ตอนที่แล้วตอนที่ 156 ย้ายทั้งเมืองย่อย 101
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 158 สถานการณ์ของจีนาส

ตอนที่ 157 อาบิเกลผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีไทกีล่า


ตอนที่ 157 อาบิเกลผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีไทกีล่า

“ตอนนี้เราเหลือกำลังทหารเท่าไหร่”

“เหลืออยู่แค่ 1 หมื่นนาย”

“ประกาศรับสมัครมาอีก ดึงคนของเมืองย่อยอื่น ๆ มาอีกอย่างน้อยต้องมี 1 แสนนายถึงจะสามารถตีเอสเมืองหลวงใหม่ไทกีล่าคืนมาได้”

“ไม่ได้ ทำแบบนั้นไม่มีประโยชน์ เราต้องบอกเรื่องรองนายกโจชัวทรยศยึดอำนาจโดยมีพาราซัสหนุนหลัง”

“ไม่! แบบนั้นทางเรายิงเสียหาย พวกคนที่ต้องการแยกกับรัฐบาลจะใช้โอกาสนี้ลงมืออย่างแน่นอน”

“อย่างนั้นจะปล่อยให้ประชาชนชาวไทกีล่าโดนหลอกแบบนี้เหรอ ตอนนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็บาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติอยู่”

“ถ้าอย่างนั้นเราต้องรีบแต่งตั้งรักษาการนายกรัฐมนตรีเพื่อจะได้คอยสั่งการ...”

“ถ้าอย่างนั้นจะเสนอชื่อใคร...”

สิ้นเสียงประโยคนี้ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน ตอนนี้ในฝ่ายรัฐบาลรัฐมนตรีทั้งหมดโดนสังหารไปหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงจึงเหลือไม่มาก แต่คนที่เหลือก็ไม่มีใครเหมาะสมที่จะเข้ามารักษาการและคุมอำนาจของรัฐบาลได้เลยแม้แต่น้อย

“ผมจะเข้ามาทำหน้าที่นี้เอง” ทันใดนั้นเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา แม้จะไม่ได้ทรงพลัง แต่ก็มีความชัดเจนในตัวเอง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวนับสิบ

พลเอกมาราคอฟมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นเหมือนกับที่คนอื่น ๆ ทุกคนต่างพากันโต้เถียงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าคนพวกนี้เป็นใคร

“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ท่านลุงมาราคอฟ” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกล่าวทักทายพลเอกมาราคอฟด้วยความสุภาพ

“อืม ไปเยี่ยมท่านนายกรัฐมนตรีมาหรือยัง”

“ผมแวะไปหาท่านพ่อมาแล้ว หมอบอกท่านพ้นขีดอันตรายไม่เป็นอะไรแล้ว ดังนั้นผมจึงมาที่นี่”

หลังจากพูดกับพลเอกมาราคอฟจบ ชายหนุ่มก็หันไปกล่าวกับทุกคน “สวัสดีทุก ๆ ท่านบางคนอาจจะรู้จักผม แต่คนที่ไม่รู้จักก็ไม่ได้แปลกอะไร เนื่องจากผมไม่ชอบเปิดเผยตัวสักเท่าไหร่ ผมเป็นบุตรชายคนเพียงคนเดียวของท่านนายกรัฐมนตรีแอดดิสัน ชื่ออาบิเกล”

“และอย่างที่ผมบอกไป ผมจะมารับหน้าที่รักษาการต่อจากท่านพ่อเอง”

หลังจากที่อาบิเกลบอกว่าจะเข้ามารับตำแหน่งรักษาการแทนแอดดิสัน ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่พอใจจากฝ่ายรัฐบาลกลางทันที แต่ที่น่าแปลกใจทางด้านของกองทัพกลับปิดปากเงียบตามพลเอกมาราคอฟ

“ไม่ได้”

“ใช่ฉันไม่เห็นด้วย เขาไม่มีคุณสมบัติมากพอ”

“ใช่อีกอย่างเขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เรเองนี้ทางเราไม่มีทางยอมรับ”

“ใครบอกว่าท่านอาบิเกลไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แกรู้ไหมท่านอาบิเกลควบคุมกองกำลังพิเศษระดับสูงตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรี...” หนึ่งในคนสนิทของอาบิเกลที่ติดตามมาด้วยก้าวเดินออกมา ชายคนนี้คือมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียว ชื่อของเขาคือ เคเดน

“หยุด! ตามกฎหมายแล้วคนนอกไม่มีสิทธิพูดที่ในการประชุมระดับสูงแบบนี้ ท่านมาราคอฟได้โปรดไล่พวกเขาออกไปด้วย เจ้าหน้าที่มาจับมนุษย์ชั้นสูงพวกนี้ออกไปเร็ว” หนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงร่างผอมบางกล่าวออกมาด้วยความเป็นศัตรู แต่ในตอนนั้นเอง เคเดนก็ก้าวออกมาจับไปที่คอของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงผู้นี้

ทุกคนต่างตื่นตะหนกกับการกระทำของเคเดน เจ้าหน้าที่รักษษความปลอดภัยของรัฐบาลเข้ามาจะปะทะกับกลุ่มของอาบิเกลในทันที แต่อาบิเกลก็ไม่ได้ห้ามหรือลงมือพูดอะไร ได้แต่ยืนมองเฉย ๆ

“ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐอย่างพวกแกยังคิดจะอาศัยสิ่งที่เรียกว่ากฎหมายอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ แล้วตอนที่เกิดเรื่องที่โจชัวไอ้ชั่วนั้นทรยศไปเข้าร่วมกับพาราซัสยึดเมืองหลวง พวกนายไม่พูดกับมันเรื่องกฎหมายของประเทศไทยกีล่าเล่า แต่ปล่อยให้มันไล่ฆ่าคนของพวกเราไปตั้งมากมาย”

เคเดนพูดด้วยความโกรธ ซึ่งแน่นอนว่าการกวาดล้างของพาราซัสที่ยืมมือโจชัวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่เข้าร่วมกับได้มีพ่อของเขาที่ต้องตายด้วย ดังนั้นเขาจึงโกรธคนพวกนี้มากที่เอาแต่หนีตาย พอปลอดภัยก็มานั่งเถียงกัน แทนที่จะเอาเวลาไปลงมือวางแผนตอบโต้คนพวกนั้น

“อาบิเกลพอได้แล้วมั้ง” เสียงของพลเอกมาราคอฟดังขึ้น อาบิเกลหันไปมองเคเดนเป็นการบอกให้หยุดมือ เคเดนปล่อยมือออก

“ท่านลุงมาราคอฟมีความเห็นในเรื่องที่จะให้ผมขึ้นมารักษาการแทนท่านพ่อหรือเปล่า” อาบิเกลหันไปถามพลเอกมาราคอฟ

“ไม่จำเป็นอันที่จริงแล้วเรื่องนี้ฉันเห็นด้วยความสามารถของนายควรจะเป็นผู้นำกับสถานการณ์ในขณะนี้ จากสถานการณ์ในตอนนี้โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เราไม่สามารถใช้อำนาจทางอาวุธมาค้ำยันกฎหมายและความยุติธรรมได้อีก สิ่งที่สามารถเข้ามาแทนที่ของพวกนี้ได้คงมีแต่มนุษย์ชั้นสูงอย่างพวกนายเท่านั้น”

“ขอบคุณท่านลุงมาราคอฟที่สนับสนุน” อาบิเกลหันมาขอบคุณจากนั้นก็หันไปถามกับคนอื่น ๆ “มีใครจะค้านเรื่องนี้ไหม ถ้ามีก็ก้าวออกมา”

อาบิเกลพูดด้วยเสียงเย็นชาต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง ดวงตาของอาบิเกลมองไปที่คนทุกคน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก นอกจากพลเอกมาราคอฟจะสนับสนุนอาบิเกลแล้ว ตัวของอาบิเกลยังเป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำเงินขึ้นต้นอีกด้วย แต่ที่น่ากลัวกว่าคือความสามารถของเขาคือประเภทพลังจิตใจ

“ถ้างั้นเรามาพูดเรื่องการตอบโต้พวกนั้นกันเลย ผมในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีไทกีล่า จะจัดการแถลงข่าวและบอกเรื่องที่รองนายกโจชัวหักหลังเข้าร่วมกับพาราซัส พร้อมทั้งสั่งให้รัฐบาลเมืองย่อยแสดงจุดยืนโดยการส่งกองกำลังทหารครึ่งหนึ่งคืนสู้กองทัพกลาง เราจะบุกโจมตีเมืองหลวงใหม่ไทกีล่า สังหารกบฏขายชาติพวกนั้นให้หมด”

แต่ในตอนนั้นเองอยู่ ๆ ก้มีเจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่งวิ่งเข้ามาภายในห้องประชุมด้วยความตื่นตะหนก

“เกิดเรื่องแล้วครับท่าน” เจ้าหน้าที่รัฐคนนี้รู้สึกแปลกใจกับการที่เห็นกลุ่มของอาบิเกล แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าปกติเขาจึงไม่สนใจคนพวกนี้และรีบเปิดวิดีโอให้พวกทุกคนดู

“สวัสดี ผมประธานสมาพันธ์นักล่า ไนเรล แห่งตระกูลอาโรเดีย สิ่งที่ต้องการจะพูดในครั้งนี้คือการประณามรัฐบาลไทกีล่า เนื่องด้วยสมาพันธ์นักล่าถูกโจมตี ที่สาขาหลักของสมาพันธ์นักล่าถูกโจมตีจากกองกำลังทหารที่ถูกนำโดยพลตรีวินเซนต์ ซึ่งได้สังหารรัฐมนตรีพาลเมอร์และสั่งเคลื่อนกำลังทหารโดยพลการเข้าสังหารคนในสมาพันธ์นักล่าที่เมืองย่อย 101 โดยร่วมมือกับมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำเงินคนของพาราซัส ส่งผลให้มีคนตายจำนวน 1572 คน ในนี้มีประชาชนของเมืองย่อยรวมอยู่ด้วย

อีกทั้งรัฐบาลไทกีล่ายังคงส่งกองกำลังทหารถึงสองกองร้อยไปที่เมืองซานติเกียเพื่อใส่ร้ายว่าผมและตระกูลอาโรเดียเป็นกบฏขายชาติ ส่งผลให้มีคนตายกว่า 400 คน

ดังนั้นทางสมาพันธ์นักล่าจะไม่ทนกับเรื่องที่เกิดขึ้นขอแยกตัวออกจากการปกครองของรัฐบาลไทกีล่า...” หลังจากถึงตรงนี้ภายในวิดีโอภาพของผู้คนนับแสน ๆ คนก็ส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ประชาชนทุกคนภายในเมืองซานติเกียสนับสนุนการกระทำของสมาพันธ์นักล่าอย่างเต็มที่

ที่เป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะตอนที่เกิดการโจมตี กองกำลังทหารลงมืออย่างโหดเหี้ยมคิดจะฆ่าพวกเขาไปพร้อมกับสมาพันธ์นักล่าด้วย นั้นทำให้คนในเมืองซานติเกียหมดศรัทธากับรัฐบาลไทกีล่าไปทันที

เสียงของชายหนุ่มยังดังต่อ “ตอนนี้รัฐบาลกลางเกิดการแตกแยกภายในฝ่ายหนึ่งนำโดยรองนายกโจชัวที่ซึ่งเป็นเพียงหุ่นเชิดของพาราซัส ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือ จีนาส ซึ่งทางรัฐบาลรู้ปัญหาการแทรกแซรงของจีนาสมานานแล้ว แต่กลับไม่ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย แถมยังจัดการคนที่พยายามหยุดแผนการของพวกเขาด้วยนั้นก็คือ เนโค อาโรเดียจนถูกใส่ร้ายและจับกุมคุมขังกว่า 5 ปี”

“ส่วนรัฐบาลกลางที่เหลือรอดตอนนี้ พวกเขาไม่สามารถนำพาพวกเราให้อยู่รอดในวันสิ้นโลกได้อีกต่อไป ใครก็ตามที่ต้องการเข้ารวมกับสมาพันธ์นักล่าสามารถเดินทางมาที่เมืองซานติเกียได้ พวกเราต้องการคุณ คุณทุกคนใครก็ตามที่สามารถจับอาวุธขึ้นสู้ได้ ใครก็ตามที่ต้องการยืนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยพลังของตนเอง มาหาพวกเรา เพราะพวกเรากำลังจะไปยึดเมืองหลวงไทกีล่าคืน...”

ไนเรลเงียบลงไปสักพัก “สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์กำลังเริ่มอีกครั้ง...”

ไนเรลกล่าวจบก็เดินลงจากเวทีไป ปล่อยให้ผู้คนนับแสนที่อารมณ์เดือดพล่านกับคำพูดของเขาต่างส่งเสียงราวกับสัตว์ร้ายที่ตื่นจากการหลับใหลมานาน

“บัดซบ” เสียงกรนด่าของคนงในห้องประชุมดังขึ้นมาไม่หยุด ตอนนี้ไนเรลชิงตัดหน้ารัฐบาลไทกีล่าไปแล้ว อีกทั้งยังแย่งบทพูดของพวกเขาไปอีกด้วย

“ติดต่อไปที่เมืองย่อย ๆ ก่อนที่พวกนั้นจะแสดงท่าทีอะไร ส่งคนของเราไปคอยตรวจสอบไว้” อาบิเกลสั่งออกไปในทันที

แต่ไม่ทันการแล้ว เพราะตอนนี้เมืองย่อยที่ยังอยู่รอดกว่า 30 แห่ง มีถึง 15 แห่งที่แยกตัวออกจากรัฐบาลกลางและเริ่มปกครองตัวเอง อีก 5 แห่งเลือกจะเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักล่า และที่เหลือยังคงไม่แสดงท่าที

คนทั้งหมดในห้องประชุมต่างมีสีหน้าแคร่งเคลียด

“จัดแถลงข่าว ยังไงเราก็ต้องแสดงจุดยืนและแก้ข่าวว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือพาราซัสทางรัฐบาลไทกีล่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องดึงกำลังทหารเข้าร่วมกับกองทัพกลางผมฝากพลเอกมาราคอฟด้วยยังไง พวกเราก็ต้องการกำลังทหาร”

“เรื่องนั้นฉันจัดการเอง” มาราคอฟพูดเสียงทุ้มต่ำ ตอนนี้เขากำลังสับสนมันมีทั้งความโกรธกับการกระทำของไนเรล เรื่องเนโคมันไม่ได้มีแค่เรื่องพาราซัส แต่เขาก็พูดออกมาไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีความชื่นชมต่อตัวของชายหนุ่ม เรื่องที่พวกเขาจะบุกไปเมืองหลวงไทกีล่า ซึ่งแน่นอนว่ามันคือเมืองหลวงเก่า

เพราะถ้าไนเรลทำสำเร็จ ผู้คนก็จะกลับมามีความหวังอีกครั้งว่าสามารถเอาชนะซอมบี้ได้ ขอแค่มีความหวังมนุษย์ก็จะสามารถทำได้ทุกสิ่ง แต่แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ใครกันที่จะปกครองไทกีล่าแม้แต่ตัวเขาก็ไม่สามารถตอบได้

ผลกระทบจากการแถลงของไนเรลส่งผลต่อทุกกองกำลังในไทกีล่า แต่ที่หนักสุดคงเป็นที่เมืองหลวงใหม่ที่ตอนนี้เกิดการจลาจลขึ้นภายในเมือง เพราะตอนนี้ผู้คนต่างรู้ความจริงแล้ว

ว่ารัฐบาลไม่ใช่รัฐบาลอีกต่อไป

ฝูงคนต่างหยิบอาวุธขึ้นสู้กับทหาร แม้แต่ทหารบางส่วนก็เข้าร่วมกับประชาชนสู้ด้วย ทำให้ในที่สุดพาราซัสก็ไม่อาจจะอยู่แต่เบื้องหลังได้อีกต่อไป ส่งกองกำลังที่ซ่องสุมเอาไว้ออกมาปิดล้อมและสังหารหมู่

ตอนนี้เมืองหลวงใหม่ได้กลายเป็นสนามรบไปอีกแห่งแล้ว แต่ถ้ามีแค่นั้นก็คงดี เพราะที่ใดมีคนตายที่นั่นจะมีซอมบี้ฟื้นคืนขึ้น

แม้จะเป็นแบบนั้นพาราซัสก็ไม่ได้กลัว ส่วนเหตุผลเบื้องหลังการยึดไทกีล่าคืออะไรกันแน่แม้แต่รองนายกโจชัวก็ยังไม่รู้แน่ชัด

มันรู้เพียงแต่ว่า จีนาสกำลังทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตอย่างยักษ์เถื่อนกองทัพยักษ์เถื่อนที่ขึ้นมาจากใต้พิภพไม่หยุด ถึงขนาดที่จีนาสซึ่งมีกองกำลังทหารแข็งแกร่งที่สุดในฝ่ายมนุษย์ยังหวั่น แม้พวกเขาจะสามารถเอาชนะกองทัพยักษ์เถื่อนได้หลายครั้งก็ตาม แต่ยิ่งนานวันเข้ากองทัพยักษ์เถื่อนก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น

ดังนั้นจีนาสจึงต้องเตรียมทางหนีของตัวเอง ทางเหนือของประเทศมียักษ์เถื่อน ทางตะวันออกเป็นทะเลมีแต่สัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงและน้ำก็เริ่มมากขึ้น ทางใต้ไม่ต้องพูดมันมีแต่ซอมบี้จนพวกจีนาสก็ไม่สามารถคาดการถึงจำนวนที่แน่นอนของมันได้

ที่มีซอมบี้มากขนาดนี้ เพราะจีนาสเป็นประเทศที่ใหญ่มาก ประชากรจึงมีมากและตามมาด้วยซอมบี้จำนวนมหาศาล ดังนั้นทางออกเดียวคือทางใต้ของไทกีล่าเมืองหลวงแห่งใหม่ที่สร้างทุกอย่างพร้อมอยู่แล้วนั้นเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด