ตอนที่แล้วEp.875 - มุ่งสู่ดวงดาวศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.877 - วันสุดท้าย

Ep.876 - เกราะทมิฬ


1/5

Ep.876 -  เกราะทมิฬ

ดวงตาของฉินเฟิง กวาดมองไปรอบๆ คล้ายบังเกิดความรู้แจ้งบางประการ

แต่ความคิดนั้นก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว ฉินเฟิงไม่ได้สลักมันลงในจิตใจ

ต่อจากนั้น สายตาของฉินเฟิง เบนตกลงบนดาวศักดิ์สิทธิ์ เพียงมองด้วยตาเปล่า ให้ความรู้สึกว่านี่คือสัตว์ยักษ์เหล็กกล้า ไม่เพียงแค่นั้น แต่บนตัวมันหาใช่เปลือยเปล่า  ปรากฏหอคอยที่เหมือนเสาแหลมคอยรับส่งพลังงาน นอกจากนี้ยังมีจานที่เหมือนกับฝาหม้อใบใหญ่ คอยแผ่พลังงานออกมา

สำรวจจนถึงตอนนี้ ฉินเฟิงยังไม่พบหุ่นยนต์ตัวใด

เรือเหาะหยุดลง หมาจักรกลไม่กล้าขับลึกเข้าไปมากกว่านี้

“เจ้านาย พวกเรามาถึงแล้ว!” หมาจักรกลกล่าว

“อืม!”

ฉินเฟิงรับคำคราหนึ่ง โล่ปราณกำลังภายในก่อตัวเป็นชั้นเกราะป้องกันหนาแน่น จนยากที่จะมีอะไรแทรกแซงเข้ามาได้ ฉินเฟิงเปิดประตูที่เชื่อมต่อกับภายนอกของเรือเหาะ และกระโดดออกไป

กำลังภายในทานรับแรงบีบอัดของอวกาศ ขณะเดียวกันช่วยผลักดันฉินเฟิง มุ่งหน้าสู่ทิศทางของดวงดาวศักดิ์สิทธิ์

รังสีและพลังงานของอวกาศถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องรุนแรง ณ เวลานี้ ดวงดาราของฉินเฟิงโคจรโดยอัตโนมัติ ดูดซับพลังงานเหล่านี้ แต่หลังจากเข้าสู่ตันเถียน ดวงดาราที่เดิมมีสีสันโปร่งใส ก็เริ่มปนเปื้อน บางจุดกลายเป็นสีขาว บางจุดกลายเป็นสีเทา อีกทั้งพลังงานบางส่วน ยังไม่สามารถควบคุม

ฉินเฟิงทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่เมื่อเจอกับตัวตรงๆ เขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง

“พลังงานจากอวกาศพวกนี้ รุนแรงมากจริงๆ ถ้าเป็นคนธรรมคงไม่มีทางรอด มากสุดทำได้แค่ต่อต้าน ปิดกั้นตันเถียน และใช้พลังสมาธิป้องกันไม่ให้พลังงานลบพวกนี้รุกล้ำเข้ามา”

อย่างไรก็ตาม กรณีของฉินเฟิงน่ะต่างออกไป

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้ติดตัว กลืนกินพลังงานสกปรกเหล่านั้นในตันเถียน ต่อมาพลังงานที่ยุ่งเหยิงก็ถูกกลั่นกรองเปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์ เข้าหล่อเลี้ยง บำรุงร่างกาย , กำลังภายใน และพลังสมาธิของเขา

ดูเหมือนว่า เมื่อเทียบกับผืนดินแห่งขุมทรัพย์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานฟ้าดินอย่างเมืองเฟิงหลีหรือเมืองหลวงมังกรแล้ว พลังงานของที่นี่ ช่วยเติมเต็มเงื่อนไขในการยกระดับได้เร็วกว่าซะอีก

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลามามัวฝึกฝน ฉินเฟิงต้องทำอะไร? แน่นอนว่าเขาต้องรีบเข้าสู่ดวงดาวศักดิ์ศิทธิ์ และออกค้นหาเกราะทมิฬ

กระแสกำลังภายในขับเคลื่อนเป็นทิศทางเดียว ส่งร่างของฉินเฟิง ลอยเข้าไปใกล้ดวงดาวศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ

แม้อยู่ห่างออกมามากถึง 10 กิโลเมตร แต่ฉินเฟิงยังสัมผัสได้ถึงแรงโน้มถ่วงภายในดวงดาวศักดิ์สิทธิ์

หลังลอยล่องในอวกาศจนสองเท้าหยั่งลงบนดาวศักดิ์สิทธิ์ ฉินเฟิงก็พบว่าที่นี่ให้ความรู้สึกเดียวกันกับการเข้าสู่มิติอื่น แต่ท้องฟ้าโดยรอบเป็นสีดำสนิม ยังคงเป็นฉากของจักรวาลขนาดใหญ่

พลังในการรับรู้ของฉินเฟิงกวาดครอบคลุมดาวศักดิ์สิทธิ์ทั้งดวงในทันที

“สามารถรับรู้ได้กว้างขวางถึงขนาดนี้ ฉันไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย” ฉินเฟิงทอดถอนหายใจ

ก่อนกลับมาเกิดใหม่ เขาสามารถไปถึงแค่ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล A เท่านั้น ระยะการรับรู้ยามเข้าถึงเลเวล A สามารถไปได้ไกลแค่ 10 กิโลเมตร

แต่พอมาถึงเลเวล S รัศมีมันกลับกว้างไกลถึง 1,000 กิโลเมตร

ขอบเขตดังกล่าว เป็นระยะที่น่าหวาดกลัวมาก

“ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมตาปีศาจถึงสามารถโจมตีฉันได้จากระยะไกลถึงขนาดนั้น แต่ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับเทคนิคประจำตัวของแต่ละคนเหมือนกัน อย่างเช่นฉัน ต่อให้ฉันสามารถรับรู้ได้ไกลเป็นล้านเมตร แต่ก็ยังไม่สามารถโจมตีแบบนั้นได้ คงเพราะแบบนี้เอง สถานะของตาปีศาจเลยสูงมาก สามารถทำให้พันธมิตรวู้ดแลนด์กลายเป็นหุ่นเชิดได้ หากมีผู้แข็งขืน อีกฝ่ายสามารถลงมือสังหารได้ตลอดเวลา!”

เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งของเลเวล S คนอื่นๆ ฉินเฟิงอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ไม่ได้ แต่แล้วในการรับรู้ของเขา ในที่สุดตรวจพบหุ่นยนต์ตัวหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว

หุ่นยนต์ตัวนี้นิ่งงันไม่ไหวติง อยู่ในสภาพกึ่งยืนกึ่งหมอบ รายล้อมด้วยหอคอยสูงแปดแห่ง

แน่นอน หอคอยสูงทั้งแปดตั้งอยู่คนละทิศทาง แต่ล้วนเชื่อมต่อกันและกัน ก่อตัวเป็นจุดสร้างสนามพลังแม่เหล็กอันน่าทึ่ง ช่วยให้สามารถดูดซับรังสีจากอวกาศลงมาได้

ส่งผลให้มลภาวะรังสีของที่นี่ร้ายแรงยิ่ง ดังนั้นสิ่งที่อยู่ใจกลางมันคงไม่พ้นเป็นหุ่นยนต์เกราะทมิฬ

หุ่นยนต์เกราะทมิฬแตกต่างจากตัวอื่นๆอย่างสิ้นเชิง

หากฉินเฟิงไม่ทราบว่าก่อนว่ามันคือหุ่นยนต์ เขาคงคิดว่านี่เป็นมนุษย์จริงๆ รูปลักษณ์ของมันธรรมดาไม่โดดเด่นเลย หากหลุดเข้าไปในฝูงชนเพียงครั้ง เกรงว่าจะควานหาตัวไม่พบ

สิ่งเดียวที่ทำให้ผู้คนสังเกตเห็นถึงความแปลกแยกก็คือ ตาของมันไม่กะพริบ ไม่แม้จะหายใจ สองสิ่งนี้ในร่างกายไม่ทำงาน

จากที่ตรวจสอบโดยพลังสมาธิ หุ่นยนต์ตัวนี้ไม่มีวี่แววของชีวิตแน่นอน กระทั่งพลังสมาธิก็ไม่มี

ฉินเฟิงถอนการรับรู้ของเขา ก้าวเดินไปข้างหน้า

ภายใต้สภาวะกำลังภายในเพิ่มพูนอย่างก้าวกระโดด ความเร็วของฉินเฟิงพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวขยับเข้ามาถึงระยะ 10,000 เมตรของหุ่นยนต์เกราะทมิฬ

แต่ในเวลานั้นเอง หุ่นยนต์เกราะทมิฬ ในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหว ดวงตาของมันคล้ายกะพริบไหวด้วยข้อมูลมากมาย สุดท้ายสามารถเรียกวิสัยทัศน์กลับคืน เบนมองมายังฉินเฟิง

“ตรวจพบผู้บุกรุก เตรียมการกำจัด!”

“เริ่มกระบวนการกำจัด ณ บัดนี้!”

แทบจะในทันที เสาลำแสงทมิฬ ก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือมัน จากนั้นระเบิดยิงอย่างรุนแรง

ฉินเฟิงยังคงก้าวต่อไป เขาจมอยู่ท่ามกลางเสาแสงทมิฬ นี่ถือเป็นการโจมตีอีกครั้งที่ฉินเฟิงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้

--เพราะมันเกิดจากการประมวลผลและการคำนวณขั้นสูง! เป็นการโจมตีที่ครอบคลุม ดักทิศทางหลบหนีเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

ความสามารถนี้ ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกทึ่งมาก แต่การโจมตีดังกล่าว ไม่นับเป็นสิ่งใดสำหรับเขา

วู้มมม!

เสาแสงทมิฬกลบกลืนทั้งร่างของฉินเฟิง ปะทะโล่ปราณกำลังภายใน  แต่สุดท้ายไม่สามารถแทรกซึมเข้ามาได้ ลำแสงนี้พุ่งเป็นเส้นตรง ฉินเฟิงเพียงขยับเท้าออกด้านข้าง ก็สามารถหลบวิถีโจมตีของมันได้แล้ว

ฉินเฟิงเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง

มีดกษัตริย์ครามปรากฏขึ้นในมือเขา

ท่าวิญญาณสะบั้นไม่เหมาะสมที่จะใช้ในตอนนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าท่าอื่นๆจะไม่สามารถใช้งาน!

“กระบวนท่ามีดเปลวเพลิง!”

เปลวเพลิงยาวร้อยเมตรระเบิดออกในคราวเดียว ปกคลุมได้ทั้งตัวหุ่นยนต์เกราะทมิฬ กวาดสับลงมา

ในดวงตาของหุ่นยนต์เกราะทมิฬ ปรากฏตัวเลขผุดขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่สามารถต้านทานได้ ประเมินระดับความเสียหายโดยประมาณ 33.81% ต้องล่าถอย!”

ช่วงเวลาต่อมา หุ่นยนต์เกราะทมิฬก็หายวับไปจากที่เดิม หลบหนีจากการโจมตีของฉินเฟิง

ฉินเฟิงและอีกฝ่ายต่างปลดปล่อยการโจมตี ระหว่างนั้นฉินเฟิงยังได้เข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของหุ่นยนต์เกราะทมิฬ

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงถูกเรียนกว่าเกราะทมิฬ เพราะพลังที่ใช้ จริงๆแล้วเป็นพลังของอักษรรูนมืด!”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร อักษรรูนมืดสามารถเปลี่ยนศพให้กลายเป็นหุ่นเชิดแห่งความตายได้ ดังนั้นย่อมสามารถควบคุมหุ่นยนต์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณต่างมิติได้เช่นกัน

ตอนนี้ความสามารถดังกล่าวถูกนำไปใช้โดยเกราะทมิฬ แม้เกราะทมิฬไม่มีพลังสมาธิ แต่กลับสามารถใช้ความสามารถบางอย่างของอบิลิตี้มืดได้

ตัวอย่างเช่น เทคนิคลอบเร้นจากสายตาของผู้อื่น

ความสามารถนี้ หากเป็นคนอื่นที่ต้องเผชิญ มีโอกาสค่อนข้างสูงที่ผู้ใช้วรยุทธโบราณธรรมดาๆ จะไม่สามารถค้นพบตำแหน่งของหุ่นยนต์เกราะทมิฬได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว บนร่างของอีกฝ่าย กระทั่งกลิ่นอายของชีวิต ยังไม่มีด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใช้อบิลิตี้มืดอย่างฉินเฟิง การกระทำของหุ่นยนต์เกราะทมิฬ ไม่ต่างจากการควงง้าวมังกรต่อหน้ากวนอู

ฉินเฟิงวาดมือออกไป ปราณมีดทรงพลังสีสันสดใส ปะทุขึ้นทันใด

กระบวนท่าวรยุทธ พลุไฟสงคราม!

หุ่นยนต์เกราะทมิฬที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ดวงตาของมันเริ่มกะพริบข้อมูลอีกครั้ง

“ไม่สามารถต้านทานได้ ประเมินระดับความเสียหายโดยประมาณ …”

วินาทีต่อมา หน่วยประมวลผลของหุ่นยนต์เกราะทมิฬ ได้ตัดสินให้มันล่าถอยอีกครั้ง มันจึงถอนตัวออกไป

และความเร็วของมันว่องไวมาก

ตูมมมม!

พลุไฟสงครามกระแทกลงพื้น ระเบิดทำลายกลายเป็นปล่องลึก หอคอยสูงที่อยู่ในวิถีโจมตี ถูกผ่าครึ่ง พังทลายลง

กระนั้น ตำแหน่งดังกล่าวไม่เห็นแม้แต่เงาของหุ่นยนต์เกราะทมิฬ

การโจมตีของฉินเฟิงล้มเหลวถึงสองครั้ง แต่เขายังไม่ยอมแพ้ ไล่ล่ามันอย่างกระชั้นชิด

“มาลองอีกที!”

ฉินเฟิงก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าไอ้เจ้าหุ่นยนต์เกราะทมิฬตัวนี้ มันยังมีความสามารถอะไรอีกบ้าง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด