ตอนที่แล้วChapter 34
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 36 (เปิดให้อ่านฟรีทุกตอนที่ลงท้ายด้วย 5-6)

Chapter 35 (เปิดให้อ่านฟรีทุกตอนที่ลงท้ายด้วย 5-6) พร้อมชี้แจงเรื่องกลุ่มลับ


เขาตามหาออตโต้เพื่อลงอดูว่าเครื่องปฏิกรณ์ทรีเดียมจะสามารถแทนที่ดวงอาทิตย์ได้หรือไม่? ถ้ามันทำได้ ซอดก็จะเติบโตเร็วขึ้น.

ชั้นใต้ดิน, สังเวียนต่อสู้.

นี่คือเวทีต่อสู้ที่สร้างจากคริปตอนโกลด์ส่วนสอง บลอนสกี้ถูกซอดโยนขึ้นไปบนอากาศ ขณะที่ซอดลอยขึ้นจากพื้น แม้ว่าเขาจะเป็นทหารอสูร แต่กำลังของซอดก็ไม่แพ้พวกเขาเลย แม้ว่าเขาจะหลับตา.

ฉากที่น่าทึ่งนี้ไม่ใช่ว่าซอดเร็วกมากจนเขาไม่เห็นอะไร แต่พลังวิญญาณของเขาตื่นขึ้น!

มันยากที่จะจินตนาการถึงการเพิ่มขึ้นและการเพิ่มพูนของพลังวิญญาณที่ไหลเข้าสู่คนคริปตอน ท้ายที่สุดแล้วนอกเหนือจากซอด ไม่มีคริปโตเนียนคนไหนที่มีพลังวิญญาณ พวกเขาได้แต่คิดเพ้อฝันเท่านั้น มีเพียงเอนเชี่ยนวันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาพอจะคิดออก แต่ซอดเชื่อว่าพลังของเขานั้นแตกต่างกับเขาเป็นอย่างมาก.

พลังจิตของซอดสามารถรวบรวมและดูดซับพลังจักรวาลและเปลี่ยนให้เป็นพลังอื่นๆเช่น สุดยอดความเร็วสูง,สุดยอดพละกำลัง,สุดยอดการมองเห็น,ควบคุมพลังงาน,บิน ฯลฯ ในโลกมาเวล โดยพื้นฐานแล้วพลังงานจักรวาลเป็นพลังงานขั้นสูงที่สุด มันเป็นรองพลังงานอย่างฟินิกซ์(จากX-man),พลังงานคอสมิกของบรรดาเทพทั้งหลายที่ดูดซับพลังคอสมิกเหล่านั้นหรือวิธีการใช้พลังงานคอสมิก.

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ซอดตื่นเต้นมากที่สุด สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นมากที่สุดคือพลังจิตที่ทำให้เขามีความสามารถแบบเดียวกับเทเลพอต ตราบเท่าที่เขาคิดถึงสถานที่นั้นๆ สถานที่ที่เขาเคยไปและเคยเห็น เขาก็จะสามารถไปได้ด้วยการเทเลพอต ความแตกต่างคือการใช้พลังจิตนั้นมากหรือน้อยตามระยะทาง.

สิ่งที่บลอนสกี้ถูกซ้อมอยู่นี้เป็นแค่การใช้พลังจิตนิดหน่อย พลังจิตของซอดนั้นมากมายราวกับทะเล คาดกันว่ามันสามารถเหนือกว่า ศาสตราจารย์ X ของมิวแทน์ได้ เรียกได้ว่าเป็นสมบัติของบ้านได้เลย นอกจากนี้ ประสบการณ์ของซอดก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างช้าๆในการสำรวจพลังของเขา.

ใช้พลังบีบคอ!(สตาร์วอร์)

ซอดยื่นมือออกไป บลอนสกี้ก็เหมือนกับถูกบีบคอ เขาพยายามดิ้นรนและเท้าของเขาก็ลอยขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ.

"ก็ไม่เห็นยาก มันเป็นเพราะพลังจิตที่มากมาย?"

ซอดโยนบลอนสกี้ลง บลอนสกี้กล้าที่จะโกรธแต่ไม่กล้าพูด ไม่มีทางซะหรอก เพียงความคิดของซอด หัวของเขาก็อาจจะหันไป 360 องศาและเป็นการ'ฆ่าตัวตาย'โดยที่เขาไม่อาจต้านทานได้.

"ตอนนี้สถานการณ์ของบัคกี้เป็นไงบ้าง?"

ซอดถามอย่างสงบ.

"พวกเขาแฝงตัวเข้ากับไฮดร้าได้สำเร็จ แต่บัคกี้ถูกแช่แข็งไว้ ว่ากันว่า วินเทอโซลเยอร์ จะถูกใช้ก็ต่อเมื่อปฏิบัติภารกิจและถูกแช่แข็งไว้เมื่อไม่ได้ทำภารกิจเพื่อให้แน่ใจว่าศักยภาพของพวกเขาจะคงดีอย่างที่สุด."

บลอนสกี้ลุกขึ้นและตอบ การกระทำของวินเทอโซลเยอร์ทำให้บลอนสกี้เย้ยหยัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะคิดว่าไฮดร้านั้นจะครองโลก.

เวิร์ดสเน็กนั้นมีพลังมากที่สุด!

บลอนสกี้ไม่พอใจกับการเป็นแค่หัวหน้าหน่วยทหารสัตว์ของเวิร์ดสเน็ก เขาต้องการเป็นสุดยอดทหารอสูรหรือแม้แต่เป็นจ้าวอสูรตามคำพูดที่ออกมาจากปากของซอด แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจ้าวอสูรนั้นจะเป็นอย่างไร แต่มันฟังดูทรงพลังกว่าสุดยอดทหารอสูรและทหารอสูร.

เป็นไปไม่ได้ที่จะแทนที่ซอด การมีอยู่ของเขาทำให้ซอดถือเป็นบอสใหญ่ของเวิร์ดสเน็กได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เขาก็ยังสามารถเป็นรองผู้นำได้.

"โอ้ เจอสายลับไฮดร้ากี่คน?"

แผนของซอดคือการเริ่มต้นกับไฮดร้า ล้างสมองทีละเล็กทีละน้อยและพัฒนาให้กลายเป็นคนของเวิร์ดสเน็ก จากนั้นก็ค่อยๆตอดไฮดร้าที่อยู่ในอเมริกาเหนือทีละก้าวๆ.

เมื่อถึงเวลา ชิลด์ก็จะกลายเป็นเวิร์ดสเน็ก.

"ตอนนี้มีไฮดร้า 20 คนที่ถูกสังเกตและพวกเขาก็พร้อมที่จะถูกจับแล้ว."

บลอนสกี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้ฝึกสอนทหารสัตว์เท่านั้น แต่ยังเป็นหัวหน้าปฏิบัติการอีกด้วย แน่นอนว่าเนื่องจากหน่วยงานภายใต้เวิร์ดสเน็กยังไม่แน่ใจ ทีมปฏิบัติการนี้จะคงอยู่ได้นานแค่ไหนก็ยังไม่ทราบแน่ชัด บางทีวันรุ่งขึ้นซอดก็อาจจะถูกทำลายเพราะมีปัญหา.

"ไม่ต้องกังวล เราต้องกำจัดร่องรอยทั้งหมด ด้วยเวลาของคุณ เรายังมีเวลา."

ซอดพูด หากเวิร์ดสเน็กถูกเปิดเผย เขาจะทิ้งเวิร์ดสเน็กและสร้างองค์กรใหม่อย่างแน่นอน.

หลังจากจบกับการดวลกับบลอนสกี้แล้ว ดร.คอนเนอร์ก็มาหาซอดผ่านแบล็คควีนด้วยความตื่นเต้น.

"อะไรที่ทำให้คุณต้องตื่นเต้นขนาดนี้ ดร.คอนเนอร์?"

ซอดถามอย่างสงบ.

"บอส มีการพัฒนาใหม่เกี่ยวกับไวรัสแวทไพร์! มันน่าทึ่งมาก!"

ดร.คอนเนอร์พูดอย่างตื่นเต้น.

จากนั้นซอดก็ไปที่ห้องทดลองเคมีและจากนั้นดร.คอนเนอร์ก็อธิบายให้ซอดฟังถึงการค้นพบไวรัสแวมไพร์.

"ไวรัสแวทไพร์เป็นไวรัสที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มันสามารถฆ่าไวรัสทั้งหมดที่รู้กันดีว่ามันเกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นราชาไวรัส บอส นี่เป็นยาครอบจักรวาล!"

ดร.คอนเนอร์พูดหลังจากสาธิตวิธีการทำงานของไวรัสแวมไพร์ด้วยไวรัสที่เพาะอยู่ มันสามารถฆ่าไวรัสที่เพาะเหล่านั้นได้ง่ายๆและจากนั้นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว.

สิ่งที่ทำให้ดร.คอนเนอร์ตื่นเต้นคือกลไกการแพร่กระจายของไวรัสแวมไพร์ มันยากที่จะจิตนาการได้ว่ามีไวรัสแวมไพร์ที่ก้าวร้าวนี้อยู่ในโลก มันอาจจะพูดได้ว่าไวรัสนี้เกิดมาเพื่อฆ่าไวรัสตัวอื่นโดยเฉพาะ.

ถ้าสามารถจำลองกลไกของมันและลบข้อเสียของการเปลี่ยนแปลงเซลล์ได้ ไวรัสแวมไพร์นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้มวลมนุษย์ชาติ!

"ในเย็น ดร.คอนเนอร์ คุณยังไม่ได้ทำการทดสอบกับเหล่ามะเร็งเช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือมะเร็งเนื้อเยื่อ ลองดูว่าไวรัสแวมไพร์นี้จะสามารถต่อต้านโรคต่างๆของมนุษย์ได้มากแค่ไหน."

ท้ายที่สุด ซอดได้เห็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของคริปตอนมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจ มันเป็นแค่ยาครอบจักรวาลตามทฤษฏีและยังไม่ได้ทำการผลิต.

ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเรื่องยากที่จะคิดว่าจะเอาชนะการเปลี่ยนแปลงทางกลไกของไวรัสแวมไพร์ เป็นไปได้มากที่ไวรัสแวมไพร์จะมีความสามารถที่ทรงพลังในการกำหนดเป้าหมายไปที่ไวรัสอื่นๆ มันเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแปลงร่าง หากลบความสามารถในการแปลงร่างไป การทำงานของนักฆ่าไวรัสเหล่านี้จะต้องลดลงอย่างมาก มันอาจจะกลายเป็นยาที่มีฤทธิ์แรง แต่ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล.

ดร.คอนเนอร์คิดถูกแล้ว ถ้าไวรัสแวมไพร์มีเพียงความสามารถในการกำหนดเป้าหมายเป็นไวรัสอื่นหล่ะก็....เขาไม่อยากจะคิดเลย!

เมื่อปล่อยให้ดร.คอนเนอร์กำลังวุ่นอยู่กับการวิจัย ซอดก็เห็นโอลด์เดินเข้ามาพอดี.

หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ โอลด์ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครมาหลายปีแล้ว เธอไม่รู้ว่านี่คือความรู้สึกของความรัก แต่ในฐานหญิงแกร่ง โอลด์เลยตัดสินใจเป็นฝ่านรุก เพราะหน้าตาของซอดนั้นเป็นเหมือนกับเด็กเนิร์ดที่ทุ่มเทให้กับการวิจัย ในสายตาของเขาอาจไม่มีผู้หญิงคนไหนสวยไปว่ามวลอะตอม ดังนั้นหากเธอไม่เป็นฝ่ายรุก เธอต้องรอนานกว่าซอดจะเริ่ม?

เป็นผลให้ โอลด์ไม่ชวนซอดและบอกว่าจะเลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณ เพราะงั้นบางครั้งซอดเลยมาหาเธอพร้อมกับให้เธอทำบางอย่างแทน.

******

ประกาศจากผู้แปล เรื่องนี้ผมมาคิดดูแล้วว่าจะไม่มีกลุ่มลับนะครับ เข้าใจนะว่าสร้างแล้วทางผู้แปลอาจจะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่หาทำแล้วผู้แปลต้องอาจจะลงนิยายไม่ได้เร็วนัก เพราะเรื่องนี้มีการเลี่ยงบาลีต่างๆมากเพื่อที่จะไม่โดดลิขสิทธิ์แต่ทางผู้แปลคิดว่าเจ้าตัวคงไม่ได้สิทธิ์แปลไทยจริงๆหรอกเลยไม่มีการกั๊กว่าตัวไหนเป็นอะไรบ้าง บางครั้งมีการพูดถึงตัวละครจีนเด่นๆที่ไม่มีในจักรวาลมาเวล แต่พลังนั้นคือของคนในจักรวาลมาเวล ผู้แปลก็เลยทำการตัด+เกลาให้เข้าเรื่อง มีการพาดพิงถึงประเทศต่างๆโดยใช้คำพูดแทนตัวตุ๊กตา ทำการเคลมผลงานที่ไม่ใช่ของจีนเองแต่ผู้แปลก็ทำให้กลับมาเป็นของจักรวาลหลักให้เพื่อที่คนอ่านจะได้เข้าใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องนี้หลังๆก็อาจจะงงยิ่งกว่าเดิมเพราะเจ้าตัวไม่ได้ทำอะไรนอกจากวิจัยๆ เรื่องนี้ 570 ตอนยังไม่จบซึ่งถือว่าสั้นมาก หากมันไม่เลี่ยงบาลีเยอะๆคงแปลได้เร็วกว่านี้

สำหรับคนที่อ่านไทโนแล้วรู้สึกว่าแพง ทางผู้แปลได้ลงช่องทางอื่นเช่นกันคือ แอมโนเวลกับมายโนเวล ทั้งสองเว็บนี้ต่อตอน 2 บาทเท่านั้นครับ ลองไปทางเว็บอื่นดูได้ครับขอบคุณที่ติดตาม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด