ตอนที่แล้วWS บทที่ 53 การต่อสู้ของนักเวทย์ PART 4
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 55 ออกเดินทาง PART 2

WS บทที่ 54 ออกเดินทาง PART 1


ลูกไฟขนาดมหึมานับ 10ลูก ได้พุ่งใส่เจสันในพริบตา แม้เขาจะมีการป้องกันจาก แหวนแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยจะสู้ดี

ทางด้านเมอร์ลิน เขาก็หน้าซีดเช่นกัน เนื่องจากพลังจิตของเขาลดลงอย่างฮวบฮาบ แม้แต่เรียกลูกไฟยักษ์จะใช้พลังจิตไม่มากแต่การควบคุมมันใช้พลังจิตอันมหาศาล

อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องควบคุมพวกมันมากนัก หลังจากที่มันไปถึงที่หมาย เขาก็ทำการจุดชนวนทันที

*ตูม!!!!*

ลูกไฟยักษ์นับสิบได้ระเบิดพร้อมกัน ก่อให้เกิดเปลวไฟอันร้องแรงกลืนกินเป็นวงกว้าง ควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศกลายเป็นรูปเห็ด ตัวของเจสันได้หายไปพร้อมกับเปลวเพลิงอันร้อนแรง

เหล่าอัศวินและขุนนางต่างถอยหลังไปด้วยความกลัว พวกเขาต้องมองเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก

แม้แต่เมอร์ลินก็ตกใจเช่นกัน เพราะนี่เป็นครั้งที่เขาใช้ลูกไฟยักษ์ 10ลูก พร้อมกัน

“อึ่ก”

เมอร์ลินที่หน้าซีด เขาเอามือข้างหนึ่งกดท้องของเขาเบา ๆ ดูเหมือนว่าการร่ายมันพร้อมกันแบบนี้จะ ส่งผลต่อร่างกายของเขา โชคดีที่เขามีร่างกายที่อึด ทนทาน ไม่อย่างนั้นเขาคงล้มไปกองบนพื้นแล้ว

*ฟิ้ว*

เมื่อฝุ่น ควันเริ่มจางหายไป เมอร์ลินเงยหน้ามองเบื้องหน้า ตรงที่เป็นจุดศูนย์ของการระเบิด ดูเหมือนผลของ แหวนแสงศักดิ์สิทธิ์ จะจางหายไปอย่างสมบูรณ์ เขาเห็นเสื้อคลุมสีขาวได้กลายเป็นขี้เถ้า

ส่วนร่างของเจสันได้ไหม้จนกลายเป็นตอตะโก

“ในที่สุดก็ตายะที...” เมอร์ลินยิ้มอย่างโล่งใจ ตอนนี้ภัยคุกคามต่อชีวิตของเขาได้ถูกกำจัดไปแล้ว ทำให้เขาค่อย ๆ หมดสติไป

ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการเมอร์ลินแต่ออกัสตินกับบารอนวิงกูลก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวใด ๆ

“เมอร์ลิน!!”

เลห์แมนได้เข้ามาประคองเมอร์ลินและอุ้มเขาขึ้นเบา ๆ ตอนนี้เมอร์ลินยังมีสติอยู่แต่ด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้ากับการใช้พลังจิตมากเกินเลยทำให้เขาวูบหลับไปชั่วแวบหนึ่ง

“ท่านพ่อ ตอนนี้ลุงแพรตต์รอพวกเราอยู่ที่ประตูเมือง พวกเราควรรีบออกจากเมืองให้เร็วที่สุด”

เมอร์ลินพูดพลางสูดหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่แน่ใจว่าศาสนจักรส่งเจสันมาคนเดียวหรือไม่ หากมีพ่อมดคนอื่นอยู่ที่นี่เขาคงไม่มีทางรอดแน่นอน

เลห์แมนพยักหน้าและแบกเมอร์ลินออกไป ในระหว่างที่เขากำลังจะไป เขาได้กวาดตามามองออกัสตินกับบารอนวิงกูลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็หันกลับมาและออกจากปราสาทไป

เขาตัดสินใจว่าควรรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ถึงอัศวินเกราะเหล็กของเขาจะแข็งแกร่งแต่เขาไม่อยากอยู่ที่นี่นานเกินไป ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

“ถอยทัพ” เลห์แมนสั่งการ

เหล่าอัศวินเกราะเหล็กรีบออกจากปราสาทอย่างรวดโดยที่ทางออกัสตินกับบารอนวิงกูลไม่คิดที่จะขวางพวกเขา

นอกจากเลห์แมนแล้ว พวกขุนนางที่เหลือก็ออกจากที่นี่เช่นกันแต่ก็มีขุนนางบางคนตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ หลังจากที่พวกเขาพิจารณาอยู่พักใหญ่

เพราะยังไงเพราะก็ไม่สามารถละทิ้งธุรกิจและครอบครัวในเมืองแบล็กวอเตอร์ได้ พวกเขาเลยตัดสินใยอมจำนนต่อศาสนจักร

“ท่านออกัสติน ท่านจะปล่อยวิลสันไปได้ง่าย ๆ อย่างนี้เหรอ” บารอนวิงกูลที่ได้รับบาดเจ็บถามออกัสตินด้วยเสียงดัง ขณะที่พยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก

*ชิ้ง*

ออกัสตินหันไปมองบารอนวิงกูลด้วยสายตาที่เยือกเย็น

“บารอนวิงกูล ท่านเป็นคนที่ทะเยอทะยานมากเกินไป...แม้วิลสันจะไม่ฆ่าท่านในตอนนี้แต่ข้าว่าข้าสามารถทำแทนเขาได้...”

ออกัสตินหัวเราะพลางชักดาบขึ้นมา

“เดี๋ยว!! ท่านกำลังจะทำอะไร?”

บารอนวิงกูลได้ถอยหลังไปก้าวสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว

“ตายซะ!!”

เปลวไฟได้ลูกโชนบนตัวดาบของออกัสติน จากนั้นเขาก็ยกดาบฟาดฟันไปที่ร่างของบารอนวิงกูล เนื่องจากบารอนวิงกูลได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนแล้วจึงทำให้เขาไม่สามารถป้องกันได้เลย

*ฉัวะ*

เปลวเพลิงอันเหี้ยมโหดได้เผาร่างของบารอนวิงกูล

จากนั้นออกัสตินได้ดึงดาบออกมา ตัวดาบได้โชกไปด้วยเลือดสีแดง จากนั้นเขาก็หันไปมองขุนนางคนอื่น ๆ และพูดอย่างใจเย็นว่า

“อย่างที่พวกท่านเห็นว่าบารอนวิงกูลกับพ่อมดเจสันได้ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของตระกูลวิลสันทั้งพ่อและลูก!!”

เหล่าขุนนางได้มองหน้าและพยักหน้าพร้อมกัน

...

ที่ประตูเมือง เมอร์ลินถูกนำมาไว้ที่รถม้าโดเลห์แมน เขาทำการรักษาเมอร์ลินพลางมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน

เมอร์ลินที่เห็นลาง ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าพ่อของเขาจะมีแววตาที่อ่อนโยนเช่นนี้ได้

นอกจากพวกเขาแล้วยังมีเมซี่ส์กับมาดามหน้าอกใหญ่อยู่ในรถม้าด้วย

เมซี่ส์และคนอื่น ๆ เป็นสภาพที่อ่อนแอของเมอร์ลินก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

เลห์แมนได้ถามเมอร์ลินที่ได้สติขึ้นมาว่า “เมอร์ลิน ลูกเป็นยังไงบ้าง?”

เมอร์ลินพยายามลุกขึ้นนึ่งและพิงที่นั่ง เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า

“ท่านพ่อ ผมสบายดี เรารีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เราไม่สามารถอยู่ต่อได้แม้แต่วินาทีเดียว!!” เมอร์ลินได้เตือนอีกครั้ง

เลห์แมนพยักหน้าและหันไปพูดกับเมซี่ส์และมาดามหน้าอกใหญ่ “ตอนนี้เมอร์ลินได้รับบาดเจ็บ ช่วยดูแลเขาด้วย”

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็กระโดดออกจากรถม้าไปทันทีและทำการรวมพลอัศวินของเขา เขากำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทางออกจากเมืองแบล็กวอเตอร์

“เมอร์ลิน นายกำลังจะออกไปจากเมืองแบล็กวอเตอร์ใช่มั้ย” เสียงของกัตต์ได้ดังขึ้นมาจากนอกรถม้า

เมอร์ลินรีบดึงม่านออกมาและพบกับกัตต์ เขาได้พยักหน้าเบา ๆ กับคำถามของกัตต์

“ใช่แล้วกัตต์ เราจำเป็นต้องไปจากที่นี่และตอนนี้อาณาจักรแห่งแสงก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว...นายจะมากับฉันมั้ย”

เมอร์ลินต้องการช่วยกตต์อย่างจริงใจ ถ้ากัตต์เต็มใจ เขาก็จะพากัตต์ไปด้วย

เมื่อได้ยินคำชวนของเมอร์ลิน กัตต์ก็ได้ส่ายหัวเล็กน้อย “ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ปกครอง พวกเขาคงจะอยู่ไม่ได้หากขาดนักธุรกิจ ดังนั้นฉันจะปลอดภัยหายห่วง”

กัตต์รู้ดีว่าด้วยสถานะของเขา จะทำให้เขาไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ในเมืองแบล็กวอเตอร์

จากนั้นทั้งสองก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้ความเงียบได้พัดผ่านไป

เมื่อเลห์แมนได้รวบรวมอัศวินเสร็จ เขาก็พบว่าศึกครั้งนี้เขาสูญเสียอัศวินไป 30นาย ดังนั้นจึงเหลือเพียง 170นาย นอกจากนี้เขายังสูญเสียอัศวินธรรมดาไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เขามีอัศวินเพียง 500นาย ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเลห์แมน

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เขาก็สั่งการให้กองอัศวินเคลื่อนตัวออกจากเมืองแบล็กวอเตอร์

เมอร์ลินได้หันไปมองนอกรถม้า เขามองดูร่างของกัตต์ที่ค่อย ๆ เล็กลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหายไปจากสายตาของเขา

“เมอร์ลิน เราจะสามารถกลับมาที่นี่ได้อีกมั้ย?” จู่ ๆ เมซี่ส์ก็ถามขึ้นมาหลังจากที่เงียบมานาน

“อืม สักวันหนึ่ง เราจะได้กลับมาที่เมืองนี้แน่นอน”

เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองเมืองแบล็ดวอเตอร์ที่อยู่ห่างไกลด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด