Ep.920 - พายุกระหน่ำ

4/4

Ep.920 - พายุกระหน่ำ

ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงถูกทับ ยุบลงไปใต้พื้นน้ำแข็ง ใช้เวลาสักพักเลยกว่าจะหยุดดิางลง

พื้นน้ำแข็งยุบตัวลงคล้ายปล่องภูเขาไฟ โดยมีรูรูปร่างมนุษย์อยู่ใจกลาง ที่ฉินเฟิงไม่ถูกบดขยี้จนแหลกเหลว แน่นอนเป็นเพราะแม้ร่างกายของเขาจะเป็นมนุษย์ แต่ความแข็งแกร่งของมันหาใช่อ่อนแอ แต่อยู่ในระดับเทวะ

เขาปีนขึ้นมาจากรูบนพื้นน้ำแข็งทันที ยามแหงนมองสังเกตเห็นดวงตาสีแดงก่ำของมังกรเกล็ดปีศาจระดับเทวะ

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะโกรธแค้นเขาสุดๆ

“ก๊าซซซซ!”

มังกรเทวะคำรามเกรี้ยวกราด พุ่งมายังทิศทางของฉินเฟิงอีกครั้ง ระเบิดอำนาจโจมตีมหาศาล ทำให้ฉินเฟิงต้องฉีกหลบอีกคราว แต่ขณะเดียวกันไม่ยอมหนีเปล่า มีดกษัตริย์ครามในมือกวัดแกว่ง คอยสร้างบาดแผลตามร่างของอีกฝ่าย

หึ่ง!

โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงผุดขึ้นมาอีกครั้ง ห่อหุ้มตัวเขา ช่วยให้เขาปลอดภัยชั่วคราว

การต่อสู้แบบทุ่มสุดตัวเช่นนี้ ส่งผลให้ทั้งร่างของฉินเฟิง ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหรือกำลังภายใน ช่วยไม่ได้ที่จะอ่อนล้า

แต่เมื่อเทียบกับเขา ฝั่งมังกรเทวะก็ไม่แย่ไปกว่ากัน เกิดร่องรอยตัดเฉือนหลายแห่งบนตัวมัน ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือฉินเฟิง ในกรณีที่สูญเสียเลือดมากเกินไป ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันจะอ่อนแอลง

“ทักษะหมื่นภูติ!”

ฉินเฟิงเปิดใช้งานวิชาตัวเบาอีกครั้ง ปลีกซ้ายโฉบขวาการโจมตีของมังกรเทวะ ทั้งสองต่อสู้กันพัลวัน จนต่างฝ่ายต่างรู้กลยุทธ์กันและกัน มังกรเทวะทราบแล้ว ว่าฉินเฟิงมักแฝงกายอยู่ในร่างเงามากมายรอบตัวมัน สบโอกาสก็โจมตี ตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยๆ

แต่ในตอนนี้ มังกรเทวะจะไม่ยอมปล่อยให้ฉินเฟิงทำสำเร็จเช่นเดิมอีกต่อไป ทันใดนั้นมังกรเทวะหยุดร่างของมันอย่างกะทันหัน สองเท้ายกสูง ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดที่มี ย่ำลงกับพื้น พลังงานอันน่าหวาดกลัวปะทุออกมา ร่างเงารอบกายทั้งหมดถูกโจมตี กระจัดกระจายหายไป

แต่เงาร่างพวกนี้อ่อนแอมาก นี่แสดงให้เห็นว่าเป็นแค่เงาลวงตา ไม่มีตัวใดเป็นร่างจริงของฉินเฟิง

มังกรเกล็ดปีศาจระดับเทวะงงงวยสับสน แต่แล้วมันพลันได้ยินเสียงร่ำไห้น่าสังเวช

ที่แท้ ร่างจริงของฉินเฟิงก็ไปโผล่ข้างกายมังกรเกล็ดปีศาจระดับจักรพรรดิอีกตัว ง้างสองมือขึ้นฟ้า ก่อนสับมีดกษัตริย์ครามลงสุดแรง การโจมตี เกือบสะบั้นร่างของมังกรจักรพรรดิตัวนี้ขาดเป็นสองท่อน

ฉินเฟิงสามารถล่าหัวจักรพรรดิสัตว์ร้ายได้อีกตัว

ตอนนี้ ภายในฝูง เมื่อนับรวมระดับเทวะ เหลือสมาชิกแค่เพียง 6 ตัวเท่านั้น

เมื่อถึงเวลานี้ ฉินเฟิงตัดสินใจใช้อบิลิตี้มืดอีกครั้ง

“ความมืดเข้ายึดครอง!”

อักษรรูนมืดปะทุออกมา ตรงเข้าห่อหุ้มศพทั้งหกบนพื้น ในบรรดาทั้งหมด มี 5 ตัวถูกสังหารโดยฉินเฟิง อีกหนึ่งถูกมังกรเทวะบดขยี้จนตาย

ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงใช้เทคนิคความมืดเข้ายึดครอง เพื่อควบคุมศพมังกรเกล็ดปีศาจ แต่สุดท้ายถูกรุมทึ้งในอึดใจเดียว ดังนั้นเขาไม่คิดใช้อีก แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ศพที่กองอยู่กับพื้นมีถึง 6 ศพ ขณะที่จักรพรรดิสัตว์ร้ายเหลือเพียง 5 ตัวเท่านั้น

ตราบใดที่ฉินเฟิงคอยรับมือกับมังกรเทวะ ด้วยจำนวนที่มากกว่า ฝั่งเขาย่อมเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ

หกศพผุดลุกจากพื้น เลือดที่ยังหลงเหลือเริ่มแข็งตัว ผิวหนังและขนกลายเป็นสีครึ้มหม่น ภายในคู่ดวงตาลุกไหม้สั่นไหวไปด้วยประกายแห่งจิตวิญญาณ ทันใดนั้นอ้าปากคำรามเกรี้ยวกราด ตรงเข้าตะครุบจักรพรรดิสัตว์ร้ายตัวอื่นๆทันที

มังกรเกล็ดปีศาจระดับจักรพรรดิ ที่ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตเข้าพัวพันกัน คราวนี้ก็ไม่เหลือห่วงใดให้กวนใจอีก ฉินเฟิงสามารถทุ่มสมาธิไปกับการกำจัดมังกรเทวะได้มากขึ้น

แต่เมื่อเห็นฉากนี้ มังกรเทวะโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ที่เพิ่งตายไปล้วนเป็นสมาชิกเผ่าที่ยอมติดตามตน ยามนี้กลายเป็นหุ่นเชิดแห่งความตาย วกกลับมาโจมตีสหายเก่า

และผู้ที่ริเริ่มฉากอันเลวร้ายทั้งหมดนี้ คือมนุษย์ตัวเล็กจ้อยเบื้องหน้า

จิตใจของมังกรเทวะลุกโชนไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างหาที่เปรียบมิได้ มันเริ่มทุ่มโจมตีรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เท่านั้น ยังไม่มีวี่แววว่าจะสังหารฉินเฟิงได้เลย เอาจริงๆความสามารถของทั้งสองไม่ได้ต่างกันมากมาย แค่ฝั่งฉินเฟิงครอบครองกำลังภายในเลเวล S เลยได้เปรียบกว่านิดหน่อยก็เท่านั้นเอง

เวลาไหลผ่านไปอย่างต่อเนื่อง หนึ่งชั่วโมงถัดมา หน้าถ้ำ ในที่สุดมังกรจักรพรรดิอีกห้าตัวก็กลายเป็นศพ ถูกเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิดแห่งความตายตามสหายเก่า

หุ่นเชิดแห่งความตายท้้ง 11 ตัวรายล้อมมังกรเทวะ ภายใต้การโจมตีคลุ้มคลั่งรุนแรง ในที่สุดมังกรเทวะก็ตกตายภายใต้เงื้อมมือของฉินเฟิง

ตูม!

การตายของมังกรเกล็ดปีศาจระดับเทวะ ช่วยให้ร่างกายและจิตวิญญาณของฉินเฟิงสามารถยกระดับไปได้อีกขั้น

ปัจจุบันการยกระดับแต่ละขั้นของฉินเฟิงเป็นเรื่องยากมาก เขาต้องสังหารพรายทารกครวญ , ร้อยกรงเล็บ และมังกรเกล็ดปีศาจ ซึ่งเป็นระดับเทวะถึงสามตัว จึงสามารถตัดผ่านอุปสรรค ก้าวขึ้นสู่เลเวล A1 ได้

เวลานี้ มีผู้ช่วยเป็นหุ่นเชิดแห่งความตายระดับจักรพรรดิแค่ 11 ตัวก็น่าจะพอแล้ว ส่วนวัตถุดิบระดับเทวะเป็นสิ่งหายาก ฉินเฟิงเก็บร่างของมังกรเกล็ดปีศาจระดับเทวะลงในอุปกรณ์รูนมิติ

เมื่อมีกองทัพแห่งความตายคอยอยู่เคียงข้าง กำลังรบของฉินเฟิงก็เพิ่มมากขึ้น เขาตั้งใจออกสำรวจอีกครั้ง

แต่ในเวลานั้นเอง พายุพลังงานภายนอกจู่ๆก็โหมกระหน่ำขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว กระแสหิมะทวีความรุนแรง เมื่อสายลมและหิมะเหล่านี้พัดเข้าหาฉินเฟิง กระทั่งเสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังวูบดับ

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เปลวไฟแห่งจิตวิญญาณบนหุ่นเชิดแห่งความตายยังค่อยๆแผ่วจางลง ฉินเฟิงรู้สึกว่าพลังสมาธิของเขากำลังถูกพายุพลังงานนี้พัดหายไป พริบตานั้นในหัวใจเกิดความตื่นตระหนก

“ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!”

แม้หุ่นเชิดแห่งความตายจะใช้เทคนิคอบิลิตี้เป็นตัวขับเคลื่อน แต่หลังจากสัตว์ร้ายกลายเป็นหุ่นเชิด หากไม่ได้รับการรักษาที่ดี มันมีแต่จะพังทลายลง สุดท้ายเหลือทิ้งไว้เพียงแก่นพลังงาน

จะรอดจากกรณีที่กล่าวมาได้ก็ต้องเป็นแบบหุ่นเชิดแห่งความตายเลเวล S ที่ฉินเฟิงเคยได้รับจากคุนซาร์ ซึ่งมีการจัดทำโลงเก็บศพไว้เป็นพิเศษ แต่ฉินเฟิงไม่ได้ศึกษาในด้านนั้น และปัจจุบันเกรงว่าคงไม่มีวัสดุมากพอที่จะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาแทบไม่เหลือเวลาแล้ว

“จะมัวชักช้าไม่ได้!”

ฉินเฟิงกระตุ้นแรงใจ ใช้มีดกษัตริย์ครามในมือเขาขุดพื้นน้ำแข็งทันที

“มีดเปลวเพลิง!”

ฉินเฟิงปลดปล่อยกระบวนท่าวรยุทธขุดพื้นน้ำแข็ง แต่หลังจากขุดโพรงหลบพายุให้ตัวเองได้แล้ว ฉินเฟิงก็ยังไม่หยุด เพราะยังไม่มีที่ให้พวกศพมังกรเกล็ดปีศาจ ดังนั้นเริ่มขยายพื้นที่

ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที ฉินเฟิงก็สามารถสร้างถ้ำใหญ่ได้สำเร็จ เขาสั่งให้พวกหุ่นเชิดแห่งความตายมุดเข้ามา หลบเลี่ยงพายุพลังงานนี้

ภายนอกหิมะสีขาวโพลนปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า แม้ใช้เวลาโดยรวมแค่ 2 นาที แต่ฉินเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังสมาธิของเขาแทบเหือดหาย ไฟแห่งจิตวิญญาณของหุ่นเชิดแห่งความตายสั่นไหว ใกล้มอดดับ

“ที่นี่อันตรายจริงๆ แต่ขณะเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยโอกาส!”

เพราะแค่เข้ามา ฉินเฟิงก็สามารถล่าสัตว์เทวะได้หนึ่งตัว และจักรพรรดิสัตว์ร้ายได้อีกฝูงนึงแล้ว ในมิติมนุษย์ของฉินเฟิง สถานการณ์แบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉินเฟิงยังรู้มาว่า จำนวนมังกรเกล็ดปีศาจบนเกาะมังกรแห่งนี้ มีปริมาณมหาศาล

แต่สำหรับมนุษย์ธรรมดา กระทั่งในกลุ่มเลเวล S สถานที่แห่งนี้มันน่าหวาดกลัวเกินไป!

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเหอเทียนสิงถึงได้รับบาดเจ็บ!

หากฉินเฟิงไม่ใช่คนที่กลับมาเกิดใหม่ ต่อให้ชีวิตก่อนสามารถไปถึงเลเวล S เขาก็ยังไม่กล้าอวดดีมาที่นี่

วี๊~~

พายุหิมะพัดกระหน่ำ แม้พื้นน้ำแข็งจะสามารถบดบังพายุพลังงานได้ แต่สายลมกรรโชกแรงมาก ชนิดที่ว่าแค่มีลมเล็ดลอดเข้ามาในถ้ำนิดหน่อย ยังทำให้ฉินเฟิงยะเยือกไปถึงกระดูก

ครืน ครืน ครืนนนน!

คล้ายเกิดเสียงไม่ชอบมาพากลบางอย่างดังขึ้น ฉินเฟิงรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยใต้เท้าของเขา แต่คราวนี้ เห็นได้ชัดว่ามิใช่เสียงของสัตว์ร้ายเข้ามาใกล้ แต่มันเป็นความรู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังเคลื่อนไหวไปพร้อมกับมัน

“หรือนี่จะเป็นธารน้ำแข็งเคลื่อน?”

สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไป

หนึ่งในลักษณะเฉพาะของเกาะมังกร คือมันสามารถเคลื่อนย้ายได้ในกรณีที่เกิดพายุพลังงานอันน่าหวาดกลัว สถานการณ์ก็คล้ายๆประมาณว่า มีมิติขนาดใหญ่ ชนเข้ากับมิติอื่น นำมาสู่กระแสกองทัพสัตว์ร้าย

จดจำไว้ให้ดี เมื่อพบสถานการณ์ดังกล่าว พวกคุณต้องรีบออกไปจากที่นี่!

**พรุ่งนี้งดประจำสัปดาห์ครับ