ตอนที่แล้วตอนที่ 171 ทะเลตะวันตก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 173 มังกรวารี ระดับ 6 ขั้นสมบูรณ์

ตอนที่ 172 ปลาประกายแสง ระดับ 6 ขั้นต้น


ตอนที่ 172 ปลาประกายแสง ระดับ 6 ขั้นต้น

ไนเรลเลือกที่จะใช้ปีกแห่งความตายบินอยู่เหนือคลื่นทะเลที่บ้าคลั่ง ทุกอย่างดูจะวุ่นวายไปหมด สัตว์น้ำกลายพันธุ์ระดับ 5 ต้องการกินเนื้อสัตว์น้ำกลายพันธุ์ระดับ 6 ส่วนระดับต่ำลงมาก็คิดจะฉวยโอกาสกินระดับสูงที่ฆ่ากันตาย แต่ดูเหมือนพวกมันจะลืมไปว่าพวกระดับสูงสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย

ในแต่ละวินาทีมีสัตว์กลายพันธุ์ตายไปนับร้อย ๆ โดยเฉพาะระดับ 23 และ 4 ที่ไม่รู้จักประมาณตัวเอง ส่วนตัวละครที่สำคัญในการต่อสู้นี้แน่นอนว่าต้องเป็นสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 ซึ่งพอมันตกตายไนเรลก็จะฉวยโอกาสเก็บแก่นพลังงานมันทันที แม้จะไม่มีประโยชน์กับตัวเองก็ตาม แต่ในสมาพันธุ์นักล่าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่เป็นระดับน้ำเงิน

แต่ถึงไนเรลจะยังกับแก่นพลังงานไม่ตกหล่นตัวเขาก็ยังคงรักษาทิศทางไว้ ตรงเข้าไปที่จุดศูนย์กลางการต่อสู้

“นั้นมัน ซากสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 6 งั้นเหรอ” ห่างไปประมาณ 10 กิโลเมตรมีซากปลาที่ผิวหนังสีดำจุดตามตัวราวกับดวงดาวที่ส่องประกายตอนกลางคืน ไนเรลไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรเพราะไม่เคยมีการระบุเผ่าพันธุ์มาก่อน

ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสตั้งชื่อมันว่า “ปลาประกายแสง” สัตว์น้ำกลายพันธุ์ระดับ 6 ขั้นต้น ลำตัวยาวกว่า 500 เมตร ที่ลำตัวมีรอยแผลฉกรรจ์เกือบ 100 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นการโจมตีที่ทำให้สัตว์น้ำกลายพันธุ์ระดับ 6 ตัวนี้ตาย

“แต่ว่าอะไรหรือสิ่งใดเป็นคนฆ่ามันกัน”

ระดับ 6 และ 5 แม้ต่างกันเพียงหนึ่ง แต่มันกับเหมือนก้นของหุบเหวและหน้าผาไม่สามารถเอามาเทียบกันได้ ถ้าจะบอกว่าระดับ 5 คือระดับก้าวข้ามชีวิต ระดับ 6 ก็คือระดับที่สามารถฆ่าระดับ 5 ได้อย่างง่ายดายเพียงการโจมตีแค่ครั้งเดียว ดังนั้นอะไรก็ตามที่ฆ่าปลาประกายแสงได้จะต้องน่ากลัวเป็นอย่างมาก

ดังนั้นเขาจะต้องรีบลงมือเอาแก่นพลังงานและอาจจะเป็นเนื้อบางส่วนมาและถอยออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

ไนเรลกระพือปีกด้านหลังตรงเข้าหาซากของปลาประกายแสง ระดับ 6 อย่างรวดเร็ว โดยซากของปลาประกายแสงยังคงมีเลือดสีเงินไหลออกมาจากบาดแผลอยู่เป็นระยะ แสดงให้เห็นว่ามันอาจจะตายไม่นาน

รอบด้านของซากปลาประกายแสงระดับ 6 มีสัตว์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ทั้งหมด 10 ตัวกำลังสู้เป็นตายกันอยู่

ทำให้บริเวณรอบ ๆ ซากปลาประกายแสงพวกระดับต่ำไม่สามารถเข้าถึงซากปลาได้แม้แต่น้อย และถ้ามีตัวไหนกล้าก็คงจะถูกฆ่าตายในทันทีที่ทั้ง 10 ตัวค้นพบ

ซึ่งถ้าไม่นับซากสัตว์ระดับ 6 ทั้ง 10 คือสัตว์น้ำกลายพันธุ์ระดับสูงเจ้าแห่งดินแดนแห่งทะเลตะวันตกนี้อย่างแน่นอน

พวกมันต่อสู้กันโดยไม่สนใจใคร แต่ถ้ามีตัวใดต้องการจะสัมผัสซากสัตว์ระดับ 6 พวกมันจะโดนทุกตัวรุมฆ่าทิ้งก่อนในทันที

“คงต้องรอพวกมันฆ่ากันเองจนหมด แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น” ไนเรลตรงเข้าหาตัวที่อ่อนแอที่แข็งแกร่งที่สุดคือฉลามขาวยักษ์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์

เนื่องจากมันแข็งแกร่งมากในตอนแรกดังนั้นตัวอื่น ๆ จึงรุมสังหารมันเป็นตัวแรกก่อนและดูเหมือนมันจะบาดเจ็บหนักน่าดู โดยเฉพาะการโจมตีจากคู่ปรับอย่างหมึกดาบยักษ์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์

ฉับพลันที่ไนเรลโผล่มาอยู่เหนือฉลามขาวยักษ์และก็ใช้ความสามารถ [ใบมีดวารี A] ตวัดฟันเข้าเหงือกจุดอ่อนของร่างที่ใหญ่โตนับเกือบ 200 เมตรของมัน

แต่แน่นอนว่าทีเดียวมันยังไม่ตายไนเรลจึงฟันซ้ำไปอีก 5 ครั้งจนเกิดแผลขนาดใหญ่ เลือดไหลทลักไม่หยุดพร้อมกับเสียงร้องเจ็บปวดและคลื่นน้ำที่ตัวขนาดใหญ่ของฉลามขายยักษ์กลายพันธุ์ดิ้นไปมา

ฉลามขาวยักษ์จ้องมองไนเรลด้วยความโกรธแค้น ใช้ปากขนาดใหญ่กัดไปที่ไนเรลอย่างรุนแรงจนคลื่นอากาศเกิดบิดเบี้ยวในทันที

“ความสามารถจำพวกกัดเหมือนราชาบาบูน” ไนเรลเคลื่อนตัวหลบในทันที ไม่แม้แต่คิดจะลองดีรับการโจมตีนี้

ฉลามขาวยักษ์ระดับ 5 ยังไม่ตาย หลังจากโจมตีพลาดไปมันก็คิดจะสังหารผู้ที่ลอบโจมตีมันให้ได้ แต่แล้วหมึกดาบยักษ์มันก็เลือกฉวยโอกาส สังหารฉลามขาวยักษ์ศัตรูคู่อาฆาตของตัวเอง หนวดทั้ง 8 ที่ส่วนปลายกลายพันธุ์เป็นดาบเฉือดเฉือนบาดแผลของฉลามขาวยักษ์จากนั้นก็แทงเข้าไปภายในร่าง

ฉลามขาวยักษ์พยายามหันกลับไปกัดหนวดของหมึกดาบยักษ์ แต่เพราะมันบาดเจ็บมากเกินไปไปจึงสู้แรงรัดของหมึกดาบยักษ์ไม่ได้ และในที่สุดตัวของมันขาดออกจากกันด้วยหนวดที่ปลายเป็นดาบขนาดใหญ่ตกตายไปทั้งอย่างนั้น

หมึกดาบยักษ์รู้สึกดีใจและกระหายที่จะกินซากและแก่นพลังงานของฉลามยักษ์เป็นอย่างมาก จนมันลืมใครบางคนไป

และสิ่งนั้นก็นำความตายมาสู่มัน เพราะมันดันลืมไนเรลคนที่โจมตีฉลามขาวยักษ์เกือบตาย

ไนเรลรู้สึกไม่ชอบใจพวกที่มาแย่งเหยื่อของเขาเป็นอย่างมากดังนั้นมันก็ต้องกลายเป็นเยื่ออีกตัวของเขา (ไรท์ก็ไม่ชอบคนมาแย่งลาส 555)

หมึกดาบยักษ์สัมผัสได้ถึงไนเรลที่มองมันด้วยสายตาหิวกระหาย เหมือนกับมันคืออาหารเท่านั้น ซึ่งเหตุที่มันรู้ได้ก็เพราะเวลามันล่าเหยื่อก็จะมองแบบนี้ แต่ด้วยศักดิ์ศรีของสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์เจ้าของดินแดนในทะเลแถบนี้ทำให้มันเลือกจะโจมตีไนเรล โดยใช้หนวดดาบทั้งแปดเส้นจู่โจมอย่างรวดเร็ว

ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!

ไนเรลเบี่ยงหัวและตัวหลบเพียงเล็กน้อย ขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงหนวดยักษ์ทั้งแปดผ่านไปบินหลบหมุนวนรอบหนวดขนาดใหญ่ด้านหลังของเขามีต้นกาบหอยแครงปีศาจงอกออกมามันเป็นเหมือนกับหนวดหมึกดาบยักษ์เช่นกัน แต่อันที่จริงมันคือเถาของต้นกาบหอยแครงปีศาจที่ไนเรลมักจะไม่ค่อยได้ใช้มันสักเท่าไหร่

เถาทั้งหมดรัดพันหนวดดาบของหมึกดาบจนไม่สามารถขยับไปไหนได้

ไนเรลเหวี่ยงดาบดำออกไปตัดหนวดทั้งแปดเส้นทิ้งไม่มีเหลือ จนตอนนี้หมึกดาบยักษ์กลายเป็นหมึกด้วยนอนรอความตาย

หมึกดาบยักษ์ร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว ถ้ามันไม่มีหนวดก็เหมือนกับก้อนเนื้อที่รอกินเท่านั้น

ไนเรลยกมือทั้งสองขึ้นเหนือหัว น้ำเทเลที่อยู่รอบตัวเริ่มมาร่วมที่เขาด้วยความสามารถ [ควบคุมน้ำ B] จากนั้นเพียงสัมผัสเบา ๆ น้ำทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นใบดาบขนาดกว่า 10 เมตรสุดแสนจะน่ากลัวและไม่ได้มีเพียงหนึ่งแต่มีนับสิบนับร้อย เพียงจ้องมองไปที่คมดาบก็เหมือนโดนตัดเป็นสองท่อน

“ไปตายซะพวกชอบลาส” [ใบมีดวารี A] หันร่างของหมึกดาบออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีเหลือ

เขายกมือขึ้นก็มีสายน้ำโอมเอาแก่นพลังงานและเนื้อของหมึกดาบยักษ์และฉลามขาวยักษ์ไว้จำนวนหนึ่งหลับมา เขาเก็บมันลงไปในเงา ซึ่งมันมากพอที่จะให้ไนเรลมั่นใจว่าจะได้ความสามารถใหม่ ๆ จากเนื้อของพวกมัน โดยเฉพาะเจ้าฉลามขาวยักษ์นั้น ความสามารถในการกัดที่น่ากลัวที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพลาดจากราชาบาบูนไปครั้งหนึ่ง

ในระหว่างที่ฆ่าสัตว์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ทั้งสองตัว ตัวอื่น ๆ ก็ฆ่ากันเองตายไปอีก 2 ตัวตายไป

ไนเรลหันไปมองตัวที่บาดเจ็บอีกสองตัวใช้วิธีการฆ่าแบบเดียวกับหมึกยักษ์เมื่อสักครู่ จนทั้งสองส่งเสียงกรีดร้องคำรามด้วยความหวาดกลัว

แม้ว่าไนเรลจะเป็นแค่ระดับสูงเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถหลากหลายที่สนับสนุนเข้าอยู่ก็สามารถพูดได้เลยว่าต่ำกว่าระดับ 6 เขาคือตัวตนไร้พ่ายอย่างแท้จริง

สัตว์น้ำกลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นสูงทุกตัวที่อยู่ในระยะ 10 กิโลเมตรรอบซากปลาประกายแสงระดับ 6 หยุดต่อสู้กันทันที

ทั้ง 4 ตัวรู้แล้วว่าศัตรูของมันไม่ใช่ พวกที่สู้ด้วยด้านข้างเมื่อสักครู่ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ที่บินอยู่บนอากาศเหนือหัวพวกมัน

โฮก! ๆ

กึบ! ๆ

ฟุ่! ๆ

ซู่! ๆ

ไนเรลมองสัตว์ทั้งสี่ตัวส่งเสียงผ่านกันไปมาราวกับพวกมันฉลาดและสามารถสื่อสารกันได้ เพื่อทำข้อตกลงกัน แน่นอนว่าเข่าไม่ต้องเดาก็รู้ว่าข้อตกลงนั้นคือฆ่าเขา

“ปูหนึ่งตัว กุ้งหนึ่งตัว ปลากระเบนหนึ่งตัวและสุดท้ายปลาไหลไฟฟ้าสินะ” ไนเรลพูดออกมาด้วยชื่อเรียกง่าย ๆ แต่อันที่จริงแล้วตอนนี้พวกมันกลายพันธุ์จนแทบจะไม่สามารถเรียกด้วยคำพูดง่าย ๆ ได้อีกแล้ว

สัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ทั้งสี่ตัวโจมตีใส่ไนเรลในทันที

......

หลังจากนั้น 10 นาที ซากของสัตว์ทั้งสามตัวที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ก็ลอยอืดอยู่บนผิวน้ำจนทะเลกลายเป็นสีเลือดไปแล้ว ส่วนอีกตัวคือปูยักษ์กลายพันธุ์หลบหนีไปได้ แต่มันก็มีรอยโดนฟันขนาดใหญ่ที่กระดองปูด้านหลัง

ไนเรลลงมือเก็บแก่นพลังงานและเนื้อบางส่วนก่อนที่ระดับ 5 ที่ต่ำกว่าขึ้นสมบูรณ์จะจ้องเข้ามาแย่งเหยื่อของเขา แต่ไนเรลก็ไม่ได้เสียดายมันตอนนี้เขากำลังมองรางวัลตรงหน้านั้นก็คือซากระดับ 6 ขั้นต้นของปลาประกายแสง

“นี่สิถึงจะเป็นค่าตอบแทนที่แท้จริง” ไนเรลกำลังยื่นมือไปสัมผัสซากของปลาประกายแสง

แต่แล้วอยู่ ๆ ก็เกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นกะทันหัน พื้นน้ำเริ่มสั่นไหวราวกับแผ่นดินกำลังสั่นไหวจากนั้นก็ตามมาด้วยแรงกดดันมหาศาลลงมาจากบนฟ้า โดยจุดที่แรงกดดันนี้เล็งไว้ก็คือปลาประกายแสงระดับ 6 ขั้นต้นตัวนี้

เมฆที่หนาแน่นแหวกออกจากกัน เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นับพันเมตรลงมาจากฝากฟ้า มันคือมังกรวารี สัตว์กลายพันธุ์ระดับ 6 ขั้นสมบูรณ์ที่ปรากฏตัวออกมา

ทันทีที่หัวของมันโผล่ออกมาผืนน้ำทะเลในระยะ 100 กิโลเมตรรอบซากปลาประกายแสงก็โดนดูดลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้เกิดมาจากความสามารถของมังกรวารีมังกรแท้จริงยิ่งกว่าร่างกิ้งก่าของไนเรลซะ

ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนสามารถหลุดรอดออกไปได้จากความสามารถของมันเลยแม้แต่น้อย

“บ้าชิบ! ทำไมมันถึงมีระดับ 6 ปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ได้ ปกติสัตว์ระดับ 6 ไม่ควรมาที่นี่ หรือไอ้ตัวนี้มันไม่ปกติหรือมันมาเพราะปลาประกายแสง ไม่สิอย่าบอกว่าฉันกำลังแย่งปลาประกายแสงของมัน หนี!!! ต้องรีบหนีก่อน” ไนเรลใช้พลังทั้งหมดบินออกจากแรงดึงดูดรอบ ๆ อย่างไม่คิดชีวิต

ถ้าเป็นระดับ 6 ขึ้นต้นเขาพอมั่นใจว่าสู้ได้สักนาทีก่อนจะหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ครั้งนี้มังกรวารีนั้นไม่ต่างจากบอสในโลกแบบนี้เลยมันคือระดับ 6 ขึ้นสมบูรณ์ที่เหนือกว่าเขาหนึ่งขึ้นใหญ่เต็ม ๆ

และเข้าใกล้ขั้น 7 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่มีมนุษย์คนใดเข้าถึงมาก่อน แต่มันมีอยู่จริงอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาไม่โง่พอจะไปอยู่สู้กับมันอย่างแน่นอน

แต่ไนเรลกระพือปีกของเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนดูดเข้าไปมากเท่านั้น เพราะเขาคือคนที่อยู่ใกล้กับซากปลาประกายแสงมากที่สุด

“ไม่!!!” ไนเรลตะโกนออกมาเมื่อเห็นว่าตัวเองลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะหายไปในหมู่เมฆด้านบน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด