WS บทที่ 52 การต่อสู้ของนักเวทย์ PART 3

*พรึ่บ*

จากนั้นทั้งสองก็ได้ขยับตัวโดยฉับพลัน

*หวู่ม!!*

เจสันได้โบกมือมาด้านหน้า จากนั้นแสงศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกยิงออกมาจำนวนหนึ่ง

โดยแสงพวกนี้เป็น คาถาระดับศูนย์แสงศักดิ์สิทธิ์ โดยลำแสงแต่ละอันที่พลังทำลายล้างสูงแม้แต่ชุดเกราะแบบพิเศษของเลห์แมนก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีหลาย ๆ ครั้งได้เลย

ส่วนที่เมอร์ลินใช่ว่าจะด้อยกว่า เขาได้พลังจิตกระตุ้นโครงสร้างเวทมนต์ลูกไฟในจิตใต้สำนึกของเขา จากนั้นลูกไฟทั้ง 5 ก็ได้ปรากฏขึ้นมา

“ไป!!”

เมอร์ลินสั่งการให้ลูกไฟไปปะทะกับแสงศักดิ์สิทธิ์ของพ่อมดเจสันโดยตรง แสงสีแดงและแสงสีขาวได้ปะทะกัน

*ตูม ตูม ตูม*

ด้วยเสียงที่ดังสนั่นทำให้ทุกคนในห้องโถงหูอื้อพักหนึ่ง

แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าเสียงก็คือ มีสะเก็ดจากลูกไฟกับแสงศักดิ์สิทธิ์กระจายไปทั่วบริเวณ มันได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบ พวกเขากังวลว่าพวกเขาจะโดนลูกหลง

เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ทำให้ทั้งตกอยู่สภาพที่ยุ่งเหยิง เศษไม้กระจัดกระจาย ผนังได้ไหม้เกรียมเป็นสีดำ

“คาถาของเจ้า มันทรงพลังยิ่งกว่าตาแก่คนนั้น!!”

พ่อมดเจสันตกตะลึง จากนั้นที่พวกเขาได้ทดสอบฝีมือเมื่อสักครู่ทำให้เขารู้ว่าพลังของเมอร์ลินนั้นทรงพลังมาก

“พ่อมดเจสัน คาถาระดับหนึ่งของท่านอยู่ที่ไหน หากท่านไม่ร่ายมันตอนนี้ผมเกรงว่าท่านจะไม่มีโอกาสได้ร่ายมันอีกต่อไป” เมอร์ลินกล่าวอย่างสงบ เขารู้ว่าเจวันเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งและชายชราอีธานได้ตายไปจากคาถาระดับหนึ่งในตอนนั้น

ดังนั้นเมอร์ลินจึงระวังต่อการร่ายคาถาระดับหนึ่งของเขามาก

“สำหรับคนนอกรีตอย่างเจ้า แค่คาถาระดับศูนย์มันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับเจ้า!!!”

จากนั้นเจสันก็กางแขนออกอย่างหยิ่งผยอง แสงสีขาวได้เปล่งออกมารอบตัวเขาแล้วแสงพวกนั้นได้รวมตัวเข้ามาในร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว

เมอร์ลินที่เห็นอย่างนั้นก็ตกใจทันที ในฐานะที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง เขาสามารถฟื้นฟูพลังเวทย์และพลังจิตได้ไวมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาเกรงว่าเขาจะเสียเปรียบ

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด

“แช่แข็ง!!” ทันใดนั้น เมอร์ลินได้ร่ายคาถาแช่แข็งใส่เจสันทันที

*ครึ่ก ครึ่ก*

สายลมเย็นได้พัดเข้าหาเจสันโดยตรง จากนั้นก็มีผลึกน้ำแข็งเกาะบนร่างเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้ครึ่งล่างของถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

แม้คาถานี้จะมีทรงพลังแต่มันก็สามารถสกัดการเคลื่อนที่ได้

หลังจากที่สกัดการเคลื่อนไหวของเจสัน เมอร์ลินชูมือขึ้นสองข้างและร่ายเวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา

“ลูกไฟยักษ์!!!”

*พรึ่บ!!*

ลูกไฟขนาดมหึมาได้ปรากฏขึ้น มันได้ปล่อยความร้อนที่หน้ากลัวออกมา

จากการที่เมอร์ลินร่ายคาถาแช่แข็งและลูกไฟยักษ์แทบจะทันที นั่นทำให้เจสันมองเบื้องหน้าด้วยใบหน้าซีดเผือด

*ระเบิด!!*

เมอร์ลินยิ้มเล็กน้อย เขาไม่ปล่อยโอกาสให้เจสันร่ายเวทย์ระดับหนึ่งด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ร่างกายของพ่อมดนั้นส่วนให้จะอ่อนแอกว่าคนทั่วไป ดังนั้นหากเขาโดนลูกไฟยักษ์เข้าไป เขาไม่มีทางรอดได้แน่นอน

*ตูม!!!*

ลูกไฟขนาดมหึมาได้ระเบิดออก เปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวได้กลืนร่างของพ่อมดเจสัน เปลวไฟได้กระจายไปทั่วทั้งห้องโถง รัศมีของมันไปไกลกว่า 10เมตร

แม้แต่เมอร์ลินเองก็ต้องหลบออกจากห้องโถง ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกไอร้อนผลักกระเด็นออกไป

*ครืน*

รอยร้าวได้ปรากฏบนผนังห้องโถง นี่เป็นผลกระทบของลูกไฟยักษ์ของเมอร์ลิน

ทุกคนต่างอ้าปากค้างอย่างตกใจ เปลวไฟที่อันแรงราวกับเพลิงของเทพแห่งความตาย ทำให้ทุกคนหนาวสั่นไปด้วยความกลัว

“ทรงพลังเกินไป...เจ้าคนนอกรีตนั่นมีพลังที่ใกล้เคียงกับพ่อมดของโบสถ์เลยหรืออาจจะมีพลังมากกว่านั้น”

ออกัสตินได้มองไปที่เมอร์ลิน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแม้แต่อัศวินหลายพันคนก็ไม่สามรถหยุดยั้งเขาได้

เปลวไฟในห้องโถงค่อย ๆ มอดลง เมอร์ลินที่เพิ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่จู่ ๆ สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไป เนื่องจากพลังจิตของเขาสามารถตรวจจับได้ถึงพลังงานธาตุแสงที่กำลังรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

*หวู่ม*

สายลมหนาวที่พัดเข้ามาจากนอกปราสาทได้ทำให้ฝุ่นในห้องโถงจางหายไป พวกเขาก็ได้เห็นร่างหนึ่งยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

“นี่เขายังไม่ตายงั้นเหรอ?”

หลังจากที่ฝุ่นได้จางลงแล้ว ทุกคนก็ได้เห็นพ่อมดเจสันอย่างชัดเจน เกล็ดน้ำแข็งบนตัวเขาได้หายไปแล้วและระเบิดเพลิงที่บ้าคลั่งเมื่อกี้เหมือนจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย แม้แต่เสื้อคลุมขาวของเขาเองที่ยังสะอาดเรียบร้อยไร้สิ่งสกปรกใด ๆ