ตอนที่แล้วตอนที่ 289 - 290: นี่แค่เริ่มต้น, ถอนรากถอนโคนตระกูลหวาง  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 293 - 294: หวางซินหยวนคนโง่, สารภาพ

ตอนที่ 291 - 292: สิทธิในการแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบ, ตระกูลถางในเมือง B


ตอนที่ 291 : สิทธิในการแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบ

เลิ่งเชาถิงไม่คิดว่ากู้หนิงจะผลักเขาออกไปทำให้เขาคว้าได้แต่อากาศ

ร่างกายที่สวยงามและเซ็กซี่ของกู้หนิงปรากฏในสายตาของเขา ซึ่งทำให้เขาถูกจุดไฟติดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นโทรศัพท์ของเลิ่งเชาถิงที่ดังขึ้นขัดจังหวะ เขาฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ยังต้องทำงานให้สำเร็จ ไม่สามารถเพิกเฉยได้

คนที่โทรเข้ามาคือซู่จินเฉิน เขาบอกเลิ่งเชาถิงว่าพวกเขาได้ที่อยู่ของพ่อค้ายาแล้ว ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องปฏิบัติการ ดังนั้นเลิ่งเชาถิงจึงต้องแยกจากกู้หนิงชั่วคราว

คืนนี้กู้หนิงนอนคนเดียว เธอรู้สึกไม่คุ้นเคย อยู่ๆเธอก็นึกถึงกลุ่มวีแชทขึ้นมา มีข้อความหลายพันข้อความในประวัติการแชทและหลายข้อความกล่าวถึงเธอ

กู้หนิงไม่ลืมโทรหากู้ม่านแต่เธอลืมเพื่อนในวีแชทกลุ่มไปเลย และตอนนี้เธอรู้สึกผิดเล็กน้อย

เมื่อกู้หนิงปรากฏตัวในแชท แชทก็เริ่มเคลื่อนไหว

กู้หนิง : เป็นไงบ้าง?

ฮ่าวหรัน: บอส พวกเราคิดว่าเธอหายตัวไป นี่กะว่าจะไปแจ้งความแล้ว!”

มู่เค่อ: ใช่ๆ! เธออยู่ไหน?

ฉู่เพ่ยหาน: ยุ่งกับเดทอยู่หรอจ๊ะ? ฮิฮิ

ฉินซีหุน: เห็นด้วยกับเพ่ยหาน

อ้ายยี่ จางเทียนปิงและหยูหมิงซีไม่อยู่ในแชท ดังนั้นกู้หนิงจึงแชทคุยกับฉู่เพ่ายหานและคนอื่นๆอยู่สักพักก่อนเข้านอน

วันรุ่งขึ้นประมาณ 08:30 น. กู้หนิงออกไปที่ถนนพนันหิน เธอบอกเจิ้งเผิงว่าเธอได้รับเอกสารสิทธิ์การแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบแล้ว

เจิ้งเผิงตกใจกับประสิทธิภาพของเจ้านายและเครือข่ายในรัฐบาลของเธอ

กู้หนิงไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เธอตั้งใจสร้างความประทับใจให้กับเจิ้งเผิงเพื่อที่เขาจะได้ภักดีต่อเธอและเต็มใจที่จะติดตามเธอ เพราะแม้ว่ากู้หนิงจะเชื่อใจเจิ้งเผิง แต่ก็จำเป็นต้องทำให้เขาเกรงกลัวเธอในระดับหนึ่ง และจะยิ่งทำให้เขากริ่นเกรงเธอมากขึ้นถ้าเธอบอกว่าเธอเป็นคนจัดการถอนรากถอนโคนตระกูลหวางเอง แต่เธอไม่คิดจะบอกเขาเรื่องนี้

หลังจากนั้นพวกเธอวางแผนที่จะจัดงานแถลงข่าวเพื่อกระจายข่าวไปทั่วประเทศ

ข่าวของตระกูลหวางและผู้ให้บริการหยกหลากสีได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อเร็วๆนี้ มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากมาที่ร้านของเจิ้งเผิงทันทีที่เขาโทรหาพวกเขา

แน่นอนเจิ้งเผิงจะเป็นเจ้าภาพในการแถลงข่าว

ผู้ให้บริการหยกหลากสีก่อตั้งขึ้นเพียงไม่กี่วัน แต่ก็สามารถทำข้อตกลงระยะยาวกับนักธุรกิจเครื่องประดับชื่อดังหลายคนได้แล้ว และตอนนี้ยังได้รับสัมปทานการแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบของ ตระกูลหวางก่อนใคร เจ้านายของพวกเขาต้องเป็นคนที่มีอำนาจมากคนหนึ่ง

อันที่จริงการหาข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทผู้ให้บริการหยกหลากสีเป็นใครไม่ยากเลย แต่ในสายตาคนทั่วไปมองว่าเจ้าของผู้ให้บริการหยกหลากสีดูลึกลับ

หลายคนที่ไปตรวจสอบเจ้าของตัวจริงของผู้ให้บริการหยกหลากสีต่างก็อยากรู้อยากเห็น อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาพบว่าเจ้าของเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 18 ปี พวกเขาก็ตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อว่าเด็กสาววัยรุ่นสามารถบริหารบริษัทได้ แต่ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความสามารถของเธอและการสนับสนุนอันทรงพลังที่อยู่เบื้องหลังเธอได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าแพร่กระจายข่าวว่าเจ้าของผู้ให้บริการหยกหลากสีคือกู้หนิง

อย่างไรก็ตามไม่มีใครตกใจไปกว่าจางเต๋อเฉิงเพราะเขาเคยพบกับกู้หนิงมาก่อนและเขาเชื่อว่า กู้หนิงมีความสามารถในการบริหารบริษัท

จู่ๆจางเต๋อเฉิงก็นึกถึงข่าวที่เขาอ่านบนอินเทอร์เน็ตก่อนที่เรื่องอื้อฉาวของตระกูลหวางจะถูกเปิดเผย ว่ากันว่าตระกูลหวางได้ส่งคนไปบุกเข้าไปในโกดังของผู้ให้บริการหยกหลากสีในตอนกลางคืน ความคิดที่เกิดขึ้นกับจางเต๋อเฉิงในเวลานี้ เขารู้สึกว่าตระกูลหวางมีความไม่พอใจกู้หนิงเป็นการส่วนตัว และการล่มสลายของตระกูลหวางอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกู้หนิง

จางเต๋อเฉิงรู้สึกประหลาดใจกับการคาดเดาของตัวเอง ถ้ากู้หนิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับความยุ่งเหยิงของตระกูลหวางจริงๆ เธอจะต้องมีพลังมากกว่าที่เขารู้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจางเต๋อเฉิงเชื่อว่ากู้หนิงเป็นเด็กสาวที่มีความสามารถและต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ แม้ว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของทั้งผู้ให้บริการหยกหลากสีและผู้ให้บริการวัตถุดิบหลากสี

วันต่อมากู้หนิงบอกให้เจิ้งเผิงจัดการให้คนงานที่ทำงานให้กับตระกูลหวางมาทำงานกับบริษัทของเธอให้เร็วที่สุด

กู้หนิงไม่ได้ไล่คนงานที่ทำงานให้กับตระกูลหวางเพราะพวกเขาเป็นพนักงานที่ตระกูลหวางว่าจ้าง ไม่มีใครคิดว่าการที่เจ้านายของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นเรื่องเลวร้าย พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของตระกูลหวางสร้างความไม่พอใจให้กับทุกคนในเมืองเถิง และไม่มีใครเห็นใจพวกเขา แต่คนงานรู้สึกโชคดีที่ได้อยู่ต่อเพราะสามารถรักษางานได้ ดังนั้นพวกเขาจึงขอบคุณและเคารพเจิ้งเผิง

ต่อมากู้หนิงและเจิ้งเผิงไปที่ภูเขาหยกและเหมืองแร่พร้อมกับคนขับรถ

 

ตอนที่ 292: ตระกูลถางในเมือง B

แม้ว่าเจิ้งเผิงจะขับรถเองได้ แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการของทั้งผู้ให้บริการหยกหลากสีและผู้ให้บริการวัตถุดิบหลากสี ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องมีคนขับรถส่วนตัว

ภูเขาหยกและเหมืองแร่อยู่ห่างจากเมืองเถิง 20 กิโลเมตร ระหว่างทางกู้หนิงสังเกตเห็นว่ามีภูเขาหลายลูกที่ถูกใช้ประโยชน์ไปแล้ว ระยะการมองของตาทิพย์ของกู่หนิงมีจำกัด ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีหยกอยู่รอบๆภูเขาหรือไม่ เธอต้องรอจนกว่าจะไปถึง

พวกเขาขับรถบนถนนบนภูเขา ดังนั้นจึงใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อไปยังจุดหมาย

กู้หนิงได้ยินเสียงขุดเจาะจากระยะไกล เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ บ้านดีบุกหลังใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา เป็นที่ที่คนงานพัก ด้านอกบ้านดีบุกมีรถบรรทุกสองคันที่ใช้ในการส่งวัตถุดิบจอดอยู่

หวางจินเหมา อายุ 34 ปี เขาเป็นผู้ควบคุมและดูแลที่นี่ และแม้ว่าแซ่ของเขาคือหวาง แต่เขาก็ไม่มีความสัมพันธ์ใดกับตระกูลหวาง

หวางจินเหมาได้รับแจ้งก่อนหน้านี้แล้วว่าเจิ้งเผิงจะมาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรออยู่ที่ทางเข้าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถขับเข้ามา หวางจินเหมาก็เข้าใจว่าเจิ้งเผิงกำลังมา

รถหยุดที่ไซต์ คนขับรถลงไปเปิดประตูให้เจิ้งเผิง ขณะที่กู้หนิงเปิดประตูออกไปเอง เธอมาที่นี่ในฐานะผู้ช่วยของเจิ้งเผิง ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทำตัวเหมือนเจ้านายได้

“ยินดีที่ได้พบครับผู้จัดการเจิ้ง!” หวางจินเหมาทักทายเจิ้งเผิงด้วยความเคารพ

“ยินดีที่ได้พบเช่นกันหัวหน้าหวาง” เจิ้งเผิงตอบ

“โปรดเดินตามผมมาทางนี้ครับผู้จัดการเจิ้ง” หวางจินเหมานำทางกลุ่มของเจิ้งเผิง เมื่อพวกเขาเดินผ่านบ้านดีบุก หวางจินเหมาหยิบหมวกกันน็อกหลายใบยื่นให้พวกเขา พวกเขาสวมหมวกนิรภัยก่อนที่จะเดินเข้าไปในไซต์เหมือง

ภูเขาหยกอยู่ห่างจากบ้านดีบุกโดยใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่นาที

กู้หนิงใช้ตาทิพย์สำรวจภูเขาหยกเมื่อเธอมาหยุดยืนต่อหน้าภูเขาหยก เธอเห็นหินมากมายที่มีหยกอยู่ในภูเขา ความพึงพอใจฉายวาววับอยู่ในดวงตาของกู้หนิงเมื่อพบว่ามีหยกคุณภาพดีมากมาย

กู้หนิงมองไปที่ภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ แต่ไม่พบหยก

เจิ้งเผิงและกู้หนิงเดินทัวร์รอบๆ สถานที่ก่อนที่จะเดินทางกลับ

ระหว่างทางกลับ กู้หนิงได้รับข้อความจาก K เขาได้ส่งอีเมลเกี่ยวกับตระกูลถางไปยังกล่องอีเมลของเธอแล้ว

กู้หนิงบอกเพียงให้เขาสืบลูกชายคนที่สองของตระกูลถาง แต่คาดไม่ถึงว่าเขาสืบสมาชิกทุกคนในตระกูลถาง

ครอบครัวถางเป็นตระกูลอันดับ 1 ในเมือง B พวกเขามีอิทธิพลอย่างมากไม่ว่าจะเป็นในด้านการเมือง ธุรกิจ หรือการทหาร

ผู้นำตระกูลถางคือถางไห่เฟิงซึ่งเป็นนายท่านถางที่กู้หนิงเคยพบแล้ว

ถางไห่เฟิงมีลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคน ลูกสาวคนโตมีชื่อว่า ‘ถางหยุนหรง’ ผู้พันอาวุโสวัย 49 ปีซึ่งเป็นรองหัวหน้าคณะบริหารและวัฒนธรรมทางอากาศ สามีของเธอชื่อ ‘เกาหลิวหัว’ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของเขตทหารและยังเป็นผู้พันอาวุโสอีกด้วย ตระกูลเกาเป็นตระกูลทหารที่มีอิทธิพลในเมือง B ด้วยเช่นกัน

พวกเขามีลูกชายและลูกสาว ลูกชายของพวกเขาชื่อ ‘เกาเหวินจุน’ อายุ 25 ปีเป็นหัวหน้าขององค์กรตำรวจอาชญากรรม ลูกสาวของพวกเขาคือ ‘เกาเหวินซิน’ และอายุ 23 ปี เธอเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

‘ถางหยุนฮวง’ ลูกชายคนโตของถางไห่เฟิง อายุ 46 ปี เป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำจังหวัด ภรรยาของถางหยุนฮวงเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการท่องเที่ยว พวกเขามีลูกชายสองคนซึ่งเป็นฝาแฝดและทั้งคู่อายุ 22 ปี คนพี่ชื่อว่า ‘ถางเจียหยาง’ และคนน้องมีชื่อว่า ‘ถางเจียหยาง’ คนหนึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเมือง B ในขณะที่อีกคนเรียนอยู่ต่างประเทศ

ลูกชายคนที่สองของถางไห่เฟิงคือ ‘ถางหยุนฟ่าน’ เขาอายุเพียง 42 ปี แต่เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง B ปัจจุบันเขาเป็นประธานกลุ่มถางหัวกรุ๊ปและไม่มีภรรยาหรือลูก

ถังหยุนฟ่านเคยหายตัวไปเมื่อ 19 ปีก่อนซึ่งไม่ใช่ความลับในหมู่คนดังในเมือง B

ตระกูลถางไม่ใช่ครอบครัวอันดับ 1 ในเมือง B เมื่อ 19 ปีก่อน แต่ยังคงเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย ถางหยุนฟ่านเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดในตระกูลถาง ดังนั้นถางไห่เฟิงจึงดันถางหยุนฟ่านขึ้นมาเป็นผู้สืบทอด อย่างไรก็ตามถางไห่หมิงน้องชายของถางไห่เฟิงมีความทะเยอทะยานที่จะสืบทอดสมบัติของตระกูลถาง ดังนั้นเขาจึงวางแผนต่อต้านถางหยุนฟ่าน

ไม่มีใครรู้รายละเอียดจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงปีนั้น เพราะมันเป็นเรื่องเก่าและเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าขนาดนั้น แม้แต่ถางหยุนฟ่านเองก็ลืมรายละเอียด ว่ากันว่ามีคนพบถางหยุนฟ่านที่แม่น้ำแห่งหนึ่ง

ตั้งแต่นั้นมาบุคลิกของถางหยุนฟ่านก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาบ้างานตลอดเวลาและไม่เคยแต่งงานหรือมีลูกเลย ภายในเวลาไม่กี่สิบปีตระกูลถางได้ยกระดับเป็นตระกูลอันดับ 1 ในเมือง B ด้วยทรัพย์สินกว่าแสนล้านหยวนภายใต้การนำของถางหยุนฟ่าน

เขาหายตัวไปเมื่อ 19 ปีก่อนและถูกพบที่แม่น้ำ?

เมื่อทราบเช่นนั้นกู้หนิงก็มั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมว่าถางหยุนฟ่านอาจเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอ

มีรูปถ่ายครอบครัวแนบมาในอีเมลด้วย เมื่อสายตาของกู้หนิงมองไปที่ถางหยุนฟ่าน เธอมั่นใจว่าถางหยุนฟ่านต้องเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของเธออย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ว่าถังหยุนฟ่านจะดูแตกต่างไปจากตอนที่ยังเป็นหนุ่ม แต่ลักษณะของเขาและกู้หนิงเหมือนกัน

แซ่ของกู้หนิงคือ ‘ถัง’ ในชาติก่อน และบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอก็มีแซ่เดียวกัน บางทีเธออาจถูกกำหนดให้เป็นสมาชิกของตระกูลเดียวกัน

(ถางและถัง อ่านและสะกดเหมือนกันค่ะ ผู้แปลจึงเลือกใช้ถาง เพื่อไม่ให้จำสับสน)

แม้ว่ากู้หนิงจะแน่ใจว่าถางหยุนฟ่านเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอ แต่เธอก็ไม่รีบร้อนที่จะไปพบเขาเพราะเธออยากรู้ก่อนว่ากู้หม่านจะตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร

ถึงอย่างไรถางหยุนฟ่านก็สูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับกู้ม่านไปหมดแล้ว

กู้หนิงเคยเชื่อว่าถางหยุนฟ่านไม่แต่งงานเพราะกู้มาน เรื่องนี้เธอต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ตราบใดที่ถางหยุนฟ่านได้พบกับกู้ม่านอีกครั้ง เขาอาจจะได้รับความทรงจำกลับคืนมา นอกจากนี้หากเขาสูญเสียความทรงจำเพราะสมองของเขาได้รับความเสียหาย พลังของกู้หนิงก็ช่วยได้มากเช่นกัน ที่สำคัญที่สุดคือถ้าถางหยุนฟ่านเป็นเพียงคนธรรมดา กู้ม่านอาจจะกระตือรือร้นที่จะพบเขา แต่ตอนนี้ถางหยุนฟ่านเป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยมาก กู้หนิงกังวลว่ากู้ม่านจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจตัวเอง

แม้ว่ากู้หนิงจะไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาตราบใดที่พวกเขายังรักกัน แต่เธอก็ไม่ใช่กู้มานและไม่สามารถบังคับให้แม่คิดอย่างนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรกู้หนิงก็ตัดสินใจที่จะสนับสนุนกู้ม่าน และเธอจะไม่ยอมให้ใครดูถูกแม่ของเธอเด็ดขาด

จากนั้นกู้หนิงก็กลับไปที่ถนนพนันหินกับเจิ้งเผิงก่อนที่เธอจะกลับไปเพียงลำพัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด