ตอนที่แล้วบทที่ 63 โทร์วแมนริงส์ (8)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 65 โทร์วแมนริงส์ (10)

บทที่ 64 โทร์วแมนริงส์ (9)


คนต่อไปที่เฟรย์ต้องสอนหลังจากเบเนียงคือเฟอานน์

เขาจ้องมองเฟรย์ด้วยความหวาดกลัวในขณะที่เขานึกถึงความหมองคล้ำและไร้ชีวิตชีวาในดวงตาของเบเนียงเมื่อเธอกลับมาที่บ้าน

เฟรย์ถามโดยไม่สังเกตเห็นความวิตกกังวลของเฟอานน์

“ศิลปะการป้องกันตัวของคุณมีชื่อว่าอะไร?”

“มันถูกเรียกว่า 'แบควังกวอน'” (ราชามวยขาว)

“…”

มันเป็นชื่อที่ไม่มีรสนิยมเอาซะเลย

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จึงชอบใช้คำว่า "ราชา" ในชื่อเทคนิคของพวกเขา

หากพวกเขาไม่ยึดติดกับชื่อที่เป็นสากลเฟรย์ก็มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถสร้างชื่อที่ฟังดูดีขึ้นได้กว่านี่เยอะ

เฟรย์ส่ายหัวและนึกถึงคาซาจินในทันที

“ก่อนอื่นมาลองดูหน่อยก็แล้วกัน เพื่อที่ฉันจะได้รู้ทักษะของคุณ”

เฟอานน์พยักหน้าด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง

เขาเคยเห็นเฟรย์สอนที่หมู่บ้านมาก่อน

แน่นอนว่าในบรรดาผู้ที่ไม่พอใจส่วนมากจะเป็นพวกนักรบเวทย์มนต์

พวกเขาโจมตีเฟรย์ด้วยความมุ่งมั่นอย่างสุดขีด แต่พวกเขาไม่สามารถแตะต้องคอเสื้อของเฟรย์ได้เลย

ตอนนั้นเองที่เฟอานน์ตระหนัก

ชายหนุ่มคนนี้ตรงหน้าเขาไม่ได้เป็นแค่พ่อมดที่มีพรสวรรค์ แต่เขายังเป็นนักรบเวทมนตร์ระดับเฟิร์สคลาสอีกด้วย

อย่างน้อยที่สุดเขาก็เป็นคู่ต่อสู้ที่เฟอานน์ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะเอาชนะได้

"เข้ามา"

ตึงๆ

เฟอานน์ลดระยะลงอย่างรวดเร็วหมัดของเขาพุ่งเข้าหาใบหน้าของเฟรย์

ฮัก

เฟรย์หลีกเลี่ยงการโจมตีได้เพียงแค่ขยับศีรษะ

‘เร็ว’

มันเป็นการโจมตีที่รุนแรง

ถ้ามันโดนหน้าของเขาจังๆเขาจะต้องเสียโฉมแน่นอน

เฟอานน์ไม่ได้ผิดหวัง แม้การโจมตีของเขาไม่สามารถทำอะไรได้เขาหดแขนกลับอย่างรวดเร็วและโจมตีหน้าท้องของเฟรย์ด้วยมือซ้ายของเขา

เฟอานน์รู้ว่าเพราะเขาอยู่ใกล้มากการโจมตีเช่นนี้จะอยู่ในจุดบอดของคู่ต่อสู้

อย่างไรก็ตามเฟรย์จับทางหมัดของเขาได้ราวกับว่าเขาคาดหวังการโจมตีไว้แล้ว

“กั๊ก…”

เขารู้ได้อย่างไร?

ไม่มีเวลาให้คิดเรื่องนั้น

เฟอานน์บิดร่างกายของเขาและเขย่ามือของเขาให้เป็นอิสระ

ใช้แรงหมุนเขาหันและปล่อยลูกเตะออกไป

แม้ว่าจะถูกเรียกว่าแบควังกวอนแต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันประกอบด้วยเทคนิคที่มีเพียงหมัดเท่านั้น

มีหลายครั้งที่คนๆหนึ่งจะใช้เท้าเข่าศอกมือและแม้แต่หน้าผากเพื่อโจมตี

กว๊าก

“…!”

มันถูกบล็อกอีกครั้ง

เฟรย์สามารถหยุดการโจมตีของเฟอานน์ได้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว

ถ้ามันโดนเขาอาจจะยุติการต่อสู้ได้ในครั้งเดียว

เขากัดฟันแน่นและดึงเท้ากลับ

เฟรย์ไม่ได้ไล่ตามเขาและยังคงยืนอยู่ในจุดเดิม

'ฉันต้องเข้าใจทักษะของคุณ'

นี่คือสิ่งที่เฟรย์บอกเขาและนั่นคือสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นในตอนนี้

ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะขยับไปไหน

แต่ถึงเวลาแล้วที่เฟอานน์จะต้องแสดงให้เฟรย์เห็นว่าแบคกวังกวอนของเขาเป็นศิลปะการต่อสู้แบบใด

ต้าๆ!

เป็นอีกครั้งที่เฟอานน์พุ่งไปข้างหน้าและโจมตีอย่างรุนแรง

เฟรย์หลีกเลี่ยงการโจมตีทั้งหมดนี้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยและบล็อกการโจมตีที่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

'นี่มันน่าหงุดหงิดชะมัด'

นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกอย่างแท้จริง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้ต่อสู้กับเฟรย์ แต่มันกลับให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้กับคนที่กำลังตรวจสอบจุดแข็งและจุดอ่อนทั้งหมดของเขาอย่างถี่ถ้วน

ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไรก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เลย

‘มันเหมือนกับการชกหิน’

เฟอานน์โจมตีอย่างต่อเนื่องนานเกือบหนึ่งนาทีเต็ม

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและเขาก็หอบเล็กน้อย

"พอได้แล้ว"

“…”

เฟอานน์หยุดการโจมตีของเขา

เขาไม่คาดคิดว่าจะไม่สามารถโจมตีโดนตัวของเฟรย์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

เฟรย์มองไปที่การแสดงความขุ่นเคืองและความอับอายของเฟอานน์ก่อนที่จะพูด

“ออเนอเฟอานน์คุณมีทักษะในระดับคราสสองของนักรบเวทย์มนต์หรืออาจจะต่ำกว่านั่นเล็กน้อย”

เฟอานน์อ่อนแอกว่าเลียมสันมากซึ่งถือได้ว่าเป็นนักรบระดับสองเหมือนกัน

แม้ว่าระดับนี้จะค่อนข้างน่าประทับใจ แต่มันก็ไม่เพียงพอสำหรับการเป็นผู้บริหารของเซอร์เคิล

อย่างน้อยเขาก็น่าจะไปให้ถึงระดับเดียวกับเฟรย์หากเป็นเขาที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เพียงอย่างเดียวมาตลอดชีวิต

“…”

เฟอานน์กัดริมฝีปากของเขาอย่างรุนแรงจนถึงจุดที่มันกลายเป็นสีขาว

เฟรย์เดินเข้ามาหาเขาและตบบ่าเขา

“สิ่งนี้อาจทำให้ความภาคภูมิใจของคุณเจ็บ”

"…ใช่"

“นั่นเป็นสิ่งที่ดีเฟอานน์ อย่าลืมความแค้นที่คุณกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ความภาคภูมิใจเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่เดินบนเส้นทางแห่งเวทมนตร์ คนอื่นอาจไม่เข้าใจแต่บางครั้งคุณอาจต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องความภาคภูมิใจนั้น”

“อาจมีสถานการณ์ที่คุณอาจจะต้องแสดงความภาคภูมิใจแม้จะต้องเสี่ยงกับชีวิตของคุณ”

"ถูกตัองไม่ใช่เรื่องยากที่จะจินตนาการ คุณพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเกียรติยศของโทร์วแมนริงส์ รายละเอียดอาจจะแตกต่างกันแต่มันก็เหมือนกันในบริบทนี้”

"…ผมเข้าใจแล้ว"

เฟอานน์พยักหน้าขณะที่เขารู้สึกว่าเขาเข้าใจสิ่งที่เฟรย์พูด

จากนั้นเขาก็มองไปที่เฟรย์ด้วยสายตาแปลกๆ

“คุณเป็นมังกรหรือเปล่าราวเดอร์เฟรย์?”

"ทำไมคุณพูดแบบนั้น?"

“เป็นเพราะรู้สึกว่าคุณอายุไม่น้อยไปกว่าผม พวกเขาไม่ได้บอกผมก็จริงแต่ผมแน่ใจว่าสมาชิกในเซอร์เคิลและมาสเตอร์เบเนียงเองก็คิดเหมือนกัน”

เฟรย์หัวเราะ

“เป็นเพราะฉันช่วยมาสเตอร์เบเนียงซึ่งเป็นลูกครึ่งมังกรหรือเปล่า?”

"ใช่แล้ว"

“เหตุผลของคุณน่าขบขัน แต่ฉันเป็นมนุษย์ ฉันแค่รู้มากกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็เท่านั้น”

เฟอานน์นึกถึงการพบเจอครั้งก่อนของพวกเขาก่อนที่จะถาม

“ศิลปะการต่อสู้ก็เป็นหนึ่งในนั้นหรือ?”

"ถูกตัอง แน่นอนทักษะศิลปะการป้องกันตัวของฉันยังบกพร่อง ฉันแค่อาจจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นนักรบเวทมนตร์ระดับสองเท่านั้น”

"ฮะ? เป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ? ผมสาบานได้เลยว่าคุณเป็นนักรบเวทมนตร์ระดับเฟิร์สคลาส…”

ไม่แปลกที่เฟอานน์จะเข้าใจผิด

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องจริงที่ทักษะของเฟรย์อยู่เพียงในฐานะนักรบเวทมนตร์ระดับสองเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพราะสายตาที่เฉียบคมบวกกับประสบการณ์ของเขาที่ทำให้เขาเอาชนะเฟอานน์ได้อย่างท่วมท้น

" คุณบอกว่ากระบวนท่าของคุณมีชื่อว่าแบควังกวอนใช่มั้ย? ดูเหมือนว่าจะเป็นศิลปะการป้องกันตัวแบบมาตรฐาน มันเป็นการโจมตีที่เรียบง่ายและเทคนิคก็มีน้อย”

เฟอานน์ยิ้มอย่างขมขื่น

"ถูกต้อง มันทำให้ฝ่ายตรงข้ามอ่านทางได้ง่ายซึ่งหมายความว่าหลังจากการแลกเปลี่ยนไม่กี่ครั้งฝ่ายตรงข้ามจะสามารถจดจำรูปแบบได้”

“นั่นเป็นเพราะการที่คุณขาดความขยันในการฝึก มาตรฐานไม่ได้ถูกเรียกว่ามาตรฐานเพื่อให้ดูดี แต่แบควังกวอนจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเลเวลของคุณเพิ่มขึ้น แม้แต่นักรบระดับเฟิร์สคลาสก็อาจไม่พบข้อบกพร่องในการเคลื่อนไหวของคุณ ในทางกลับกันการโจมตีของคุณจะทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้”

"จริงหรอ?"

ใบหน้าของเฟอานน์มีความสุขแวบหนึ่ง

นี่เป็นเพราะเขามีความสุขที่ศิลปะการต่อสู้ที่เขาฝึกฝนเป็นที่ยอมรับ

“ศิลปะการต่อสู้ของคุณสามารถแสดงผลลัพธ์ได้ไม่ว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะอ่อนแอกว่าแข็งแกร่งกว่าหรือแข็งแกร่งพอๆกับคุณก็ตาม ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย อืม…มันอาจจะเหนื่อยไปบ้างแต่...”

“คุณหมายถึงอะไร?”

“เนื่องจากมันไม่มีทางลัดบนเส้นทางของนักรบเวทย์มนต์ คุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นบันไดทีละขั้น”

มันแตกต่างอย่างมากกับเบเนียงที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วหลังจากทำลายห้องมานาของเธอและแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อย

เฟอานน์พยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจ

“อ่า…ผมเข้าใจแล้ว”

"แน่นอน"

เฟรย์หัวเราะออกมา

“มีวิธีที่จะช่วยให้คุณขึ้นบันไดได้อย่างรวดเร็ว”

"…หา?"

“เพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉันมีวิธีการฝึกเฉพาะของนักรบเวทย์มนต์ ถ้าคุณสามารถทนกับการฝึกฝนคุณจะกลายเป็นนักรบเวทมนตร์ระดับเฟิร์สคลาสได้ในเวลาเพียงสามเดือน”

ถ้าคุณสามารถทนได้

เฟรย์พูดสิ่งนี้อีกครั้งในหัวของเขาและหัวเราะสั้นๆ

น่าเสียดายสำหรับเฟอานน์ เขาไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้

ภาพในหัวของเบเนียงได้หายไปจากความคิดของเขาแล้ว

เขามองเฟรย์ด้วยสายตาที่ลุกโชน

“คุณช่วยสอนผมได้ไหม?!”

* * *

การเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพขั้นพื้นฐาน

แม้ว่าชื่อจะฟังดูเรียบง่ายแต่เฟอานน์กลับรู้สึกว่าควรเปลี่ยนชื่อเป็น "การทรมานร่างกายแทน"

เฟอานน์นอนคว่ำหน้าลงบนพื้นแข็ง

ไม่สิอาจจะบอกว่ามันผิด

ความจริงก็คือเขาทรุดลงและไม่มีแรงจะขยับแม้แต่นิ้ว

‘ฉันต้องแกล้งว่าสลบอยู่…’

สาด-

น้ำเย็นสาดลงบนใบหน้าของเขาและเฟอานน์ก็รีบลุกขึ้น

“ยังทำไม่ถึงครึ่งทางเลยนะ จะมานอนอยู่อย่างนี้ได้ยังไง?”

"ฆ่า…"

"ฆ่า?"

“ฆ่าผมเลยดีกว่า…”

เฟรย์ยิ้มและกล่าวว่า

“หยุดเป็นเด็กขี้แยได้แล้ว ไม่ต้องกังวลฉันจะบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อของคุณด้วยมานาของฉัน ฉันยังเอาสมุนไพรที่มีคุณค่าทางโภชนาการบางอย่างมาให้กินเพื่อให้ร่างกายหายเร็วขึ้น”

‘ผมไม่ใช่เด็กขี้แยนะ!’

เฟอานน์อยากจะตะโกนออกมาด้วยพลังทั้งหมดของเขา แต่ในขณะนั้นเขาไม่กล้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด