ตอนที่แล้วEp.903 - เลเวล S ที่ยังไงก็ตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.905 - แบ่งเค้ก

Ep.904 - มงกุฏแห่งความมืด


1/5

Ep.904 - มงกุฏแห่งความมืด

ฉินเฟิงยกมงกุฏขึ้นเหนือศีรษะเขา แม้เขาจะไม่ชอบการแต่งตัวที่ดูโอ้อวดเช่นนี้ แต่พอมันวางลงบนหัว ซากศพเน่าเปื่อยและสัตว์ยักษ์โครงกระดูกที่ถูกเรียกเข้ามาในตอนแรกต่างหยุดฝีเท้า

ฉินเฟิงใช้พลังสมาธิเปิดใช้งานมงกุฏ

ปึก ปึก ปึก ..!

ซากศพเน่าเปื่อยทุกตนที่กำลังมองมาทางฉินเฟิง ทั้งหมดย่อตัวลง คุกเข่าอย่างพร้อมเพรียง กระทั่งสัตว์ยักษ์โครงกระดูก ทั้งหมดหมาบกราบกรานลงกับพื้น

ขณะเดียวกัน หลายร้อยเงาร่างตรงมาจากระยะไกล ผู้นำมิใช่ใครอื่น เป็นลูกชายของยักษ์เกราะชื่อเกเธอร์

เพราะการจากไปของกษัตริย์กระดูก ทำให้กลิ่นอายกดดันจางหาย พวกเขาเลยกล้าบุกเข้ามา

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ทราบสถานการณ์ก่อนหน้า ไม่เห็นว่ายักษ์เกราะตายได้อย่างไร

“ท่านพ่อ!” เกเธอร์แผดร้อง รู้สึกราวกับฟ้าถล่ม แม้เขาจะเป็นผู้ใช้อบิลิตี้มืดเลเวล A แต่การมีเลเวล S คอยหนุนหลัง ยังไงก็ดีกว่ามาก หากพ่อของเขาตายจริงๆ ตนที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิเมเฮอร์ นับจากนี้ไป เกรงว่าคิดทำอะไรคงไม่สะดวกเหมือนแต่ก่อน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว การฝึกฝนอบิลิตี้ที่แล้วๆมาของเขา ทรัพยากรส่วนใหญ่ล้วนได้มาจากการช่วงชิง ด้วยฝีมือตนและยักษ์เกราะ บางครั้งถึงขั้นใช้วิธีการไร้ยางอาย ไม่มีแม้เสี้ยวความปรานีแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ฉินเฟิงไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับจักรวรรดิเมเฮร์มากนัก และยิ่งไม่รู้ว่าในชีวิตก่อน ช่วงระยะเวลา 10 ปีที่เขามีชีวิตอยู่ เกเธอร์ตายไปแล้วหรือไม่ แต่เกเธอร์น่าจะอายุอย่างน้อย 35 ปี เลยวัยขี้แยไปแล้ว บวกกับหน้าตามืดมนและท่าทีหยิ่งผยอง ฉินเฟิงเลยยิ่งไม่มีความคิดจะปลอบประโลมอีกฝ่าย เตรียมจากไปทันที

ถึงเขาอยากจะไป แต่คนกลุ่มนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดปล่อยฉินเฟิงจากไป

“วางมงกุฏแห่งความมืดลงซะ!”  เกเธอร์ปาดน้ำตา ตวาดไล่หลังฉินเฟิง

ฉินเฟิงหยุดฝีเท้า เหลียวกลับมามอง

“นี่คุณพูดกับผม?”

“อย่ามาเล่นลิ้นดีกว่า ไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใครไปได้อีก จงวางมงกุฏแห่งความมืดลงเดี๋ยวนี้ สมบัตินั่นไม่ใช่ของแก ถ้ายังขืนดื้อดึง แกจะถูกจักรวรรดิเมเฮอร์ตามล่า!” เกเธอร์กล่าว

ในความคิดของคนอื่นๆ ฉินเฟิงไม่มีทางปฏิเสธ อย่างแรกเลยคือกลิ่นอายบนร่างเขาเป็นแค่เลเวล A ไม่ต้องกล่าวถึงรูปลักษณ์ภายนอกของฉินเฟิงยังดูเยาว์วัยเกินไป ในจักรวรรดิเมเฮอร์ คนอายุน้อยที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ล้วนมีคนป้อนทรัพยากรให้

อีกทั้งรูปลักษณ์ของฉินเฟิง มันไม่มีส่วนไหนที่พวกเขาสามารถนำไปเชื่อมโยงกับตัวตนทรงอำนาจได้เลย บางทีคนๆนั้นอาจสังหารกษัตริย์กระดูกแล้วจากไป หรืออาจเป็นเพราะสู้กับทั้งกษัตริย์กระดูกและยักษ์เกราะ ตัวตนทรงอำนาจคนนั้นเลยตกตายตามกัน

สรุปโดยสังเขป เกเธอร์คิดว่าฉินเฟิงคงอยู่ในสถานะเดียวกันตน แค่เป็นฝ่ายมาถึงเร็วกว่าก็เท่านั้น

“คุณแน่ใจหรอ ว่าจะพูดแบบนี้กับผม? คำพูดของคุณ มันใช้เป็นตัวแทนของจักรวรรดิเมเฮอร์ได้หรือ!”

“แน่นอน เพราะพ่อฉันเป็นเลเวล S!”

“แต่พ่อคุณตายไปแล้ว!” ฉินเฟิงสะกิดบาดแผลของอีกฝ่ายอย่างไร้ปรานี เขาไม่คิดเคารพพ่อเจ้าหมอนี่ คนอะไรอายุเยอะแล้วยังอวดเบ่งบารมีพ่ออยู่อีก

แต่ประโยคนี้ เห็นได้ชัดว่าทำให้เกเธอร์โกรธมาก!

“สารเลว! ฆ่ามันซะ!” เกเธอร์คำรามเกรี้ยวกราด

รอบกายเขารายล้อมไปด้วยผู้ใช้พลังเลเวล A มากกว่า 10 คน กระจายปิดล้อมฉินเฟิง เดิมคำสั่งนี้ไม่ควรเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามใดๆ

แต่วินาทีต่อมา ในสายตาพวกเขา เห็นแค่เพียงบนร่างของฉินเฟิง จู่ระเบิดคลื่นความผันผวนของพลังงานออกมาอย่างรุนแรง บนอากาศเบื้องหลังฉินเฟิง ดาราค่อยๆปรากฏขึ้นทีละดวง พวกมันแวววาวสะท้อนประกายระยับงดงามไม่ต่างจากเพชร แต่นี่มิได้มีแค่ความสวย มันยังแฝงไว้ด้วยแรงกดดันที่ชวนให้หัวใจของผู้คนหยุดเต้น

กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกวาดปะทะใบหน้าของพวกเขา กลิ่นอายที่ทรงพลังยิ่งกว่ายักษ์เกราะยามมีชีวิตอยู่

กลิ่นอายอันหนักหน่วง ส่งผลให้ผู้ใช้พลังเลเวล A ที่คิดลงมือในตอนแรก ทั้งหมดตะลึงลานอยู่กับที่

“เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ? บอกว่าจะฆ่าฉันใช่ไหม?”

ฉินเฟิงเอ่ยถามกลับอย่างแผ่วเบา

แต่เมื่อเห็นฉากตรงหน้า แล้วเกเธอร์จะยอมรับได้อย่างไร?

“เปล่านะ เปล่าเลย!”

“หึ!” ฉินเฟิงส่งเสียงฮึ่มๆในลำคอ แต่สำหรับผู้คนในที่นี้ เสมือนดั่งอัสนีบาตฟาดลงในหูของพวกเขา

ปุก ปุก ปุก ปุก!

กลุ่มผู้ใช้พลังไม่อาจฝืนทนแรงกดดันของฉินเฟิงได้อีกต่อไป พากันคุกเข่าลง

แผ่นหลังของพวกเขางองุ้ม ศีรษะก้มต่ำลงจนสามารถเรียกว่ากำลังหมอบกราบกับพื้น

“ก็นึกว่าจะแน่!” ฉินเฟิงเยาะเย้ย หันกลับมาเดินต่อไปข้างหน้า แต่ยิ่งก้าว คล้ายมีบันไดที่มองไม่เห็น ชักนำฉินเฟิงก้าวสูงขึ้นไปบนฟ้าเรื่อยๆ ถึงเวลานี้ คนอื่นๆค่อยสังเกตเห็น ว่ามียานรบลำหนึ่งลอยลำอยู่เบื้องบน แต่รูปลักษณ์ของมัน แตกต่างจากที่พวกเขาเคยเห็นมา

ฉินเฟิงเข้าไปในยานรบ เขาคร้านเกินกว่าจะใส่ใจกับคนพวกนี้ ขับออกจากที่นี่ไป

จักรวรรดิเมเฮอร์เป็นที่พำนักของพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน มีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นเดียวกับพันธมิตรหัวเซี่ย บางทีอาจมีผู้ใช้พลังเกิดขึ้นก่อนช่วงยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่ด้วยซ้ำ มีตัวตนทรงอำนาจมากเป็นพิเศษ หรือบางทีอาจมีตัวตนในระดับ SS หรือ SSS เลยก็ได้ เพราะเรื่องนี้เอง ฉินเฟิงเลยไม่เชือดพวกมัน เดี๋ยวจะพาลดึงดูดความสนใจจากคนของจักรวรรดิซะเปล่าๆ

เฝ้ารอจนกระทั่งฉินเฟิงจากไป เกเธอร์ถึงค่อยสามารถลุกขึ้น เดินไปเก็บรวบรวมอุปกรณ์รูนของยักษ์เกราะ ในหัวใจฟุ้งไปด้วยความโกรธ “มันน่าจะมาจากซีกโลกตะวันออก ตรวจสอบประวัติของมันให้ฉัน พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใครกันแน่!”

เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล B ยังคงสั่นสะท้าน กลิ่นอายของฉินเฟิงที่เพิ่งปลดปล่อยออกมา ทรงพลังยิ่งกว่ายักษ์เกราะเสียอีก พวกเขาบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวในหัวใจ แม้ฉินเฟิงจะจากไปแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้ายั่วยุผู้แข็งแกร่งเช่นนั้น โดยการทำอะไรลับหลัง

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้พลังเลเวล A แต่ละคนล้วนเริ่มเผยธาตุแท้ในใจ ยักษ์เกราะตายไปแล้ว เกเธอร์ไม่มีคุณสมบัติเอ่ยปากสั่งอีกต่อไป

เกเธอร์แม้ตกอยู่ในความโกรธ แต่มีหรือจะไม่ล่วงรู้ว่าคนพวกนี้คิดอย่างไร แม้ในเมืองไซเร็นจะไม่มีกษัตริย์กระดูกแล้ว แต่ก็ยังอันตรายมาก ในกรณีที่จักรพรรดิเลเวล A โผล่ออกมา ทั้งกลุ่มคงถูกสังหารเกลี้ยง

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เกเธอร์ทำได้เพียงสบถสาปแช่ง พาคนของเขาจากไป

ในเวลาเดียวกัน ฉินเฟิงได้กลับมายังพันธมิตรหัวเซี่ย

ทันทีที่กลับมา ฉินเฟิงก็เริ่มปิดด่านฝึกตนอีกครั้ง ทำการกลืนกินแก่นอบิลิตี้กษัตริย์กระดูก เลาะศิลานรกออกมา แล้วดูดมันเข้าไปในจักรวาลแห่งจิตสำนึก

“น่าเสียดายที่ศิลานรกก้อนนี้มีขนาดเล็กเกินไป เลยทำให้พลังโจมตีของฉัน ไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร”

ในอดีต ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นศิลานรกเลยสามารถเพิ่มพลังธาตุมืดแก่เขา ช่วยเพิ่มพลังยามปลดปล่อยได้มากถึง 10 เท่า

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงได้มาถึงระดับเทวะเลเวล A แล้ว ดังนั้นคุณสมบัติช่วยเสริมอำนาจธาตุมืดของศิลานรกไม่เท่าเดิมอีกต่อไป มากสุดประมาณ 2 เท่าแค่นั้น

แต่เพียงแค่นั้นก็ยังมากพอที่จะช่วยให้เขาปลดปล่อยอบิลิตี้จนเกือบถึงในระดับเลเวล S ได้

ดังนั้น นี่ถือว่าร้ายกาจมากแล้ว

เมื่อการปิดด่านเสร็จสมบูรณ์ ฉินเฟิงก้าวออกมา และพบว่าซูซิงฝูมารอเขาอยู่นานแล้ว อีกฝ่ายรายงานฉินเฟิงทันที

“ท่านประธาน ลองดูนี่สิ คุณสนใจกลับไปในมิติธารโลหิตรึเปล่า? ว่ากันว่าเมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มพันธมิตรแอฟริกาเหนือกำลังหารือกันเรื่องแบ่งอาณาเขตด้วยสันติวิธี!”

ในช่วงแรก ซูซิงฝูไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับมิติธารโลหิตมากนัก แม้จะสามารถใช้เรือเหาะจั๊มป์ผ่านมิติได้ แต่สถานที่ของมันอยู่ห่างไกลเกินไป เอาตรงๆมันเกินเอื้อมถึง ยิ่งไปกว่านั้นมิติที่ว่ายังอยู่ในสหภาพแอฟริกาเหนือ แล้วแบบนี้พวกเขาจะทำกำไรก้อนโตได้อย่างไร?

ทว่าผลลัพธ์ เมื่อฉินเฟิงเดินทางไปยังมิติธารโลหิต ฉินเฟิงกลับสามารถกัดผลประโยชน์ได้คำใหญ่

และผลประโยชน์คำใหญ่ที่ว่า ตอนนี้ไม่ได้หมายถึงศพที่ลอยอยู่บนธารโลหิตเท่านั้น แต่เป็นผลึกโลหิต!

สมบัติล้ำค่าที่สามารถช่วยยืดอายุขัยได้ กระทั่งเลเวล S ก็ยังยอมจ่ายอย่างงามเพื่อซื้อมัน ซูซิงฝูตระหนักได้ทันที ว่ากำไรในครั้งนี้มหาศาลเพียงใด

ดังนั้น ในฐานะนักธุรกิจ เขาจะไม่มีวันยอมปล่อยเงินก้อนนี้ให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด