ตอนที่แล้วSign in Buddha's palm 136
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSign in Buddha's palm 138

Sign in Buddha's palm 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย


Sign in Buddha's palm 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปโดยไม่ทันรู้ตัว

จักรพรรดิถังหลี่เชิงลุกขึ้นและเตรียมกลับไปยังโถงชีวิตนิรันดร์เพื่อจัดการเรื่องการบ้านการเมือง

“ได้มาคุยกับพี่สามในวันนี้ ข้ารู้สึกทุกข์ใจน้อยลงจริงๆ” จักรพรรดิหลี่เชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มและมองไปยังซูฉิน

ซูฉินส่ายหัวแต่ไม่ตอบอะไร

วันต่อมา

ที่ตำหนักไท่จี๋ บริเวณท้องพระโรง

จักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มองลงมาที่เหล่าขุนนางฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร

“ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนักสำหรับการปกครองดินแดนของเหล่าราชาหัวเมืองแห่งอาณาจักรถังทั้งหลาย...” จักรพรรดิถังกล่าวออกโดยมิอ้อมค้อม

ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการตัดทอนอำนาจศักดินา แต่ไม่รู้ว่าภายในใจของเขาคิดวนไปเวียนมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

จนท้ายที่สุดจักรพรรดิถังหลี่เชิงก็ตระหนักว่าไม่สมควรที่จะตัดทอนอำนาจศักดินาตรงๆ มันอาจจะเกิดความวุ่นวายในอาณาจักรถังและการก่อกบฏจากกลุ่มขุนนางได้ง่าย

การตัดทอนอำนาจศักดินาโดยตรงอาจกระทำมิได้ แต่เรื่องวิธีการตัดทอนอำนาจศักดินาโดยอ้อมผุดขึ้นในหัวของจักรพรรดิหลี่เชิงอย่างต่อเนื่อง

จักรพรรดิถังหลี่เชิงใช้เวลามาสามปีแล้วในการคิดหาวิธีตัดทอนอำนาจของเหล่าองค์ชายโดยอ้อม

ตำหนักไท่จี๋

เมื่อเหล่าขุนนางภายในท้องพระโรงได้ฟังคำกล่าวของจักรพรรดิหลี่เชิง พวกเขาก็มองหน้ากันเองโดยไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร

ไม่กี่ปีมานี้พวกเขาก็เห็นๆ อยู่ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงโกรธแค่ไหน และถึงขั้นคิดจะตัดทอนอำนาจศักดินา...

แต่ตอนนี้จักรพรรดิหลี่เชิงกลับ 'ประทับใจมาก' กับพฤติกรรมของเหล่าองค์ชาย?

ในยามที่เหล่าข้าราชบริพารยังคงสับสน คำพูดของจักรพรรดิหลี่เชิงก็ดังก้อง

“เหล่าราชาหัวเมืองต่างทำงานกันอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีได้หากปราศจากความร่วมมือของเหล่าบุตรหลานทุกคนในตระกูล ข้าจึงตัดสินใจจะส่งผ่านคำสั่งออกไป ต่อแต่นี้อนุญาตให้ราชาหัวเมืองสามารถแจกจ่ายอำนาจศักดินาให้แก่ลูกหลานทุกคนได้”

จักรพรรดิถังหลี่เชิงกล่าวคำออกมาช้าๆ

ด้วยคำที่กล่าวออกมา

เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างเงียบ

ความคิดของข้าราชบริพารบางคนวิ่งแล่นอย่างรวดเร็วและพวกเขาก็พลันเข้าใจจุดประสงค์ขององค์จักรพรรดิถังในการออกคำสั่งเช่นนั้น มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการแบ่งอำนาจของเหล่าขุนนางหัวเมือง ด้วยวิธีนี้อาจจะไม่เห็นผลในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิบปี หรือร้อยปี ปัญหาเรื่องของราชาหัวเมืองจะต้องคลี่คลายอย่างแน่นอน

“ฝ่าบาท สิ่งนี้ไม่สมควร...”

ขุนนางบางคนลุกยืนขึ้นมาในทันที โค้งคำนับต่อหน้าองค์จักรพรรดิหลี่เชิงก่อนจะกล่าวว่า “บุตรชายคนโตขององค์ชายกับพระชายาคนแรกเท่านั้นที่จะได้รับอำนาจศักดินา หากฝ่าบาททรงยกเลิกกฎหมายนี้ไป อาจสร้างความไม่พอใจให้เหล่าองค์ชายได้...”

ขุนนางผู้นี้เข้าใจความเป็นไปของอาณาจักรถัง และความหมายอันลึกซึ้งภายในคำสั่งขององค์จักรพรรดิหลี่เชิง แต่เหล่าองค์ชายเองมีหรือจะไม่เข้าใจ

“ไม่ต้องเป็นห่วงไป ข้าเพียงแต่อนุญาตเท่านั้น มันหาใช่คำสั่งไม่ ถ้าเหล่าราชาหัวเมืองไม่เต็มใจพวกเขาสามารถปฏิเสธมันได้”

จักรพรรดิถังหลี่เชิงสงบนิ่งอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้วหลังจากพูดคุยกับซูฉินอยู่ครู่หนึ่งเมื่อคืนวาน จักรพรรดิหลี่เชิงเริ่มตระหนักมากขึ้นถึงสิ่งที่เขากระทำได้

พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นเพียงการกำหนดกฎเกณฑ์ เหล่าองค์ชายอาจจะเพิกเฉยต่อมัน แต่เหล่าพรรคพวกคนอื่นในตระกูลของพวกเขาเล่า?

ปกติแล้วหลังจากที่ผู้ปกครองคนเก่าสิ้นชีวิตไป บุตรชายคนโตก็จะสืบทอดอำนาจราชาหัวเมืองต่อไป ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ ก็ทำได้เพียงดูแลตัวเอง

และด้วยสถานการณ์นี้ เมื่อจักรพรรดิถังหลี่เชิงอนุญาตให้ลูกหลานคนอื่นๆ ขององค์ชายสามารถสืบทอดอำนาจศักดินาต่อไปได้ ย่อมเกิดความแตกแยกภายในอย่างมิอาจเลี่ยง

นอกจากบุตรชายคนโตแล้ว บุตรชายคนอื่นๆ ย่อมสนับสนุนคำสั่งจากจักรพรรดิหลี่เชิงเป็นธรรมดา

“ความประสงค์นี้ของข้าตัดสินใจมาดีแล้ว”

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความอีกต่อไป”

จักรพรรดิถังหลี่เชิงเห็นว่ามีขุนนางบางคนพยายามที่จะห้ามปรามตน ดังนั้นพระองค์จึงโบกมือและเดินออกจากตำหนักไท่จี๋ไป

ในเวลาเดียวกัน

ด้านนอกตำหนักชุนฝั่งขวา

ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง มองตรงไปในทิศทางของตำหนักไท่จี๋

“ท้ายที่สุดก็ออกคำสั่งนี้...”

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจออกมา

ซูฉินรู้ว่าสิ่งนี้มันอยู่ภายในใจขององค์จักรพรรดิหลี่เชิงมาตั้งแต่เมื่อคืน ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจกับอีกฝ่ายเล็กน้อยในวันนี้ เป็นไปตามคาด จักรพรรดิถังหลี่เชิงได้ลงมือไปแล้วในวันนี้...

เพียงแต่ว่า แม้วิธีการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาของราชาหัวเมืองได้ในระดับที่ดี แต่จักรพรรดิถังหลี่เชิงกระทำสิ่งหนึ่งผิดพลาด

“การออกคำสั่งนี้เรียงลำดับผิดพลาด...”

ซูฉินคิดอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

หากจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังได้กระทำการปราบเหล่าขุนนางหัวเมืองทั้งหมดก่อนที่จะออกคำสั่งนี้ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวก่อนจะใช้แผนแยกย่อยอำนาจ เขาก็จะขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตและแก้ไขปัญหาจากเหล่าองค์ชายไปได้อย่างสมบูรณ์

แต่ตอนนี้...

สิ่งสำคัญที่สุดยังไม่ได้รับการแก้ไขจนบรรลุผล และการออกคำสั่งกระจายอำนาจเช่นนี้เท่ากับไปแตะต้องจุดเดือดของเหล่าองค์ชาย

แม้ว่าซูฉินจะรู้ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้หยุดยั้งมัน

หากจักรพรรดิหลี่เชิงถูกลอบสังหาร ซูฉินอาจจะลงมือช่วยเหลือได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเรื่องราวการตัดสินใจของจักรพรรดิหลี่เชิงในกิจการบ้านเมืองแห่งอาณาจักรถัง

“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาทนทุกข์ ให้ได้เรียนรู้เสียบ้าง”

ซูฉินหันหลังและเดินกลับไปที่ตำหนักชุนฝั่งขวา

เป็นเวลานานแล้วที่จักรพรรดิถังหลี่เชิงประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ขึ้นครองบัลลังก์ เขามีพร้อมทุกสิ่งที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเตรียมไว้ให้ ผนวกรวมกับที่ซูฉินช่วยเขากำจัดอุปสรรคถึงสองครั้งสองครา สร้างความตื่นตระหนกให้กับอาณาจักรต่างๆ ทำให้การดำเนินการสิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

แม้ว่าจักรพรรดิถังหลี่เชิงจะได้ดำเนินการไปหลายอย่างจนอาณาจักรถังเจริญรุ่งเรืองภายใต้การปกครองของเขา แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ที่มันไม่ราบรื่นเสมอไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยคำสั่งของจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังที่ส่งไปถึงราชาหัวเมืองทั้งสิบ มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจของหมู่พี่น้องทายาทของเหล่าองค์ชาย

อย่างไรก็ตาม

ความรู้สึกเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้ไม่นานก่อนจะถูกระงับไปโดยเหล่าองค์ชาย

ไม่นานหลังจากนั้น

เหล่าราชาหัวเมืองทั้งสิบก็มารวมตัวกันอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง

เมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตขององค์ชายคนใด แต่เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับอาณาเขตของราชาหัวเมืองส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อพวกเขามีเรื่องที่จะต้องหารือกัน พวกเขาจะเลือกใช้สถานที่แห่งนี้

“ฮ่าฮ่า”

“ตอนนี้จักรพรรดิถังที่อยู่ในเมืองฉางอันช่างกล้าหาญนัก เขาถึงกับกล้าเข้ามาแทรกแซงกิจการของราชาหัวเมืองที่ข้าปกครองอยู่”

ดวงตาของราชาฟ่านหยางเย็นเยียบ เหลือบมองไปที่ราชาหัวเมืองอีกเก้าพระองค์ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย

เมื่อตอนที่คำสั่งกระจายอำนาจส่งมาถึงอาณาเขตของพวกเขา เหล่าราชาหัวเมืองต่างตระหนักว่ามีบางสิ่งผิดปกติ และหลังจากเขาเห็นสายตาอันแสนกระตือรือร้นจากลูกหลานคนอื่นๆ ของพวกตน พวกเขาก็ยืนยันได้แล้วว่านี่คือแผนการของจักรพรรดิ

“หึ!”

“เพียงคำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถแบ่งแยกเขตแดนของพวกเรา สร้างความแตกแยกให้เหล่าพี่น้อง จักรพรรดิถังไม่เพียงกล้าหาญเท่านั้น แต่วิธีการต่างๆ ยังเลวร้ายมากอีกด้วย...”

ราชาชวอฟางก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

ในฐานะราชาผู้ครองดินแดน พวกเขาต้องการให้อำนาจที่สืบต่อไปนั้นรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปรุ่นต่อรุ่น พวกเขาย่อมไม่ต้องการเห็นลูกหลานของพวกเขาถูกแบ่งแยกออก และท้ายที่สุดมันก็จะกลายไปเป็นของเล่นในมือขององค์จักรพรรดิถัง

“แล้วตอนนี้เราควรทำเช่นไร”

“จักรพรรดิถังเริ่มแบ่งแยกรากฐานของพวกเราแล้ว พวกเจ้ายังจะทำเป็นเฉยเมยอยู่ไหม?”

ราชาเป่ยถิงกล่าวออกมา อยากจะรู้ว่าราชาพระองค์อื่นคิดเห็นอย่างไร

“เป็นเรื่องปกติที่เราจะเฉยเมยไม่ได้”

ราชาฟ่านหยางส่ายหัวแล้วกล่าวคำ

“ทำไมเจ้าไม่สังหารจักรพรรดิถังองค์นี้เสียที ในเมื่อเขาดื้อดึงขนาดนี้ เราควรจะเปลี่ยนจักรพรรดิถังเป็นคนอื่นขึ้นมาแทน”

ราชาเจี้ยนหนานจู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมา

คำพูดที่กล่าวออกมา

ราชาหัวเมืองที่เหลือก็รู้สึกว่าหัวใจตนกำลังเต้นอย่างเร่าร้อน

อย่างไรก็ตาม ราชาชวอฟางส่ายหัวแล้วกล่าวขึ้นว่า “ฆ่าแล้วได้อะไร? ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีใครไม่อิจฉาจักรพรรดิถัง ต่อให้สังหารทิ้งไปแล้วคนที่ขึ้นมาแทนจะเชื่อฟังหรือไม่เล่า?”

“นอกจากนั้น คงจะมีบรรพบุรุษเก่าแก่ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังถัง การที่จะลอบฆ่าจักรพรรดิถังภายในวังหลวงย่อมไม่สมควร”

ราชาชวอฟางกล่าวออกมาเบาๆ

ไม่ว่าจะเป็นสองยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอย่างหวู่หยางแห่งหนานหมิงและอินจิ่วฝูที่ตกตายอยู่นอกวังหลวง และการหายตัวไปอย่างลึกลับของซีเหมินชุยเฉว่กับเย่กู้เฉิงภายในพระราชวังถังล้วนแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของวังหลวงได้อย่างแท้จริง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด