ตอนที่แล้วWS บทที่ 54 ออกเดินทาง PART 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 56 ออกเดินทาง PART 3

WS บทที่ 55 ออกเดินทาง PART 2


ณ ดินแดนของเลห์แมน วิลสัน ด้านนอกของปราสาทได้รับการคุ้มกันอย่างเข้มงวด

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว รอบด้านได้มืดสนิท มีเพียงปราสาทแห่งนี้เท่านั้นที่ยังสว่างไสว

เลห์แมนได้เปลี่ยนไปใส่ชุดเกราะสีเงิน เขากำลังเช็ดทำความสะอาดดาบอย่างระมัดระวัง

ในระหว่างนั้นเขาได้ฟังรายงานของอัศวินที่ดูแลดินแดนของเขาในห้องโถง

เขาพบว่าในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ ไม่มีการโจมตีใด ๆ ของพวกโจรเลย ดูเหมือนว่ากองโจรพวกนั้นได้แตกพ่ายไปแล้วและไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อที่นี่อีกต่อไป

ส่วนเมอร์ลินก็นั่งอยู่ไม่ไกล เขานั่งพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก

“ดูเหมือนว่ากระดูกซี่โครงของผมจะไม่หักนะครับ แค่ช้ำเล็กน้อยเท่านั้น” เมอร์ลินกล่าวพลางกดเบา ๆ ตรงบริเวณซี่โครง

นี่ความอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากการต่อสู้กับพ่อมดเจสัน เดิมทีเขาคิดว่าซี่โครงของเขาร้าว อาจจะต้องรักษาเป็นเวลาหลายเดือน แต่โชคดีที่ไม่อย่างนั้น เขาเลยพักผ่อนสักหน่อยก็จะหายดี

“ฟู่~” เมอร์ลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นเขาก็ลุกยืนขึ้นช้า ๆ และยืดตัวเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่แต่เขาก็สามารถออกกำลังกายแบบเบา ๆ ได้

“เมอร์ลิน ลูกหายดีรึยัง” เลห์แมนถามอย่างกังวล

“ดีขึ้นแล้วครับแต่ยังรู้สึกปวดอยู่เล็กน้อยเท่านั้น เรื่องของผมเอาไว้ก่อนเถอะครับ เรามาคุยกันดีมั้ยครับว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อดี” เมอร์ลินกล่าว เขาต้องการให้ทุกคนสนใจปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้

ตอนนี้เมืองหลวงได้ถูกควบคุมโดยศาสนจักรแล้ว แม้ว่าสถานการณ์ของเมืองแบล็กวอเตอร์จะดีขึ้นมาหน่อยเนื่องจากเมอร์ลินได้สังหารพ่อมดเจวันไป นั่นทำให้ทางศาสนจักรได้สูญเสียกำลังรบที่สำคัญไป ด้วยเหตุทำให้พวกเขาไม่อยากอยู่ที่เมืองต่อไป หากทางโบสถ์รู้เรื่องนี้เมื่อไหร่พวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายทันที

แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาจำเป็นต้องยืนยันสถานการณ์ปัจจุบันของอาณาจักรแห่งแสงเสียก่อน ถึงจะค่อยคิดแผนในขั้นต่อไป

แต่ทว่าเลห์แมนกับเมอร์ลินไม่รู้ข่าวสารใด ๆ เลย จึงทำให้พวกเขาคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

ด้วยความเงียบงันนี้ได้ทำให้บรรยากาศรอบข้างชวนให้รู้สึกอึดอัด

จู่ ๆ เมซี่ส์ก็พูดขึ้นมาว่า “กัตต์ได้บอกกับพวกเราก่อนหน้านี้ว่าศาสนจักรได้ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาณาจักรแห่งแสงไปแล้ว”

เมอร์ลินพยักหน้ารับฟังอย่างเงียบ ๆ เขาก็คิดอย่างเช่นเดียวกัน เนื่องจากพวกเขาได้เตรียมตัวมาเป็นเวลานานและตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบมาก หากราชวงศืไม่สามารถหยุดยั้งศาสนจักรได้ ประเทศนี้ก็จะตกอยู่ในความวุ่นวาย

จากนั้นเลห์แมนก็ได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงอันแหบแห้ง “ดูเหมือนว่าแม้แต่ราชวงศ์ก็ไม่สามารถหยุดศาสนจักรได้และไม่มีที่ใดในอาณาแห่งแสงที่พวกเราสามารถอยู่ได้ เมอร์ลิน ลูกพอจะมีแผนอะไรบ้างมั้ย” เลห์แมนหันไปถามเมอร์ลิน

เมอร์ลินได้คิดอยู่พักหนึ่งและตอบว่า “พวกศาสนจักรที่มีกองกำลังมากมายมกาศาลที่สั่งสมมานานหลายปี ผมเกรงว่าแผนการของพวกเขาคงใกล้จะสำเร็จแล้ว หากเป็นเช่นนั้นพวกเราคงไม่สามารถอยู่ที่อาณาจักรนี้ได้อีกต่อไป เราควรจะเดินทางไปทางตะวันออกและมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรแบล็กมูน นี่เป็นทางออกเดียวของพวกเรา”

หลังจากที่เมอร์ลินพูดจบ ทุกคนก็เงียบไป

“ออกจากอาณาจักรงั้นเหรอ” เมซี่ส์กล่าวอย่างมาอย่างสับสน

เมอร์ลินเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขามีความคิดที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ในครอบครัว เนื่องจากเขาไม่สนใจว่าจะอยู่ที่ไหน แต่ที่เขาต้องการไปอาณาจักรแบล็กมูนก็เพราะว่าตัวเขาเป็นพ่อมด เขาหวังว่าพ่อมดที่นั่นจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและเขารู้มาว่าพ่อมดที่นั่นมีสถานะที่สูงส่งด้วย

นอกจากที่นั่นจะปลอดภัยแล้ว เขายังสามารถเรียนศาสตร์พ่อมดเพิ่มเติมและแข็งแกร่งขึ้นได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามเมซี่ส์ พ่อบ้าน มาดามหน้าอกใหญ่ ลุงแพรตต์ หรือแม้แต่เลห์แมน พวกเขาอาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งแสงมาตลอดชีวิต แม้พวกเขาจะไม่ได้ศรัทธากับทางโบสถ์มากนักแต่พวกเขาก็ได้รับอิทธิพลบางอย่างจากโบสถ์มาไม่ก็ทางใดทางหนึ่งอยู่ดี

พวกเขาคงคิดว่า อาณาจักรแบล็กมูนนั้นเป็นประเทศที่น่ากลัวและชั่วร้าย

ทางด้านเลห์แมนไม่ได้พูดอะไรแต่ท่าทางของเขาได้เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าเขากำลังพิจารณาข้อเสนอของเมอร์ลิน

ในตระกูลวิลสันนั้น ไม่มีใครรู้จักอาณาจักรแบล็กมูนดีเท่าเขา

เขาได้เข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่และรอดชีวิตจาก ‘โรงเชือด’ ที่โหดร้ายมาได้

การที่บอกให้ไปประเทศที่เขาเคยฆ่าฟันแบบนี้ มันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะรับได้

“ท่านบารอนครับ กระผมมีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทราบ”

จู่ ๆ อัศวินก็ตรงเข้ามาในห้องโถง เขาได้ก้มหัวลงและคุกเขา ก่อนจะรายงานต่อเลห์แมนด้วยความเคารพ

“ทางเราได้พบกับอัศวินจำนวนมากอยู่ด้านนอก ดูเหมือนพวกเขาจะตรงมาที่ปราสาทครับ”

“พวกมันเป็นพวกศาสนจักรรึเปล่า?” เลห์แมนถามอย่างประหลาดใจ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปมาก

อัศวินผู้มารายงายได้ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “เนื่องจากตอนนี้มันมืดมาก ทางเราจึงไม่ทราบว่าพวกเขาเป็นใคร ผมมาที่นี่ตามคำสั่งของท่านบารอน”

“ออกไปดูกันเถอะ”

เลห์แมนไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้ เขาหยิบที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จและเดินตามอัศวินไปข้างนอก

“หวังว่าจะไม่ใช่พวกโบสถ์นะ...” เมอร์ลินพึมพำเบา ๆ เขามองไปข้างนอกราวกับเห็นผี

ถ้าหากเป็นพวกศาสนจักร เขาคงไม่อาจหลีกหนีการต่อสู้ได้ ตอนนี้พลังจิตของเขาฟื้นฟูขึ้นมาได้เพียงครึ่งเดียว นอกจากนี้เขาก็มีลูกยักษ์อีก 8ลูกในจี้ห้อยคอ หากเขาเจอพ่อมดแบบเดียวกับเจสัน เขาก็ไม่มั่นใจว่าพลังของเขาในตอนนี้จะจัดการพวกศาสนจักรได้

เมอร์ลินจึงตัดสินใจตามเลห์แมนไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด