ตอนที่แล้วบทที่ 90 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 92 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (4)

บทที่ 91 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (3)


“อืมมม…”

อีวานลืมตาขึ้นพร้อมกับเสียงครวญคราง

ในที่สุดเขาก็สามารถควบคุมมานาที่น่ารําคาญนั้นให้อยู่ภายใต้การควบคุมได้

เขายืนขึ้นด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง

เขานั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานดังนั้นกล้ามเนื้อของเขาจึงเจ็บมากจนแทบตาย

เขาไม่สามารถแม้แต่จะล้างตัวได้ดังนั้นในขณะนั้นเขาจึงมีกลิ่นตัวที่ค่อนข้างแย่

พูดง่ายๆคือเขาอยู่ในสภาพที่โทรมที่สุด

“ในที่สุดนายก็ตื่น!”

อีวานหันกลับมาและเห็นเฟรย์ยืนรออยู่ เขาจ้องเขาตาเบิกกว้าง

"มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?"

“หนึ่งสัปดาห์กับอีกสองวัน”

ความรู้สึกเกี่ยวกับเวลาของอีวานยุ่งเหยิง เขารู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเพียงสี่หรือห้าวันเท่านั้น

อีวานยืดกล้ามเนื้อที่ช้ำขณะมองเฟรย์ ไม่เหมือนกับเขาเฟรย์แต่งกายด้วยชุดที่เรียบร้อยและสะอาด

“ฉันเดาว่ามานาจากผลไม้ ไม่ได้สร้างปัญหาให้นายมากนัก”

“เออ...ฉันไม่ได้กินมัน”

"ฮะ?"

เมื่อเฟรย์หยิบผลไม้ออกมาและแสดงให้เขาเห็น

“นายไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่กับฉันนิ ฉันแน่ใจว่าฉันรู้สึกได้”

“นายพูดถูกแต่ฉันเสริมพลังด้วยตัวช่วยอื่นที่ไม่ใช่ผลไม้”

“…”

อีวานมองเฟรย์ด้วยสีหน้าแปลกๆ

แม้ว่าคำพูดของเฟรย์จะดูแปลกๆแต่กลับเป็นออร่าของเฟรย์ที่อีวานให้ความสำคัญมากกว่า

ออร่ารอบตัวของเฟรย์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับที่เขารู้สึกเมื่อสัปดาห์ก่อน

‘นี่…ทำไมถึงรู้สึกว่าเขากลายเป็นคนธรรมดาๆ’

จากออร่าของเขาที่ไม่ว่าใครๆก็ต้องคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่เคยร่ำเรียนเวทมนตร์มาก่อน แต่ความเป็นจริงเขากลับเป็นอาร์ชเมจที่ทรงพลัง

อีวานไม่สามารถรู้สึกถึงมานาใดๆจากตัวเฟรย์เลยซึ่งมันเหมือนกับอาจารย์ของเขา

และนั่นทำให้วิธีที่เขามองเฟรย์ดูแปลกประหลาดขึ้น

สุดท้ายเขาก็อดที่จะถามไม่ได้

“นาย…นายเพิ่งอัพระดับขึ้นหรือเปล่า?”

เฟรย์หัวเราะกับคำถามของเขา

"ใช่"

“งั้นนายก็เป็นวิซาร์ดระดับ 7 ดาวแล้วสินะตอนนี้…”

“8 ดาวต่างหาก!”

อีวานตกตะลึง แม้แต่เขาซึ่งเป็นนักรบเวทมนตร์ก็รู้ถึงความสำคัญของวิซาร์ดระดับ 8 ดาว

“นาย…นายอายุเท่าไหร่?”

“ฉันอายุยี่สิบ”

"หรืออาจจะยี่สิบเอ็ด?"

เฟรย์เอียงศีรษะขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง

อย่างไรก็ตามอีวานที่ได้ยินสิ่งนี้ถึงกับพูดไม่ออก

เขาโตขึ้นมากับคำชมว่าเขามีพรสวรรค์ แต่เฟรย์นั่นอยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากคำว่าพรสวรรค์อย่างสิ้นเชิง

‘…ไม่สิ’

‘พรสวรรค์’ ยังเป็นคำที่สามารถอธิบายความสามารถของเฟรย์ได้อยู่อีกหรือ?

แม้ว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นความวุ่นวายทางอารมณ์ของอีวาน แต่เฟรย์ก็พูดอย่างใจเย็น

“แล้วนายจะทำอะไรตอนนี้?”

"ฮะ?"

“แม้ว่าเราจะไม่บรรลุเป้าหมายจริงๆแต่เราก็ได้ฆ่าโอดินตามที่ริกิร้องขอเราทำภารกิจสำเร็จแล้ว”

“อืม…”

เฟรย์พูดถูก

โอดินตายไปแล้วและเขายังได้รับผลไม้จากฮรูฮิราลอีกด้วย

ลิลันด์เป็นหมู่บ้านที่น่าทึ่งแต่มันก็เป็นสถานที่ที่แย่ที่สุดสำหรับคนอย่างอีวาน

“ฉันจะทำสิ่งที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ต่อไป”

“ก่อนหน้านี้นายทำอะไรอยู่?”

"เออ...ใช่ ฉันกำลังมองหาอาวุธหลักสามชื้นของคาซาจิน”

“อาวุธหลัก…”

“ถุงมือของราชาเสือเข็มขัดยักษ์และสร้อยคอพายุของสามชิ้นของคาซาจิน”

อีวานเดาะลิ้นของเขาเบาๆ

“อาจารย์มีสร้อยคอพายุแต่เขาไม่รู้ว่าถุงมือของราชาเสือและเข็มขัดยักษ์อยู่ที่ไหน ฉันไม่ชอบพึ่งไอเทมสักเท่าไหร่แต่อาจารย์บอกฉันว่าฉันต้องหามันให้เจอถ้าฉันอยากจะเหนือกว่าคาซาจิน”

“อาจารย์?”

“อดีตผู้สืบทอดราชันนักรบเวทมนตร์ เธอน่ารังเกียจและก็แข็งแรง… แต่ส่วนใหญ่น่ารังเกียจมากกว่า”

อีวานทำสีหน้ารังเกียจ

ปฏิกิริยานี้ทำให้เฟรย์สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของอาจารย์ของอีวาน

"ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"

"ไม่รู้สิ จู่ๆเธอก็หายตัวไปเมื่อสามปีก่อนและไม่เหลืออะไรเลยนอกจากจดหมายที่บอกให้ฉันตามหาถุงมือของราชาเสือและเข็มขัดยักษ์ ฉันไม่มีอะไรทำดังนั้นฉันจึงตามหาสองสิ่งนั้นเรื่อยมา”

เฟรย์พยักหน้า

การค้นหาไอเทมทั้งสามชิ้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอีวาน

“ถ้านายต้องการเหนือกว่าคาซาจินนายจะต้องหาไอเทมทั้งสามชิ้นให้เจอ”

"ฮะ? เพื่ออะไร?"

“เพราะนายจะสามารถเห็นรูปแบบที่แท้จริงของหมัดราชาได้”

"จริงๆดิ? ไม่สิที่สำคัญไปกว่านั้น…นายรู้ได้ยังไง?”

ลองคิดดูเขายังไม่ได้ถามเลยว่าผู้ชายคนนี้เรียนรู้หมัดราชาได้อย่างไร

เขาลืมไปหลังจากเจอเหตุการณ์บ้าๆรั่วเข้ามาเป็นชุดเมื่อเร็วๆนี้

เฟรย์ไม่ได้เสแสร้งหาข้ออ้างและยักไหล่

“ก็เรียนมาจากสักแห่ง”

“นายไม่อยากบอก อืม...ฉันเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว”

อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของอีวานนั่นเท่เอามากๆเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เสแสร้งที่จะพูดอย่างนั้น - เขาไม่ได้อยากรู้เลยจริงๆ

และยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกว่าถ้าเฟรย์ไม่อยากบอกเขาเรื่องนี้มันต้องมีเหตุผล

อย่างไรก็ตามเขายังคงรู้สึกแปลกๆ

นั่นเป็นเพราะความรู้สึกที่ไว้เนื้อเชื่อใจนี่เกิดขึ้นเพียงกับอาจารย์ของเขาเท่านั่น

‘นี่เป็นเรื่องปกติเหรอ?’

สิ่งสำคัญที่เขาเลือกยอมรับก็คือเฟรย์นั้นแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ

“แล้วนายจะไปทำอะไรต่อเฟรย์?”

“ฉันจะเข้าร่วมการประชุมของเดมิก็อดกับริกิ”

"ฮะ? นายจะไปที่นั่นทำไม?”

"คือว่า…"

เฟรย์อธิบายสั้นๆว่าเขาได้ยินอะไรจากริกิเขายังเล่าบางสิ่งที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับตระกูลเบลค

นั่นเป็นเพราะเฟรย์มั่นใจว่าทัศนคติของอีวานจะไม่เปลี่ยนไปหลังจากที่เขารู้ว่าเขามาจากที่ไหน

“โอ้ว นายเป็นลูกผสมที่สามารถใช้ได้ทั้งมานาและพลังศักดิ์สิทธิ์ จริงดิ!”

“…”

ปฏิกิริยาของเขาเป็นไปอย่างที่เฟรย์คาดหวังแต่มันก็ไม่รู้สึกดีที่โดนอีวานเรียกว่าลูกผสม

เฟรย์พยักหน้าอย่างแข็งกร้าว

"ฉันเข้าใจ อย่างไรก็ตามมันอันตรายมาก”

“มันอันตรายแต่ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะไปตายที่นั่น อีกอย่างอีวานหลังจาก...”

เมื่อน้ำเสียงของเฟรย์จริงจังอีวานก็เอียงศีรษะอย่างสงสัย

"ฮะ?"

“การประชุมของเหล่าเซอร์เคิลทุกๆสองปีจะจัดขึ้นในอีกประมาณหนึ่งปีครึ่ง กล่าวกันว่าเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่สมาชิกคนสำคัญของเซอร์เคิลจะเข้าร่วมทุกคน”

"ใช่ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เขาได้ยินเรื่องนี้จากอาจารย์ของเขาสองสามครั้ง

แน่นอนว่าอีวานไม่เคยเข้าร่วมเลยและอาจารย์ของเขาก็หยุดเข้าร่วมหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์

“ฉันจะคว่ำมัน”

"…ฮะ? คว่ำ? คว่ำอะไร? ”

“ทุกๆอย่างที่เคยบอกไว้ เซอร์เคิลในปัจจุบันเป็นเหมือนคอกหมูที่เต็มไปด้วยพวกปศุสัตว์เหม็นเน่า”

เฟรย์หัวเราะสั้นๆ

"ฉันเห็นด้วยกับนาย ฉันจะแก้ไขมัน ฉันจะกำจัดกลิ่นและจัดระเบียบให้เหมาะสม…คิดว่าเป็นการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ก็ได้”

"ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่!"

อีวานดูตื่นเต้น หากเป็นคนอื่นที่พูดคำเหล่านั้นออกมาอีวานคงจะเพิกเฉยต่อคำเหล่านั้น แต่ถ้ามันมาจากปากของเฟรย์ มันก็แตกต่างออกไป

ผู้ชายคนนี้อาจจะแปลกไปนิดหน่อยแต่เขาไม่ใช่คนโง่

เมื่อเขาคิดเช่นนี้เขาก็หัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ทำไมนายถึงมาบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ละ?”

“เพราะนายจะช่วยฉันแน่…”

"ช่วย…?"

การแสดงออกของอีวานกลายเป็นความภาคภูมิใจเล็กน้อยและเมื่อเห็นเช่นนั้นเฟรย์จึงตัดสินใจเปลี่ยนคำพูดเล็กน้อย

“…สร้างโอกาส”

ไวยากรณ์กลายเป็นเรื่องแปลกไปเล็กน้อย แต่เขาไม่สนใจ ความหมายต่างหากที่สำคัญ

เมื่อเขาพูดอย่างนั้นเฟรย์ก็ยื่นมือไปหาอีวาน

“อื้อหือ!”

อีวานไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้อีกต่อไปและระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขจนเสียงดังลั่นไปทั่วห้อง

เขาจับมือเฟรย์แน่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า

“จากนี่อีกหนึ่งปีครึ่ง”

“จากนี่อีกหนึ่งปีครึ่ง”

อีวานอดไม่ได้ที่จะคิด

‘มันจะต้องวุ่นวายแน่’

เขารอคอยให้วันนั่นมาถึงและไม่รู้ว่าจะอดทนรอได้ไหม

* * *

อีวานบอกว่าเขากำลังจะเดินทางไปทางใต้

“ซิลคิดประเทศแห่งทะเลทราย ตามที่อาจารย์บอกว่าเป็นสถานที่สุดท้ายที่พบร่องรอยของคาซาจิน”

“มันอยู่ในทะเลทรายอามากันหรือเปล่า?”

"ถูกตัอง"

เขารู้เพราะได้ยินเรื่องการตายของคาซาจินจากฮรูฮิราล

“ฉันจะพยายามค้นหาร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้ที่นั่น ไม่น่าจะเป็นที่ๆน่าเบื่อจนเกินไป ฉันได้ยินมาว่าทะเลทรายนั้นเต็มไปด้วยนักรบที่แข็งแกร่ง”

เฟรย์พยักหน้า

"ฉันขอให้นายโชคดี"

“ขอบคุณ”

และด้วยเหตุนี้อีวานก็จากไป

ไซแอ็กซ์เป็นคนนำทางเขาออกจากป่าใหญ่

ดูเหมือนว่าเธอจะปล่อยวางความรู้สึกแย่ๆที่มีต่ออีวานได้แล้ว แถมแววตาของเธอยังเต็มไปด้วยความเคารพอย่างชัดเจนขณะที่เธอมองเขา

ทัศนคติของเธอเป็นที่เข้าใจได้เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในฮีโร่ที่ช่วยหมู่บ้านของเธอ

เมื่อคิดว่าพวกเขาดูเข้ากันได้ดีกว่าที่เขาคาดไว้เฟรย์จึงพูดเบาๆ

"สโนว์"

“ในขณะที่ฉันสวมหน้ากากเรียกฉันว่าซอร์ดน่าเถอะ”

สโนว์โปรยปรายลงมาจากด้านบนของเขา จากนั้นเธอก็หันไปมองเฟรย์ด้วยความสับสนที่ปรากฏในดวงตาของเธอ

“นายรู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ตรงนั่น? ฉันไม่ได้เปิดเผยตัวเองเหมือนครั้งที่แล้วนะและฉันก็ค่อนข้างมั่นใจในความสามารถในการพรางตัว”

“เป็นเพราะตอนนี้ฉันเป็นพ่อมดระดับ 8 ดาวแล้วยังไงละ”

จริงๆเป็นเพราะเขากลายเป็นพ่อมดระดับ 8 ดาว

การแสดงออกของสโนว์เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเธอจำคำอธิบายที่ไซแอ็กซ์บอกกับเธอได้

“…อะไรแบบนั้นเป็นไปได้หากไปถึงระดับ 8 ดาว?”

"ถูกตัอง แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฉันเรียกคุณ”

“…”

“คุณช่วยพาฉันไปพบกับริกิได้ไหม ฉันมีสิ่งที่ต้องคุยกับเขา”

“เข้าใจแล้ว”

จากนั้นเฟรย์และสโนว์ก็มุ่งหน้าไปที่กระท่อมของริกิอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เฟรย์ได้ข้ามขั้นตอนการวาดวงเวทย์ไปโดยสิ้นเชิงโดยร่ายวาร์ปโดยตรง ใช้เวลาในการร่ายเพียงเล็กน้อยและคาถานั้นให้ความรู้สึกเบาเหมือนกับคาถาบลิ้ง

ในขณะที่กระท่อมของริกิอยู่ในระยะมองเห็น

[อย่าเพิ่งเข้ามา!]

“…!”

มันคือเสียงของริกิ

การแสดงออกของเฟรย์และสโนว์เปลี่ยนไปทันที

[ซ่อนตัว ! ด่วน!]

การได้ยินน้ำเสียงเร่งด่วนของริกิเป็นครั้งแรกก็เพียงพอที่จะอธิบายความร้ายแรงของสถานการณ์ได้

พวกเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เฟรย์และสโนว์สบตากันครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะกระจัดกระจายไปยังทั้งสองด้านและซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้

ในขณะเดียวกันประตูก็เปิดออก

“…”

เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงู

เฟรย์สั่นเล็กน้อยเมื่อสบดวงตาสีเหลืองสดใสของเธอ

'เดมิก็อด!'

ความกดดันที่เธอแผ่ออกมาไม่รุนแรงเหมือนกับนอซด็อกหรือริกิซึ่งหมายความว่าเธอไม่ใช่อะโพคาลิปส์

อย่างไรก็ตามเธอยังคงเป็นเดมิก็อดดังนั้นเขาจึงต้องเฝ้าระวัง

กรึบ

เธอแลบลิ้นยาวออกมา

“มันแปลกจัง ~ ฉันแน่ใจว่าฉันรู้สึกถึงคลื่นมานา ~”

เธอมีน้ำเสียงแปลกๆซึ่งทำให้เสียงของเธอฟังยาก

ริกิที่เดินตามเธอพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“คุณคงเข้าใจผิดไปแล้วไฮดรา”

“อย่างนั้นเหรอ ~ อืม ~”

ผู้หญิงที่ชื่อไฮดราเอียงศีรษะไปด้านข้าง

ตอนนั้นเอง

“…”

สายตาของเธอหันไปยังจุดที่สโนว์ซ่อนตัวอยู่

“อืม”

สีหน้าของเธอเริ่มแปลก

อีกครั้งที่เธอแลบลิ้นออกมาและกระดิกสองสามครั้ง

จากนั้นเธอก็เริ่มเดินไปยังตำแหน่งที่สโนว์ซ่อนตัวอยู่

“…”

สีหน้าของเฟรย์แข็งกร้าว

‘เธอสังเกตเห็นพลังศักดิ์สิทธิ์ของฉันหรอ?’

การแสดงออกของสโนว์ดูจริงจังมากขึ้น

มือของเธอจับด้ามดาบและเฝ้าดูขณะที่ไฮดราเดินเข้าไปหาเธอด้วยความวิตกกังวล

“จะไปไหนนะไฮดรา?”

อย่างไรก็ตามริกิถามเธอในนาทีสุดท้าย

จากนั้นไฮดราก็เอียงศีรษะอีกครั้ง

“ฉันรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างตรงนั่น ~”

“…อัครสาวกของฉันเอง”

“หืม? จริงหรือ?”

"ถูกตัอง และฉันไม่มีเจตนาที่จะแสดงให้ใครเห็นว่าอัครสาวกของฉันมีหน้าตาเป็นอย่างไรจนกว่าจะเปิดเผยตัวตนของผู้ทรยศ”

แม้ว่าน้ำเสียงของริกิจะค่อนข้างคมชัด แต่ไฮดราก็ยังคงแสดงท่าทีไร้กังวล

“อืม ใช่ ถูกตัอง ลอร์ดบอกเช่นนั้นเช่นกัน อัตลักษณ์ของอัครสาวกของพวกเราควรถูกซ่อน”

ตอนนั้นเอง

จู่ๆไฮดราก็เริ่มหัวเราะคิกคัก

“ฮิฮิ! ฮิฮิ! … แต่มันตลกจริงๆ”

“ตลกอะไร?”

“อันที่จริงฉันเห็นพวกเขามาสักพักแล้ว เพราะฉันมีตาเยอะ…มากกว่าคุณถึง 9 เท่า ดังนั้นฉันจึงไม่พลาด ~”

ไฮดราหัวเราะอีกรอบ

“ริกิอัครสาวกของคุณเป็นเอลฟ์? ฮะ ลองคิดดูสิเหยื่อที่นอซด็อกเสียไปเมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นเอ..”

ในขณะนั้นการแสดงออกของริกิซึ่งรู้สึกอายเพียงเล็กน้อยจมลงไปเหมือนก้อนหินในแม่น้ำ

จู่ๆ

ชิก

จู่ๆหัวของไฮดราลอยขึ้นไปในอากาศ เลือดสีเขียวได้พุ่งออกมาราวกับน้ำพุ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด