ตอนที่แล้วบทที่ 65 โทร์วแมนริงส์ (10)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 67 ทหารรับจ้าง (1)

บทที่ 66 โทร์วแมนริงส์ (11)


ตอนนี้ออเนอทั้งหมดของโทร์วแมนริงส์ จิเซลลันเฟอานน์และเอียเซิกได้รวมตัวกันแล้ว เบเนียงจึงจัดการประชุม

ส่วนใหญ่เป็นการแนะนำตัวเฟรย์กับเอียเซิกให้รู้จักกันและเพื่อจัดการกับสถานการณ์ของเซอร์เคิล

เอียเซิกเป็นคนเปิดปากก่อน

“ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณจะแต่งตั้งเซอร์เคิลราวเดอร์ในขณะที่ผมไม่อยู่”

“มันเป็นสถานการณ์เร่งด่วน ฉันขอโทษด้วยถ้าหากฉันทำให้คุณขุ่นเคืองใจ”

เอียเซิกส่ายหัวให้กับคำพูดของเบเนียง

“มันไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่กังวลเกี่ยวกับอนาคตของเซอร์เคิลนี้เท่านั้น”

“…”

เอียเซิกมองเฟรย์ด้วยสายตาสงบ

“ราวเดอร์เฟรย์ ถ้าหากมาสเตอร์เบเนียงและออเนออีกสองคนยอมรับในตัวคุณผมก็ไม่มีอะไรจะพูด”

เฟรย์ไม่เชื่อว่าเอียเซิกจะยอมรับเขาได้อย่างแท้จริง แต่เขาจะดูสถานการณ์ไปก่อนในตอนนี้

ในความเป็นจริงเอียเซิกไม่เคยมีเจตนาที่จะต่อต้านการตัดสินใจของเบเนียง

นอกเหนือจากนั้นมันจะดูแปลกๆถ้าหากเขาไม่ระวังชายแปลกหน้าที่ชื่อเฟรย์คนนี้

ตั้งแต่เริ่มต้นเอียเซิกมองไปที่เฟรย์ด้วยสายตาที่น่าค้นหา

และเฟรย์ก็เหมือนกัน

'นี่คือออเนอเอียเซิก'

เฟรย์ตรวจสอบเขาอย่างเงียบ ๆ

จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่พ่อมดหรือนักรบเวทมนตร์

เอียเซิกเป็นผู้อัญเชิญ

ถ้าจะพูดแบบทื่อๆเขาเหมาะกับไพลส์ฟาวเดอร์อาร์เมลท์มากกว่าเซอร์เคิลนี้

‘ทุกคนบอกว่าเขาเก่งจนหาใครเทียบเขาไม่ได้ในบรรดาผู้บริหารของโทร์วแมนริงส์’

เขาเป็นคนที่รับบทเป็นเอซก่อนที่เฟรย์จะมาถึงฃ

เฟรย์รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกินจริง

จากนั้นอเดเลียก็พุ่งขึ้นไปข้างๆเฟรย์และสะกิดที่ซี่โครง

“เฮ้เกิดอะไรขึ้นช่วงสองเดือนนี้จนนายสามารถกลายมาเป็นราวเดอร์ได้?”

ก่อนที่เฟรย์จะตอบกลับจิเซลลันก็พูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“อเดเลียสุภาพกับเซอร์เคิลราวเดอร์หน่อยสิ”

“…ฉันจะบ้าตาย เขาประสบความสำเร็จภายในพริบตา”

อเดเลียบ่น

แต่ปฏิกิริยาของเธอก็เข้าใจได้

นักเรียนที่น่ารัก (?) ที่เคยพูดกับเธออย่างสุภาพตอนนี้กลายมาเป็นคนที่มีตำแหน่งเหนือกว่าเธอ

สำหรับอเดเลียที่เคยเจ็บปวดกับวิธีหลอกล่อเฟรย์ให้มาเป็นลูกมือของเธอ เรื่องนี่จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับเธอจริงๆ

“…”

ดวงตาของจิเซลลันเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเขาเห็นเธอบ่น

จากนั้นอเดเลียก็ถอนหายใจและทำหน้ามุ่ย

“เอาล่ะๆได้เลยค่าาา...ราวเดอร์เฟรย์ ฉันต้องพูดกับเขาแบบนั้นใช่มั้ย?”

“ใช้เกียรตินำหน้าด้วยสิ”

“…ฉันกำลังทำอยู่ไม่ใช่หรือ?”

เฟรย์พบว่าปฏิกิริยาของเธอนั้นค่อนข้างน่าขบขัน

นั่นเป็นเพราะอเดเลียซึ่งสามารถพูดคุยกับมาสเตอร์หอคอยเวทย์มนต์ที่ 3 ว่าเป็น "ตาแก่" กลับทำตัวเหมือนหนูเห็นหน้าแมวต่อหน้าจิเซลลัน

อเดเลียถอนหายใจอีกครั้งกับความไม่ยุติธรรมนี้ก่อนที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของเธอ

'…รอสักครู่ นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้เป็นนักเรียนแล้วหรือ?”

ในขณะที่อเดเลียดูเหมือนจะจ้องมองไปที่เฟรย์ด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไปเอียเซิกก็เริ่มพูด

“มาสเตอร์เบเนียงถ้าคุณพร้อมผมอยากที่จะการรายงานภารกิจของผมก่อนที่จะรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเซอร์เคิล”

“เอาเลย”

"ขอ..ขอบคุณ"

เอียเซิกพยักหน้าก่อนจะพูดต่อ

“อย่างที่คุณรู้ภารกิจของผมคือการค้นหาร่องรอยที่ผู้สืบทอดราชานักรบเวทมนตร์ และผมพบเบาะแสใกล้กับป่าใหญ่เรย์นอลซึ่งเป็นดินแดนของพวกเอลฟ์ ผมไล่ตามเขาทันที…และผมก็พบกับเขา”

"คุณพูดจริงหรือ?”

คำพูดเหล่านั้นทำให้จิเซลลันและคนอื่นๆเบิกตากว้าง

ผู้สืบทอดนักรบเวทมนตร์ราชาคาซาจิน!

เบาะแสของเขาเป็นสิ่งที่เซอร์เคิลให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

หลายคนสามารถค้นหาร่องรอยการเคลื่อนไหวของเขาได้และยังมีหลายเซอร์เคิลที่สามารถติดต่อกับเขาได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามเขายังไม่ได้เข้าร่วมเซอร์เคิลใดและยังคงอยู่ตัวคนเดียว

เอียเซิกรู้ว่าทำไม

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ประมาทแต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส

“เขาไม่ใช่คนแบบที่ใครจะคุยด้วยได้”

ซิก

เอียเซิกถอดเสื้อคลุมออกและเผยให้เห็นบาดแผลที่น่าสยดสยอง

“ฮ - อัก…!”

“คุณโอเคไหม?”

หน้าอกของเขาจมลงราวกับว่าเขาถูกอะไรบางอย่างหนักๆทุบ

เส้นเลือดแดงช้ำและบวมอย่างรุนแรงทำให้แม้แต่จิเซลลันอดีตทหารรับจ้างยังขมวดคิ้ว

นั่นเป็นเพราะมันเลวร้ายกว่าที่เห็นมาก ซี่โครงของเขาต้องหักหลายซี่แต่ดูเหมือนว่าเอียเซิกจะได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว

เอียเซิกใส่เสื้อผ้ากลับก่อนที่จะดำเนินการต่อ

“ตอนนี้ผมสบายดี ฉันเกือบตายเมื่อสี่วันก่อน แต่มันเป็นความโชคดีที่ได้ช่วยชีวิตผมไว้ ... เหมือนที่พูดกันในเซอร์เคิล เขามีบุคลิกที่คาดเดาไม่ได้ เขาบอกว่าเขาไม่มีเจตนาที่จะพูดคุยกับใครยกเว้นว่าเขาจะยอมรับคนๆนั่น”

สิ่งนี้ทำให้การแสดงออกของผู้ที่รู้ถึงพลังอำนาจของเอียเซิกถึงกับแข็งกระด้าง

หากเป็นผู้บริหารเซอร์เคิลคนอื่นที่ถูกส่งไปทำงานแทนเอียเซิก พวกเขาอาจจะกลายเป็นศพไปแล้ว

“เขารู้เรื่องเดมิก็อดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจในการกวาดล้างเหล่าเดมิก็อดหรือเข้าร่วมเซอร์เคิล เขากล่าวว่าการได้เห็นจุดจบของเส้นทางศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเขา”

แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องของเดมิก็อดแต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

เฟรย์ขมวดคิ้ว

เขาไม่ชอบความคิดที่ว่าบุคคลเช่นนี้ใช้ชื่อ "ผู้สืบทอดของราชานักรบ"

อย่างไรก็ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเขานอกเหนือจากบาดแผลของเอียเซิกก็เห็นได้ชัดว่าเขามีความเชี่ยวชาญในหมัดราชานักรบมาก

'มาคิดดูอีกทีเกี่ยวกับเรื่องนี้ คาซาจินเองก็ไม่ได้สนใจเหล่าเดมิก็อดในตอนแรกเหมือนกัน'

เมื่อเขาสร้างกลุ่มขึ้นมาครั้งแรกคาซาจินเป็นคนที่ชักชวนได้ยากที่สุด

แต่เมื่อเขาเข้าร่วมเขากลับมีความมุ่งมั่นมากกว่าใครๆ

เฟรย์รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องพบกับผู้สืบทอดราชานักรบ

ไม่สิ...เฟรย์แทบไม่ต้องคิดเลย

เขาต้องไปพบ

‘เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเดียวกับคาซาจิน หากเราสามารถขอความช่วยเหลือจากนักรบเวทมนตร์ระดับเฟิร์สคลาสที่เชี่ยวชาญในหมัดราชานักรบได้ละก็… ’

มันจะช่วยพวกเขาได้มากหากพวกเขาพยายามที่จะเอาชนะเดมิก็อดในอนาคตหลังจากเฟรย์เข้าสู่ระดับ 9 ดาว

“เขาอยู่ในป่าใหญ่เรย์นอลใช่มั้ย?”

“ผมไม่คิดอย่างนั้น…ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ที่เดิมนานกว่าหนึ่งเดือนไม่ได้”

หนึ่งเดือน

เฟรย์ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในป่าใหญ่เรย์นอลมานานแค่ไหน แต่เฟรย์คิดว่าคงเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

หลังจากครุ่นคิดสักพักเฟรย์ก็เปิดปาก

“ป่าใหญ่เรย์นอลอยู่ห่างจากที่นี่มากแค่ไหน?”

“คุณตั้งใจจะไปพบเขาใช่มั้ย?”

"ถูกตัอง คงจะดีมากถ้าหากเราสามารถชวนเขาเข้าร่วมเซอร์เคิลของเราได้”

เอียเซิกเงียบลง

ไม่ใช่เรื่องผิด

ไม่มีคำพูดไหนผิดเลย

ในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่เอียเซิกสามารถพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เพราะเขาเองก็เคยมั่นใจว่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมชายคนนี้ได้

แต่เมื่อได้พบเขาด้วยตนเองมันก็เหมือนกับการได้พบกับสัตว์ร้ายแทนที่จะเป็นมนุษย์ทั่วไป

และนั่นคือตอนที่เขารู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงสบายใจกว่าเวลาอยู่คนเดียวแทนที่จะอยู่ในเซอร์เคิล

จากมุมมองของเซอร์เคิลมันดูไม่ดีเลยเมื่อผู้สืบทอดราชานักรบเวทมนตร์ยังวิ่งเล่นไปรอบๆเพื่อทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ

มีพวกหัวรุนแรงหลายคนที่คิดจะจับเขาแล้วกำจัดเขาหลังจากที่พวกเขาล้วงความลับของหมัดราชาได้จากเขา

อย่างไรก็ตามชายคนนี้ยังคงสนุกสนานไปทั่วทั้งทวีป

นี่เป็นเพราะทั้งแผนหลักและแผนสำรองของพวกเขาล้มเหลว

ไม่ใช่แค่สามเซอร์เคิลที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น

เซอร์เคิลขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมากซึ่งบางเซอร์เคิลแข็งแกร่งกว่าโทร์วแมนริงส์ด้วยซ้ำยังส่งหน่วยแมวมองมากมายไปหาเขา

และทั้งหมดก็ล้มเหลว

ไม่มีสักคนเดียวที่ประสบความสำเร็จ

แม้ว่าเขาจะมีความคิดเหล่านี้ เอียเซิกก็ยังคงหยิบแผนที่ออกมาจากกระเป๋าของเขา

คำถามของเซอร์เคิลราวเดอร์นั้นไม่สามารถละเลยได้

ชุก

เอียเซิกชี้ไปที่แผนที่ขณะพูด

“ผมจะแสดงเส้นทางที่สั้นที่สุดให้ดู นี่คือที่ตั้งของเซอร์เคิลของเรา ขั้นแรกไปตามถนนสายนี้ทางทิศใต้จนถึง”โกด้" มันอยู่ใกล้เรามากกว่าเมืองอูเทียโน่และมีหินวาร์ป จากนั้นใช้หินวาร์ปตรงนั้นมุ่งหน้าไปที่ ‘พิลเล็ต’ พิลเล็ตเป็นหนึ่งในเมืองที่ใกล้ที่สุดกับป่าใหญ่เรย์นอล จากที่นี่ไปที่นั่นจะใช้เวลาประมาณสามวัน”

พิลเล็ต

ทันทีที่เขาได้ยินการแสดงออกของเฟรย์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ทางตะวันออกสุดของอาณาจักรนี้มีมีผู้ปกครองอยู่นั่นก็คือบ้านของตระกูลเบลค

“จากที่นั่นคุณต้องเดินทางเท้าเปล่าไปเท่านั้น แน่นอนว่าเส้นทางบนภูเขาที่นำไปสู่ป่านั้นค่อนข้างยาวและขรุขระ…ถ้าคุณใช้รถม้าคุณจะสามารถประหยัดเวลาและพลังงานได้”

“ฉันจ้างรถม้าได้ไหม?”

เอียเซิกพยักหน้า

“มีกองคาราวานของพ่อค้าเร่ที่ค้าขายกับพวกเอลฟ์ ดูเหมือนว่าจะมีการทำธุรกรรมกันทุกๆเดือน แน่นอนว่าเราไม่สามารถใช้พวกเขาเพื่อเข้าไปในป่าได้”

“ดังนั้นวิธีที่เร็วที่สุดคือเข้าร่วมกลุ่มของพวกเขา”

"ถูกตัอง พ่อค้าเร่มักจะมองหาทหารรับจ้างไว้ติดตามพวกเขา คนที่มีทักษะอย่างราวเดอร์เฟรย์จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี”

เอียเซิกไม่รู้แน่ชัดว่าเฟรย์แข็งแกร่งเพียงใด แต่เขารู้ดีว่าเพื่อให้เขาอยู่ในตำแหน่งราวเดอร์เขาจะต้องอยู่ในระดับ 6 ดาวเป็นอย่างน้อย

ไม่มีเหตุผลที่เฟรย์จะไม่เข้าร่วมกองคาราวานเนื่องจากโลกของทหารรับจ้างปฏิบัติต่อใครก็ตามที่อยู่ในระดับ 5 ดาวเหมือนเขาเป็นไฮโซ

“…”

เฟรย์ครุ่นคิดสักครู่ก่อนที่จะหันไปหาเบเนียง

“มาสเตอร์เบเนียงฉันคิดว่าฉันจะไปพบกับผู้สืบทอดราชานักรบเวทมนตร์”

"ใช่ ฉันคิดแล้วว่าคุณจะไป "

เบเนียงพยักหน้าขณะที่เธอเห็นด้วย

“สำหรับตอนนี้ทุกอย่างในเซอร์เคิลนั้นเรียบร้อยดี รากฐานได้รับการเสริมสร้างและแม้แต่ผู้ที่หลงทางก็พบเส้นทางที่จะเดินใหม่ และออเนอเอียเซิกควรได้รับการรักษาให้ทันเวลาสำหรับการแข่งขันกระชับมิตรในอีกหนึ่งเดือน”

“การแข่งขันกระชับมิตร?”

เฟอานน์เป็นคนที่ตอบเอียเซิกที่กำลังสับสน

"ผมจะบอกคุณในภายหลัง อย่างไรก็ตามราวเดอร์เฟรย์คุณไม่ต้องกังวลไป ”

เฟรย์มองหน้าพวกเขาก่อนจะพยักหน้า

“เอาล่ะออเนอจิเซลลันการประชุมใหญ่ครั้งต่อไปของเหล่าเซอร์เคิลคือเมื่อไหร่?”

“ในหนึ่งปีหกเดือน”

“…”

หนึ่งปีหกเดือน

มันเป็นเวลาที่เพียงพอ

โทร์วแมนริงส์ยังไม่พร้อมสำหรับการประชุมดังกล่าวในตอนนี่

แน่นอนว่าอาจไม่มีเวลาเพียงพอที่เขาจะบรรลุเป้าหมายได้

‘ระดับ 9 ดาว’

เฟรย์กำลังคิดว่าเขาจะต้องไปถึงระดับ 9 ดาวก่อนการประชุมครั้งต่อไปจะเริ่ม

หรืออย่างน้อยก็มีพลังเพียงพอที่จะรวมเซอร์เคิลที่กระจัดกระจายได้

แน่นอนว่าเพียงอย่างเดียวนั้นคงไม่เพียงพอ

เฟรย์นึกถึงแกนโกเลมที่เขาเอามาจากดันเจี้ยนของชไวเซอร์

'ยิ่งฉันสร้างอนาสตาเซียได้เร็วเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีเท่านั้น'

ไปให้ถึงระดับ 9 ดาวและสร้างอนาสตาเซีย

ไม่มีอะไรง่ายสักอย่างเลย

ถ้าเขาอยู่ในเซอร์เคิลมันก็จะค่อนข้างยาก แต่ถ้าเขาเดินทางด้วยตัวเองมันอาจจะเป็นอีกเรื่อง

เฟรย์มองไปที่เบเนียงและพูด

“ผมจะกลับมาก่อนมีการประชุมใหญ่ของเหล่าเซอร์เคิล”

“…คุณกำลังบอกว่าเซอร์เคิลราวเดอร์จะหายไปนานขนาดนั้นเลยหรือ?”

เอียเซิกเป็นคนที่พูดด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง

ปฏิกิริยาของเขาเป็นไปตามธรรมชาติ

เซอร์เคิลราวเดอร์นั้นแตกต่างจากฟอร์สออเนอมาก

ยกเว้นกรณีพิเศษพวกเขาก็แทบไม่ได้ออกจากฐานหลักเป็นเวลานาน

เป็นจิเซลลันไม่ใช่เฟรย์ที่ตอบเขา

“เขาบอกพวกเราว่ามันจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรก”

“ผมไม่เข้าใจ ผมรู้ว่าสถานการณ์ของโทร์วแมนริงส์นั้นเลวร้าย และความสามารถของราวเดอร์เฟรย์นั้นยอดเยี่ยมมากแต่…”

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการจะพูดอะไร คุณกังวลว่าราวเดอร์เฟรย์อาจร้องขอจากเรามากไปโดยมีเงื่อนไขที่เขาเข้าร่วมเซอร์เคิลของเรา อย่างไรก็ตามฉันสามารถสาบานในนามของฉันได้ว่าสิ่งนี่ไม่เคยเกิดขึ้น ในความเป็นจริงเราเป็นหนี้เขาจนเราไม่สามารถชดใช้คืนได้”

“…”

“คุณจะเข้าใจมากกว่านี่ สำหรับตอนนี้เชื่อใจฉันและปล่อยให้เขาไป”

เอียเซิกถอนหายใจ

เนื่องจากจีเซลลันเป็นคนพูดเขาจึงถูกบังคับให้เชื่อ

นั่นเพราะเขาไม่ได้ใจง่ายเหมือนเบเนียงหรือเฟอานน์

เขาเป็นชายชราผิวหนาที่ใช้เวลามากกว่าทศวรรษในโลกของทหารรับจ้างที่โหดเหี้ยม

การปหรากฏตัวของจิเซลลันเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เขากลัาทำภารกิจระยะยาวโดยไม่ต้องกังวล

“เอาล่ะราวเดอร์เฟรย์ได้โปรดยกโทษให้กับความหยาบคายของผมด้วย”

เฟรย์ที่กำลังดูแผนที่พยักหน้า

"ทุกอย่างปกติดี เป็นไปได้ไหมที่จะเอาแผนที่นี้ไปด้วย?”

“แน่นอน มันไม่ได้แพงขนาดนั้น”

"ขอบคุณ"

เฟรย์วางแผนที่ทิ้งไว้ขณะที่เขาพูดแบบนี้

“มาสเตอร์เบเนียงผมจะขอลาเดี๋ยวนี้เลย”

"ฮะ?! จะไปแล้ว?”

“ผมคิดว่าฉันต้องออกเดินทางให้เร็วที่สุด ผมคิดว่ามันน่าจะดีกว่าที่จะพลาดไม่เจอเขาเพราะคาดกันเพียงเล็กน้อย”

“ฉันฉันเข้าใจ”

เฟรย์สังเกตเบเนียงสักครู่ก่อนพูด

“โปรดดูแลเซอร์เคิลให้ดีด้วยมาสเตอร์เบเนียง ผมขอโทษที่ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ของการแข่งขัน อา....แต่ผมไม่คิดว่าจะต้องกังวล…”

เมื่อสายตาของเฟรย์สบกับพวกเขาเบเนียงจิเซลลันและเฟอานน์ต่างก็สะดุ้ง

“…มันไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ถ้าคุณไม่ชนะแบบถล่มทลายหรืออย่างน้อยก็ด้วย3ใน4…”

“นั่นจะไม่เกิดขึ้นแน่!”

“โอ้วแน่นอน! ใช่ไหมออเนอจิเซลลัน?!”

“ตามนั่น!”

“ผมจะจำใจคำพูดของพวกคุณ”

เฟรย์ยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้นผมก็หวังว่าเราจะได้พบกันอีก”

* * *

[ฉันหวังว่าเราจะได้พบกันอีก]

เธอกระพริบตา

รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันมานาน

เธอค่อยๆตื่นขึ้น

มันเป็นกลางดึก ดวงจันทร์สีซีดอยู่สูงบนท้องฟ้า

เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป

เมื่อมองลงไปที่ร่างของเธอเธอก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร

"อา…"

ขน

เธอไม่มีขนแล้ว

เธอไม่เข้าใจ

ทำไมเธอถึงมีผิวหนังที่ไม่มีขน?

รูปร่างของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน

เธอไม่มีจะงอยปากแถมยังไม่มีปีก

มันสำคัญด้วยหรือ?

มันไม่ใช่ว่าพลังของเธอนั้นอ่อนแอลง

เธอยังคงสามารถพ่นเปลวไฟที่เธอภาคภูมิใจได้

ไม่สิ รู้สึกว่าเธอจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ

เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง

ผมที่เหมือนเปลวไฟเรียงร้อยเป็นเกลียวคลื่นลงด้านหลังของเธอ

[เดินตามรอยของทอร์กุนทาและกลายเป็นผู้ปกครองภูเขาเหล่านี้ ปกป้องดันเจี้ยนของเพื่อนของฉันด้วยนะ]

เสียงอันอบอุ่นดังขึ้นในหัวของเธอ

มันคือเสียงของคนๆนั้น

เธอเข้าใจทันทีว่าเธอควรฟังสิ่งที่เขาพูด

แต่ก่อนอื่น

ในการเป็นผู้ปกครองภูเขาเธอต้องทำให้พื้นที่นี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ

เธอลังเลที่จะเดินตามรอยของเดรกคิงที่โชคร้าย แต่ก็ช่วยไม่ได้

และมันคงไม่ใช่เรื่องยาก ความแข็งแกร่งที่เธอมีอยู่ในตอนนี้มีมากเกินพอแล้ว

ประการที่สอง

ปกป้องดันเจี้ยนของเพื่อนคนนั้น

เขาอาจกำลังพูดถึงพื้นที่อยู่นั้นภายในภูเขาลูกนั้น

นั่นก็ง่ายเหมือนกัน

โดยปกติแล้วตราบใดที่พื้นที่นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ เธอก็จะมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของพื้นที่นั้น

ดังนั้นเมื่อเธอบรรลุทั้งสองสิ่งแล้ว ... เธอจะไปหาคนๆนั้นได้ไหม?

[เจ้าจะครองราชย์]

เธอหลับตาลงขณะที่จำคำพูดเหล่านั้นอย่างเงียบๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด