ตอนที่แล้วตอนที่ 3 วิถีแห่งการฝึกตน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 เริ่มฝึกฝนอักขระ

ตอนที่ 4 โรงเลี้ยงม้าของราชวงศ์


ตอนที่สี่

โรงเลี้ยงม้าของราชวงศ์

หลิงเฉินออกไปทำงานที่โรงเลี้ยงม้าของราชวงศ์ตามปกติ อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในฐานะทาสของราชวงศ์ถ้าไม่ได้ไปทำงานคงจะถูกเฆี่ยนตีจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ตอนนี้เขายังแข็งแกร่งไม่พอจะสามารถต่อต้านได้ รอให้เขาแข็งแกร่งพอจะสู้คนได้ก็เถอะเขาจะไม่ยอมมาทำงานเช่นนี้อย่างแน่นอน

คนเลี้ยงม้าของราชวงศ์มีหน้าที่คือการดูแลและเลี้ยงม้าของราชวงศ์ตั้งแต่การหาอาหารการทำความสะอาดคอกม้าและอีกหลายๆอย่าง โดยหลิงเฉินนั้นถูกใช้งานให้มาเป็นคนทำความสะอาดคอกม้าในทุกๆวัน

จักรพรรดิอักขระเช่นเขาต้องมาทำอันใดเช่นนี้ถ้าผู้ที่ยกย่องเขาในอดีตรู้เข้าคงจะหัวเราะจนฟันหลุดเป็นแน่ หลิงเฉินที่กำลังทำความสะอาดคอกม้าของราชวงศ์ที่มีความกว้างมากกว่าคอกม้าเก่าๆที่เขาใช้นอนตั้งหลายเท่าแถมมันยังมีสภาพดีและดูสะอาดสะอ้าน

อย่างว่าแต่คอกม้าเลยแม้แต่อาหารการกินและที่เป็นอยู่ม้าพวกนี้มันกินดีอยู่ดีกว่าเขาเสียอีก เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลิงเฉินถึงกับกัดฟันแน่นภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อสวรรค์ แต่ทำเช่นไรได้เล่าตอนนี้เขาก็ได้แต่ก้มหน้าก้มหน้าทำไปก่อนรอเขาฝึกปรือพลังวิญญาณในอยู่ระดับเดิมก่อนเถอะ…

หลังจากทำความสะอาดคอกม้ามาครึ่งวันตอนนี้ก็ถึงเวลาที่หลายทาสทุกวันรอคอย นั้นคืออาหารกลางวันอย่างไรเล่า

ผู้ใดว่าทำงานในรั้วในวังแล้วเท่ากับสบายราวกับขึ้นสวรรค์ จริงอยู่นั้นมันสำหรับพวกนางในหรือพวกขุนนางเท่านั้น แต่สำหรับทาสเช่นหลิงเฉินแล้วมันก็ต่างอันใดกับด้านนอกสักเท่าไหร่

อาหารกลางวันของเหล่าทาสโรงเลี้ยงม้ามีเพียงข้าวร้อนๆที่โรยเกลือเพื่อเพิ่มรสเท่านั้น ในมื้ออาหารกลางวันเหล่าทาสทุกคนต่างรวมตัวกินข้าวพวกนั้นอย่างหิวโหยผิดกับหลิงเฉินที่แยกตัวออกมานั่งกินคนเดียวด้านนอก

หลิงเฉินนั่งกินข้าวเปล่าในมืออย่างช้าๆเขามิได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมา อย่างไรเสียมันก็คือข้าวจะบอกว่าอร่อยก็ไม่ได้แต่ว่าจะพูดว่าไม่อร่อยก็มิได้อีก หลิงเฉินเลยนั่งกินมันอย่างเรียบเฉยเรื่อยๆ

ในขนาดที่กำลังนั่งกินข้าวในมืออยู่นั้นเองมีชายชราผู้หนึ่งเดินตรงเข้ามาหาหลิงเฉินหลังจากที่เขาสังเกตุเห็นเด็กหนุ่มผมสีดำผู้นี้แยกออกมานั่งคนเดียว

“เจ้าหนูหลิงเฉินเหตุใดถึงออกมานั่งคนเดียวเช่นนี้”

หลิงเฉินหันมองร่างของชายชราคนนั้นที่เข้ามาทักทาย ชายชราวัยประมาณหกสิบปีที่มีผมสีขาวโพลนหลังค่อมลงมาเล็กน้อยและมีใบหน้าอันแสนอบอุ่น

ถ้าเขาจำไม่ผิดชายผู้นี้คือตาเฒ่ามู่ เขาเป็นคนที่เป็นหัวหน้าของเหล่าทาสที่ดูแลคอกม้าแห่งนี้ จะพูดง่ายไปก็คือเขาเป็นหัวหน้าของข้า..

“ท่านตามู่…” เด็กหนุ่มร้องเรียกกลับไปอย่างเป็นมิตร อย่างไรเสียตาเฒ่ามู่คนนี้ก็เป็นคนดีน่าคบหาด้วยเขาควรจะผูกมิตรเอาไว้เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ

ท่านตามู่ลงนั่งที่ข้างกายของเด็กหนุ่ม

“เจ้าเป็นอันใดถึงออกมานั่งด้านนอกคนเดียวเช่นนี้” ชายชราร้องถาม

“มิมีอันใดหรอกขอรับข้าแค่อยากหาที่สงบๆนั่งพักเท่านั้น” หลิงเฉินตอบกลับไปตามความจริง

“จริงสิขอรับท่านตาท่านช่วยเล่าเรื่องของราชวงศ์หมิงให้ข้าได้ฟังหน่อยได้หรือไม่ขอรับ…”

หลิงเฉินแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมาอย่างออกนอกหน้า สถานที่ที่เขาอยู่คือแคว้นหมิงปกครองโดยราชวงศ์หมิง ตั้งแต่ในยุคสมัยที่เขาจากมาตอนนั้นแผ่นดินถูกปกครองโดยราชวงศ์หมิงจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นราชวงศ์หมิง สมัยเขาแคว้นหมิงถูกปกครองโดยจักรพรรดิที่ชื่อว่า หมิงหวังเซียน จนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันถูกเปลี่ยนไปกี่รุ่นแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลิงเฉินก็อดฉีกยิ้มออกมามิได้ เพราะว่าเขาและหวังเซียนก็รู้จักกันพอสมควรแต่ถ้าเปรียบเทียบแล้วหลิงเฉินรู้จากกับราชวงศ์หมิงมาตั้งแต่ก่อนหน้าของหมิงหวังเซียนเสียอีก เพราะว่าเขาสามารถสลักอักขระอายุยืนยาวได้ช่วงชีวิตของเขาจึงมากกว่าคนปกติทั่วไป

เมื่อเปรียบเทียบดีๆหมิงหวังเซียนนั้นก็เป็นคนรุ่นหลานของเขา ตอนนี้หลิงเฉินเลยอยากรู้เกี่ยวกับราชวงศ์หมิงในตอนนี้มากกว่าว่าเป็นเช่นไหร่ เพราะอย่างไรเสียเวลามันก็ผ่านมาตั้งห้าร้อยปีแล้วระบบของราชวงศ์หมิงก็คงเปลี่ยนไปบ้างไม่มากก็น้อย ขนาดทางเดินภายในวังหลวงแห่งนี้ยังเปลี่ยนไปจนเขาแทบจะจำไม่ได้เลย

ตาเฒ่ามู่ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเหตุใดเด็กน้อยผู้นี้ถึงถามเขามาเช่นนี้ เพราะว่าหลิงเฉินก็อยู่ในวังหลวงแห่งนี้มานานพอสมควรแล้วเหตุใดต้องมาถามเรื่องที่รู้ดีอยู่แล้วกับเขาด้วย

“เป็นอันใดของเจ้าน่ะเจ้าหนูหลิงเฉิน” ตาเฒ่ามู่ถามพลันขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

“ข้าแค่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์หมิงเพิ่มเพื่อเป็นคนรู้น่ะขอรับ เลยอย่างให้ท่านตาเล่าให้ข้าฟังหน่อย” หลิงเฉินโกหกไปอย่างไหลลื่น เขาแกล้งทำหน้าตา สนอกสนใจเพื่อความแนบเนียบ

ตาเฒ่ามู่เมื่อเห็นเด็กน้อยนี่ทำหน้าตาสงสัยเขาเลยคายความสงสัยเพื่อว่าหลิงเฉินอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากให้คงไม่แปลกที่เขาจะทำท่าทางอยากรู้อยากเห็นเช่นนี้

“งั้นข้าจะเล่าให้ฟังก็ได้ ตอนนี้แคว้นหมิงของพวกเราถูกปกครองด้วยองค์จักรพรรดิ หมิงเหยียน โดยองค์จักรพรรดินั้นมีองค์ชายและองค์หญิงที่เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์หลายองค์  ”

“คนแรกคือ องค์ชายใหญ่ หมิงเหอหลิง และองค์ชายรอง หมิงลู่ ทั้งสององค์คือผู้ที่น่าจะมีโอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิมากที่สุด และยังมีองค์หญิงอีกถึงห้าคน”

“องค์หญิงหรือขอรับ…” หลิงเฉินร้องถามขึ้นมาหลังจากได้ยินความว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันของแคว้นหมิงมีบุตรสาวถึงห้าคน

“ใช่!!! เจ้ามีอันใดหรือ…”

“งดงามหรือไม่ขอรับ”  หลิงเฉินถามพร้อมฉีกยิ้มที่มุมปากด้วยความสนใจ

“เจ้าพูดอันใดน่ะเป็นถึงองค์หญิงก็ต้องงดงามสิ”

หลิงเฉินรู้อยู่แล้วว่าเหล่าบรรดาองค์หญิงต้องงดงามเพราะว่าในยุคสมัยที่เขาจากมาพวกบรรดาองค์หญิงหรือเชื้อพระวงศ์ของแคว้นหมิงต่างมีรูปร่างหน้าตางดงามกริยามารยาทก็ต่างเป็นเลิศ

เด็กหนุ่มฉีกยิ้มออกมาพลางกับยกมือของตนเองขึ้นมาลูบที่ปลายคาง ตาเฒ่ามู่มองเด็กหนุ่มหลิงเฉินด้วยความประหลาดใจ เจ้าหนุ่มนี้แปลกคนจริงๆ!!!!

จบบท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด