ตอนที่แล้วEp.943 - แค่คนเดียว?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.945 - สัตว์ร้ายรุมล้อม

Ep.944 - หุ่นรบ


Ep.944 - หุ่นรบ

ทั้งสองสนทนากันได้ไม่นาน หูซานก็ก้าวออกมา เมื่อเห็นฉินเฟิง ก็รีบตรงเข้าทักทาย

“ในเมื่อทุกคนมาถึงแล้ว ก็ไปกันเถิด”

หูซานกล่าว นำฝูงชนเข้าสู่ห้องลับ มายังรอยแยกมิติ เนื่องจากสมาชิกกลุ่มของฉินเฟิงมีคนเดียว ดังนั้นเลยได้เป็นคนแรกที่เข้าไป

ทันทีที่เข้าสู่เกาะมังกร ฉินเฟิงก็พบเจอกับทิวทัศน์ที่ต่างไปจากเดิม

แม้ก่อนเกิดใหม่ ฉินเฟิงจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขตแดนลับในมือของหูซาน แต่ยังไม่เคยเห็นสภาพแวดล้อมแบบเฉพาะเจาะจง เมื่อเข้ามาที่นี่ ฉินเฟิงพบว่ารอยแยกมิติในมือหูซาน แท้จริงแล้วมันตั้งอยู่ในทุ่งล่า โดยรอบไม่มีสิ่งใดกีดขวางเลยแม้แต่ชิ้นเดียว บางทีอาจเป็นเพราะรอยแยกนี้ ที่หูซานครอบครองอยู่ มันถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง

เวลานี้บนเกาะมังกร พายุพลังงานเริ่มก่อตัวขึ้น มันรุนแรงในระดับเดียวกับเมื่อครั้งฉินเฟิงเข้าสู่เกาะมังกรในคราวแรก

“หนาวจัง!” วังเฉินสั่นสะท้าน

“สวมเกราะจักรกลซะ มิติแห่งนี้ ไม่ใช่สถานที่สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล C จะอยู่ได้ ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ ไม่ต่างอะไรจากทารกหัดเดิน!” ฉินเฟิงกล่าว

วังเฉินรีบนำเกราะจักรกลของเขาออกมา มันคือหุ่นรบตัวแรกที่กำลังได้รับการวิจัย ความสูงประมาณสิบสองเมตร

“นี่มันอะไรกัน?” เป่ยถังเฉียนเห็นเกราะจักรกลของวังเฉินก็เบิกตาโต

ฉินเฟิงอธิบายเล็กน้อย บอกเล่าถึงกลไกและความแข็งแกร่งของมัน

เป่ยถังเฉียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที กล่าวว่า “ยังมีเกราะจักรกลพวกนี้อีกไหม? กลุ่มเฟิงหลีของคุณขายมันรึเปล่า?”

ต้องรู้นะว่า ลูกหลานของเป่ยถังเฉียน ปัจจุบันไม่มีใครมีความแข็งแกร่งที่โดดเด่นเลย แต่หากได้ครอบครองเกราะจักรกลที่ช่วยให้ผู้ใช้พลังเลเวล C สามารถต่อกรกับเลเวล A ได้ล่ะก็ เขายอมเททรัพย์สินตระกูลหมดหน้าตัก เพื่อซื้อเกราะจักรกลเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าปัจจุบันกลุ่มเฟิงหลีสามารถผลิตมันได้เพียงชิ้นเดียว แต่ในอนาคตหลังจากนี้ ต่อให้ผลิตมันได้มากขึ้น ฉินเฟิงก็ไม่คิดจะขายอยู่ดี

เพราะนี่คือเครื่องจักรสังหาร! มันจะกลายเป็นไพ่ตายของกลุ่มเฟิงหลี!

“ตอนนี้ยังไม่สามารถผลิตเพิ่มเติมได้ อีกอย่าง มันไม่ใช่สินค้าสำหรับขาย ผมต้องขอโทษท่านผู้ใหญ่เป่ยถังจริงๆ” ฉินเฟิงกล่าว

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องขอโทษฉันหรอก ไม่เป็นไร ..” เป่ยถังเฉียนตอบ

ฉินเฟิงไม่ต้องการทำให้เป่ยถังเฉียนขุ่นเคือง เพราะในช่วงหารือแจกแจงหน้าที่ ฉินเฟิงเลือกรับผิดชอบในส่วนการสนับสนุนทางการเงินและอาวุธ

ขณะที่เป่ยถังเฉียนไม่มีเงิน ดังนั้นเลยมีหน้าที่รับผิดชอบดูแล นับจากนี้ไป เป่ยถังเฉียนจะประจำการอยู่ที่นี่ ฉินเฟิงไม่ต้องการให้อีกฝ่ายคิดว่าเขากำลังซุกซ่อนอะไรในมือ สุดท้ายเลยแยกตัวจากวังเฉิน

คนอื่นเริ่มติดตามเข้ามา เมื่อได้พบหุ่นรบของวังเฉิน ทั้งหมดตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากวังเฉินสวมเกราะจักรกล แม้เขาจะยังไม่รู้ว่ามันครอบครองกำลังรบเหนือกว่าคนอื่นๆขนาดไหน แต่เนื่องจากวัสดุของหุ่นสามารถปัดป้องพลังสมาธิไม่ให้คนอื่นๆตรวจสอบได้ วังเฉินจึงผ่อนคลายลงมาก

อีกอย่าง อากาศข้างในนี้อบอุ่นราวกับอยู่ในฤดูร้อน วังเฉินอกรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

จากนั้น ฝูงชนจำนวนมากเริ่มเคลื่อนไหว ก่อนอื่นที่ต้องทำคือสร้างป้อมปราการ อย่างน้อยจะได้สามารถต้านทานการโจมตีของสัตว์ร้ายได้

เนื่องจากเคยออกสำรวจและมีประสบการณ์ต่อสู้มาก่อนแล้ว ทำให้หูซานค้นพบว่าภูเขาน้ำแข็งของที่นี่มีมวลหนาแน่นมากพอที่จะสามารถต้านทานพายุพลังงานได้ แต่ต้องเป็นภูเขาน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น อบิลิตี้ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ดังนั้นหูซานจึงระดมคนจำนวนมาก เพื่อขุดก้อนน้ำแข็ง แล้วนำกลับไปสร้างฐาน

ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใกล้ตำแหน่งนี้ที่สุด ห่างออกไปสิบกิโลเมตร สภาพแวดล้อมระหว่างทางท่วมทับไปด้วยสายลมและหิมะ หนทางข้างหน้าก็ไม่ทราบว่ามีอันตรายรออยู่รึเปล่า

“ฉินเฟิงกับฉันจะไปดูที่ตั้งของภูเขาน้ำแข็ง คนที่เหลืออยู่ที่นี่ คอยปกป้องคนอื่นๆ” หูซานกล่าว

“ผมว่าสำหรับผู้ใช้พลังเลเวล C ให้พวกเขากลับไปก่อนจะดีกว่า ไว้รอให้พวกเราย้ายของจนเสร็จ ค่อยให้พวกเขาเข้ามาอีกครั้ง พายุพลังงานที่นี่ มันรุนแรงเกินไป” ฉินเฟิงกล่าวประโยคหนึ่ง

“อืม นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น”

เพราะสมาชิกในกลุ่มเลเวล C ยังคงอ่อนแอเกินไป แต่ขณะเดียวกัน สถานการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าวังเฉินก็ใช่จะธรรมดา ภายใต้เกราะจักรกล เขาไม่ต้องกลัวลมหนาว สามารถหาญกล้าท้าชนมัน

ฉินเฟิงกับหูซานนำผู้ใช้พลังเลเวล B มากกว่า 100 คนเดินทางขึ้นเหนือ

ระยะทางเพียง 10 กิโลเมตร หรือเท่ากับหนึ่ง 10,000 เมตร แม้ฟังดูไม่ไกลสำหรับผู้ใช้พลังระดับสูง แต่ภายใต้การรบกวนของพายุพลังงาน วิสัยทัศน์ห่างเกิน 30 เมตรขึ้นไปกลายเป็นภาพเบลอ บวกกับสายลมแรง ทำให้ไม่สามารถได้ยินเสียงที่ชัดเจน พลังสมาธิยังถูกปิดกั้น การรับรู้ถึงอันตราย ไม่คมชัดอีกต่อไป

สรุปคือผู้คนจำเป็นต้องเดินทางอย่างระมัดระวัง ค่อยๆขยับไปอย่างล่าช้า

สุดท้ายหลังมาถึงรอบๆภูเขาน้ำแข็ง และไม่เห็นวี่แววของสัตว์ร้าย ผู้คนต่างพากันถอนหายใจโล่งอก

พวกเขาเริ่มช่วยกันขุดภูเขาน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งถูกตัดเป็นขนาดหนึ่งตารางเมตร เก็บไว้ในอุปกรณ์รูนมิติ

แต่ทุกคนช่วยกันขุดได้ไม่ถึง 5 นาที พื้นดินก็เริ่มเกิดการสั่นสะเทือน ผู้ใช้พลังเลเวล B ที่เคยคึกคัก ในเวลานี้เริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน่าสยองขวัญ

ท่ามกลางสายลมและหิมะ สัตว์ร้ายขนาดมหึมา ค่อยๆย่างกรายใกล้เข้ามาที่นี่

“ศัตรูบุก!”

ผู้ใช้พลังร้องโวยวายด้วยความตื่นตระหนก พากันหยิบยกอาวุธจากอุปกรณ์รูนมิติอย่างเร่งรีบ กำมันจนแน่น เนื่องจากสภาพแวดล้อมค่อนข้างแย่ ทำให้ไม่ทราบว่าเป็นสัตว์ร้ายน่าหวาดกลัวชนิดใดมาเยือน

อย่างไรก็ตาม จากระยะทางที่ใกล้ขึ้น ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน่าสะพรึงของสัตว์ร้ายเหล่านี้

--ระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A!

ยังไม่พอ จำนวนจักรพรรดิเลเวล A จริงๆแล้วมีเกือบสิบตัว!

“โฮกกกก!”

จักรพรรดิสัตว์ร้ายคำรามกราดเกรี้ยว คล้ายพวกมันก็ตระหนักศัตรูและพร้อมสู้แล้วเหมือนกัน

เหล่าผู้ใช้พลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตยิ่ง แต่ผ่านไปสักพักแล้ว สัตว์ร้ายจะคงรั้งอยู่ภายใต้สายลมและหิมะ ไม่ยอมเผยโฉมออกมา

ในไม่กี่อึดใจ เสียงคำรามที่แทรกผ่านสายลมและหิมะก็หยุดลง ถูกแทนที่ด้วยเสียงดังตุ๊บ ตุ๊บ และไม่นาน ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นร่างของสัตว์ร้ายเหล่านั้น และจุดที่ชัดเจนที่สุด คงไม่พ้นคู่ดวงตาสีเขียวที่กำลังลุกไหม้ของพวกมัน

สิ่งนี้ทำให้บางคนตกใจกลัวจนเผลอยิงอบิลิตี้ออกไป

พริบตาต่อมา เทคนิคมังกรลมถูกปลดปล่อย ปากมังกรอ้างับเข้าใส่ร่างของสัตว์ร้าย แต่กลับไม่สามารถสั่นคลอนมันได้แม้แต่น้อย

“อย่าโจมตีมั่วซั่ว!” เสียงหนึ่งแทรกผ่านมาตามสายลม กำลังภายในถูกถ่ายทอดลงในหูของเหล่าเลเวล B กระชากสติพวกเขา

จากนั้น พวกเขาก็เริ่มมองเห็น ว่าบนหลังของหนึ่งในสัตว์ร้ายฝูงนั้น มีคนกำลังยืนอยู่

เป็นฉินเฟิง!

สัตว์ร้ายน่าสยองขวัญค่อยๆก้าวเข้ามา ปรากฏว่าเป็นจักรพรรดิสัตว์ร้ายถึงแปดตัว แต่ตอนนี้ตามร่างของพวกมันเต็มไปด้วยบาดแผล และที่สำคัญที่สุดก็คือ กลิ่นอายแห่งชีวิตของพวกมันเหือดหายไปหมดสิ้น!

“เป็นหุ่นเชิดแห่งความตาย!”

ในที่สุด หนึ่งในผู้ใช้พลังก็ตอบสนอง จับสังเกตได้ว่าสัตว์ร้ายน่าสะพรึงเหล่านี้ ทั้งหมดกลายเป็นหุ่นเชิดไปแล้ว

และผู้ที่ควบคุมพวกมันทุกตน คือฉินเฟิง!

“ทำงานกันต่อไป ไม่ต้องกังวล จะไม่มีสัตว์ร้ายตัวไหนมาทำให้พวกคุณวุ่นวาย!” ฉินเฟิงกล่าว สั่งการให้ฝูงหุ่นเชิดแห่งความตายเปลี่ยนทิศทาง หันหางให้คนเหล่านี้ หันหน้าไปทางรอบนอกแทน ในกรณีที่เกิดการต่อสู้ขึ้น จะได้ตอบสนองทันที

ผู้ใช้พลังข้ามองเจ้า เจ้ามองข้า สักพักได้สติก็เริ่มกลับมาทำหน้าที่อย่างแข็งขัน ประเด็นก็คือ แม้มีหุ่นเชิดแห่งความตายเหล่านี้คอยปกป้อง แต่สิ่งที่ฉินเฟิงเพิ่งพูดไป ทำให้พวกเขารู้สึกว่าฉินเฟิงเป็นผู้บัญชาการที่น่ากลัวมาก คนเหล่านี้จึงไม่กล้าเกียจคร้าน

แต่ก็ยังไม่วายลอบสนทนากัน

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมกลุ่มเฟิงหลีถึงได้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงผู้นี้ น่าหวาดกลัวเกินไป!”

“เมื่อครู่ท่านผู้ใหญ่หูไม่ได้ออกไปช่วยด้วยซ้ำ อย่าบอกนะว่าเขาไปคนเดียว? มนุษย์หนึ่งคนสามารถรับมือกับแปดจักรพรรดิเลเวล A ได้จริงๆหรือ?”

“ฉันเห็นไม่ชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้น แบบนี้คงมีแต่พระเจ้าแล้วล่ะที่รู้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด