ตอนที่แล้วตอนที่ 172 ปลาประกายแสง ระดับ 6 ขั้นต้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 174 สัมผัสถึง

ตอนที่ 173 มังกรวารี ระดับ 6 ขั้นสมบูรณ์


ตอนที่ 173 มังกรวารี ระดับ 6 ขั้นสมบูรณ์

ภายในเมฆเหนือท้องฟ้าท้องทะเลที่ถูกดึงขึ้นไปเริ่มแต่สลายแยกออกกลายเป็นไอ หลงเหลือแต่สัตว์กลายพันธุ์ทั้งระดับ 5 และต่ำลงไป แต่ชีวิตของพวกมันก็มาถึงจุดจบ

เพราะยิ่งฝ่าเข้าไปในเมฆสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เกิดแรงอัดหนาแน่นรอบข้างยิ่งกว่าน้ำทะเลลึกเป็นพัน ๆ เท่า ทั้งยังมีเมฆสายฟ้าและรังสีร้อนแรงต่าง ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้สังหารพวกมันเผาไหม้ร่างกาย บ้างอันกัดกร่อนจนกลายเป็นละอองเลือดตกตายไป

“อ๊าก ไม่พ้นแล้ว” ไนเรลร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังก้อง แต่ก็ไม่อาจจะดังไปได้มากกว่าสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่น ๆ ที่กำลังจะตายเหมือนกับเขา

เมื่อรู้ตัวว่าออกไปไม่ได้แล้วเขาก็ก็หาทางรอดอื่น ๆ ให้ได้ แต่การจะเข้าไปในเงาก็อันตรายเกินไป เพราะอย่าลืมว่าโลกของเงาที่เข้าไปเกิดจากวัตถุสร้างเงา ถ้าอยู่ ๆ วัตถุนั้นหายไปเงาก็หายไปด้วย และก็จะไม่มีเงาให้เขาหลบอีกไนเรลจึงต้องรับพลังการทำลายของเมฆตรง ๆ เหมือนเช่นเดิม

นั้นจะยิ่งกลายเป็นการตายที่น่าอนาถไม่ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย

แต่เขาไม่ยอมมาตายทุเรศแบบนี้ โดยการโดนดูดขึ้นไปตายเหนือเมฆแน่นอน

ไนเรลมองหาทางรอดของตัวเองและทันใดนั้นร่างของปูยักษ์ที่ในตอนแรกหนีรอดคมใบมีดวารีของไขไปได้มันกลับลอยผ่านมาด้านข้างของเขา

“ดูเหมือนมันจะไม่ได้ได้หนีไปจริง ๆ ในตอนแรก ถ้างั้นฉันขอยืมร่างของแกหน่อยก็แล้วกัน”

ไนเรลไม่รอช้าตรงเข้าไปในร่างของปูยักษ์บริเวณรอยแผลที่เคยฟันมันที่หลังกระดอง เพราะต้องการใช้ร่างขนาดใหญ่ยักษ์ของมันเป็นโล่เนื้อ

และส่วนที่ว่าเขาทำไมไม่ใช้ร่างของปลาประกายแสง ซึ่งเขาคงไม่เลอะเลือนจนนำตัวเองไปสู้ความตายแบบนั้น เป้าหมายของมังกรวารีคือปลาประกายแสง ถ้าเข้าไปหลบในปลาประกายแสงมีหวังตาย 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน

เขาพุ่งตัวลงไปในกระดองปู เข้าไปภายในเนื้อเลือดเนื้อของมัน ปูยักษ์กลายพันธุ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากการที่ไนเรลฟันเลือดเนื้อของมันเพื่อเข้าไปให้ลึกขึ้น จึงดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด

แต่นั้นคือสิ่งที่มันจะทำได้เท่านั้นหลังจากนั้นร่างของปูทั้งกระดองและส่วนอื่น ๆ ก็เริ่มแตกหักลั่นดังสะนั่น กับแรงัดของเมฆรอบด้านทำให้ปูยักษ์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ตกตายไป

ร่างของมันถูกกัดกร่อนเผาไหม้อย่างรุนแรง แม้แต่ไนเรลที่อยู่ภายในตัวของปูยักษ์ก็เริ่มทันไม่ไหว เขาใช้ทุกความสามารถป้องกันที่ตนเองมีอยู่ออกมา

เกล็ดสีดำรอบตัวของชายหนุ่มโดนรังสีเผาไหม้เกิดความร้อนกระทบอยู่ตลอดเวลา แรงอัดส่งผ่านร่างของปูเขามาที่ชายหนุ่มไม่หยุด

“ย้า!!!”

ไนเรลทนแรงอัดที่ส่งมารุนแรงจนกระดูกเหมือนจะถูกบดทำลาย แต่ถึงจะเจ็บปวด ชายหนุ่มก็ยังต้องรักษาสติไว้ให้ได้ ถ้าเกิดมาสลบไปตอนนี้มีหวังต้องตายอย่างแน่นอน

เปลือกปูยักษ์กลายพันธุ์พังทลายลงไป ตามมาด้วยเลือดเนื้อและโครงสร้างภายใน

“เราเร็วต้องออกไปจากเมฆเร็วกว่านี้อีก” ตอนนี้ไนเรลได้แต่ลุ้นให้ออกไปจากเมฆมรณะให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป

พรึบ!

และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกดึงขึ้นมาเหนือเมฆ ซากและทุกสิ่งรอยหยุดนิ่งอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมฆที่หนาแน่น แสงจากดาวฤกษ์ส่องลงมาอย่างต่อเนื่อง มันร้อนแรงยิ่งกว่าด้านล่างพื้นผิวโลกซะอีก แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่รุนแรงเท่าหมู่เมฆที่พึ่งผ่านมา

มังกรวารีหลังจากที่ดึงท้องทะเลนับ 100 กิโลเมตรขึ้นมาแล้วมันก็ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากซากปลากระกายแสงระดับ 6 เท่านั้น

“ดูเหมือนตัวที่ฆ่าปลาประกายแสงคือมังกรวารีจริง ๆ สินะ” ไนเรลมองผ่านช่องเล็ก ๆ ในตัวของปูยักษ์ที่สภาพไม่อาจจะเรียกปูได้อีก แอบมองการกระทำของมังกรวารีอยู่ด้วยใจที่สั่นไหวอยู่ตลอดเวลา

แต่ในฉับพลันนั้นเองดวงตาขนาดใหญ่ของมังกรวารีก็มองมาที่เขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ไนเรลรับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารที่ตรงมายังตัวของเขา แรงกดดันมากมายมหาศาลนัก “ไม่เมื่อหนีไม่ได้งั้นก็ตายแล้วกัน”

หลังจากพูดปลุกใจตัวเองอีกครั้ง ไนเรลก็ปลดปล่อยจิตสังหารของตัวเอง เหมือนเป็นการบอกว่า ‘ถ้าจะฆ่าก็เขามาเลย แต่แกจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน’

มังกรวารีมองมาที่ไนเรลอย่างเยาะเย้ยและดูถูก มันจึงคิดจะใช้กรงเล็บขนาดใหญ่ตบไปที่เขาสักทีสองทีจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร

แต่แล้วอยู่ ๆ มังกรวารีก็หยุดชะงักนิ่งไปทันที ตัวของมังกรวารีมันสัมผัสได้ถึงศัตรูที่แข็งแกร่งมากจับจ้องมันอยู่

โฮกกก!!!!!!!!!!!!!!

มังกรวารีร้องคำรามและรีบคว้าร่างของปลาประกายแสงบินหนีด้วยความเร็วที่ไม่อาจบอกได้ไปทางด้านบนท้องฟ้าอาจจะออกไปนอกชั้นบรรยากาศเลยทีเดียว

ไนเรลมองดูอย่างงง ๆ เมื่อกี้มันยังทำตัวราวกับราชาแต่ตอนนี้กลับหนีตายราวกับสุนัขจรจัด แต่เขาก็รีบหยุดความคิดนี้ เพราะการกระทำของมังกรวารีไม่ใช่เหมือนกับเขาตอนที่เจอมันเหรอ

เมื่อไม่มีมังกรวารีที่ใช้พลังอยู่ทุกสิ่งที่ดึงขึ้นมาลอยตัวอยู่ในขณะนี้ก็ร่วงหล่นลงอย่างรวดเร็วในจุด ๆ เดิม

“บัดซบเดียวก่อนสิเฮ้ย” ไนเรลตะโกนออกมาขณะที่ตัวเขาและซากปูยักษ์กำลังกลับลงไปในกลุ่มเมฆหนาที่พึ่งรอดตายมาได้ไม่ถึงนาที

บึม!

แต่แล้วเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นกลุ่มเมฆพวกนั้นระเบิดแยกออกเป็นรูขนาดใหญ่ทำให้ในตอนที่หล่นลงมาไนเรลไม่ได้รับความเสียหาย

ไนเรลที่ร่วงลงมาพร้อมกับซากปูยักษ์กระแทกกับพื้นน้ำอย่างรุนแรงดังตูม!

“เกิดออะไรขึ้นอีก? ฝีมือใครกัน?” ไนเรลพูดออกมาด้วยความงงอีกครั้ง เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นเองอย่างแน่นอน

แต่แล้วก่อนที่ไนเรลจะมีเวลาคิดอะไรรอบตัวเขาก็เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลกลับมาเติมบริเวณน้ำที่โดนดูดไปจนเกิดเป็นน้ำวนอย่างรุนแรง

ไนเรลเกราะซากสัตว์ไว้แน่นพร้อมใช้ความสามารถ [ควบคุมน้ำ B] และ [สนามพลังอากาศ S] ช่วย แต่แล้วในตอนนั้นเขาก็มองไปบนท้องฟ้าด้วยความเหลือเชื่อ เพราะมีหญิงสาวผมสีน้ำเงินที่ยืนหันหลังอยู่ไม่สูงมากนัก

ไนเรลขยี้ตาทันทีเพราะคิดว่าอาจจะเป็นภาพลวงตาที่เกิดจากน้ำทะเล แต่พอมองดี ๆ มันไม่ใช่ เขาเห็นจริง ๆ ว่ามีมนุษย์ผู้หญิงยืนอยู่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่แยกเมฆออกจากกัน ซึ่งเป็นระดับพลังที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก

ยิ่งเขามองเธอกับยิ่งรู้สึกคุ้นเคยหญิงสาวผมสีน้ำเงินเป็นอย่างมาก

อยู่ ๆ น้ำตาของไนเรลไหลออกมาไม่หยุด

“เดี๋ยวทำไมฉันร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน”

แม้ตอนนี้ตัวเขาจะเปียกจากน้ำทะเลไปทั้งตัว แต่เขารับรู้ได้ว่าน้ำตาของตัวเองไหลออกมาอย่างแน่นอน

ไนเรลยกมือขึ้นราวกับจะเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ด้วยกลัวจะหายไป

“เดี๋ยวอย่าพึ่งไป” แต่แล้วสิ่งที่เขากลัวก็เกิด ทันใดนั้นหญิงสาวผมสีน้ำเงินก็หายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นสิ่งที่เขาคุ้นเคยอีกอย่างก็ปรากฏขึ้นแม้มันจะเบาบางมาแต่ก็ทำให้เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่หน้าอกของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง

“พลังของระบบ”

ไนเรลถึงกับตัวสั่นแข็งไปทันที โชคดีที่เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการได้อำ พรางตัวของเขาเอาไว้ และอีกอย่างดูเหมือนพลังที่ส่งลงมาจะมีข้อจำกัดบางอย่างจึงทำให้พลังมันเบาบางมาก และอีกอย่างเป้าหมายของมันก็คือหญิงสาวผมสีน้ำเงินนั้น

คลื่น ๆ

พลังของระบบที่น้อยนิดแต่กับทำให้โลกทั้งใบเกิดสั่นไหวพลังของระบบตามไล่ล่าหญิงสาวผมสีน้ำเงินไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่น้ำวนขนาดใหญ่กลืนกินไนเรลลงไป

......

หลังจากนั้น 3 ชั่วโมงทุกอย่างก็สงบลง คลื่นกลับมาเป็นเหมือนเดิม หิมะโปรยปรายลงมาเหมือนก่อนเกิดเรื่องทุกอย่าง ซากสัตว์ทั้งหมดผุดขึ้นมาเหนือน้ำเรื่อย ๆ

บุ! บุ๋ม!

ไนเรลที่อยู่ในฟองอากาศลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ในครั้งนี้เขารอดตายมาได้ แต่กลับไม่สามารถได้แก่นพลังงานระดับ 6 มาได้ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ว่าเขาก็ไม่ได้กลับไปมือเปล่า เพราะเขาได้แก่นพลังงานของสัตว์ระดับ 5 ขึ้นสูงและสมบูรณ์จำนวนมาก

“ยังดีกว่าไม่ได้อะไร”

เขารีบเก็บแก่นพลังงานและซากสัตว์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์เท่าที่จะทำได้และบินกลับเมืองหลวงไทกีล่าทันที เพราะตอนนี้เป้าหมายของเขาบรรลุแล้ว

ส่วนอีกเหตุผลคงเป็นหญิงสาวผมสีน้ำเงินที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ทำให้ไนเรลไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรอีกแล้ว

......

ณ เมืองหลวงไทกีล่า

ไนเรลนั่งอยู่ในตึกสูงใจกลางเมืองหลวง เขากลับมาถึงที่นี่เมื่อวานตอนเย็น แต่ตั้งแต่เมื่อวานเขาแต่นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ขยับไปไหนเลยแม้แต่น้อย หวนนึกถึงเรื่องที่เจอกับหญิงสาวผมสีน้ำเงิน มันเป็นความผูกพันที่แปลกประหลาดมาก ในใจเขามีแต่ความห่วงใย ราวกับอยากจะปกป้องเธอ

“เกิดอะไรขึ้นความรู้สึกผูกพันนี่คืออะไร เราไม่ได้คิดกับเธอแบบเอวาหรือว่าสเตล่า เดี๋ยวหรือว่าเธอจะเป็น ไม่เป็นไปไม่ได้ เธอยังไม่เกิดมา ต้องไม่ใช่จนกว่าจะเจอกับสเตล่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ไนเรลรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก คลื่นพลังของเขาไม่มั่นคงเลยแม้แต่น้อย มันระเบิดออกและหายไปอยู่ตลอดเวลา

คลื่น!!!

จนห้องสั่นไหวผนังแตกร้าว ทุกอย่างในห้องถูกทำลายลงไม่มีชิ้นดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด