ตอนที่แล้วตอนที่ 184 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 186 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร (5)

ตอนที่ 185 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร (4)


ตอนที่ 185 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร (4)

“ไปตายซะ” ไนเรลอ้าปากกว้างเหมือนพยายามกัดบางอย่างด้วยแรงมหาศาล เขาใช้ความสามารถ [กัดทลายมิติ S] ในทันที เพราะการใช้การโจมตีปกติทั่วไปนั้น ไม่อาจจะสร้างความเสียหายขนาดใหญ่ให้กับจระเข้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงคิดจะใช้ความสามารถนี้ในการสร้างบาดแผลขนาดใหญ่

ฉึบ! กึก!

เสียงจากการกัดทลายมิติไม่ได้ดังรุนแรง แต่เนื้อขนาดใหญ่ภายในลำคอของจระเข้ยักษ์ระดับ 6 ถูกฉีกออกมา

โฮกกก!!!!

มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นั้นยิ่งทำให้เลือดไหลกระฉูดออกมาท่วมตัวของไนเรล

“ฮ่า ๆ ๆ ระดับ 6 แล้วไง ทุกสิ่งยอมมีจุดอ่อน ถึงแกจะมีเกล็ดที่เหมือนเกราะคงกระพัน แต่ภายในกลับอ่อนแอ เอาไปอีก กัดทลายมิติ!” เขาร้องตะโกนด้วยความบ้าคลั่ง ไม่รู้ว่าระหว่างเลือดของจระเข้ยักษ์จากแผลที่ลำคอหรือเลือดของเขาจากแผลขา อันไหนจะไหลออกมามากกว่ากัน

ไนเรลกัดเข้าไปอีกสองครั้งซ้ำแผลที่เดิมทำให้มันลึกมากกว่าเดิม แต่ขณะที่กำลังจะกัดครั้งที่สี่อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อในร่างของมันหดตัวและบีบเข้าหากันพร้อมกับพลังงานสายฟ้าที่ช็อตไปมา

‘มันคิดจะใช้ลำแสงยิงฉันออกไป’ เขามองไปที่ลำแสงที่ออกมาจากจุดที่มืดสุดของร่างกายมัน ไนเรลไม่รู้ว่าส่วนไหนของมันสร้างพลังงานที่ยิงลำแสง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จะทำลายมันยังไงจากในร่างกายมัน

แต่ตอนนี้เขาไม่สน เพราะเขาสามารถทำตามเป้าหมายได้แล้ว สร้างความเสียหายให้กับมัน ซึ่งต่อให้มันไม่ตายแต่อย่างน้อยก็บาดเจ็บสาหัส และเมื่อสัตว์กลายพันธุ์แบบมันบาดเจ็บสาหัสพวกมันจะถอยหนีทันที

แต่แน่นอนไนเรลยังคงมีอีกสิ่งที่จะฝากมัน เมล็ดต้นกาบหอยแครงปีศาจโผล่ขึ้นมาในมือของไนเรล เขาต่อยเข้าไปในแผลของมันจากนั้นก็อัดพลังงานใส่ในเมล็ดจนหมด

ขณะเดียวกันที่เมล็ดเข้าไปในแผลและเลือดลำแสงก็ยิงปะทะเข้ากับตัวของไนเรล “ปกป้องฉัน”

........

หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาทีไนเรลก็ถูกยิงออกมาจากปากพร้อมกับลำแสงลอยไปกระแทกกับตึกถล่มลงทับฝังไปอีกที

ส่วนเจ้าจระเข้มันกับยิงลำแสงได้เพียงแค่สองวิเท่านั้นก่อนที่มันจะกระอักเลือดออกมา แม้คอของมันจะไม่ทะลุเพราะเกล็ดที่แข็งแกร่งแต่มันก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ทุกคนได้กลิ่นเนื้อไหม้จากปากของมันอย่างชัดเจน ด้านในของจระเข้จะมีเยื่อบุผิวชนิดพิเศษที่จะผลิตสารป้องกันลำแสงไม่ให้ทำลายอวัยวะหรือเนื้อเยื่อด้านใน

แต่พอตรงนั้นเป็นแผลขนาดใหญ่ เยื่อบุผิวก็หายไปทำให้เนื้อบริเวณลำคอส่วนนั้นโดนเผาไหม้โดยลำแสง

“โอกาสมาถึงแล้ว เราต้องฆ่ามัน” มาคัสตะโกนสั่งฝั่งตัวเอง

แม็คน่าและซาบีน่าก็ลงมือเช่นกัน แม็คน่าที่อยู่ในร่างนกร๊อกร้องคำรามและโฉบจิกไปตามร่างของมันโดยเฉพาะดวงตา ส่วนซาบิน่าก็แช่แข็งขาของมันอย่างต่อเนื่องแม้มันจะทำลายน้ำแข็งและดิ้นไปมาตลอดแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้และจัดการมันอย่างต่อเนื่อง

มาคัสเคลื่อนที่ด้วยความเร็วลงมือโจมตีเช่นกัน พร้อมกับทหารอามิวกัสที่กู้ปืนใหญ่พลังงานได้และยิงถล่มเจ้าจระเข้ยักษ์

แต่สิ่งที่พวกเขาทำมันกลับไม่ได้เรียกความสนใจจากจระเข้ยักษ์ได้เลยเพราะ จระเข้เอาแต่ร้องและพยายามยิงสายฟ้าทั้งที่มันบาดเจ็บและยังตะกุยเกล็ดบริเวณลำคอไม่ยอมหยุดราวกับมันต้องการจะฉีกเนื้อตัวเองออก

“ฆ่ามัน สังหารสัตว์ตัวนั้นเพื่อคนของอามิวกัส”

“สังเวยชีวิตมันเพื่อชาวอามิวกัสที่ตาย”

การต่อสู้เป็นไปอย่างบ้าคลั่งทุกคนต่างตะโกนด่าทอมันทั้งยังโจมตีด้วยทุกอย่างที่มี ทหารอามิวกัสคนหนึ่งซึ่งเป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับ สีน้ำตาล ปาหอกด้วยพลังที่มีทั้งหมด หอกพุ่งเข้าไปที่เกล็ดบริเวณต้นขาของมัน แต่กลับไม่ได้สร้างบาดแผลแม้แต่น้อย แต่ชายคนนี้ก็หยิบหอกอีกเล่มโจมตีต่อแต่ในพริบตานั้นเท้าขนาดใหญ่ของจระเข้ยักษ์ที่ก้าวไปมาอย่างมั่วก็ ๆ ก็เหยียบตัวของชายคนนั้นจนจมดินตกตายทันที

ทหารชาวอามิวกัสโดนเหยียบตาย บ้างก็โดนทับจนบี้แบนอยู่ตลอดเวลาจากร่างขนาดใหญ่ของจระเข้ยักษ์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้หยุดโจมตีมัน เพราะทุกคนคิดว่าอีกแค่นิดเดียวมันก็ตาย ความหวังมักทำให้พวกเหล่ามดยอมสละตัวเองเพื่อไล่ผู้บุกรุกตัวใหญ่แบบนี้เสมอ แม้จะโดนเหยียบตายก็ตาม

แต่แล้วความโชคร้ายก็ตามมาทางพวกเขา เมื่อกองกำลังเผ่าเจ้าสมุทรที่นำโดยเผ่าเจ้าสมุทรระดับ 5 ตามมาช่วยจระเข้ระดับ 6 ขั้นต้นตัวนั้น

“สังหารมนุษย์ทั้งหมด ช่วยเจ้าทะเล” เสียงที่แหบแห้ง แต่ดังกังวานอย่างน่ากลัว จากหัวหน้าอสูรเผ่าเจ้าสมุทรดังขึ้นมา ส่วนเจ้าทะเลที่ว่านั้นหมายถึงจระเข้ระดับ 6 ตัวนั้นเอง

อ๊ากกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เสียงร้องคำรามดังออกมาจากเผ่าเจ้าสมุทรทั้งหมด พวกมันก็ตรงไปฉีกร่างของทหารอามิวกัสจากทางด้านหลังทันทีด้วยความโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่าคลั่งที่หลุดเข้าไปในฝูงแกะ

เผ่าเจ้าสมุทรแต่ละตัวนั้นมีระดับพลังไม่ต่ำกว่า ระดับ 3 หรือเทียบเท่ากับระดับ สีน้ำตาลของมนุษย์ ดังนั้นทหารอามิวกัสจึงรับมือกับพวกมันไม่ไหวเพราะพวกเขากว่าครึ่งเป็นทหารธรรมดา

“แย่แล้วพวกอสูรโจมตีจากด้านหลัง”

“ตั้งแนวป้องกันเร็ว”

“อ้า...ไม่...”

เพียงไม่กี่นาทีหลังการรอบโจมตี พวกมันก็ฆ่าทหารอามิวกัสไปเป็นจำนวนมาก ทหารอามิวกัสด้วยความกลัวว่าจะตกอยู่ในวงล้อมเผ่าเจ้าสมุทรก็พากันถอยหนีออกมาเท่าที่จะทำได้ แต่ก็เสียทหารไปเกือบ 7,000 คนกว่าจะตั้งแนวป้องกันได้

ศพของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยแผลเหวะหวะ รอยฉีกกัดหลายแห่ง บางที่ร่างโดนฟันแยกออกจากันไม่มีชิ้นดี

...

ตอนนี้ในสนามรบนั้นกลายเป็นสองฝั่งเผ่าเจ้าสมุทรที่กำลังไล่ฆ่าฝั่งทหารอามิวกัสและพวกมาคัส ส่วนจระเข้ยักษ์นั้นเหมือนจะเสียสติไปแล้ว มันฉีกเกล็ดที่คอของตัวเองออกอย่างโหดร้ายเลือดไหลพุ่งทะลักล่างล้มชักทันที

ชิ้นเนื้อที่ฉีกออกนั้นค่อย ๆ เติบโตกลายเป็นต้นกาบหอยแครงปีศาจระดับ 5 ขั้นต้นจำนวนกว่า 50 ต้นภายในชิ้นเนื้อ ทุกคนที่เห็นนั้นถึงกับสยดสยองไปในทันที ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมจระเข้ยักษ์ถึงได้คลุ้มคลั่งแบบนั้น

ตอนนี้จระเข้ระดับ 6 ขั้นต้นนอนแน่นิ่งไม่ขยับเลือดไหลออกมาจากลำคออย่างต่อเนื่อง ทุกคนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึงด้วยสีหน้าที่ต่างกันออกไป

หัวหน้ากองกำลังเผ่าเจ้าสมุทรตนนั้นตกใจกับการตายของเจ้าทะเลหรือก็คือจระเข้ยักษ์ระดับ 6 ขั้นต้น ส่วนทางฝั่งมนุษย์นั้นทุกคนก็ตะลึงและมากกว่านั้นคือความโลภที่แสดงออกมา

มนุษย์มีคริสตัลวิวัฒนาการ ยักษ์เถื่อนมีเขาเก็บพลังงาน สัตว์กลายพันธุ์ก็มีแก่นพลังงาน และแน่นอนว่าจระเข้ระดับ 6 ก็ต้องมีแก่นพลังงาน แก่นพลังงานระดับ 6 ชิ้นแรกที่มนุษย์อาจจะได้มาครอบครอง

มนุษย์ชั้นสูงในที่นี้ไม่มีใครโง่ พวกเขารู้ว่าใครก็ตามที่ได้มันมาอาจจะได้เป็นระดับ 6 ด้วยการดูดซับแก่นพลังงานชิ้นนี้ หลายคนขึ้นมาเป็นระดับ 5 ขั้นกลางแล้วจึงรู้ว่าแก่นพลังงานระดับต่ำนั้นไม่สามารถทำให้ระดับพลังงานพวกเขาพัฒนาขึ้นได้อีก และตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว

“มันตายแล้วไป ไปเอาคริสตัลระดับ 6 มาให้ได้” เสียงของมาคัสดังขึ้นมา แต่คนที่ตรงไปก่อนแล้วก็คือแม็คน่าที่บินตรงไปหาซากจระเข้ระดับ 6 ขั้นต้นตัวนั้น

“แม็คน่าถ้าเจ้าเก็บไว้คนเดียวฉันจะฆ่านาย” ซาบีน่าก็เลือดขึ้นหน้าร่างของเธอเคลื่อนที่ไปบนแผ่นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว

ทหารหลายคนฝั่งอามิวกัสมองหน้ากันในตอนแรกพวกมันก็กลัวเผ่าเจ้าสมุทรอยู่ แต่เมื่อรู้ว่าความสำคัญของแก่นพลังงานระดับ 6 ก็วิ่งตรงไปที่ซากจระเข้เช่นกันนั้นทำให้พวกเขาปะทะกับเผ่าเจ้าสมุทรอีกครั้ง

แต่ไม่ได้มีแค่กลุ่มคนของอามิวกัสที่คิดแบบนี้ มันยังมีอีกหนึ่งคนที่ทำตัวเป็นนกขมิ้นที่มองดูฝูงตั๊กแตนจับจั๊กจั่นกันอยู่

“มันถึงเวลาแล้ว เคเดนบอกคนของเราให้พร้อม หลังจากฉันส่งผู้สะกดเข้าไปนายพาคนไปเอาแก่นพลังงานชิ้นนั้นมาให้ได้” อาบิเกลพูดออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

‘ถ้าฉันเป็นระดับ 6 แม้แต่มนุษย์ชั้นสูงระดับ 5 ก็ไม่อาจจะต้านทานการสะกดได้ เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไนเรล ไอ้แก่เอิร์ลดาโก้ หรือใครก็ตาม ต้องยอมสยบแทบเท้าฉัน ฉันจะเป็นผู้สร้างยุคใหม่’

......

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย สังหารมันเพื่อนายของเรา”

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย สังหารมันเพื่อนายของเรา”

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย สังหารมันเพื่อนายของเรา”

กลุ่มมนุษย์หลายหมื่นคนที่ราวกับมดต่างวิ่งตรงมาที่ซากของจระเข้ระดับ 6 แต่ก่อนจะไปถึงต้องฝ่าเผ่าเจ้าสมุทรไปก่อน

ผู้โดนสะกดทั้งหมดต่างวิ่งไปที่เผ่าเจ้าสมุทรโดยไม่กลัวความตายเลยแม้แต่น้อย มีบางคนที่โดนฟันร่างขาดครึ่งก็ยังไม่หยุดที่จะใช้มือคลานเข้าไปหาเผ่าเจ้าสมุทร บางคนโดนกัดคอก็ไม่มีเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

แม้แต่ทหารที่อยู่รอบ ๆ ก็กลัวกับภาพตรงหน้า พวกเขาเห็นเด็กชายวิ่งเข้าใส่เผ่าเจ้าสมุทรไปตายทั้งอย่างนั้น

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

“คนพวกนี้เป็นอะไร ทำไมพวกเขาเหมือน...เหมือน...”

“เหมือนซอมบี้”

ทุกคนพึมพำออกมา แต่แล้วพวกเขาก็ตกเป็นเป้าของผู้โดนสะกดเช่นกัน

“เชี่ย พวกมันโจมตีพวกเราด้วย”

“หัวหน้าเอาไง”

“ฆ่ามัน ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นเด็กหรือคนแก่ปกป้องตัวเองก่อน”

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็มีทหารหลายคนที่ไม่กล้าฆ่าเด็ก โดยเฉพาะผู้สะกดบางคนที่เป็นแค่เด็กสาวอายุประมาณ 5 ขวบเท่านั้น แต่มันกลับกลายเป็นความผิดพลาดเพราะหลังจากนั้นผู้สะกดกว่า 20 คนก็รุมฉีกร่างของทหารคนนั้นไม่เหลือชิ้นดี

เหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมันโหดร้ายไม่ต่างจากฝูงซอมบี้ที่กัดกินมนุษย์เลยแม้แต่น้อย จะต่างกันก็แค่คนที่ควบคุมคนพวกนี้คืออาบิเกลที่มองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่ไยดี

......

ขณะเดียวกันกลุ่มของผู้พิทักษ์และเอวาก็กำลังยกซากตึกเพื่อค้นหาไนเรลอยู่ หลังจากหาสักพักก็เจอกับไนเรลที่ตอนนี้หายใจด้วยความอ่อนแรง

“เจอแล้วเจอท่าไนเรลแล้ว”

พวกเขารีบยกซากคานตึกขนาดใหญ่ที่หนักกว่า 2 ตันซึ่งทับร่างของไนเรลออกทันที

“ฉันไม่เป็นอะไร” ไนเรลบอกกับพวกเขา โดยเฉพาะเอวาที่ตาเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เธอพยายามกลั่นมันไว้เพราะรู้ว่าจะมาร้องไห้ไม่ได้

“ขาของนาย” เอวารีบช่วยพยุงไนเรลขึ้นมาพิ่งกับผนัง

“ไม่เป็นอะไรเดียวมันก็งอก” ไนเรลพูดขณะที่มองดูขาของตัวเอง

“เอาไงต่อเราต้องไปเอาแก่นพลังงานมาหรือไม่”

“มันแน่นอน ฉันไม่ยอมให้พวกบัดซบพวกนั้นเอามันไปได้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ใช่เวลา” ไนเรลรู้ว่าแก่นพลังงานระดับ 6 นั้นช่วยให้เขาขึ้นเป็นระดับ 6 ได้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขากำลังมองหาอาบิเกลอยู่

“เอวาช่วยบินขึ้นไปและมองหาตำแหน่งในสนามรบที่ผู้โดนสะกดน้อยอยู่ที่สุดที”

“อืม”

หลังจากนั้นเอวาก็บินขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไนเรลก็พยุงตัวเองขึ้น ในตอนนี้เองเท้าของเขาก็เหยียบซากเละ ๆ ดุเหมือนจะเป็นคนโชคร้ายที่โดนซากตึกทับตาย

ไนเรลยกเท้าออกจากซากคนผู้นั้นและกล่าว “โทษที”

เขาพยุงตัวเองอย่างยากลำบาก เขาพยายามทรงตัวเพื่อให้ยืนอยู่ได้ แต่เพราะเหลือขาข้างเดียวมันจึงดูตลกมาก

‘ทำไมไม่เป็นเเขนที่ขาด’ ในเมื่อเดินไม่สะดวกเขาจึงใช้ปีกด้านหลังในการบินไปช้า ๆ แทน

“ไปกันเถอะ เมื่อได้สัญญาณโจมตีให้สุดกำลัง ใครขวางฆ่ามันให้หมด” เสียงของไนเรลเย็นชาจนน่าขนลุก เขาถือว่าแกนพลังงานระดับ 6 นั้นเป็นของเขาดังนั้นใครก็ตามที่แยกของกินจากปากของเขาไนเรลจะกินมันเข้าไปด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด