สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 60
ตอนที่ 60 กระสุนไม่มีตา และการปะทะเพียงเสี้ยววิ
ลุคกำลังเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งใหม่ๆ และในทุกๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงคนร้ายร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและทรุดตัวลงกับพื้น
ลุคก็จะยิงกระสุนสองนัดเข้าที่ศีรษะของคนร้ายที่ล้มลงอย่างไร้ซึ่งความลังเล
จากนั้นไม่นานนัก ทั้งโกดังก็จมลงสู่ความเงียบงัน
ซึ่งนั้นเป็นเวลาที่ ไม่มีใครกล้ายิงใส่ลุคอีกต่อไป
เวลาสั้นๆ เพียงแค่ไม่เกินหนึ่งนาที ก็มีเหยื่อห้าคนที่สังเวยชีวิตให้กับลุคไปแล้ว นี่เป็นฝันร้ายสำหรับอาชญกรทุกคนอย่างแน่นอน
พวกมันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่า ช่วงนี้ใครในแก็งไปเหยียบตีนจัวใหญ่ที่ไหนมา ทำไมจู่ๆถึงมีศัตรูมากมาย?
เชนีย์ที่หลบอยู่ที่มุมหนึ่ง พยายามที่จะกระซิบอะไรบางอย่างออกมา
ลุคไม่ได้เข้าใจมากนักว่าเชนีย์กำลังสื่อสารหรือส่งสัญญาณอะไรให้เขา แต่ลุคก็พอจะเดาได้อยู่บ้าง เชนีย์คงจะกำลังบอกว่ายังมีศัตรูอีกหลายคนและไม่ทราบจำนวนอยู่ในโกดังอีก
ลุคยังคงใช้ท่าทางแปลกๆ ของเขาในการเคลื่อนที่ไปรอบๆ โดยที่ระหว่างเคลื่อนที่ลุคยกปืนขึ้นไว้ที่ระดับหน้าอกอยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้นก็มีใครบางคนปรากฏตัวต่อหน้าลุค ลุคเกือบจะยิงใส่แล้ว แต่เมื่อลุคสังเกตเห็นว่าคน ๆ นั้นเป็นใครลุคก็รีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ปัง ปัง!
เสียงปืนสองนัดดังขึ้นและกระสุนไปโดนกับกล่องสินค้าที่ลุคใช้กำบังหลบอยู่
ลุคสาปแช่งเบาๆ “ให้ตายสิ”
คนที่ยิงลุคไม่ใช่หนึ่งในสมาชิกแก๊ง แต่เป็นเพื่อนร่วมงานของเชย์นี ชุดสูทสีดำสนิทที่พวกเขาสวมใส่นั้น เดาได้ง่ายมากว่าเป็นฝ่ายไหน
แต่ลุคไม่เข้าใจทำไมไอ้คนๆ นี้ถึงเปิดฉากยิงใส่ลุคก่อนที่จะระบุได้ว่าลุคอยู่ฝ่ายไหนและเป็นใคร?
แต่ถึงกระนั้นจะให้โทษเพื่อนร่วมงานของเชนีย์ซะทีเดียวก็ไม่ได้หรอก เพราะลุคมาถึงก็จัดการคนร้ายไปซะหมด พวกเขาจะระแวดระวังลุคก็ไม่แปลก
โชคดีที่เชย์นีสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเขาก็รีบตะโกนเสียงดังบอกเพื่อนร่วมงานของเขา ในขณะที่แสดงสัญญาณบางอย่างให้ลุคใจเย็น
สิ่งเดียวที่ลุคตอบสนองคือ ชูนิ้วกลางใส่เชนีย์อย่างไม่พอใจ
เชย์นีกระพริบตาเล็กน้อย แต่เขาก็เข้าใจความหมายของลุคและอดส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้
แน่นอนเลยว่าลุคกำลังระบายความแค้นที่เกือบถูกเพื่อนร่วมงานของเชนีย์ยิงก่อนหน้านี้
เชนีย์ไม่กล้าดูถูกลุคและเซลิน่าอีกต่อไป
ในเวลาสั้นๆ สองนาทีโดยมีลุคเป็นคนจู่โจมหลักและเซลิน่าเป็นฝ่ายสนับสนุน ไม่มีกระสุนแม้แต่นัดเดียวที่สูญเปล่า พวกเขาสังหารศัตรูห้าคนติดต่อกัน ประสิทธิภาพของพวกเขาในสถานการณ์การต่อสู้เช่นนี้นั้นน่ากลัวมาก
แม้แต่เชนีย์ยังสงสัยว่าพวกเขาเป็นตำรวจแบบไหนกันแน่ - เจ้าหน้าที่ของกรมตำรวจเวสต์ไซด์ฮุสตันร้ายกาจอย่างนี้ทั้งหมดเลยงั้นรึ?
ลุคมองดูและเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเชนีย์ไม่ได้เล็งมาที่เขาอีกต่อไป
ชายคนนั้นดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีรูปร่างไม่ได้สมประกอบดีนัก ขาของเขาถูกยิงและกำลังซ่อนตัวอยู่หลังที่กำบัง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาตอบโต้อย่างรุนแรงทันทีเมื่อลุคยื่นหน้าเข้าไปที่ที่เขาหลบอยู่
ลุคโบกมือก่อนจะส่งสัญญาณไปที่เพื่อนร่วมงานชองเชนีย์เพื่อสั่งให้เขายิงไปตำแหน่งที่ลุคชี้ส่งสัญญาณ
เพื่อนร่วมงานของเชนีย์คนนี้เห็นสัญญาณมือของลุคก็เข้าใจและพยักหน้า จากนั้นเขาก็ยกปืนขึ้นและยิงสามนัดไปในทิศทางที่ลุคชี้
จากนั้นลุคเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อมของทั้งโกดังและพบว่ามีการเคลื่อนไหวจากสองตำแหน่งที่แตกต่างกัน
เนื่องด้วยตอนนี้ทัศวิสัยของลุคที่ดีขึ้นถึงขนาดที่ว่าสามารถสังเกตุการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ได้ในเสี้ยววิ เพราะว่าค่าสถานะความคล่องแคล่วที่ระดับ 20 แต้มนั้น ลุคไม่รอช้าใด ๆ เขาเล็งปืนและยิงสามนัดติดต่อกัน
“อ๊ากกกก..”
ตามมาด้วยเสียงคร่ำครวญที่น่าสังเวชพร้อมๆกับที่ศัตรูอีกหนึ่งคนได้ล้มลงไปอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเงียบลง
เพื่อนร่วมงานที่ได้รับบาดเจ็บของเชย์นีตกใจ “เชี่ยเอ้ย.. แม่งยิงหวังฆ่าอย่างเดียวเลยนี่หว่า”
ลุคไม่ได้สนใจคำบ่นของเพื่อนร่วมงานของเชนีย์แต่อย่างใด ลุคเริ่มเคลื่อนไหวต่ออย่างรวดเร็วอีกครั้งในทันที ลุคเดินไปรอบ ๆ ชั้นเชลฟ์วางของสองอันและกำลังจะมุ่งหน้าไปยังอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวบางอย่างที่ลุคสัมผัสได้เมื่อซักครู่
ทันใดก็มีร่างสีแดงกระโจนขึ้นไปเหนือเชลฟ์วางของจากนั้นก็กระโจนใส่ลุคอย่างรวดเร็วราวกับแมวป่า
ด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมของลุค เขารู้ว่าจะไม่สามารถยกปืนไปทางเป้าหมายได้ทันเวลา
ดังนั้นลุคจึงทิ้งปืน ก่อนที่จะเอนตัวไปข้างหลังทันทีและพยายามกระโดดถอยไปด้านหลัง
ร่างในชุดสีแดงไม่ได้ตระหนักถึงปฏิกิริยาที่รวดเร็วเช่นนี้จากลุค หลังจากที่ลุคถอยออกมาก้าวหนึ่งลุคก็เตะสวนเข้าไปที่หน้าท้องของหญิงชุดแกงอย่างเต็มที่ ทำให้ร่างของเธอลอยออกไปกระแทกเข้ากับชั้นวาง
ในที่สุดลุคก็มองเห็นร่างสีแดงอย่างชัดเจน พร้อมกับตะโกนขึ้นทันทีว่า“HPD! ฟรีซ!” ขณะเดียวกันก็ชักปืนพกและเล็งไปที่เธอ
ร่างสีแดงชะงักเพียงชั่วครู่ในช่วงเวลาไม่ถึงวินาที แต่ปืนของลุคก็เล็งไปที่หัวของเธอแล้ว
“แครอล มิร่า?” ลุคถามด้วยน้ำเสียงข่มขู่เล็กน้อย
ร่างสีแดงใช้มือกุมหน้าท้องของเธอไว้และหายใจอย่างติดขัดก่อนจะถามกลับ“ค - คุณเป็นตำรวจงั้นเหรอ”
เมื่อลุคเห็นการแจ้งเตือนของระบบเขาก็ดีใจมาก แต่ทว่าลุคยังควบคุมสีหน้าของเขาได้เป็นอย่างดี “ใช่ กรมตำรวจเวสต์ไซด์นักสืบลุคโคลสัน”
ผู้หญิงชุดแดงดูเหมือนจะลังเลขณะที่เธอถามว่า "คุณมาที่นี่เพื่อจับฉันด้วยหรอ?"
ลุคลังเลเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัว “เปล่า ผมมาที่นี่เพราะคดีลักลอบขนอาวุธ”
แครอลผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดและถามลุค“งั้น ... คุณจะปล่อยฉันไปใช่ไหม?”
ลุคนึกถึงสิ่งที่เขาเห็นในแฟ้มและได้ข้อสรุปในใจแล้วแต่เขายังคงเงียบ
ลุคใช้มือข้างที่ยังคงว่างอยู่ ชี้ไปในทิศทางที่เซลิน่ากำลังยืนอยู่
ลุคโบกมือและบอกให้คนนั้นรีบไป ความรู้สึกโล่งใจผุดขึ้นมาบนใบหน้าของแครอลขณะที่เธอพยักหน้าและกระซิบ“ขอบคุณ”
จากนั้นเธอก็รีบวิ่งหนีจากไปอย่างรวดเร็ว
การเตะของลุคทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าท้องของเธอถูกทุบด้วยค้อนขนาดมหึมา แต่โชคดีที่เธอมีความสามารถพิเศษที่ทำให้เธอฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เธอกำลังวิ่งไปทางเซลิน่า ปืนของลุคยังคงเล็งที่เธออยู่ เธอจึงไม่สามารถทำอะไรได้ เลยพักเรื่องหนีเอาไว้ก่อนและปล่อยให้เป็นไปตามที่ลุคต้องการ
ลุคส่งสัญญาณมือให้กับเซลิน่าเพื่อให้เธอก็เดินไปที่มุมหนึ่งอย่างเงียบๆ เพื่อเปิดเส้นทางให้แครอล
เซลิน่าคอยระวังหลังให้ลุคมาตลอดทั้งกระบวนการ และเธอยังป้องกันทางเดินที่พวกเขาเข้ามาอีกด้วย
แครอลหันหลังกลับมามองพวกเขาซักพักก่อนจะพยักหน้าขอบคุณ และจากไป
เมื่อลุคเห็นแครอลออกไปจากโกดังเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถอนหายใจก่อนที่จะมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในโกดังอีกครั้ง
ลุควิ่งไปหาเชย์นีและถามว่า“ทีมของคุณไปอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้? ผู้หญิงชุดแดงซุ่มโจมตีผมก่อนหน้านี้และหลังจากที่ผมเตะเธอไปครั้งหนึ่ง เธอก็เลือกที่จะวิ่งหนีไปอีกครั้ง .. คุณต้องรีบบอกเพื่อนร่วมงานของคุณให้ถอนตัวออกมาก่อน มิฉะนั้นผมเกรงว่าผมอาจฆ่าพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ”
เชย์นีเหงื่อแตกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขาได้เห็นทักษะในการต่อสู้ของลุคเป็นการส่วนตัว มันทำให้เขารู้สึกทึ่งและรู้สึกเหมือนเจอเรื่องเป็นไปไม่ได้อย่างงั้นแหล่ะ
เกือบทุกครั้งที่ลุคยิงปืนเกือบจะการันตีได้เลยว่าศัตรูจะตายอย่างแน่นอน และหากเพื่อนร่วมงานของเขาถูกยิงโดยไม่ได้ตั้งใจแน่นอนเลยว่าพวกเขาก็จะต้องตายเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะปฏิบัติภารกิจ แต่สถานที่แห่งนี้ก็ไม่เอื้ออำนวยเลยสำหรับพวกเขา
หลังจากลังเลเล็กน้อยเชย์นีได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของเขาผ่านทางวิทยุ ต่อมาลุคก็เริ่มได้ยินเสียงของทีมของSHIELDที่ขยับเข้ามาหาพวกเขาด้วยความรวดเร็ว
เชย์นีถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นสถานการณ์ที่ดีและมีการรวมกลุ่มเกิดขึ้น
มีสองคนที่เคลื่อนเข้าหาพวกเขาน่าจะเป็นทีมของชิลล์ และอีกคนไม่ขยับนั่นน่าจะเป็นชายที่น่าสงสารที่ขาเป็นรูอยู่ในขณะนี้
ลุคกระซิบกับเชนีย์ว่า “ฉันจะไปแบกเพื่อนร่วมงานที่บาดเจ็บของคุณก่อน บอกเขาด้วยว่าอย่ายิง”
เชนีย์พยักหน้าอย่างรวดเร็วก่อนพูดในวิทยุอีกครั้ง
สำหรับลุคเขารีบหาผู้บาดเจ็บและตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนๆ นั้นเห็นเขาชัดเจนก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้
เมื่อเขามาถึงเขาพูดว่า "ทีหลัง อย่าเล็งปืนมาที่ฉันอีกนะ แล้วก็อย่าส่งเสียง"
จากนั้นลุคก็ถือปืนไว้ในมือข้างหนึ่งก่อนจะลากผู้บาดเจ็บที่บริเวณปกคอเสื้อด้วยมืออีกข้าง เขาไม่สนใจว่าคน ๆ นั้นจะเจ็บหรือไม่
เป็นไปได้ว่า ลุคอาจทำให้ศัตรูตกใจกลัวจนไม่กล้าที่จะโผล่หน้าออกมาอีก แม้ว่าลุคจะลากคนบาดเจ็บมาเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล แต่ก็ไม่มีกระสุนปืนยิงใส่เขาแม้แต่นัดเดียว
.
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
ช่วงนี้จะช้าหน่อยนะครับผู้อ่านทั้งหลาย
แต่จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127