Ep.970 - กรงเล็บใหญ่ในรอยร้าว

Ep.970 - กรงเล็บใหญ่ในรอยร้าว

ตัวตนทรงอำนาจของเผ่านกปีกดำถูกเงาแห่งความตายหลายตนเข้าพัวพัน พลังงานในร่างมันถูกสูบออกมาใช้อย่างรวดเร็ว มองไปยังฉินเฟิงที่อยู่ไม่ไกล มันสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น แต่ไม่สามารถรับรู้ผ่านพลังสมาธิได้เลย ถึงจุดนี้อดสูดหายใจลึกไม่ได้

ดูเหมือนวิธีนี้ จะไม่สามารถใช้กับฉินเฟิงได้ อย่างไรก็ตาม … สำหรับคนอื่นๆไม่น่าจะมีปัญหา!

คู่ปีกของเผ่านกปีกดำกระพริบวาบ ความเร็วเพิ่มขึ้น ถลาลงใกล้กับพื้นดิน มุ่งหน้าย้อนกลับไป

มนุษย์สามคนที่เคยรุมมนุษย์หมาป่าก่อนหน้านี้ ทั้งหมดล้วนอยู่ในทิศทางนั้น พวกเขาพยายามรับมือกับการโจมตีของเงาแห่งความตาย

เดิมก็ยากจะรับมืออยู่แล้ว แต่หลังจากเผ่านกปีกดำโยนภาระมาเพิ่มให้ สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลงทันที

มนุษย์หมาป่าเคยต่อสู้กับฉินเฟิงมาก่อน จากนั้นต้องทานรับการรุมโจมตีจากสามมนุษย์ ทำให้พลังงานในร่างเขาเหือดหายไปมากกว่าคนอื่นๆ จนเกือบจะถึงจุดวิกฤต

ณ เวลานั้น มันเลยกลายเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป

“อ๊ากกก!” มนุษย์หมาป่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม เมื่อสามารถปีนป่ายถึงผู้ใช้พลังเลเวล S ย่อมมีอีกหลายวิธีที่จะเอาชีวิตรอด รูปลักษณ์มนุษย์ของมัน เริ่มมีขนผุดขึ้นตามตัว จากนั้นกลายร่างเป็นหมาป่ายักษ์

ในสภาวะนี้ ไม่ว่าจะเป็นความว่องไวหรือความแข็งแกร่งล้วนเพิ่มขึ้น  มนุษย์หมาป่าต้องการฝ่าวงล้อมเพื่อออกไปจากที่นี่

แต่ก็นั่นแหละ ในสถานการณ์เช่นนี้ คนอื่นๆก็คิดแบบเดียวกับมัน ใครๆก็อยากออกไปกันทั้งนั้น แต่ไม่มีใครสามารถทำได้

เงาแห่งความตายไม่มีผลใดๆต่อฝั่งฉินเฟิง แต่สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล S คนอื่นๆ การดำรงอยู่ของมัน เป็นไปได้สูงที่จะพรากชีวิตพวกเขา!

ในระยะเวลาอันสั้น เลเวล S หลายคนเริ่มได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันสีหน้าของพวกเขาซีดลง เหมือนกับว่าโดนใครมาดูดเลือดไป

นี่เรียกว่าการสูญเสียพลังชีวิต อันเกิดจากการรุกรานของรูนมืด

หนึ่งในกลุ่มมนุษย์ ในที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากเงาแห่งความตายได้อีกต่อไป เขาล้มพับลงกับพื้น พร้อมส่งเสียงกรีดร้องน่าสังเวช

ในจังหวะนั้นร่างของฉินเฟิงเร่งฝีเท้าเข้าหาทันที มาหยุดยืนข้างๆฝ่ายตรงข้าม

“ไหนๆก็ต้องตายอยู่แล้ว งั้นฉันจะทำให้นายตายอย่างสงบเอง!” ฉินเฟิงเหยียดมือ เปลวไฟอันน่าหวาดกลัวปกคลุมผู้ใช้พลังคนนั้นทันที

“ไม่! ได้โปรดอย่า!” ค่อยๆถูกสูบกลืนพลังชีวิตอย่างน้อยก็ยังดีกว่าตายในทันที อันที่จริงชายคนนี้ยังมีไพ่ในมือเขา ปัจจุบันเพียงอ่อนแอลงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นผลให้การโจมตีส่งๆของฉินเฟิง สามารถเก็บเกี่ยวชีวิตได้โดยตรง

ตายโดยการถูกดูดซับพลังชีวิต หรือถูกเปลวเพลิงแผดเผา ไม่ทราบว่าอันไหนเจ็บปวดกว่ากัน

แต่ฉินเฟิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ จะยังไงก็ช่าง สุดท้ายจุดจบก็เหมือนกันอยู่ดี เขากางมือออก รวบรวมอุปกรณ์รูนมิติของอีกฝ่ายมา รวมไปถึงแร่ที่อีกฝ่ายเพิ่งขุดมาได้เมื่อเร็วๆนี้

น่าเสียดาย ที่อีกฝ่ายมีสถานะเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ทักษะลับกลืนดาราของฉินเฟิงระเบิดออก ดูดซับกำลังภายในของคู่ต่อสู้ ถ่ายโอนไปขยายขนาดของดวงดารา แต่ยังห่างไกลจากความรู้สึกของการก้าวสู่เลเวล S1 อีกมากนัก

ตอนนี้ --สิ่งที่ฉินเฟิงต้องการยกระดับคือพลังสมาธิ!

สายตาของฉินเฟิงกวาดสำรวจอีกรอบ เฝ้ารอให้เลเวล S คนที่สองตายลง

ไม่นาน มนุษย์หมาป่าก็ไม่สามารถแบกรับการโจมตีได้อีกต่อไป

“พลังชีวิตยังไม่ลดลง ถ้าฉันเป็นคนลงมือสังหารมัน บางทีอาจได้รับพลังงานจากเลือดเนื้อของมันก็ได้!”

ฉินเฟิงคิด กริซในมือเขาฟุ้งไปด้วยจิตสังหารอันน่าประหลาด จากนั้นถูกถ่ายเทกำลังภายในลงไป ก่อให้เกิดกลิ่นอายรุนแรงที่เพิกเฉยต่อมิติขึ้น คมมีดหายวับ ปรากฏขึ้นอีกที ก็มาอยู่ต่อหน้าต่อตามนุษย์หมาป่าแล้ว!

ฟัฟฟฟฟ!

รังสีเรืองรองสาดทะลุดวงตาของฝ่ายตรงข้าม ช่วยเร่งความเร็วในการตายของมัน

“อ๊ากกกก!” มนุษย์หมาป่าส่งเสียงโวยวายหนวกหู ดวงตาที่ชุ่มเลือดของมันกลายเป็นรูใหญ่ อักษรรูนมืดเข้าแทรกซึม ภายใต้การกัดกร่อน ไม่นานกลายสภาพเป็นหนังหุ้มกระดูก

“เผ่าฮาสของฉันจะไม่มีวันรามือจากผู้ที่สังหารคนของพวกเขา!”

มนุษย์หมาป่าถ่ายทอดพลังสมาธิออกมาอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นกระอักเลือดคำโต เลือดนี้มีสีเขียวขุ่น ฉินเฟิงพยายามหลบเลี่ยงมัน แต่กลับพบว่าเลือดนี้ไม่ต่างจากหนอนไชกระดูก ล็อคร่างของเขาไว้ เขาไปไหนมันเคลื่อนตาม

หึ่ง!

โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงกางออกทันที สกัดกั้นเลือดนี้

แปะ!

เลือดไหลลงตามมุมโค้งของโล่ปราณกำลังภายใน เจาะทะลุไม่สำเร็จ ทว่าสีหน้าของฉินเฟิงกลับเปลี่ยนแปลงไป เขาค้นพบว่ากำลังภายในของตน ปรากฏกลิ่นอายของสีเขียวนี้เพิ่มเข้ามาอีกเล็กน้อย

“เลือดแห่งความชิงชัง? พลังของมันวิเศษจริงๆ!” ฉินเฟิงรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร

บางเผ่าพันธุ์ก็มีวิธีเช่นนี้ พวกมันจะทิ้งเครื่องหมายไว้บนร่างศัตรูก่อนตาย ฝากฝังให้คนเผ่าเดียวกันล้างแค้นให้ตน

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่ได้ตื่นตระหนก เจ้าสิ่งนี้อย่างน้อยต้องถูกค้นพบเสียก่อน จึงจะถูกไล่ล่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจมัน

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า สังหารมนุษย์หมาป่าที่กำลังจะตาย หัวของหมาป่ายักษ์ถูกผ่าครึ่ง เลือดสดๆทะลักออกมา

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ฉินเฟิงดูดซับพลังจากเลือดเนื้อของฝ่ายตรงข้าม น่าเสียดายที่รอบข้างมีเงาแห่งความตายและกลิ่นอายของทวีปบาฮามุทคอยแก่งแย่ง ทำให้ฉินเฟิงดูดซับมันได้ไม่มากนัก ร่างไร้วิญญาณสลายเป็นฝุ่นผงทันที

หลังจากหยิบอุปกรณ์รูนมิติจากบนพื้น ฉินเฟิงก็หายวับไปอีกครั้ง

ทุกคนในที่นี้ล้วนเป็นเลเวล S พวกเขาไม่ทราบว่าฉินเฟิงสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างไร ฉินเฟิงไม่เพียงหยิบฉวยสิ่งของและคร่าสองชีวิตติดต่อกัน  แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ หลังจากฉินเฟิงสังหารคนเหล่านั้นแล้ว เงาแห่งความตายกลับไม่มาหาเขา ราวกับพวกมันไม่สนใจ หันไปโจมตีผู้อื่นแทน

สถานการณ์นี้ทำให้คนอื่นๆต้องทานรับแรงกดดันที่มากขึ้น! มากขึ้นเรื่อยๆ!

“มนุษย์! ทำเช่นนี้ สุดท้ายแกก็จะไม่รอดเช่นกัน!” ตัวตนทรงอำนาจเผ่านกปีกดำตะโกนผ่านพลังสมาธิ

“ไม่หรอก ฉันจะรอดออกไป ไม่ใช่แค่นั้น แต่ชีวิตฉันจะดีขึ้นอีกด้วย! พวกนายก็พยายามปกป้องตัวเองให้ดีเถอะ!” ฉินเฟิงตอบกลับด้วยความสุขผ่านพลังสมาธิ

“พี่น้องเอ๋ย ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย พวกเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน ตอนแรกพวกเขาก็ไม่ได้โจมตีนาย!”

“ใช่ อย่าฆ่าพวกเรา!”

ในบรรดากลุ่มมนุษย์ทั้งสามคน มีคนหนึ่งตายไปแล้ว อีกสองคนที่เหลือพยายามสนทนาเพื่อขอความเมตตาจากฉินเฟิง

เมื่อเผ่านกปีกดำเห็นฉากนี้ ใบหน้าของมันก็ทะมึนลง

“พวกแกโง่รึไง? ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งสังหารมนุษย์ไปเมื่อครู่หรอกหรือ? ทุกคนจงรวมพลังกัน รุมสังหารเขา จากนั้นค่อยหลบหนี!”

ฉินเฟิงกวาดสายตามองคนเหล่านั้นอย่างไม่ใส่ใจ และพบว่าสายตาของคนพวกนั้นสว่างวาบ เอนเอียงไปกับความเห็นเมื่อครู่

การแดสงออกของพันธมิตรองค์กรมืด บางครั้งก็ซื่อตรงจนดูน่ารัก!

ในทุ่งล่า เมื่อเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ไม่ต้องกล่าวถึงพันธมิตรองค์กรมืด ต่อให้เป็นพันธมิตรมนุษย์ก็ฆ่ากันเอง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีคนอีกมาก

ฉินเฟิงไม่ละโมบในผลประโยชน์ของผู้อื่น นั่นเพราะเขามักได้เป็นคนแรกที่กัดก้อนเค้กเสมอ ขณะที่คนอื่นๆ เมื่อไม่ได้กินอิ่ม ก็อิจฉาตาร้อน

คนที่โดดเด่น มักตกเป็นเป้าอิจฉาตลอดเลยสิน่า!

เผ่านกปีกดำสยายปีกกว้าง ก่อนหุบลงแนบลำตัว พุ่งแหวกอากาศตรงเข้าสังหารฉินเฟิง

คนอื่นๆเมื่อเห็นฉากนี้ ก็กระโจนเข้าร่วมวงทันที แม้จะไม่ได้ทุ่มโจมตีด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่ในฐานะผู้ใช้พลังเลเวล S พลังที่ปลดปล่อยออกมา ย่อมมิใช่เล็กจ้อย!

ในช่วงเวลานั้นเอง ร่างของฉินเฟิงจู่ๆก็ชืดจางไป จากนั้นในความว่างเปล่า หญิงสาวคนหนึ่งที่มีสีชืดจางเฉกเช่นเดียวกันปรากฏออกมา

เป็นไป๋หลี!

ไป๋หลีร่ายเทคนิคพื้นที่มิติ ดึงฉินเฟิงเข้าไปข้างใน

วินาทีต่อมา หลากหลายการโจมตีก็ระเบิดลงในตำแหน่งที่ฉินเฟิงเคยยืนอยู่

ตูม ตูม ตูมมมมมมมม!

แม้เป็นแค่การโจมตีไม่เต็มกำลังของเลเวล S แต่ยามระเบิดออกกลับสร้างรอยปริร้าวขนาดใหญ่บนพื้นดิน

ครืน ครืน ครืนนนนน!

ลึกลงไปใต้พื้นดิน บางสิ่งบางอย่างคล้ายถูกปลุกให้ตื่นขึ้น กรงเล็บแหลมคมสีดำขนาดใหญ่เหยียดยื่นออกมาจากรอยร้าว