากนั้นเตรียมตรวจสอบภารกิจสำคัญ แต่เมื่อเขาเปิดอุปกรณ์สื่อสาร กลับพบเสียงติ๊ดๆแจ้งเตือนดังไม่หยุด

ฉินเฟิงห่างหายไปกว่าหนึ่งเดือน ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างออกตามหาเขา ไม่ว่าจะเป็นหลงกง ตัวตนทรงอำนาจแห่งพันธมิตรหัวเซี่ย หรือแม้แต่เส้าตงเฟิงที่ฉินเฟิงได้พบ และกลายเป็นศัตรูกับเขา ทั้งหมดล้วนฝากข้อความถึงฉินเฟิง

“ฉินเฟิง ตอนนี้ฉันอยู่ในเมืองบลูสตาร์ พวกเรามาเจอกันหน่อยไหม? ฉันให้เวลาเจ้าแค่ 7 วัน หากเจ้ายังไม่ยอมกลับมา ฉันจะแวะเวียนไปเยี่ยมมิติของเจ้า--”

“--ในฐานะแขกคนสุดท้าย!”

ประโยคท้ายๆที่เส้าตงเฟิงส่งมา ปรากฏสู่สายตาของฉินเฟิง ชัดเจนว่านี่คือคำข่มขู่คุกคามอย่างโจ่งแจ้ง!

ฉินเฟิงก้มลงอ่านรายละเอียดข้อความ และพบว่ามันถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อ 6 วันก่อน งั้นก็หมายความว่า ยังเหลือเวลาให้เส้าตงเฟิงอีกหนึ่งวัน

สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“หืม~ อยากจะรู้จัง ว่าความแข็งแกร่งของฉันตอนนี้ มันมากพอที่จะสังหารเขารึยัง?”

ในตอนที่ฉินเฟิงต้องเผชิญหน้ากับเส้าตงเฟิงครั้งแรก เขาปลดปล่อยขุมนรกทมิฬ แล้วหันหลังหลบหนีไปทันที เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีกำลังมากพอที่จะเอาชนะเส้าตงเฟิงได้ ต่อให้ใช้เทคนิคจ้าวมังกรคำรนเข้าเสริม เกรงว่าก็ยังไม่มากพอที่จะโค่นอีกฝ่าย

แต่ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง มันได้ทะยานไปอีกขั้นแล้ว! ดาราทั้งเก้าของเขามีขนาดใหญ่ถึง 10 เมตร ความสามารถในการต่อสู้ของฉินเฟิงได้มาอยู่ในจุดที่น่าสะพรึงกลัว

แม้ฉินเฟิงยังไม่ทราบว่าไพ่ตายของเส้าตงเฟิงคืออะไร แต่ในแง่ของกำลังภายใน ฉินเฟิงรู้สึกว่าเขาไม่ด้อยไปกว่าเส้าตงเฟิงเลย

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงรู้สึกว่ามีไพ่ในมือมากพอที่จะต้านทานศัตรูแล้ว

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนั้น ฉินเฟิงก็ไม่มีความคิดที่จะหลบหนีอีกต่อไป

ฉินเฟิงเหลือบมองไปยังสถานที่ที่เส้าตงเฟิงระบุไว้ เดินออกจากวิลล่าของเขา สาวเท้ายาวๆก้าวจากไปอย่างยิ่งใหญ่

เมืองบลูสตาร์มันก็คือเมืองที่พวกเขาอยู่นั่นแหละ และที่นี่ก็มีบาร์เช่นกัน แค่ทุกอย่างบริการโดยหุ่นยนต์ เดิมถ้าผู้ใช้พลังต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูล พวกเขาจะมานั่งที่นี่ วันเวลาผ่านพ้นไป บาร์แห่งนี้เลยกลายเป็นจุดรวมพลที่ค่อนข้างครึกครื้น

หลังจากฉินเฟิงเข้าร่วมพันธมิตรมนุษย์ แม้ตัวเขาจะแข็งแกร่ง แต่เลเวลยังน้อยอยู่ ดังนั้นออกไปข้างนอกคงโดนดูถูก เขาจึงไม่เคยมาที่นี่

แต่ไม่คาดฝันเลย ว่าการเดินทางไปที่นั่นครั้งแรก ต้องไปด้วยเหตุผลนี้

ฉินเฟิงผลักประตูเข้ามา ภายในบาร์ตอนนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ แต่หลังจากฉินเฟิงเข้ามา กลับพบว่าที่นี่มีผู้คนมากมาย เอาจริงๆเรียกว่าเยอะเลยก็ได้

เพราะมีคนนั่งรวมกันมากถึง 70 - 80 คน!

และไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิด ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ล้วนอยู่ในเลเวล S ขึ้นไปทั้งสิ้น โดยแถวหน้าๆ มีผู้ใช้พลังเลเวล SS ปะปนอยู่ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นหลงกง , หลี่หยวน , ยารุส , ชิน นากาว่า , ริค และคนอื่นๆ ทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่

แต่ตอนนี้ คนเหล่านั้นกลับไม่กล้าเคลื่อนไหว บางคนหลับตาลงเพื่อปรับลมหายใจให้สงบนิ่ง บางคนในดวงตาสะท้อนไปด้วยความกังวล

และมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่นั่งอยู่หน้าบาร์ แม้อีกฝ่ายจะนั่งหันหลังให้กับผู้ใช้พลังทุกคนในที่นี้ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครกล้าโจมตี

นี่แหละคือความแข็งแกร่งของผู้ใช้พลังเลเวล SSS !

เมื่อฉินเฟิงก้าวเข้ามา สายตาของคนอื่นๆ เบนมายังทิศทางเดียว พวกเขาทั้งหมด แน่นอนว่ากำลังคาดหวังให้ฉินเฟิงมาที่นี่ แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากผ่านมา 6 วัน พวกเขาเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง เพราะไม่รู้ว่าฉินเฟิงหายหัวไปไหน

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ เมื่อพวกเขาเห็นฉินเฟิง มันราวกับเห็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะสามารถช่วยชีวิตได้

“ฉินเฟิง!”

“ในที่สุดเขาก็มา”

“โชคดีจริงๆ พวกเรารอดตายแล้ว!”

คนเหล่านี้รู้สึกว่าตนเองรอดจากภัยพิบัติ ตั้งแต่วันนั้น เส้าตงเฟิงกักขังตัวพวกเขาไว้ที่นี่ เพื่อบังคับให้ฉินเฟิงปรากฏตัว

และตอนนี้ เส้าตงเฟิงทำสำเร็จแล้ว

“ฉันก็หลงคิดว่าเจ้าจะไม่มาซะแล้ว” เส้าตงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

สายตาของฉินเฟิงเย็นชาปานน้ำแข็ง ไม่มีร่องรอยหรือทีท่าว่าจะหัวเราะเลย

“ผมก็แค่เพิ่งกลับมาจากมิติรางวัลที่ได้รับ ไม่ทราบว่าที่ท่านผู้ใหญ่เลเวล SSS บากหน้ามาถึงที่นี่ เพราะต้องการให้ผมรับใช้สิ่งใด?”

เส้าตงเฟิงฟังคำประชดเสียดสีของฉินเฟิง รอยยิ้มหยีบนดวงตาเขาพลันเลือนหาย เริ่มแสดงออกถึงท่าทีกดดันคุกคาม

“ฉินเฟิง จนถึงเวลานี้แล้วเจ้ายังจะดื้อรั้นอยู่อีกหรือ? ฉันมาที่นี่เพื่ออะไร เจ้าไม่รู้จริงๆ?”

“เพื่อมิติพวกนั้นอ่ะนะ?”

“ฉลาดมาก ในเมื่อรู้ก็ดีแล้ว อันที่จริงคราวก่อนฉันอยากช่วยเจ้า ถึงเวลานั้นพวกเราก็จะชนะกันทั้งคู่ แบบนั้นมันไม่ดีกว่าหรอ? ทำไมต้องแข็งข้อด้วย”

ฉินเฟิงยิ้มเยาะ อีกฝ่ายปล่อยนักพรตมารแห่งพันธมิตรองค์กรมืดมาต้อนรับเขา ซ้ำร้ายยังหว่านล้อมให้กินยาที่สามารถยกระดับได้พุ่งพรวด ซึ่งอย่างหลังเกรงว่าจะไม่ได้ทำเพื่อช่วยฉินเฟิง ตรงกันข้ามมันคือหลุมพราง

คนเช่นนี้ ตอนนี้ยังกล้ามาเอ่ยที่นี่ว่าตนเป็นคนดีอีกหรือ?

เพียงเพราะเขาเป็นเลเวล SSS ดังนั้นเลยสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการรึไง?

ฉินเฟิงหัวเราะออกมา จากนั้นกล่าวว่า “เกรงว่าผมคงทำให้ท่านผู้ใหญ่เส้าต้องผิดหวัง เพราะมิติพวกนั้น ผมดูดซับแกนกลางของพวกมันจนหมดแล้ว ตอนนี้กลายเป็นซากไปเรียบร้อย!”

เส้าตงเฟิงไม่อยากเชื่อ แต่มองมายังท่าทีการแสดงออกของฉินเฟิง รอยยิ้มบนใบหน้าเขาค่อยๆหายไป ตอกย้ำชัดถึงความรังเกียจ เขาจ้องเขม็งมายังฉินเฟิง

“เจ้าคงไม่ได้พูดจริงหรอกนะใช่ไหม?”

“ทำไมจะเป็นความจริงไม่ได้? มิติเหล่านั้นไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ อีกอย่างแทบไม่มีทรัพยากร ในเมื่อการดูดซับแกนกลางของมัน สามารถช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว เช่นนั้นทำไมผมจะไม่ทำล่ะ!”

“ผายลม! ต่อให้เจ้าดูดซับแกนกลางมิติไปจริงๆ แต่หากคิดกลืนกินทั้งหมดนั่นต้องใช้เวลาเป็นสิบปีร้อยปี ด้วยระยะเวลาเท่านี้เจ้าไม่มีทางทำได้ ฉินเฟิง อย่าคิดหลอกลวงบิดา พึงระลึกไว้เถอะว่าเจ้าไม่อาจซ่อนมิติเหล่านั้นจากพวกเรา!”

คำข่มขู่คุกคามเช่นนี้ ฉินเฟิงไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลย

“ถ้าท่านเส้าไม่เชื่อ ไม่สู้พวกเราแวะไปดูมันเป็นอย่างไร มาด้วยกันดีหรือไม่?”

ว่าจบ ฉินเฟิงหยิบตัวเชื่อมมิติที่พันธมิตรมนุษย์มอบให้ออกมา กล่าวเชื้อเชิญเส้าตงเฟิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด