ตอนที่แล้วEp.938 - การแจ้งเตือนของพันธมิตรมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.940 - พลังโจมตีอันน่าทึ่ง

Ep.939 - พันธมิตรมนุษย์ที่แท้จริง


3/4

Ep.939 - พันธมิตรมนุษย์ที่แท้จริง

วิสัยทัศน์กลายเป็นมืดมิด พลังสมาธิข้ามผ่านความว่างเปล่า เมื่อการรับรู้กลับมาอีกครั้ง  ฉินเฟิงก็มาหยุดยืนอยู่ในอีกมิติหนึ่งแล้ว!

“หนักจริง!”

แรงโน้มถ่วงของที่นี่ มากซะจนทำเอาฉินเฟิงรู้สึกกดดันเล็กน้อย ท่านสามารถลองจินตนาการดูได้ว่า แรงโน้มถ่วงนี้รุนแรงเพียงใด

จากนั้น ความสนใจของฉินเฟิงก็ถูกดึงดูดไปยังสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา สถานที่ที่เขาปรากฏขึ้น ดูเหมือนจะเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ เหนือขึ้นไปบนลานจัตุรัส เป็นประตูหลายพันบาน แต่สิ่งที่ทำให้ฉินเฟิงตกใจมากที่สุด ก็คืออาคารที่อยู่ตรงหน้าเขา

อาคารถูกปกคลุมไปด้วยอักษรรูนเปล่งประกายสีสันสดใส ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นจากแร่ชนิดพิเศษที่แข็งแกร่งและทนทาน เกรงว่าต่อให้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล S ก็ไม่สามารถทำลายได้ ยังไม่พอ เหนืออาคารนี้ มีพลังสมาธิแบบพิเศษสลักเอาไว้

ในสายตาของฉินเฟิง พลังสมาธิข้างบน ถ่ายทอดความหมายออกมาเป็นสี่ตัวอักษรจีน

--พันธมิตรมนุษย์!

ที่นี่ มันเหมือนกับในโลกแห่งจิตสำนึกทุกประการ โลกที่ผู้ใช้พลังเลเวล C ขึ้นไปจะสามารถเข้าถึงผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ แต่ที่นี่ มันคือของจริง

วู้มมม!

ประตูแสงสาดไสวข้างกายฉินเฟิง จากนั้น มีมนุษย์ก้าวออกมาจากข้างใน

วูซ วูซ วูซซซ!

มนุษย์หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประเด็นก็คือ มนุษย์เหล่านี้ ทุกคนล้วนมีกลิ่นอายของเลเวล S

ฉินเฟิงลองสังเกตดูดีๆ พบว่ามนุษย์ที่เดินอยู่ที่นี่ มีอย่างต่ำมากกว่าพันคน อย่างไรก็ตาม เกรงว่าต่อให้รวบรวมเลเวล S ทั้งหมดในมิติของเขามากอง เกรงว่าคงมีไม่ถึงจำนวนนี้

นี่มันเป็นองค์กรพันธมิตรอะไรกัน? แค่ทางเข้าก็น่ายำเกรงมากแล้ว

ในเวลานั้นเอง หูซานก็พบฉินเฟิง

“ฉินเฟิง มานี่สิ มากับฉัน ฉันจะสมัครอุปกรณ์สื่อสารให้คุณ”

“ครับ” ฉินเฟิงพยักหน้า ก้าวเข้าไปรวมกลุ่มกับหูซาน แต่สุดท้ายอดไม่ได้ต้องเอ่ยถาม “ท่านผู้ใหญ่หู สถานที่นี้คือที่ไหนกัน? ตัวตนทรงอำนาจเลเวล S เหล่านี้ ไม่น่าจะใช่คนของมิติพวกเรา”

ฉินเฟิงพอจะคาดเดาได้บางส่วน แต่เขาก็ยังอยากถามหูซาน หวังว่าหูซานจะมอบคำตอบที่ชัดเจนแก่เขา

หูซานพยักหน้า  จากนั้นกล่าวว่า “คุณเข้าใจถูกแล้ว ที่นี่คือศูนย์กลางของมนุษย์จากหลากหลายมิติที่รู้จักกัน รวมตัวเป็นพันธมิตรมนุษย์! นอกจากนี้ยังเป็นฐานที่แท้จริงของพันธมิตรมนุษย์อีกด้วย มีเฉพาะเลเวล S เท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติก้าวเข้ามาที่นี่!”

แม้ฉินเฟิงจะคาดเดาไว้แล้ว แต่หลังจากรู้เรื่องนี้ ก็ยังอดตกใจไม่ได้

“มิติที่รู้จักกัน? เป็นไปได้หรือ ในพันธมิตรมนุษย์แห่งนี้ ทุกคนต่างรู้กันอยู่แล้วว่าแต่ละคนมาจากมิติอะไร?”

หูซานพยักหน้า แต่พอคิดดูดีๆสุดท้ายส่ายหัว กล่าวว่า “ท่ามกลางมิติอันหลากหลาย ใครจะรู้เล่าว่าแต่ละคนมาจากที่ไหน? ใครจะรู้ว่าวันนี้มีมิติใหม่ถือกำเนิดขึ้น หรือมิติใดล่มสลายลง?”

“ฉินเฟิง มิติที่พวกเราเพิ่งไปสำรวจมา หลังจากที่คุณได้เห็นมัน มีความคิดยังไงบ้าง?”

เมื่อสามารถก้าวขึ้นมาแข็งแกร่งได้ถึงจุดนี้ ในใจฉินเฟิงก็พอคาดเดาได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้เดินทางลงไปใต้ส่วนลึกในดาวมิติของพระเจ้า เขาได้แนวคิดใหม่ๆมามากมาย

“ที่ท่านผู้ใหญ่หูต้องการจะถามคงจะหมายถึง … เรื่องที่หลังการตายของจ้าวเหนือหัว มันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นมิติได้ใช่หรือไม่?”

การคาดเดานี้ เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ แต่มันก็ดูสมเหตุสมผล อ้างอิงจากสถานการณ์หลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ในอดีต ตอนนี้มีคำอธิบายแล้ว

หูซานพยักหน้า จากนั้นกล่าวว่า “ถูกต้อง หลังการตายของจ้าวเหนือหัว จักรวาลแห่งจิตสำนึกจะขยายตัวทันที พลังงานธาตุที่มหาศาลจนไม่อาจจินตนาการ ท่วมทับไปทั่วทั้งแผ่นฟ้าและผืนดิน สสารทั้งหมดค่อยๆถูกดึงดูด และแปรเปลี่ยนไป”

“จ้าวเหนือหัวผู้ใช้น้ำแข็งคนนั้นแข็งแกร่งมาก อาศัยเพียงรูนน้ำแข็งที่คนๆนั้นมี สามารถวิวัฒนาการ สร้างเป็นโลกได้ ก่อตัวเป็นธารน้ำแข็งและภูเขาหิมะ ให้ที่พักพิงสิ่งมีชีวิต แม้สุดท้ายจะเหลือแค่สายพันธุ์ที่ปรับตัวได้ก็ตาม”

“แต่อักษรรูนระหว่างสวรรค์และปฐพี ในความเป็นจริงแล้วสมดุลกัน ในเมื่อพลังงานธาตุแพร่กระจายออกมา สสารเกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ พื้นผิวที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังงานธาตุอันแข็งแกร่ง ก็ค่อยๆลดทอน กลายเป็นพื้นผิวธรรมดาสามัญ ขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่เริ่มแพร่พันธุ์ เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะก่อกำเนิดจ้าวเหนือหัวคนใหม่”

ต้องขอบอกว่า สำหรับประโยคข้างต้นฉินเฟิงตกใจมาก ขณะเดียวกัน ในใจของเขา สับสนงงงวยไม่แพ้กัน

“ถ้างั้นแล้วมิติของพวกเราล่ะ ตั้งแต่ผมอยู่มายังไม่เคยสังเกตเห็นพลังงานธาตุเลย?” ฉินเฟิงอดถามไม่ได้

หูซานฝืนยิ้มขมขื่น จากนั้นกล่าวว่า “ยินดีด้วย ในที่สุดคุณก็รู้แจ้งแล้ว”

สีหน้าของฉินเฟิงเคร่งเครียดลง เอ่ยปากถาม “คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

“ก็หมายความว่า มิติของพวกเรา กำลังจะล่มสลายน่ะสิ!”

สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนกลับกลาย

อันที่จริงแล้ว ดูจากลักษณะที่ปรากฏขึ้นของมิติธารโลหิต หรือมิติอื่นที่พังทลายลง จวบจนปัจจุบัน ฉินเฟิงก็ยังไม่เข้าใจ ถึงสาเหตุของการล่มสลายของมิติเหล่านั้น

แต่ตอนนี้ เงื่อนไขทั้งหมดถูกนำมากองรวมกันเบื้องหน้าฉินเฟิงแล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจ

เพราะเดิมทีมิติของฉินเฟิง มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มันดำรงอยู่มานานมากแล้ว ใกล้ถึงคราวล่มสลายในไม่ช้า ดังนั้นรอยแยกมิติจึงปรากฏขึ้น ขณะเดียวกัน เนื่องจากการปรากฏขึ้นของรอยแยกมิติ ส่งผลให้พลังงานธาตุในมิติของฉินเฟิง เกิดการฟื้นตัว

เมื่อถือกำเนิดย่อมมีวันดับสูญ ทั้งหมดนี้ วนเวียนเป็นวัฏจักร

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มิติที่ตนถือกำเนิด อย่างไรเปรียบเสมือนบ้าน และไม่มีใครอยากดูบ้านของตัวเองถูกทำลาย

“ท่ามกลางมิติทั้งหมดทั้งมวล มนุษย์เป็นเพียงเผ่าพันธุ์เล็กๆ แต่ด้วยสติปัญญาของมนุษย์ที่สูงมาก ทำให้พวกเราสามารถเรียนรู้ที่จะแข็งแกร่งขึ้น สามารถใช้เวลาสั้นๆ พัฒนาเทคโนโลยีชนิดต่างๆ ศึกษาและสร้างสรรค์กระบวนท่าวรยุทธ แม้เปราะบาง แต่ตราบใดที่พวกเราสามารถรอดชีวิตช่วงวัยเยาว์มาได้ ก็มีโอกาสสามารถกลายเป็นจ้าวเหนือหัวในที่สุด”

“และมีเพียงผู้ที่กลายเป็นจ้าวเหนือหัวเท่านั้น จึงจะสามารถรักษามิติของตัวเองได้ เพื่อให้มิติของเราฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาอีกครั้ง แต่แน่นอน นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม เราสามารถหันไปขอความช่วยเหลือจากจ้าวเหนือหัวคนอื่นๆในกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ เพื่อปกป้องมิติของพวกเราได้!”

ฉินเฟิงย้อนนึกไปถึงความทรงจำก่อนเขาถูกส่งกลับมาเกิดใหม่ ในที่สุดเขาก็ได้รับคำตอบ ว่ามิติของพวกเขาเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น แล้วแบบนั้นจะไปหาตัวตนระดับจ้าวเหนือหัวมาจากที่ไหน?

เกรงว่า … คงหาจากที่นี่นั่นเอง!

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!” ฉินเฟิงกล่าว

“ยังไงก็ตาม แม้จัดอยู่ในเผ่าพันธุ์มนุษย์เหมือนกัน แต่เรื่องราวภายในมันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น ตัวตนระดับจ้าวเหนือหัว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเชื้อเชิญ อาจต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาล และมันเป็นราคาที่เราไม่เต็มใจจะจ่าย ดังนั้นถ้าจะให้ดีที่สุด พวกเราควรมีจ้าวเหนือหัวเป็นของตัวเอง!” หูซานกล่าว

“ครับ ผมพอเข้าใจแล้ว”

ฉินเฟิงพยักหน้า ระหว่างคุยกัน ทั้งสองก็เดินมาถึงอาคาร หลังเข้าสู่ห้องโถง ฉินเฟิงค่อยค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ใหญ่โตเพียงใด และเทคโนโลยีทุกชนิดที่แสดงอยู่ ทั้งหมดล้วนถูกถ่ายทอดด้วยพลังสมาธิ มิใช่ข้อความใดๆ

“นี่มัน-- ค่อนข้างเหมือนกับโถงผู้ใช้พลังเลย!” ฉินเฟิงอุทาน

“ใช่ เนื่องจากมีมิติเป็นพันหมื่น ดังนั้นย่อมมีทั้งคนแข็งแกร่งและอ่อนแอ ผู้แข็งแกร่งไม่ต้องการเสียเวลาของพวกเขา ขณะที่ผู้อ่อนแอต้องการขอความคุ้มครอง สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ ล้วนต้องการกำลังคน แต่คุณไม่ต้องไปเข้าร่วมการต่อสู้ประเภทนั้น เพราะคุณไม่ได้มาจากมิติของพวกเขา ถ้าดึงดันจะไป เกรงว่าจะถูกใช้เป็นตัวรับกระสุน!”

ฉินเฟิงยังไม่คุ้นชินกับสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาไม่กล้ารับภารกิจอย่างบุ่มบ่าม

หูซานมาหยุดตรงหน้าจอหนึ่ง สอนฉินเฟิงเกี่ยวกับวิธีสมัครอุปกรณ์สื่อสารของตัวเอง หรือเรียกง่ายๆว่าทำบัตรประจำตัวใหม่

จากนั้น ก็ถึงเวลาทดสอบความสามารถของฉินเฟิง

สำหรับที่นี่ แน่นอนว่ากระทั่งเครื่องทดสอบก็ยังเป็นเอกลักษณ์ มันซับซ้อนยิ่งกว่าเครื่องมือทดสอบที่ฉินเฟิงเคยยกออกมาในมิติธารโลหิต แม่นยำยิ่งกว่า

ถัดจากฉินเฟิง มีผู้ทดสอบคนอื่นๆเช่นกัน และผู้คนเหล่านี้ ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ใช้พลังเลเวล S ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด