ตอนที่แล้วบทที่ 101 การประชุม (8)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 103 ลอร์ด (2)

บทที่ 102 ลอร์ด (1)


สมาชิกเหล่าเซอร์เคิลรวมถึงเชอริลได้ไล่ตามเดมิก็อดแห่งดาบต่อไป

พวกเขาเกือบจะหลงทางไปสองสามครั้ง แต่ยังไงก็ตามพวกเขาก็สามารถตามทันจนได้

หรือจะพูดว่าการติดตามจริงๆก็ไม่ถูกไปทั้งหมด

จะว่าไปแล้วพวกเขาสามารถตามทันได้เพราะหยุดอยู่บนภูเขาใกล้ลู่เฟย และไม่ได้เดินทางไปจากที่นั่น

ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้มากนักแม้ว่าเดมิก็อดแห่งดาบจะหยุดอยู่บนภูเขาก็ตาม

เพราะพวกเขากลัวว่าจะเจอกับกับดัก

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตั้งแคมป์ห่างจากภูเขาและเฝ้าดูจากระยะไกล

ผู้ไล่ตามรู้สึกงงงวยอย่างมากกับการกระทำของเดมิก็อดแห่งดาบ

ด้วยเหตุผลบางประการพวกเขาโจมตีค่ายที่ตั้งอยู่บนภูเขา

"พวกเขากำลังทำอะไร?"

“ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในป้อมเก่าของพวกเขา”

มีเพียงการแสดงออกของเจอโรมเบอร์เนอร์เท่านั้นที่แปลกไป

“สถานที่นี้…เป็นที่ที่ไว้ทำการค้าทาส”

เขารู้เรื่องของประเทศดีกว่าคนอื่นๆ นั้นเพราะเขาเป็นพลเมืองของลัวโนเบิล

แม้ว่าจะไม่มีศพเหลืออยู่ในสถานที่ที่ถูกทำลายโดยเดมิก็อดแต่พวกเขาก็สามารถตรวจสอบได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในสถานที่เหล่านั้นจากการเห็นกรงและเครื่องมืออื่นๆ

เขายังรู้ด้วยว่าเมื่อเร็วๆนี้ว่าประเทศกำลังตกอยู่ในเส้นทางที่ไม่น่าดู

อย่างไรก็ตามไม่เคยมีการเปิดเผยตำแหน่งที่แน่นอนของสถานที่แห่งนี้

‘ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะทำสถานที่เช่นนี้ข้างๆลู่เฟย’

ใบหน้าของเจอโรมเปื้อนไปด้วยความอับอาย

โชคดีที่สหายของเขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องทุจริตในอาณาจักรลัวโนเบิล

นี่เป็นเพราะการกระทำของเดมิก็อดนั้นแปลกเกินไป

‘พวกเขากำลังวางแผนอะไรกันแน่?’

และขณะกับที่พวกเขากำลังปวดหัวกับการพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น

“นั่น…เป็นไปได้ไง…”

กรามของเชพเพิร์ดลดลง

สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับทุกๆคน

ท้องฟ้าที่เคยเป็นปกติเมื่อสักครู่นี้ได้เปิดกว้าง

เหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่เชพเพิร์ดซึ่งเป็นวิซาร์ดระดับ 7 ดาวยังยากที่จะรักษาความสงบได้

เชอริลเป็นคนเดียวที่ยังใจเย็นอยู่ได้

เธอกัดริมฝีปากด้วยเขี้ยวอันแหลมคมของเธอแสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ที่มาพร้อมกับอายุไม่ได้มีไว้เพื่อประดับ

“เรากำลังมีปัญหา”

“ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นละราวเดอร์เชอริล”

“การได้เห็นปรากฏการณ์นี้หมายความว่าเราอยู่ในขอบเขตหรือพื้นที่ของเดมิก็อดแล้ว”

"…นั่นหมายความว่า…"

"ใช่"

การแสดงออกของเชอริลนั้นรุนแรง

“เราไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้จนกว่าการประชุมของเดมิก็อดจะสิ้นสุดลง”

* * *

จู่ๆเฟรย์ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อน

แต่มันก็แปลกเพราะมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกร้อน

ความร้อนมาจากท้องฟ้า

สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากไฟในรูปของมนุษย์ปรากฏขึ้นท่ามกลางหมู่เมฆ

ร่างของเขาลุกโชนอย่างดุเดือดราวกับว่าเขาจะเผาโลกทั้งใบ

“ฉันเคยบอกนายเกี่ยวกับเขาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ เขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่นายเรียกกันว่าอะโพคาลิปส์”

“…”

“จากนี้ไประวังคำพูดและการกระทำของนาย อันที่จริงมันจะดีกว่าถ้านายไม่พูดอะไรเลย”

เฟรย์พยักหน้า

อย่างที่ริกิพูดมันเป็นการดีกว่าที่จะปิดปากของเขา ดีกว่าพูดและเปิดเผยเบาะแส

ริกิมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

อัคนีซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าภูเขาเริ่มหดตัวลงอย่างช้าๆจนกระทั่งเขามีขนาดเท่ากับมนุษย์ทั่วไป

เขาเป็นเหมือนผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นจากไฟก่อนที่จะแปลงร่างและแต่ในตอนนี้เขาดูเหมือนมนุษย์ธรรมดาที่มีผมสีแดงเพลิง

เฟรย์ได้ปราบและกำจัดเดมิก็อดจำนวนมากในช่วงเวลาของเขา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพเช่นนี้

‘เขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้เชียวหรือ?’

เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง แต่ในไม่ช้าก็รู้ว่ามันไม่ได้แปลกอะไร

เนื่องจากมังกรก็มีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างและขนาด

‘บางทีริกิก็อาจจะทำได้เช่นกัน?’

ริกิได้ทำมันไหม?

เฟรย์อยากรู้อยากเห็น แต่เขาไม่สามารถถามได้เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์นี้

นี่เป็นเพราะอัคนีกำลังเดินเข้าหาพวกเขาแล้ว

ทางด้านขวาของเขาคือร่างที่สวมเสื้อคลุมและหน้ากากเช่นเดียวกับเฟรย์

“ดูเหมือนว่าคุณจะมาเป็นคนแรกในครั้งนี้”

"ใช่"

“อืม… แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและฉันไม่คาดคิดว่าคุณจะทำความสะอาดสถานที่นี้ให้ด้วย”

ทำความสะอาด

ดูเหมือนว่าเขากำลังพูดถึงดาลามันและคนของเขาที่อยู่บนภูเขา

ริกิตอบห้วนๆ

“ฉันทำเพราะฉันอยู่แถวๆนี่”

"ฉันเข้าใจละอย่างไรก็ตามทำได้ดีมาก”

จากนั้นอัคนีก็หันมาสบตากับเฟรย์

“นี่คืออัครสาวกของคุณหรือเปล่า?”

"ใช่"

“อืมแน่นอน”

อัคนีพยักหน้าก่อนจะเดินไปด้านข้าง

“เขาน่าจะทนต่อแรงกดดันเมื่อเขาเห็นลอร์ดแบบตัวต่อตัวได้ คุณได้อัครสาวกที่เก่งทีเดียว”

“ในที่สุดฉันก็เห็นคุณมีอัครสาวกสักที”

"ใช่ฉันพยายามเล็กน้อยเพื่อให้ได้คนนี้มา”

ในขณะนั้นร่างที่ยืนอยู่ด้านหลังอัคนีก็หันมามองเฟรย์

ช่วงเวลาที่ดวงตาของพวกเขาสบกันในอากาศ

“…!”

“…!”

ทั้งคู่รู้สึกถึงอาการตกใจของกันและกัน

จากนั้นพวกเขาก็หันหน้าหนีในเวลาเดียวกันและแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

‘ทำไมเขาถึงมาที่นี่…?’

เขาไม่สามารถจินตนาการถึงเหตุผลได้

แต่เขามั่นใจว่าเขารู้จักคนที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากนั้น

เฟรย์รีบแก้ไขการแสดงออกของเขา

โชคดีที่อัคนีไม่ได้สังเกตเห็นความตกใจของเฟรย์

เขาเดินผ่านเฟรย์และเข้าไปในปราสาท

เฟรย์อยากจะบอกริกิเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดีนัก

ทันใดนั้นพายุขนาดใหญ่ก็พัดมาและการแสดงออกของเฟรย์ก็แข็งขึ้น

เขารู้สึกถึงแรงกดดันที่ท่วมท้นสามอย่างในเวลาเดียวกันและในขณะนั้นเขาพบว่ามันยากที่จะหายใจ

พื้นที่ดูเหมือนจะบิดเบี้ยวและไม่นานนักร่างของทั้งสามคนก็ก้าวออกมา

หญิงสาวผมบลอนด์ โครงกระดูกและชายชราเหี่ยวย่นหลังค่อม

เรย์รินนอซด็อกและอนันตา

เฟรย์ตระหนักว่าเขาเคยมีประวัติบางอย่างกับพวกเขาทั้งสามคน

เรย์รินเป็นนักเชิดหุ่นที่ชักใยตระกูลเบลคจากหลังม่าน เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้ ‘เฟรย์’ สามารถใช้ทั้งพลังศักดิ์สิทธิ์และมานาในร่างเดียวกันได้

นอซด็อกพยายามหลอกล่อผู้ทรยศโดยใช้โอดินเป็นเหยื่อและเขาก็ปรากฏตัวเป็นภาพลวงตาต่อหน้าเฟรย์ก่อนที่โอดินจะตาย

เขารู้สึกถึงแรงกดดันจากออร่าของเขาในเวลานั้น แต่มันก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับการพบเขาด้วยตัวเองในตอนนี่

และอนันตาเป็นหนึ่งในเดมิก็อดที่เขาต่อสู้เมื่อเขาเป็นลูคัส

ในเวลานั้นลูคัส ชไวเซอร์ ไอริส คาซาจิน และ ลูซิดไม่สามารถเอาชนะ "ชายชราที่น่ากลัว" คนนี้ได้

ในทางตรงกันข้ามคาซาจินได้รับพิษของเขาและต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือนในสภาพใกล้ตาย

แน่นอนว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความเสียหายให้กับอนันตา แต่ความพ่ายแพ้ก็คือความพ่ายแพ้

นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ในตอนนั้นลูคัสและพรรคพวกของเขาเพิ่งเริ่มสร้างความมั่นใจในการต่อสู้กับเดมิก็อดเป็นครั้งแรก

เมื่อเทียบกันแล้วอนันตาไม่ได้ดูแตกต่างกันมากนักนอกจากเสื้อผ้าของเขา

“ฉันไม่คิดว่าเราจะมาสายเกินไป”

“คุคุคุ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าอัคนีจะมาก่อนเราได้ ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ”

อนันตายิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยขณะมองไปที่ปราสาท

เขารู้สึกได้ถึงพลังของอัคนีภายในนั้น

ริกิมองพวกเขาขณะที่กำลังกอดอก

“พวกคุณสามคนมาด้วยกันเหรอ”

"ใช่"

"เพื่ออะไร?"

“ฉันได้ยินข้อมูลที่น่าสนใจจากลอร์ดดังนั้นฉันจึงมาดูว่ามันเป็นความจริงหรือไม่”

“…ข้อมูลที่น่าสนใจ?”

“ฉันจะบอกคุณเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น ฉันแน่ใจว่าคุณจะต้องชอบมัน”

เรย์รินยิ้มขณะพูด แต่ริกิก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

นอซด็อกที่ไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่พวกเขามาถึงก็มองลงมาจากภูเขาขณะที่เขาพูด

[มีผู้บุกรุก]

"อะไรนะ?"

[แค่นั้น มีผู้บุกรุกพยายามเข้าไปในแนวกั้น ไม่พวกเขาเข้ามาแล้ว…มันแปลกจริงๆ ]

ดวงตาที่ลุกโชนของนอซด็อกหันมาที่ริกิ

[ฉันไม่เชื่อว่านายซึ่งจับพลังได้ดีที่สุดในหมู่พวกเราไม่รู้สึกถึงพวกเขา เกิดอะไรขึ้นริกิ?]

“…มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันต้องกังวลเมื่อไม่นานมานี้ความรู้สึกของฉันจึงไม่ค่อยดีนัก”

[…]

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งนอซด็อกก็พยักหน้า

[ถ้ามันมาจากคำพูดนายก็ต้องเป็นเรื่องจริง]

“…”

[งั้นฉันจะไปดูแลเหล่าหนูน้อยเอง]

“นายจะโอเคไหม? นายจะไม่โดนลงโทษเหรอ”

[เรย์รินพูดแล้วไม่ใช่เหรอ? เรามีสิ่งที่น่าสนใจมากจากลอร์ด]

ในขณะนั้นเฟรย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าโครงกระดูกไร้ผิวหนังตรงหน้าเขากำลังยิ้ม

[ทุกอย่างได้รับการยืนยันแล้ว มันจะสนุกและน่าตื่นเต้นมาก]

จากนั้นนอซด็อกก็หายตัวไป

เฟรย์ตามมาดู โชคดีที่เขาสามารถมองเห็นด้านนอกของปราสาทได้อย่างชัดเจน

และเขาก็สับสนทันที

เนื่องจากมีอัศวินในชุดเกราะสีดำหลายร้อยคนยืนอยู่ในที่โล่ง

ริกิพึมพำ

“…พวกเขามาที่นี่พร้อมกับวาร์ป”

เขาพูดเหมือนกำลังอธิบายให้เฟรย์ฟัง

“ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะส่งอัศวินมังกรดำมา ดูเหมือนว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับธุรกิจของมาร์ควิสมากกว่าที่ฉันคาดไว้”

“ริกิลัวโนเบิลเป็นเขตปกครองของคุณ พวกเขามาตั้งฐานที่นี่ได้ยังไงโดยที่คุณไม่รู้”

เรย์รินเป็นคนตอบคำพูดของอนันตา

“อาณาเขตนี้นับเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วที่เขาจากมา เส้นทางของประเทศนี้ค่อนข้างน่าชื่นชม อีกอย่างคุณรู้ไหมริกิ? เหตุผลที่ลอร์ดต้องการประชุมที่ ลัวโนเบิล”

“ไม่”

“เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่”

เรย์รินชี้ไปที่อัศวินมังกรดำ

“นี่คือจุดเริ่มต้น”

นอซด็อกที่ยืนอยู่บนท้องฟ้ามองลงมาที่พวกเขา

อัศวินมังกรดำสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเขาและพวกเขาก็เริ่มเตรียมตัวอย่างวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีอะไรช่วยพวกเขาได้อีกต่อไป

พวกเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับนอซด็อกที่อยู่กลางอากาศได้ด้วยดาบของพวกเขา

นอซด็อกเหยียดนิ้วออกด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและกลุ่มพลังงานสีดำก็เริ่มรวมตัวกันที่ปลายนิ้ว

จุ๊

จากนั้นพลังงานสีดำก็แยกออกเป็นหนามแหลมสีดำขนาดเล็กหลายร้อยอัน

เฟรย์ตระหนักได้ว่าจำนวนของแหลมนั้นตรงกับจำนวนของอัศวินมังกรดำอย่างแน่นอน

จากนั้นหนามแหลมก็ได้แทงทะลุหมวกป้องกันอย่างแม่นยำยังกับกระดาษ

อัศวินที่ยืนอยู่ที่นั่นสักครู่หลังจากการตายของพวกเขา ก็ล้มลงพร้อมเพรียงกัน

นั่นแหล่ะ

ในไม่ช้าอัศวินมังกรดำทั้งหมดก็ถูกทำลายล้าง

[นี่คือความตาย]

หลังจากพึมพำอย่างพอใจร่างของนอซด็อกก็กระพริบและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งข้างๆริกิ

ริกิมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

“แม้ว่านายจะทนต่อบทลงโทษได้…แต่การฆ่าคนหลายร้อยคนมันไม่มากไปหรือ?”

[หุหุ พวกเราไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว]

"อะไรนะ?"

[ดีใจด้วยนะริกิ ในที่สุดเราก็พบความเป็นไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงการลงโทษจากกฏของพระเจ้า]

“… !!”

การแสดงออกของเฟรย์บิดเบี้ยวหลังหน้ากากของเขา

ริกิประหลาดใจไม่น้อยไปกว่าเขา

ตอนนั้นเอง

[เข้ามาข้างในเถอะพี่น้องของข้า]

ร่างกายทั้งหมดของเฟรย์แข็งตัว

มันเป็นเสียงที่เขาไม่มีวันลืม

เป็นเสียงที่ฟังดูศักดิ์สิทธิ์ราวกับได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้าในมหาวิหาร แต่เจ้าของเสียงนี้กลับไม่ได้เป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์เลย

เฟรย์หันไปมองด้านในของกำแพงที่ถูกทุบของปราสาท

สิ่งมีชีวิตที่ชื่ออัคนีกำลังเปิดเผยการปรากฏตัวของเขาอย่างเงียบ ๆ

สาเหตุที่เรียกว่า "สิ่งมีชีวิต" นั้นเป็นเพราะไม่มีวิธีอื่นในการบรรยายตัวตนของเขา

มันมีรูปร่างโดยรวมของผู้ชาย อย่างไรก็ตามหัวของมันเรียบเหมือนไข่เพราะไม่มีคุณสมบัติใดๆ เลย

มันไม่มีผมด้วยซ้ำ

ไม่มีรอยของเสื้อผ้าบนร่างกายเผยให้เห็นรูปร่างผู้ชายที่แข็งแกร่งและเหนือสิ่งอื่นใดแสงสีขาวยังคงเปล่งออกมาจากร่างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา

มันดูเหมือนเดิมจากเมื่อ 4,000 ปีก่อน

[เข้ามาข้างในเถอะ ครอบครัวที่รักของข้า]

ลอร์ดกวักมือเรียกทุกคนเบาๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด