ตอนที่แล้วตอนที่ 153 พ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 155 การร่วมมือของสองพี่น้อง

ตอนที่ 154 ไม่! นายจะยังไม่ตาย


ตอนที่ 154 ไม่! นายจะยังไม่ตาย

ไนเรลบินด้วยความเร็วสูง ผ่านสายลมที่ปะทะใบหน้าและตัวด้วยเสียงหวีดหวิว ด้านข้างมีนิเรียที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่ชายที่พยายามเก็บอารมณ์ความโกรธไว้ เพราะ ณ ตอนนี้ไนเรลต้องเป็นที่พึ่งทางใจคอยดูแลนิเรีย

แม้นิเรียจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่เธอก็ยังคงเป็นผู้หญิง เป็นน้องสาว เป็นเพียงสาวน้อยในสายตาของไนเรล นั้นจึงทำให้เขาต้องคอยอยู่ ๆ ข้างเธอและไม่ได้พาเธอเข้าไปในเงา

“พี่...พ่อกับแม่...”

“พ่อกับแม่จะไม่เป็นอะไร”

“พี่...ฝนหยุดตกแล้ว”

“อืม...”

“พี่...หิมะตกแล้ว”

“อืม”

ไนเรลพยักหน้าตอบพลางจับตัวของนิเรียแน่นกว่าเดิมและเพิ่มความเร็วขึ้น ตอนนี้สายฝนหยุดตกแล้ว ฝนที่พรมหยดน้ำลงใส่โลกใบนี้มาหลายเดือนได้หยุดตกแล้ว แต่มันไม่ใช่การหยุดแบบปกติที่ค่อย ๆ เบาลงจนหายไป แต่มันเป็นการปิดก๊อกน้ำที่อยู่ ๆ ก็ตัดขาดสายฝนหายไป

ไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ในโลกนี้ก็เป็นแบบเดียวกันหมด

หลังจากฝนตกก็มีหิมะโปรยลงจากท้องฟ้า ความหนาวเย็นเริ่มมาเยือนอย่าง ๆ แต่มันมาถึงแล้วอย่างแน่นอน ตัวของไนเรลและนิเรียก็เช่นกัน เขามาถึงที่เมืองย่อย 101 แล้วตอนนี้มันเต็มไปด้วยควันไฟที่กระจายในทุกส่วนของตัวเมืองย่อย

มีซอมบี้ที่ฟื้นขึ้นมาจากศพของคนตาย ไม่ว่าจะตายด้วยอะไรขอแค่เป็นมนุษย์และสมองยังไม่ถูกทำลายผ่านไปสักพักก็จะฟื้นกลับมาเป็นซอมบี้

แต่กลับไม่มีทหารรักษาการณ์ที่เมืองย่อยเข้ามาจัดการซอมบี้ เพียงปล่อยให้ประชาชนคนธรรมดาและนักล่าเข้ามาจัดการกันเอง ที่ว่าการเมืองย่อยมีเครื่องมือขนาดใหญ่กว่าสิบเมตรตั้งอยู่บนยอดตึกสูงกำลังธรรมงานอยู่ เพียงแค่มองดูก็รู้ว่ามันคือสิ่งผิดปกติ

รอบด้านเต็มไปด้วยปืนใหญ่พลังงานนับสิบกระบอกที่คุ้มกันเครื่องปริศนานี่อยู่ ยังมีทหารอีกสองหมวดราว ๆ สี่สิบนายยืนเฝ้าระวังด้วยท่าทีน่ากลัว

ไนเรลเพียงบินผ่านไปที่เขตตะวันออกที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักล่า ซึ่งถ้าไม่นับรวมที่เมืองซานติเกียที่พึ่งสร้างเสร็จ กำแพงที่เมื่อก่อนใช้ป้องกันซอมบี้ตอนนี้ถูกถล่มไม่เหลือชิ้นดี

อาคารห้าชั้นก็ขาดหายไปครึ่ง ไม่ต้องเดาก็สามารถรู้ได้จากภาพตรงหน้าว่ามีการต่อสู้ที่รุนแรงมากเกิดขึ้นที่นี่ ศพของเจ้าหน้าที่สมาพันธ์นักล่านอนตายกันเกลือน แต่ที่เสียหายกว่านั้นคือศพของผู้พิทักษ์สมาพันธ์ที่มีเพียงคำสาบานในจิตวิญญาณเท่านั้น

จะปกป้องพิทักษ์และภักดี ต่อประธานไนเรล ต่อสมาพันธ์นักล่า

ถึงจะมีศพของเจ้าหน้าที่และผู้พิทักษ์อยู่หลายร้อยคน แต่ก็มีจำนวนทหารทหารที่ตายมากกว่า ตอนนี้เขาได้คำตอบแล้วว่าทหารรักษษการที่มืองไปไหนหมด

พวกทหารที่เมืองร่วมมือกับพาราซัสไปแล้ว ในเมืองนี้มีสองคนที่พอจะสั่งการทหารของเมืองย่อย 101 ได้นั้นก็คือ รัฐมลตรีพาลเมอร์ และอีกคนพลตรีวินเซนต์ ถ้าไม่ช่สองคนนี้ก็ต้องเป็นหนึ่งในสองคนอยู่ดี

แต่ไม่ว่าจะใช่ทั้งคู่หรือแค่คนเดียวตอนนี้ก็ไม่สำคัญ

เพราะกองทัพทหารเมืองย่อย 101 เลือกที่จะหันปากกระบอกปืนเข้าหาไนเรล เข้าหาสมาพันธ์นักล่าแล้ว พวกนั้นจะต้องชดใช้และตามด้วยคนที่อยู่เบื้องหลัง

ไนเรลและนิเรียข้ามผ่านอาคารสมาพันธ์นักล่า ตรงมาที่ส่วนต้องห้ามมันถูกล้อมไปด้วยทหารถึงหนึ่งกองพัน (704นาย) มีมนุษย์ชั้นสูงจากหน่วยต่าง ๆ ของทางการอยู่ด้วย ยังคงมีรถฮัมวีที่ติดตั้งปืนกลหนัก ปืนคอ จรวดและรถถังที่ปกติแล้วประจำการอยู่ที่เมืองอีกสามคัน

“ปิดล้อมมันไว้ จัดชุดโจมตีเป็นระลอกอย่าหยุดพวกมันมีคนน้อยกว่ายังไงก็ต้านไม่ได้นาน”

“แบ่งกำลังทหารออกไปหนึ่งหมู่จัดการศพคนตายก่อนที่มันจะเป็นซอมบี้”

“ปืนใหญ่พลังงานพยายามอย่ายิงไปตรงจุดของต้นไม้คริสตัลวิวัฒนาการ ถึงแม้พวกมันจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับกบฏ แต่ต้นไม้คริสตัลวิวัฒนาการต้องไม่เสียหาย”

“มนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำตาลทั้งหมดโจมตีไปที่อสูรระดับ 5 ตัวนั้น ที่เหลือจัดการมนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ ของสมาพันธ์นักล่า”

เสียงสั่งการของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังขึ้นตลอดเวลา ทหารที่ได้รับคำสั่งก็กระจายคำสั่งผ่านไปยังหน่วยอื่น ๆ และชายคนนั้นก็คือพลตรีวินเซนต์ที่ออกมาแนวหน้าสั่งการโดยตรง

แต่เขาก็ยังไม่ได้สั่งให้ใช้อาวุธหนักโจมตีเข้าไปเพราะกลัวต้นคริสตัลวิวัฒนาการจะเสียหาย

“แย่แล้วครับ ทหารหน่วยแรกที่บุกเข้าไปติดอยู่ในกับดักของสองอสูร ตัวระดับ 5 ดูเหมือนจะมีความสามารถสนามพลังประหลาดทุกคนจึงเคลื่อนที่ได้อย่างเชื่องช้าร่างกายกำลังจะตายด้วยเช่นกัน ส่วนเจ้าแมวสีขาวน่ารังเกียจนั้นมันสะกดจิตพาคนเข้าไปในโลกประหลาดอีกแล้ว ยังมีบางส่วนที่ฆ่ากันเองอีกด้วย”

“ท่านพลตรี ผมขออนุญาตถล่มด้วยปืนใหญ่พลังงานและอาวุธหนักครับ”

“ไม่อนุญาต ต้นคิสตัลวิวัฒนาการคือของสำคัญอีกอย่างเราตกลงไปแล้วว่าจะเอาต้นคริสตัลนี้มาให้ได้ มันมีค่ามากกว่าชีวิตทหารแค่ไม่กี่นายมากนัก บุกต่อไป” หลังกล่าวจบทหารรอบข้างก็ดูจะไปพอใจเล็กน้อย แต่ไม่มีใครกล้าแสดงตัวออกมา เพราะใครที่เลือกขัดคำสั่งนายจะต้องเป็นคนแรกที่ตายอย่างแน่นอน พวกมันจึงทำตามคำสั่งนายต่อไป

“ท่านพลตรีบนต้องฟ้า”

ในตอนนั้นทุกคนก็แหงนหน้าตามที่ทหารนายหนึ่งชี้ เองมันก็เห็นบางอย่างบินผ่านศีรษะของทุกคนไปอย่างรวดเร็ว

“หยุดมันไว้”

ถึงวินเซนต์จะสั่งการออกไป แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะไนเรลบินเร็วเกินไปเหลือทิ้งไว้เพียงหิมะที่ตกลงมาตามหลังเท่านั้น

ไนเรลบินเข้ามาด้านในกำแพงของสวนหวงห้ามก็เห็นว่าที่นี่มีคนหลับอยู่ร้อยกว่าคน ทั้งจูเรียที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังลงมือแฮคระบบอย่างสุดชีวิต ด้านข้างคุ้มกันด้วยพ่อบ้านเช่นเซน ที่มือหนึ่งถือเหล็กแหลมยาวสองเมตรซึ่งเป็นอาวุธระดับ 5 อีกมือถือปืนพกเรียวกันอยู่ ซึ่งดูจากลักษณะน่าจะเป็นตัวทดลองของเมสัน ในบริเวณนี้ยังมีเจ้าหน้าที่และผู้พิทักษ์ที่ยังรอดอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งกำลังช่วยมะลิและธีโอฆ่าคนที่บุกเข้ามา 10 กว่านาย

แต่ไนเรลกลับไม่เห็นไคโรและคาร่าพ่อและแม่ของเขา

ทันทีที่ทุกคนเห็นไนเรลและนิเรียต่างก็ดีใจเป็นอย่างมาก วันนี้ที่ผ่านมาสำหรับพวกเขาที่รอดชีวิต มันเหมือนกับนรกที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดกว่าจะมาถึงที่สวนหวงห้าม ตอนนี้พวกเขายังมาติดอยู่ในกำแพงสวนหวงห้ามเหมือนหนูที่หล่นลงไปในไหที่มืดไม่สามารถหนีออกไปได้ ทำได้เพียงรอเวลาตาย

อีกทั้งทหารทั้งเมืองกลายเป็นศัตรูกับพวกเขา นั้นยิ่งสร้างความสิ้นหวังให้กับทุกคน แต่ทันทีที่เห็นไนเรลและนิเรียพวกเขาก็มีความหวังขอแค่ความหวังก็ยังดี ประธานไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาให้ตายอยู่ที่นี่

“เซนเกิดอะไรขึ้น พ่อกับแม่ฉันอยู่ที่ไหน”

“ท่านไนเรล ก่อนเกิดเรื่องประมาณครึ่งชั่วโมงท่านไคโรและท่านคาร่าได้รับจดหมายเชิญไปที่ว่าการเมืองย่อย จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป” เซนอธิบาย และรีบก้มหน้ารอคำสั่งอยู่ด้านหลังไนเรล

“มนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำเงิน ตอนนี้อยู่ที่ไหน ในกองกำลังที่เข้ามาโจมตีมีระดับสีน้ำเงินอยู่หรือเปล่า”

“มีระดับสีน้ำเงินโจมตีพวกเราอยู่คนหนึ่งครับ เป็นหญิงสาวที่มีความสามารถกลายร่างเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งงูร่างสูงใหญ่หลายสิบเมตร เธอถล่มตึกสมาพันธ์นักล่าไปแถบหนึ่ง พวกเราถอยหนีมาอยู่ที่สวนต้องหายและได้ท่านธีโอช่วยไว้ หญิงสาวคนนั้นและท่านธีโอสู้กันอยู่สักพัก แต่แล้ว เธอก็ถอยหนีไป ส่วนท่านธีโอก็ไม่ได้ออกไปล่าแต่เลือกที่จะเฝ้าอยู่ที่นี่ต่อ”

ไนเรลได้แต่คิดเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่หญิงสาวคนนั้นถึงถอยกลับออกไป นอกซะจากว่าเธอบรรลุเป้าหมายแล้วจึงไม่คิดจะเสียงสู้กับธีโออีก

และเรื่องที่ธีโอไม่ออกไปไล่ล่าหญิงสาวระดับสีน้ำเงินนั้นต่อ เขาไม่มีสิทธิ์ไปกล่าวโทษธีโอ เพราะเพียงแค่ธีโอลงมือช่วยคนที่นี่ก็ถือว่าดีมากแล้ว

ธีโอมาอยู่ที่นี่เพราะข้อตกลงกับเขาและมะลิ แต่ไม่ได้มาทำงานรับให้สมาพันธ์นักล่า เมื่อคิดได้ดังนั้นไนเรลก็พยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ สถานการณ์ในตอนนี้คือ พ่อกับแม่ของเขาต้องถูกจับตัวไปแล้ว และมนุษย์สูงที่ถอยไปก็ตามกลับไปด้วย ดังนั้นคนที่มีโอกาสรู้ตำแหน่งของพ่อกับแม่เขาคงจะมีแค่พลตรีวินเซนต์และรัฐมนตรีพาลเมอร์

“นิเรียช่วยจัดการพี่ฆ่าทหารที่อยู่ในกำแพงที ส่วนที่เหลือเดียวพี่จัดการเอง”

“อืม”

นิเรียยิงปืนสังหารพวกที่บุกเข้ามาแต่ติดอยู่ในสนามพลังของธีโอจนหมด จากนั้นก็ช่วยทางฝั่งมะลิ เมื่อธีโอเห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ลงมืออีก เพียงหันหลังเดินกลับไปอย่างช้า ๆ ด้วยท่าทีสบายกินใบไม้คริสตัลต่อ

ไนเรลเองก็ลงมือแล้วเช่นกัน เขาบินออกไปนอกสวนหวงห้ามมองดูทหารทั้งหมดและพลตรีวินเซนต์

“ไนเรล” พลตรีวินเซนต์พูดด้วยความไม่พอใจ ตั้งแต่ที่เจอไนเรลพลตรีวินเซนต์ก็ไม่เคยชอบไนเรลเลยไม่แต่น้อย ทุก ๆ ครั่งไนเรลทำอะไรไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาจึงถึงขั้นรู้สึกเกลียดไนเรลอยู่ลึก ๆ

“พ่อกับแม่ฉันถูกจับไปที่ไหน”

เสียงของไนเรลเยือกเย็นไปถึงกระดูก แต่มันกลับไม่สามารถข่มขู่วินเซนต์ได้เลยแม้แต่น้อย

“หึ...แกมาช้าไปแล้วพ่อกับแม่นายถูกพาตัวไปนานแล้ว”

“ที่ไหน”

“ถุย...ไปตายซะ ถึงแกจะเป็นระดับสีน้ำเงิน แต่แกก็ไม่สามารถชนะพวกเราได้หรอก ฮ่า ๆ ๆ แกไม่ใช่พระเจ้าที่จะสามารถต่อต้านทุกคนได้ ในเมื่อจะสู้กันแล้วก็อย่างเสียเวลา” พลตรีวินเซนต์พูดจบทหารทั้งหมดก็โจมตีไนเรลด้วยทุกอย่างที่มี

แต่มันจะทำอันตรายไนเรลได้ยังไง ด้วยอาวุธธรรมดาพวกนี้ เพราะแม้แต่ปืนใหญ่พลังงานยังไม่สามารถสร้างบาดแผลให้เขาได้เลย

บูม!!! ตูม!!!

เสียงระเบิดของอาวุธทุกชนิดยิงไปจุดที่ไนเรลยืนอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ไนเรลกับทำเพียงเดินเข้าหาวินเซนต์ที่อยู่ห่างออกไปสามร้อยเมตรหลบอยู่ข้าง ๆ รถถึงทั่งสามคัน มีมนุษย์ชั้นสูงของกองทัพวิ่งเข้าหาไนเรลเพื่อขัดขวางดูเหมือนพวกมันทั้งหมดคิดจะสู้ตายจริง ๆ

แต่พอเข้ามาในระยะของไนเรลอยู่ ๆ มันก็หายใจไม่ออก หน้าดำค้ำเขียวจับที่คอราวกับสูดอากาศพิษเข้าไป ซึ่งสิ่งที่เกิดนี่แน่นอนว่าเป็นฝีมือของไนเรลที่ใช้ความสามารถ [สนามพลังอากาศ S]

และในตอนนั้นเองเปลวไฟก็ลุกออกมาจากตัวของเขาเผาคนที่อยู่ใกล้ ๆ ไปหมด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกเผา แต่กลับมีบางคนที่ถูกมือของไนเรลที่กลายร่างกาบหอยแครงปีศาจกินทั้งเป็น

ใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีทหารทั้งกองพันก็ตายหมด เหลือแค่วินเซนต์เพียงคนเดียวที่ยืนสั่น ถึงวินเซนต์จะพูดอย่างไม่กลัวไนเรล ไม่กลัวตายก่อนหน้านี้ แต่จากการกระทำของไนเรลเมื่อครู่มันก็เกิดกลัวขึ้นมาในจิตใจ

ว่าตัวเองจะโดนเผาตายหรือว่าโดนกินทั้งเป็น การตายที่ค่อย ๆ ตายน่ากลัวเกินไป

“ฉันจะต้องตายอยู่แล้วดังนั้นขอถามหน่อย แกรอดจากมนุษย์ชั้นสูงระดับสูงน้ำเงินทั้งสองคนมาได้ยังไง”

“ไม่! นายจะยังไม่ตาย แต่ฉันสามารถบอกให้ได้ฉันฆ่าพวกมันทั้งสองไปแล้ว ส่วนพลตรีฟรินทันก็ถูกจับจัวเช่นกัน เมืองซานติเกียยังอยู่ดี สมาพันธ์นักล่ายังอยู่ดี”

วินเซนต์ได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรไม่มีใครรู้ว่ามันคิดยังไง แต่บางทีอาจจะคิดว่า 'พวกพาราซัสบัดซบงี่เง่าไหนว่าแค่มนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำเงินสองคนก็ฆ่าไนเรลได้ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้มันคงไม่เผยตัวออกมาเข้าร่วมภารกิจนี้ด้วยอย่างแน่นอน'

วินเซนต์หยิบระเบิดขึ้นมาดึงสลักออกคิดจะระเบิดฆ่าตัวตาย

แต่มือของไนเรลก็หยิบลูกระเบิดจนมันบี้แบนคามือไม่เหลือชิ้นดี จนมันระเบิดไม่ได้อีก และพูดต่อว่า “ไม่ต้องรีบนายยังมีค่ามากกว่าที่จะตาย”

ไนเรลต่อยเข้าไปที่วินเซนต์แบบออมแรง แต่สำรับวินเซนต์ที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียวก็ถึงกับลอยกระเด็นไปชนกับรถถังทั้งยุบกันไปข้างนอนหมดสภาพและสลบไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด