ตอนที่แล้วบทที่ 97 การประชุม (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 99 การประชุม (6)

บทที่ 98 การประชุม (5)


‘เขาสังเกตเห็นความลับของสร้อยข้อมือ?’

เฟรย์กังวลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว

มันเป็นไปไม่ได้

มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าไม้เท้าแห่งมหานักปราชญ์สามารถเปลี่ยนเป็นสร้อยข้อมือได้

แม้แต่สโตรว์เน็คลิซเซอร์เคิลที่อ้างว่ารู้จักชไวเซอร์ดีที่สุดและเชพเพิร์ดซึ่งเป็นผู้บริหารในเซอร์เคิลนั้นก็ไม่รู้ว่าสร้อยข้อมือนั้นเป็นไอเทม

เฟรย์ส่ายหัว

“ไม่ได้”

“เข้ามาใกล้ๆมาหน่อย...”

“ทำไมคุณถึงสนใจสร้อยข้อมือเส้นนี้? มันเป็นเพียงสร้อยข้อมือธรรมดาๆ”

เฮคเตอร์หัวเราะเมื่อเฟรย์พูดคำเหล่านั้นอย่างไม่แยแส

“สร้อยข้อมือธรรมดาๆ…เจ้าไม่จำเป็นต้องโกหกฉันหรอก”

“…”

"อืม..มันสมเหตุสมผลแล้วที่เจ้าจะคิดอย่างนั้น คนส่วนใหญ่จะไม่สามารถตระหนักได้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของสร้อยข้อมือเส้นนั้นได้”

บางทีแม้แต่ผู้ประเมินที่เชี่ยวชาญที่สุดก็ไม่สามารถสังเกตเห็นอะไรได้เลย

อย่างไรก็ตามเขาแตกต่างออกไป

การจ้องมองของเฮคเตอร์คมขึ้น

ไอเทมชิ้นนี้ล้ำค่าแน่นอน

เขาพยามามข่มใจที่เต้นแรงอย่างหมดท่า

“ฉันรู้ว่ามันฟังดูไม่น่าเชื่อถ้าฉันจะโม้เกี่ยวกับตัวเอง แต่ฉันเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง อันที่จริงฉันมั่นใจว่าฉันติดหนึ่งในสามอันดับแรกของทวีปนี้ด้วยซ้ำ”

มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออย่างสิ้นเชิงเนื่องจากเขาเป็นคนที่พูดมันเอง แต่เป็นไปไม่ได้ที่เฟรย์จะปฏิเสธเพียงเพราะเขาไม่สามารถเชื่อได้เต็มที่

อย่างน้อยชายคนนี้ก็เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นสร้อยข้อมือของชไวเซอร์

“ฉันจำครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นไอเทมวิเศษและชื่นชมมันไม่ได้ด้วยซ้ำ นั่นคือเหตุผลที่สร้อยข้อมือเส้นนั้นดูน่าตกใจมาก นี่เป็นเพียงการคาดเดาของฉัน แต่ฉันเชื่อว่ามันอาจจะเป็นของที่ระลึกที่ตกทอดมาจากยุคแห่งแสงซึ่งเป็นที่ที่วิทยาศาสตร์เวทย์มนต์นั้นแพร่หลายมากที่สุด”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกด้อยค่าในขณะที่มองดูของวิเศษตั้งแต่เริ่มเรียนการเล่นแร่แปรธาตุ

เฮคเตอร์ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถทำสร้อยข้อมือแบบนั้นได้แม้ว่าเขาจะได้รับวัสดุที่จำเป็นทั้งหมดก็ตาม

นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาอยากรู้มาก

เขาต้องการดูว่ามันถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร

ความอยากรู้อยากเห็นที่บริสุทธิ์เกิดขึ้นภายในสายตาของเขา

เฟรย์ดีใจที่ได้ยินการยอมรับของชไวเซอร์ แต่ไม่มีทางที่เขาจะแสดงไอเทมชื้นนี้ให้กับผู้ติดตามของลอร์ด

เขาไม่อยากถูกจับได้ด้วยวิธีที่โง่เขลาเช่นนี้

“ผมให้ไม่ได้”

“…ฮูแน่นอนคำพูดของฉันคงไม่มีความหมายอะไรเลย”

เฮคเตอร์เสียงต่ำ

เขาลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยสีหน้าหนักแน่น

เมื่อเห็นเช่นนี้เฟรย์ก็ระวังตัวขึ้นเมื่อเขาสังเกตเห็นโมเมนตัมแปลกๆ ของเฮคเตอร์

พึมพำ!

เฮคเตอร์ทุบหน้าผากของเขากับพื้น

"ขอร้อง!!"

“คุณกำลังทำอะไรนะ…?”

"ได้โปรด! ขอให้ฉันดูเพียงครั้งเดียวก็พอ!”

หลังจากพูดแบบนั้นเขาก็คลานไปคว้าชายเสื้อคลุมของเฟรย์

เฟรย์มองลงมาที่เขาด้วยสีหน้าตกใจ

ใบหน้าของเฮคเตอร์ดูสิ้นหวังและน่าสมเพช

ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงหรือไม่?

ไม่

เขาจะไม่สามารถแสดงอาการเช่นนั้นได้แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดในโลกก็ตาม

เฟรย์ลังเลหลังจากที่เขาได้เห็นสิ่งนี้

‘…หนึงในนักเล่นแร่แปรธาตุที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของทวีป’

นี่เป็นวิธีที่เฮคเตอร์แนะนำตัวเอง

งั้นเขาน่าจะเก่งกว่าอเดเลียใช่มั้ย?

เฟรย์ไม่สามารถบอกได้ อย่างไรก็ตามแม้แต่อเดเลียก็ไม่สามารถสังเกตเห็น ไม้เท้าแห่งมหานักปราชญ์ในรูปแบบสร้อยข้อมือได้

อย่างน้อยในแง่นี้เฮคเตอร์ก็ดีกว่าเธอ

“ฉันอยากถามอะไรคุณบ้าง”

"ได้เลย! เจ้าสามารถถามฉันได้ทุกอย่าง!”

ดวงตาของเฮคเตอร์เป็นประกายสดใสขณะที่เขาพูดสิ่งนี้

เฟรย์รีบพูดด้วยสีหน้าหนักใจเล็กน้อย

“…นี่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้คุณดูสร้อยข้อมือเพียงเพราะคุณตอบ”

“นั่นไม่สำคัญ! หลังจากได้ยินคำตอบของฉันหัวใจของเจ้าอาจจะเบาลงเล็กน้อย!”

นี่คือสิ่งที่เฟรย์ต้องการ

เขาพยักหน้าและนึกถึงคำถามที่เขาเคยถามอเดเลียในหอคอยเวทมนตร์ในอดีต

“คุณสามารถสร้างโกเลมด้วยคอร์พลังที่มีพลังงาน 1 ล้าน MEได้หรือไม่?”

“คอร์ที่มีพลังงาน 1 ล้าน ME ? อืม…”

เฮคเตอร์หรี่ตา

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ส่ายหัว

“มันจะยากนิดหน่อย”

การตอบสนองของเขาดีกว่าอเดเลียที่บอกว่ามันบ้าคลั่ง แต่มันก็ไม่ได้ไกลเกินความคาดหมายของเฟรย์

"ฉันเข้าใจละ อย่างที่คาดไว้"

“คาดว่า?”

“แม้แต่นักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งที่สุดที่ฉันรู้จักก็ยังบอกฉันว่ามันเป็นความคิดที่บ้าคลั่ง”

การแสดงออกของเฮคเตอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“อืม…บอกรายละเอียดได้ไหม สิ่งที่พวกเขาพูด”

เขาสนใจความคิดเห็นของนักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นๆด้วย

นั่นไม่สำคัญ เฟรย์เล่าสิ่งที่ได้ยินจากอเดเลียให้เขาฟัง

“ก่อนอื่นพวกเขาบอกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างโกเลมโดยใช้คอร์ที่มีพลังงาน 1 ล้าน ME”

“ฉันเห็นด้วยกับความคิดเห็นนั้น โดยทั่วไปต้องใช้แกนพลังงาน 10,000 ME จะถูกใช้เพื่อสร้างไอร่อนโกเลม”

ไอร่อนโกเลมตัวหนึ่งจะสามารถต่อสู้กับโอเกอร์สิบตัวได้ในคราวเดียว

กล่าวอีกนัยหนึ่งด้วยการคำนวณง่ายๆนั่นหมายความว่าโกเลมตัวเดียวที่มีแกนพลังงาน 1ล้าน ME จะสามารถต่อสู้กับโอเกอร์ได้ถึง 1,000 ตัวได้ในเวลาเดียวกัน

เมื่อเขาคิดอย่างนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าแกนพลังงาน 1ล้าน ME นั้นไร้สาระแค่ไหน

ในแง่ของพลังงานตัวเลขดิบมันอาจเทียบได้กับมังกรตัวเต็มวัย

“พวกเขาบอกว่าร่างกายจะต้องสร้างด้วยแร่โอริ และมิธริลจะถูกใช้เป็นระบบประสาทเพื่อขับเคลื่อนพลังงานจำนวนมากเช่นนี้ พวกเขายังกล่าวด้วยว่ากระบวนการคำนวณสูตรคำสั่งการเขียนโปรแกรมและการสร้างจิตสำนึกจะยิ่งท้าทายมากขึ้น”

“…”

เฮคเตอร์ก้มหัวลงขณะครุ่นคิดสักพักก่อนจะมองเฟรย์อีกครั้ง

“เขาชื่ออะไร”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะบอกคุณอย่างนั้น”

ท้ายที่สุดอเดเลียเป็นสมาชิกของเซอร์เคิลและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่เปิดเผยชื่อของเธอเนื่องจากตัวตนของเฟรย์อาจจะสามารถถูกตรวจสอบได้จากเธอ

“ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังมากนัก ลอร์ดสั่งให้ฉันห้ามเปิดเผยสิ่งที่ฉันเห็นหรือได้ยินที่นี่ เมื่อได้รับแล้วจะไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่จะเป็นความลับที่เก็บไว้ระหว่างเราสองคน”

“…”

“อย่างไรก็ตามบุคคลนั้นค่อนข้างเก่งในการเล่นแร่แปรธาตุ แม้ว่าพวกเขายังต้องเรียนรู้อีกเยอะหุหุ พวกเขาทำให้ฉันนึกถึงตัวเองเมื่อร้อยปีที่แล้ว”

ร้อยปีที่แล้ว

การแสดงออกของเฟรย์กลายเป็นเรื่องแปลก

ชายคนนี้อายุเท่าไหร่กันแน่?

“คุณหมายความว่าคุณเก่งกว่านักเล่นแร่แปรธาตุที่ฉันรู้จัก”

"แน่นอน"

“…”

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่เชื่อฉัน แล้ว…”

เฮคเตอร์ประสานมือกันและปรบมือสองครั้ง

ตุบๆ

"คะเจ้านาย!"

สาวใช้แอริซึ่งออกไปก่อนหน้านี้ได้เดินเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง

เฮคเตอร์ชี้ไปที่เธอและพูดว่า

“เด็กคนนี้เป็นโกเลมที่ฉันสร้างขึ้นเอง”

"ผมรู้แล้ว"

“…”

“…”

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ

เฮคเตอร์มองเฟรย์ด้วยสีหน้าแปลกๆ

“แค่นั้นหรือ”

เขาควรจะทำปฏิกิริยาอะไรอีก?

เมื่อเขาเห็นสีหน้างงงวยของเฟรย์การแสดงออกของเฮคเตอร์ก็ดูแปลกขึ้น

‘เขามีไหวพริบเร็วมากที่จะบอกได้ว่าแอรีเป็นโกเลมเพียงแค่เหลือบมอง แต่เขาไม่มีความรู้เรื่องการสร้างหุ่นเลย?’

เขาเป็นผู้ชายที่แปลกประหลาด

จากนั้นเขาจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าแอรีมีความซับซ้อนเพียงใดหรือต้องใช้ทักษะในการสร้างหุ่นเชิดเพียงใดเพื่อสร้างเธอขึ้นมา

เฮคเตอร์ส่งแอรีกลับเข้าไปด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

“เจ้ามีคอร์พลังงานโกเลม 1ล้าน ME จริงๆหรือ?”

“…”

อีกครั้งที่เขาไม่ได้รับคำตอบ

การแสดงออกของเฮคเตอร์ดูอึดอัด เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่

หากเขารู้ในสิ่วที่เฟรย์ต้องการบางทีเขาอาจจะสามารถทำข้อตกลงเพื่อให้ได้สิ่งที่เขาเองต้องการ

‘ฉันอยากเห็นสร้อยข้อมือเส้นนั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง’

เมื่อเร็วๆ นี้เฮคเตอร์รู้สึกเหมือนว่าความก้าวหน้าในด้านความรู้ด้านในการเล่นแร่แปรธาตุของเขาตกต่ำลงมาก

พูดตรงไปตรงมาเขาไม่มีความคืบหน้าใดๆเลยมาหลายทศวรรษแล้ว

เขาค้นหาตรวจสอบและอ่านหนังสืองานวิจัยเครื่องมือวิเศษและโกเลมของคนอื่นๆ นับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่พบสิ่งกระตุ้นใหม่ๆ

นี่เป็นเรื่องธรรมดา

พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้เก่งเหมือนเฮคเตอร์ พูดง่ายๆคือเฮคเตอร์เก่งกว่าพวกเขามาก

วันแล้ววันเล่าเขารู้สึกว่าร่างกายและจิตใจของเขาค่อยๆเน่าเปื่อยและเขากลัวว่าจะไม่สามารถก้าวหน้าต่อไปได้อีกในชีวิตของเขา

การเล่นแร่แปรธาตุเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีชิวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ในอัตรานี้เขาจะหมดความสนใจในการเล่นแร่แปรธาตุ

นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการให้เกิดขึ้น

สร้อยข้อมือของเฟรย์ซึ่งปรากฏในช่วงเวลาที่เขากำลังดิ้นรนในความมืดและตัวสั่นด้วยความกลัวเป็นเหมือนแสงสว่างแห่งความอยู่รอดสำหรับเฮคเตอร์

จากนั้นเฟรย์ก็พูด

“สมมุติถ้าผมบอกว่ามี คุณจะสร้างโกเลมให้ผมได้ไหม?”

“…”

สีหน้าของเฮคเตอร์กลายเป็นจริงจัง

เฟรย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าใบหน้านี้เป็นใบหน้าที่แท้จริงของชายตรงหน้าเขา

การแสดงออกของเขาเป็นสิ่งที่เห็นได้ก็ต่อเมื่อเขาเป็นคนที่ภาคภูมิใจในงานของพวกเขาและจริงจังกับงานของพวกเขา

เฮคเตอร์ครุ่นคิดอยู่นาน

เขาเคาะนิ้วลงบนเคาน์เตอร์แล้วพึมพำกับตัวเอง

เฟรย์อดทนรอ

ในที่สุดเฮคเตอร์ก็เปิดปาก

"ฉันทำได้"

“…”

“เจ้าไม่เชื่อฉันเหรอ?”

“จะแปลกเหรอถ้าฉันบอกว่าไม่ทำ?”

เฮคเตอร์หัวเราะออกมา

“สิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำคือหาส่วนผสม เจ้าจะต้องใช้แร่โอริและมิธริลในปริมาณมาก เจ้าจะต้องรู้ว่าโลหะทั้งสองนั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถซื้อได้ด้วยเงิน”

เขาพูดถูก

ทั้งสองอย่างเป็นของมีค่าที่เหมาะที่จะเรียกว่าโลหะของพระเจ้า

นั่นหมายความว่าโดยพื้นฐานแล้วพวกมันจะสามารถซื้อได้หากมีเงินมากพอ แต่พวกมันก็ยากที่จะนำมาใช้สร้างสิ่งของอย่างไม่น่าเชื่อ

“แต่นั้นไม่ใช่โลหะชนิดเดียวที่เจ้าสามารถใช้ได้ ฉันรู้จักโลหะที่สามารถใช้ทดแทนได้ ฉันรับรองว่าไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุคนไหนที่รู้จักโลหะมากเท่าที่ฉันรู้”

เขาแน่ใจได้ไหมว่าผู้ชายคนนี้เก่งกว่าอเดเลีย

เฮคเตอร์ถอนหายใจราวกับว่าเขารู้สึกได้บางอย่างจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการแสดงออกของเฟรย์

“ฉันไม่อยากดูแคลนนักเล่นแร่แปรธาตุที่เจ้ารู้จักหรอก แต่เท่าที่ฉันรู้ตอนนี้มีนักเล่นแร่แปรธาตุระดับแนวหน้าเพียงสามคนในทวีปนี้”

"รวมถึงคุณด้วย?"

"รวมถึงฉันด้วย"

“…”

ดวงตาของเขาแน่วแน่เมื่อเขาพูดคำเหล่านั้น

เฟรย์มองเขาครู่หนึ่งก่อนจะถาม

“อีกสองคนเป็นใครกัน?”

“มาสเตอร์แห่งหอคอยที่สิบเอ็ดของจักรวรรดิคัสต์เคาและอาร์ชลิชแห่งดินแดนเยือกแข็งทางตอนเหนือ”

มาสเตอร์หอคอยที่สิบเอ็ดและอาร์ชลิช

มันเป็นตัวเลขที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

โดยเฉพาะสิบเอ็ด

“ฉันคิดว่ามีหอคอยเวทมนตร์เพียงสิบแห่งเท่านั่นนะ”

"ถูกตัอง อย่างไรก็ตามหอคอยที่สิบเอ็ดมีอยู่จริง เขาเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ที่ซ่อนเร้นของอาณาจักรคัสต์เคา นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพูดได้”

“และอาร์ชลิชแห่งดินแดนเยือกแข็งทางตอนเหนือ?”

“…”

การจ้องมองของเฮคเตอร์ลึกขึ้นเล็กน้อย

เขาจ้องไปที่เฟรย์ครู่หนึ่งก่อนจะพูด

“เขาไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุ เขาเป็นวิซาร์ดแต่เขาเป็นไอ้ตัวป่วนที่มีความรู้เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุเหนือกว่าทั้งตัวฉันเองและมาสเตอร์หอคอยที่สิบเอ็ด แม้ว่าสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นธรรมชาติเนื่องจากเขามีชีวิตอยู่มานานกว่า 1,000 ปีแล้ว”

“…”

“อย่างไรก็ตามเจ้าควรลบความคิดที่เจ้าคิดจะขอความช่วยเหลือจากเขา เขาติดอยู่ในดันเจี้ยนใต้ดินใต้ดินแดนเยือกแข็งโดยอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับวิทยาศาสตร์เวทย์มนต์ นอกจากนี้เขายังมีอารมณ์ที่น่ารังเกียจดังนั้นอย่าเข้าใกล้เขาเว้นแต่เจ้าต้องการเสี่ยงที่จะถูกสับเป็นชิ้นๆจนไม่สามารถจดจำได้”

คำพูดของเขาทำให้เฟรย์สงสัยเท่านั้น

แต่มีอย่างอื่นที่เฟรย์ยังอยากรู้อยากเห็นมากกว่านี้

"คุณเป็นใคร?"

“ฉันคือเฮคเตอร์”

“ฉันไม่ได้ขอชื่อคุณ ฉันถามว่าคุณเป็นใครเพราะคุณสามารถยืนเคียงข้างผู้พิทักษ์ที่ซ่อนเร้นของอาณาจักรคัสต์เคาและอาร์ชลิชที่มีความรู้สั่งสมมากว่า 1,000 ปีอย่างเท่าเทียมกันได้”

เฮคเตอร์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆอ้าปาก

"อิม..แม้ว่าสถานะปัจจุบันของฉันจะดูน่าสังเวช แต่ฉันก็เคยเป็นสมาชิกของเผ่าพันธุ์ที่มีอำนาจมาก”

เผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังจากอดีต?

“ทั้งหมดถูกขโมยไปจากฉันและฉันก็ติดอยู่ในร่างบอบบางนี้ เกล็ดที่แข็งแกร่งที่ไม่สามารถตัดได้แม้จะใช้ดาบที่คมที่สุด ร่างกายที่ใหญ่พอที่จะลบล้างแสงแดด และหัวใจที่ทรงพลังยิ่งกว่าแหล่งพลังงานใดๆ เท่าที่จะจินตนาการได้”

หลังจากได้ยินแบบนั้นการแสดงออกของเฟรย์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“ถึงกระนั้นฉันก็รอดมาได้เพราะเขาผู้นั้นรับรู้ เกี่ยวกับความรู้มากมายที่ฉันสะสมมาทั้งชีวิต หรือบางทีเขาอาจจะอยากจะหัวเราะเยาะกับความเป็นอยู่ที่น่าสังเวชของฉันจากที่ไหนสักแห่ง”

“…คุณไม่ได้หมายถึง…”

เฮคเตอร์ยิ้มให้กับตัวเอง

“ฉัน…เป็นมังกร”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด