ตอนที่แล้วEp.959 - คืนกลับสามเทคนิค
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.961 - ประจบซึ่งหน้า?

Ep.960 - จะไม่มีภูเขาดอกไม้ไฟอีกต่อไป


Ep.960 - จะไม่มีภูเขาดอกไม้ไฟอีกต่อไป

เปรี๊ยะ!

โล่แสงเบื้องหน้าตาปีศาจเกิดรอยปริร้าว เพลิงมรณะดั่งอสรพิษเลื้อยเข้าไปตามช่องว่างที่เปิดออก ฉกลงบนร่างของตาปีศาจอย่างโหดเหี้ยม

เสื้อคลุมสีขาวราวหิมะที่มีแสงสีทองเปล่งประกาย ลุกไหม้ทันที แรงระเบิดส่งตาปีศาจปลิวไกลเป็นพันเมตร กระเด็นไปถึงเขาอีกลูกหนึ่ง ถึงจุดนั้นค่อยสามารถสลายแรงปะทะได้อย่างสมบูรณ์

ชั่วเวลานี้ สรรพเสียงโดยรอบกลายเป็นเงียบงัน

ชนิดที่ว่าหูของทุกคนสามารถได้ยินถึงเสียงหายใจของคนอื่นๆ

สายตาทุกคู่เบนมองไปยังตำแหน่งห่างไกล ตาปีศาจในตอนนี้ ดำสนิทไปทั้งตัว ความองอาจหล่อเหลาในอดีตมลายหายสิ้น

พลังสมาธิของฉินเฟิง ถ่ายทอดน้ำเสียงตามไป

“ท่านตาปีศาจ สามเทคนิคนี้มีรสชาติอย่างไรบ้าง? พอจะเทียบกับลำแสงจากตาสวรรค์คราวก่อนของคุณได้ไหม?”

สิ้นเสียงฉินเฟิง การแสดงออกทางสีหน้าของตาปีศาจก็เปลี่ยนไป คล้ายไม่สามารถฝืนทนได้อีกแล้ว ลำคอเกิดเสียงครวญครางอู้อี้ ปรากฏเลือดซึมออกมาเป็นสายจากมุมปากเขา

แม้จักทราบว่าผลลัพธ์ในครั้งนี้ตนพ่ายแพ้ แต่ตาปีศาจยังต้องการรักษาภาพลักษ์ทรงพลังสุดท้ายของตนเอาไว้ แต่ท้ายสุดก็กลั้นไม่อยู่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันฉุกละหุกเกินไป ตาปีศาจถูกโจมตีด้วยอบิลิตี้เลเวล S สามเทคนิคติดต่อกัน โดนขนาดนี้ยากนักที่จะป้องกันไหว

“ประเสริฐ! ฉินเฟิง ประเสริฐยิ่ง!!” จิตสังหารฉายวาบในแววตาของตาปีศาจ

แม้ถูกคุกคาม แต่ฉินเฟิงไม่ยินยอมอ่อนข้อ ในสายตาของเขา สามารถเห็นได้ว่าแสงบนดวงตาของตาปีศาจมัวหมองลงแล้ว บ่งบอกชัดว่า ตัวตนทรงอำนาจที่ไม่เคยถูกผู้ใดโค่นบัลลังก์ในอดีต ในที่สุดถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าของฉินเฟิง

“ฉินเฟิง! เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะจำมันไว้!” ตาปีศาจกัดฟันกล่าว

ฉินเฟิงเชิดหน้า ตอบด้วยท่าทีเฉยเมยยิ่ง “ด้วยความยินดี แล้วก็อย่าลืมจำอีกเรื่อง หากวันใดวันหนึ่งคุณต้องการฆ่าผม สามารถบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ!”

ยิ่งได้ฟัง ความเกลียดชังยิ่งสะท้อนในแววตาของตาปีศาจ ทุกถ้อยคำของฉินเฟิงคล้ายตอกย้ำว่า ‘ถ้าแกไม่มาหาเรื่องฉันตั้งแต่แรก วันนี้คงไม่ถูกตบหน้าจนเสียศักดิ์ศรีเช่นนี้’

ณ จุดนี้ ทั้งสองได้สร้างความหนี้แค้นครั้งใหญ่แก่กันแล้ว เช่นเดียวกับฉินเฟิงและเหอเทียนสิงในอดีต

แต่ตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมรบเต็มที่อีกต่อไป ดังนั้นเอาไว้เมื่อมีโอกาส ค่อยหาจังหวะเข้าเข่นฆ่ากันอีกครั้ง

แม้ในใจของตาปีศาจจะรู้สึกไม่ยินยอม แต่สุดท้ายแปลงกายเป็นแสงจรัส สว่างวาบหายวับไป

หากยังรั้งอยู่ต่อ น่ากลัวว่าศัตรูบางคนที่ได้ข่าวว่าตาปีศาจบาดเจ็บ จะออกมาตามล่าเขา ฝืนสู้ตอนนี้มันได้ไม่คุ้มเสีย

ตัวตนทรงอำนาจที่เหลือ จนถึงตอนนี้ก็ยังตกใจไม่หาย

เป็นเพราะการโจมตีสามครั้งของฉินเฟิง ไล่ไปจนตาปีศาจมิอาจเก็บงำอาการบาดเจ็บ  เปล่งวาจาทิ้งท้าย ตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ แถมตอนนี้ ยังเป็นตาปีศาจที่หนีไปอีก

เหตุการณ์พลิกผันตรงหน้า ทำให้ยากนักที่พวกเขาจะทำใจเชื่อ

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่สนใจ หันมาเรียกฮั่นกวงหมิง

“ท่านผู้ใหญ่ฮั่น เชิญคุณมาปิดรอยแยกนี้ต่อเถอะ! ผมก็จะช่วยด้วยอีกแรง ส่วนเรื่องที่ว่ารอยแยกนี้จะถูกเปิดขึ้นอีกในอนาคตโดยผู้ไม่หวังดีหรือไม่ ไว้ค่อยว่ากันในภายหลัง แต่แค่สั่งคนให้จับตาดูมันตลอดเวลาก็น่าจะพอแล้ว”

คำพูดของฉินเฟิง ดึงสายตาของคนเหล่านี้กลับมา

“อะ-โอ้! เป็นความคิดที่ไม่เลว ส่งคำสั่งออกไปว่าให้ดาวเทียมเฝ้าระวังที่นี่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้ตาปีศาจกลับมาทำลาย น่าเสียดายที่อาณาเขตนี้เป็นของพันธมิตรวู้ดแลนด์ เราไม่สามารถส่งกองทหารมารักษาการณ์ได้”

“ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะตราบใดที่ไม่ใช่ผู้ใช้พลังเลเวล S ขึ้นไป ต่อให้มีใครมาขุดที่นี่ สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถไขว่คว้าสิ่งที่ตนปรารถนาได้อยู่ดี ส่วนเลเวล S แม้สามารถขุดได้ แต่พวกเขาจะไม่มีทางรุกล้ำ ลงลึกไปถึงมัน เว้นแต่จะยอมทุ่มทุนมหาศาล แต่ที่ต้องให้ความสนใจในตอนนี้ก็คือ พวกเราต้องรีบหยุดการรั่วไหลของพลังงาน” ฉินเฟิงกล่าว

คำพูดนี้แม้เอ่ยลอยๆ แต่ผู้ฟังกลับตีความ และเข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ในประโยคได้อย่างชัดเจน ใบหน้าของโอโบรันที่อยู่ข้างๆเริ่มแข็งกระด้าง

“ในเมื่อหมดเรื่องแล้ว และฉันเองก็มีธุระต้องไปทำต่อ ลาล่ะ!”

โอโบรันคิดว่าเลเวล S ที่ฉินเฟิงกล่าวว่าย่อมไม่มีทางเข้าสู่ใจกลางโลกได้คงเป็นตน ดังนั้นรู้สึกอึดอัดใจมาก ประเด็นก็คือ ฉินเฟิงแข็งแกร่งเกินไป โอโบรันไม่สามารถระบายโทสะกับอีกฝ่ายได้ เหลือทางเลือกเดียวจำต้องล่าถอย

“ส่วนฉันมีบางอย่างที่ต้องทำเช่นกัน ขอตัว!”

“พวกเราไปก่อนนะ”

เลเวล S คนอื่นๆ เมื่อเห็นสถานการณ์ออกมาในรูปแบบนี้ ก็ทยอยกันจากไปทีละคน เหลือเพียงฮั่นกวงหมิงกับฟางโจว

“ฮี่ฮี่ ฉันแก่แล้ว คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้นัก ขอกลับดีกว่า ภาระนี้มอบแด่พวกคุณที่ยังหนุ่มยังแน่นรับผิดชอบ … ผู้ใช้พลังรุ่นใหม่ต้องมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเข้าไว้!” ฟางโจวก้าวเยื้องย่างจากไป แม้ดูเชื่องช้า ทว่าแต่ละก้าวของเขา เอาจริงๆมันข้ามผ่านผืนดินและแผ่นฟ้า ไกลเป็นพันเมตร สามสี่ก้าวก็หายลับสายตาไป

“ช่างเถิด ฉันก็ไม่คิดให้คนพวกนี้ช่วยเรื่องน่าเบื่อแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!”

ฮั่นกวงหมิงมาที่นี่ เป้าหมายเพื่ออุดรอยแยก ส่วนคนอื่นๆมา เพราะอยากรู้ว่ามีผลประโยชน์อะไรให้ฉกฉวยไหม ไม่ก็รวมตัวกัน คิดวางแผนสังหารจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ เผื่อจะได้รับวัตถุดิบล้ำค่าเป็นสินสงคราม

ตอนนี้ เมื่อมีฉินเฟิงคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง แม้ตาปีศาจจะไม่ไว้หน้าฮั่นกวงหมิงซักแค่ไหน แต่คงไม่กล้าออกมา เรื่องนี้ทำให้ฮั่นกวงหมิงรู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ

ขนาดที่ว่าทัศนคติของฮั่นกวงหมิงที่มีต่อฉินเฟิงเองก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน สามอบิลิตี้สามารถโค่นตาปีศาจ แถมแต่ละเทคนิคล้วนอยู่ในเลเวล S ทั้งยังคนละธาตุ ความสามารถเช่นนี้กระทั่งตัวเขายังมิอาจบรรลุ

อนาคตของฉินเฟิงผู้นี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ดังนั้นจะดีกว่าไหมหากสนิทกัน แม้ไม่ถึงขั้นสามารถเป็นพรรคพวก แต่อย่างน้อยฝากความประทับใจนิดๆหน่อยๆไว้ก็ยังดี เพราะใครจะรู้ ภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางทีพวกเขาอาจได้ร่วมมือกันอีกครั้งก็ได้!

ฮั่นกวงหมิงจัดระเบียบท่าทางให้มั่นคง ปลดปล่อยอบิลิตี้จากฝ่ามือของเขา

ผืนดินเริ่มสั่นสะเทือน เบื้องล่างภูเขาดอกไม้ไฟ เมืองที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วน ขยับห่างออกไปเป็นพันไมล์ในพริบตา

จากนั้น บังเกิดเสียงครืนนนน! สะท้อนขึ้นมาจากใต้พื้นโลก ดินจำนวนมากถล่มลงไป ทับถมสระลาวา

ฉินเฟิงเองก็เร่งเร้าอบิลิตี้ของเขาเช่นกัน อักษรรูนธาตุดินของเขา แม้ไม่ทรงพลังเทียบเท่าฮั่นกวงหมิง แต่หากคิดย้ายกองดินหรือขุนเขาไม่ใช่เรื่องยาก ภูเขาดอกไม้ไฟเริ่มทรุดตัวลง รอยแตกขนาดใหญ่ถูกเติมเต็ม

นับจากนี้เป็นต้นไป จะไม่มีภูเขาดอกไม้ไฟอีก มันได้กลายเป็นพื้นที่ราบอย่างสิ้นเชิง

หลังเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมด ฮั่นกวงหมิงเดินทางกลับพันธมิตรหัวเซี่ย ส่วนฉินเฟิง เขาตั้งใจจะจัดการกองทัพสัตว์ร้ายที่ยังหลงเหลือแล้วค่อยกลับไป

ในความเป็นจริง ที่จ่าฝูงตั๊กแตนมิติขุดรอยแยกขนาดใหญ่บนภูเขาดอกไม้ไฟ เป็นเพราะที่นี่คือจุดที่ใกล้ที่สุดกับเส้นชีพจรธรณี หลังจากฉินเฟิงขับไล่ตาปีศาจ ก็มีเลเวล S จากกองกำลังมืดหลายคนเข้ามาสอดแนมจริงๆ คนเหล่านี้ย่อมมีวิธีรอดพ้นจากการตรวจสอบผ่านดาวเทียม แต่หลังจากที่ขุดลึกลงไปข้างล่าง พวกเขากลับไม่รู้สึกถึงแหล่งที่มาของพลังงานใดๆเลย กระทั่งสระลาวาในตอนแรกก็หายไป

ดูเหมือนว่าเส้นชีพจรธรณี จะเปลี่ยนไปอยู่ที่ใหม่แล้ว หลายคนเกิดความคิดขึ้นมาด้วยซ้ำ ว่าหัวใจโลกที่เป็นแก่นพลังของจ้าวเหนือหัว บางทีอาจยังมีจิตสำนึกหลงเหลืออยู่ ดังนั้นมันเลยป้องกันตัวเอง

หลังจากเส้นชีพจรธรณีถูกค้นพบ จิตสำนึกของหัวใจโลกก็ตระหนักได้ว่าถูกคุกคาม ฉะนั้นหลบหนีไป มิอาจหาพบได้อีกเลย

ฉินเฟิงพอได้ทราบว่ามีข่าวเช่นนี้ เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ว่ามิติโลกมนุษย์จะล่มสลายก่อนถึงเวลาอันควร!

กระแสกองทัพสัตว์ร้ายถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง สัตว์ร้ายจักรพรรดิเลเวล A บางตัวพยายามหลบหนี ทว่ากำแพงสีเงินกลับปรากฏขึ้น ปิดกั้นหนทางไม่ให้พวกมันไป

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น รังสีคมมีดสาดไสว สับเข้าสังหาร

ร่างใหญ่โตของสัตว์ร้ายล้มลง พลังงานจากเลือดและเนื้อไหลออกมาผสานรวมเข้ากับร่างกายของฉินเฟิง ช่วยให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขายกระดับไปอีกขั้น!

ก้าวขึ้นสู่เลเวล A3!!!

จนถึงตอนนี้ กำลังภายในของฉินเฟิงเพิ่มพูนไปถึงเลเวล S แล้ว ส่วนพลังสมาธิอยู่ในเลเวล A6 ความแข็งแกร่งทางกายภาพเลเวล A3 และเนื่องจากสามารถสังหารสัตว์ร้ายได้เป็นจำนวนมาก ทำให้กระแสกองทัพสัตว์ร้ายในพันธมิตรวู้ดแลนด์ สงบลงกว่าในตอนแรกมาก

ยิ่งไปกว่านั้น การที่จ่าฝูงตั๊กแตนมิติถูกสังหาร บางทีปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกของมัน อาจเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างไป ฉินเฟิงเองก็ตระหนักได้ ว่าตั้งแต่ต้นปี จำนวนของรอยแยกมิติที่ปรากฏบนโลกเพิ่มขึ้นมาก บางทีอาจเป็นเพราะสัญญาณของการล่มสลาย แต่ตอนนี้ อันตรายที่ซ่อนอยู่-

--ได้ถูกลบออกไปแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด