ตอนที่แล้วบทที่ 352
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 354

บทที่ 353


ชายฉกรรจ์สวมชุดสีแดงขลิบฟ้าสี่คนลอยอยู่บนท้องฟ้าจ้องมองซากศพไร้วิญญาณเบื้องล่าง มือทั้งสองกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น ชายผู้หนึ่งกัดฟันพุ่งทะยานลงไปตรวจสอบ ทันทีที่ลงมาถึงเขารีบแตะต้องซากศพเพื่อตรวจสอบถึงกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พิษร้ายแทรกซึมแขนขวาจนปูดบวมอย่างรวดเร็วเขารีบจี้สกัดจุดแต่ก็ไม่สามารถสกัดพิษร้ายได้ จึงตัดสินใจตัดแขนขวาข้างนั้นทิ้งปราณสีทองปรากฏที่แขนซ้าย ทันทีที่แขนซ้ายสัมผัสแขนขวาเพื่อตัดทิ้งพิษร้ายกระจายลุกลามไปยังแขนซ้ายอีกครั้งแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายไม่นานเขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้น ชายฉกรรจ์ที่เหลือพุ่งทะยานลงไปด้านล่างด้วยความสงสัย อักษรที่สลักอยู่บริเวณหน้าอกมองเห็นอย่างชัดเจน สังหารเทพ สังหารเวิ่นเทียน พรรคอัคคีและพรรคสุขาวดีฟ้าดินรวมกันเป็นใหญ่ ทั้งสามจ้องมองข้อความด้วยความโกรธแค้นยิ่งกว่าเดิม ปราณสีทองพวยพุ่งออกมาจากร่างพื้นดินสั่นสะเทือน ไม่นานชายฉกรรจ์ที่นอนอยู่ก็ตกตายด้วยพิษร้าย ทั้งสามมองหน้ากันหาได้มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดไม่ถึงสามลมหายใจทั้งสามก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว พื้นดินแยกตัวดูดกลืนเมืองขนาดใหญ่ทั้งเมืองจมหายลงไปในพื้นดิน

เนี่ยฟงตัดสินใจเดินทางมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองที่ตระกูลหลิวตั้งอยู่เพื่อสืบข่าว ระหว่างทางพบเจอชาวยุทธ์จำนวนมากเร่งเดินทางอย่างผิดปกติด้านหน้า เขาจึงแอบสะกดรอยตามอยู่ห่างๆไม่ถึงสองชั่วยามกลุ่มชาวยุทธ์ด้านหน้าก็เข้าปะทะกลุ่มคนชุดสีม่วง เนี่ยฟงแอบจ้องมองอยู่ห่างๆเขาสังเกตอยู่นานเกือบสองเค่อจึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือกลุ่มชาวยุทธ์ เนี่ยฟงพุ่งทะยานเหยียบเกราะสายฟ้าเหนือจุดปะทะ เสียงสะบัดมือดังแว่วมีดสั้นนับร้อยเล่มพุ่งลงมาจากท้องฟ้าประดุจห่าฝนเข้าสังหารกลุ่มคนชุดสีม่วง เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นติดตามชาวยุทธ์และกลุ่มคนชุดสีม่วงเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยความตื่นตกใจ ทันใดนั้นเองมีเสียงร้องตะโกนดังแว่วมาจากทางขวามือ เนี่ยฟงหันไปมองพบเห็นเป็นหยวนอันหลงและชิงเสี้ยว เขาจึงพุ่งทะยานไปทางขวามือ

“คนพวกนี้เป็นผู้ใดกันขอรับพี่ชายหยวนอันหลง”

หยวนอันหลงรีบเอ่ยวาจาตอบ

“ข้าพวกไม่แน่ใจเช่นกันอยู่ๆกลุ่มคนพวกนี้ก็ปรากฏตัวโจมตีพวกข้า ว่าแต่เจ้าเถอะน้องชายเนี่ยฟงดวงตาเจ้าหายดีแล้ว”

“ขอรับดวงตาข้าหายดีแล้ว ว่าแต่ตอนนี้พวกท่านหลบไปก่อน”

ทั้งสองพยักหน้าตอบรับพาชาวยุทธ์ที่เหลือหลบออกไปด้านหลังเนี่ยฟง เสียงสะบัดมือดังแว่วอีกครั้งเนี่ยฟงร่ายรำโบกสะบัดมือทั้งสองบังคับมีดสั้นพุ่งสังหารกลุ่มชุดสีม่วงที่เหลือเข้าใช้เวลาไม่นานทั้งหมดนับร้อยก็ล้มตายลง หลังจากนั้นเขาจึงเรียกชิงเสี้ยวและหยวนอันหลงเขาตรวจสอบซากศพที่นอนเกลื่อนพื้น ระหว่างนั้นมีหลายคนหันมาเอ่ยวาจาขอบคุณเนี่ยฟงยกใหญ่ ชิงเสี้ยวตรวจสอบของในแหวนชายผู้หนึ่งเขานำแผ่นไม้ออกมาด้วยความตื่นตกใจ เนี่ยฟงหรี่ตามองป้ายไม้ด้วยความสงสัย

“เกิดสิ่งใดขึ้นขอรับท่านชิงเสี้ยว”

“เจ้ามองดูป้ายไม้นี้เถอะ”

ชิงเสี้ยวยื่นป้ายไม้ในมือให้แก่เนี่ยฟง เป็นป้ายไม้ธรรมดาสลักอักษรคำว่าเซอกุ่ย

“เซอกุ่ย ท่านชิงเสี้ยวรู้จักหรือไม่ขอรับ”

“ตัวข้าไม่รู้จักเพียงแต่ว่ามีเรื่องเล่าในตำนาน ในอดีตมีเผ่าหนึ่งที่โหดเหี้ยมไม่แพ้เผ่ามารคือเผ่าเซอกุ่ยเป็นกลุ่มคนที่ใช้พิษ ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่ารกทึบภายในป่ามีแมลงพิษนานาชนิดอาศัยอยู่ ผู้คนส่วนใหญ่ที่หลงเข้าไปในป่าหาได้มีผู้ใดรอดชีวิตกลับออกมาส่วนใหญ่ตกตายเพราะถูกฝูงแมลงพิษสังหาร”

“แล้วเหตุใดกลุ่มคนพวกนี้จึงออกมาจากที่นั้น”

“มีความเป็นไปได้ถึงแปดส่วนมาจากที่ดาบดับอสูรปรากฏ แน่นอนผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องการครอบครองดาบ เพราะในอดีตน้อยนักที่คนพวกนี้จะออกมาจากป่า”

เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ

“ว่าแต่พวกท่านเดินทางไปที่ไหนกันขอรับ”

“พวกข้ากำลังเดินทางไปที่ตระกูลทัง”

สิ้นเสียงกล่าวชิงเสี้ยวสะบัดมือขวานำจดหมายยื่นให้แก่เนี่ยฟง

“พวกข้าทั้งหมดหมายจะเดินทางขึ้นเขาอู่ไถเพื่อชมการชิงดาบดับอสูรระหว่างทางพบเจอคนจากตระกูลทังส่งจดหมายเชิญให้ไปรวมตัวกันที่เมืองทังโจวอิ่น เพราะดาบดับอสูรถูกครอบครองด้วยสือตี้จงพรรคสุขาวดีฟ้าดินอีกอย่างตอนนี้เขาอู่ไถก็หาได้เหมือนเดิมอีกแล้วจากการระเบิด หัวหน้าตระกูลทังจือเทียนจึงส่งจดหมายเทียบเชิญชาวยุทธ์ทั้งหมดเพื่อหารือรับมือ”

“พวกท่านได้จดหมายเชิญเมื่อไหร่ขอรับ”

“เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณชาย ว่าแต่ท่านเถอะเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่กัน”

เนี่ยฟงหันไปมองหยวนอันหลง

“พี่ชายหยวนอันหลงคงจดจำได้ ข้าเข้าปะทะชายผู้หนึ่งจากเผ่าเทพครั้งนั้นข้าได้รับบาดเจ็บหนักเสียแขนซ้ายและดาบในการปะทะไป แต่ได้รับการช่วยเหลือจากแม่นางหลิวเสี่ยวหลินและผู้อาวุโสหลิวหยูฟางจนหายดี ตัวข้าเองติดตามตระกูลหลิวขึ้นเขาอู่ไถเพื่อชมการชิงดาบดับอสูร อย่างที่พวกท่านทราบดีเขาอู่ไถ่เกิดระเบิดขึ้นมาระหว่างการชิงดาบหลายคนหลบหนีลงจากเขาเอาตัวแทบไม่รอด ระหว่างทางพวกข้าถูกกลุ่มคนจากพรรคอัคคีเข้าโจมตีตอนนี้ข้ากำลังติดตามหาพวกนางอยู่ขอรับ”

“เช่นนั้นเจ้าติดตามพวกข้าไปที่เมืองทังโจวอิ่นดีหรือไม่ ไม่แน่พวกนางอาจจะอยู่ที่นั่น”

เนี่ยฟงทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับ หยวนอันหลงยกยิ้มอย่างดีใจ

“ดี ดียิ่งนักมีเจ้าเดินทางไปด้วยพวกข้าอุ่นใจไม่น้อย”

สิ้นเสียงกล่าวหยวนอันหลงสะบัดมือขวานำแผ่นหยกและดาบเล่มหนึ่งออกมา

“แผ่นหยกข้านำมาคืนเจ้า ส่วนดาบเล่มนี้ผู้อาวุโสเคอฟู่ซางฝากนำมามอบให้แก่เจ้าเพื่อขอบคุณเมื่อครั้งนั้น”

เนี่ยฟงคว้ารับแผ่นหยกและดาบในมือขวาหยวนอันหลง หลังจากตรวจสอบซากศพเสร็จสิ้นสมบัติทั้งหมดเนี่ยฟงให้ชิงเสี้ยวแจกจ่ายให้แก่ชาวยุทธ์ทั้งหมดหลังจากนั้นพวกเขาจึงเดินทางต่อ ตลอดเจ็ดวันเนี่ยฟงสังหารกลุ่มคนจากพรรคสุขาวดีและพรรคอัคคีไปไม่น้อยในที่สุดก็เดินทางมาถึงเมืองทังโจวอิ่น เป็นเมืองขนาดใหญ่มีการขุดคลองล้อมด้านหน้าเพื่อป้องกันการโจมตีกำแพงถูกสร้างไว้อย่างแข็งแรงเนี่ยฟงหรี่ตามองพบเห็นบริเวณกำแพงและป้อมขนาดใหญ่มีการประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ป้องกันการโจมตี ด้านหน้าทางเข้าเมืองมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่วางทาบคลองเพื่อเป็นทางเดินเข้าไปยังด้านในของเมือง เขามองเห็นชาวยุทธ์มากมายยืนรอเพื่อเข้าเมือง เนี่ยฟงสังเกตที่พื้นบริเวณแผ่นไม้มีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ประทับอยู่เช่นกัน พวกเขายืนรออยู่นานนับครึ่งชั่วยามก็สามารถเข้ามาด้านใน เมื่อเข้ามาด้านในพบเห็นเป็นลานขนาดใหญ่มีกระโจมน้อยใหญ่ตั้งอยู่ เนี่ยฟงรีบแผ่ลมปราณตรวจสอบพบว่ามียอดฝีมืออยู่ในน้อยเช่นกัน ชั่วน้ำเดือดเขาก็แสยะยิ้มเป็นหยวนอันหลงที่สังเกตเห็น

“เกิดสิ่งใดขึ้นน้องชายเนี่ยฟง”

“ข้าคิดว่าข้าพบเจอผู้อาวุโสหลิวหยูฟางแล้วขอรับ”

“เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเจ้าแล้วน้องชาย”

เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับหยวนอันหลงหลังจากนั้นไม่นานเขาก็มุ่งหน้าไปทางขวามือของตน เขาพบเห็นกระโจมขนาดใหญ่มีผู้คนมากมายยืนรอต่อแถวสำหรับบางอย่างด้วยความสงสัยเนี่ยฟงจึงสอบถามชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งมี่ยืนต่อแถวด้วยเช่นกัน

“ขออภัยพี่ชาย พวกท่านมาต่อแถวที่นี่เพื่อสิ่งใดหรือขอรับ”

ชายฉกรรจ์หันไปมองเด็กหนุ่มผู้หนึ่งด้านหลัง

“ข้ามาให้แม่นางหลิวเสี่ยวหลินรักษา เมื่อหลายวันก่อนข้าได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มคนจากพรรคอัคคี”

“ขอบคุณพี่ชายมากขอรับ”

“ไม่เป็นไรน้องชาย”

เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับหลังจากนั้นเขาก็ยืนต่อแถวรอ ผ่านไปเกือบสองเค่อเนี่ยฟงก็เดินเข้ามาด้านในกระโจมพบเห็นหลิวหยูฟางและหลิวเสี่ยวหลินนั่งอยู่ด้านใน

“คารวะผู้อาวุโสหลิวหยูฟางและแม่นางหลิวเสี่ยวหลิน”

ทั้งสองหันไปมองชายหนุ่มด้านหน้ากระโจมถึงกับตื่นตกใจ

“คุณชายเนี่ยฟง”

เนี่ยฟงหยักหน้าตอบรับ

“พวกท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

หลิวหยูฟางผายมือขวาเชิญเนี่ยฟงนั่งเก้าอี้ไม้ด้านหน้า

“เชิญคุณชายเนี่ยฟงนั่งก่อน พวกข้าทั้งสองสบายดีหลังจากหลบหนีออกลงจากเขาอู่ไถพร้อมคุณชายเทียนซินหยางและคุณชายเทียนซินซานพวกข้าได้รับจดหมายเชิญให้มาที่นี่ ข้าได้แต่หวังเช่นกันว่าจะได้พบเจอคุณชายที่นี่”

“ว่าแต่คุณชายทั้งสองอยู่ที่ไหนขอรับ”

“หัวหน้าตระกูลทังจือเทียนเชิญพวกเขาทั้งสองประชุมหารือเกี่ยวกับพรรคอัคคีและพรรคสุขาวดีฟ้าดิน”

ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงก็ขมวดคิ้วแน่นอนว่าทั้งสองมองเห็นด้วยเช่นกัน

“มีสิ่งใดรึคุณชาย”

“ข้าสัมผัสบางอย่างมีกลุ่มคนที่แผ่จิตสังหารกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่”

สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงเสียงระฆังก็ดังกังวานไปทั่วทั้งเมือง ไม่ถึงห้าลมหายใจมีบางคนพุ่งเข้ามาด้านในกระโจมอย่างเร่งรีบเมื่อหันไปมองพบเห็นเป็นเทียนซินซานพุ่งเข้ามาด้วยความตื่นตกใจพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง

“สือตี้จงนำกลุ่มคนจากพรรคสุขาวดีฟ้าดินมาที่นี่”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด