ตอนที่แล้วตอนที่ 24 การดวล I
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 ตำนาน

ตอนที่ 25 การดวล II


[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 22

[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9)

[สถานะผิดปกติ] เสน่ห์ของนักบุญ

◇◆◇

ใช้ขาเตะพื้นเพื่อเร่งความเร็ว

ในเวลาเดียวกันผมก็ยกไอเอิร์นเซคัน (ชื่อดาบใหญ่) เพื่อเหวี่ยงมันใส่ดรูอิด

น่าประหลาดใจที่เขาหลบได้

แต่มันยังไร้เดียงสาเกินไป

เขาคิดว่าผมจะไม่สามารถไล่ตามการถอยที่เชื่องช้านั่นได้?

ไอเอิร์นเซคันชนกับพื้น ก่อนจะใช้แรงถีบเพื่อเหวี่ยงไปที่เขาอีกครั้ง

[ทักษะ] << ความชำนาญการใช้ดาบ B->> ทำให้ผมใช้ดาบอย่างคล่องแคล่ว

ด้วยความต่างของพละกำลัง เขาคงไม่สามารถรอดจากการโจมตีครั้งนี้

แต่เมื่อดาบกำลังจะฟันไปที่เขา

"ขับเคลื่อนสายลม (แอคเซล) ! "

ทันใดนั้นก็อบลินตรงหน้าก็หายไป เหลือเพียงดาบฟันไปที่ความว่างเปล่า

"เป็นดาบที่ไม่เลว" มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า ก่อนที่ผมกล่าวว่า “ฝีเท้าของเจ้าก็ไม่เบาเช่นกัน” และหันกลับไปด้านหลัง

แต่ในเวลาเดียวกับที่ใบมีดสายลมพัดพา ทำให้ผมต้องหมุนดาบเพื่อตอบโต้อย่างรวดเร็ว

อย่างที่คิด ผมไม่สามารถจัดการเขาด้วยวิธีปกติ

[ทักษะ] <<ดวงตามรกตของงู>>เปิดใช้งาน

จุดอ่อน: ศีรษะ หัวใจ ไม้เท้า อืม ...ไม้เท้า

ขณะที่ผมกำลังคิดอย่างเงียบ ๆ เขาตะโกนว่า "ถ้าเจ้ายังยืนอยู่เฉย ๆ ล่ะก็! "

เขาใช้ไม้เท้าแทงลงไปที่พื้น

"เคลื่อนวายุ (Windea) "

ทันทีที่เขาร่ายเวทย์ บรรยากาศรอบ ๆ ก็สั่นสะเทือนและมีพายุขนาดเล็ก 4 ลูกปรากฏขึ้น

เขาวางแผนจะโจมตีผมด้วยไอ้นั่น??

“เปลี่ยนข้าให้กลายเป็นดาบ (เอนชานต์)”

เมื่อเห็นเขาใช้เวทย์สร้างพายุ ผมจึงใช้เวทย์ห่อหุ้มดาบด้วยเปลวเพลิงแห่งความมืด

"กูรูรรรอาาาา! "

ผมฟันพายุขนาดเล็กเหล่านั้น แต่พายุลูกหนึ่งพุ่งผ่านมาสร้างบาดแผลให้ผม

เป็นบาดแผลที่ทำให้ผมรู้สึกเร่าร้อน แต่ตรงกันข้ามกันเขากลับดูมีความสุข

"เจ้าก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้เช่นกัน! "

จากนั้นดรูอิดก็เริ่มร่ายเวทย์ที่มีพลังโจมตีรุนแรงมากขึ้น

"ขอให้ปีกแห่งสายลม ---"

ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้เขาร่ายจบ ผมพุ่งเข้าไปฟันด้วยดาบเพลิงอีกครั้ง ดรูอิดจึงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากการหนี

"ขับเคลื่อนสายลม (แอคเซล) ! "

ผมถือดาบไว้ข้าง ๆ และพยายามผลักดันดรูอิดมากขึ้นเพื่อไม่ให้เขาร่ายเวทย์

แต่เขายังเร็วกว่า

ทันทีที่เขาหายไป ผมตอบโต้ด้วยการฟันดาบไปด้านหลัง แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงปะทะใด ๆ

ผมพลาด?

มีเสียงดังขึ้นตอบคำถามนั้น

"วายุจงหมุนวน (Wind Cutter) "

ในไม่ช้าใบมีดสายลม 2 เล่มก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ว เบื้องหลังใบมีดทั้งสอง ดรูอิดก็เริ่มที่จะร่ายเวทมนตร์อีกครั้ง

ผมก้าวไปข้างหน้า เป็นก้าวที่มีพลังมากพอที่จะสร้างหลุมลึกบนพื้น "กูรูอาาาา! "

ผมหวี่ยงดาบไปยังใบมีดสายลมที่เข้ามาใกล้ เมื่อใบมีดหายไป ผมก็รีบพุ่งไปหาก็อบลินตัวนั้น

แทนที่เขาจะถอย คราวนี้เขากลับก้าวมาข้างหน้าแทน

เป็นการตอบโต้ที่ดี!

แต่ดาบของผมยังคงเร็วกว่า ผมเหวี่ยงดาบลงด้วยพลังที่สามารถบดขยี้ได้แม้กระทั่งเหล็กกล้า แต่แล้วดรูอิดก็ร่ายเวทย์บทใหม่

"อำนาจของเทพแห่งสายลม (บูสต์) "

มีสายลมโผล่ขึ้นมารอบ ๆ ตัวเขาทำให้การโจมตีของผมแฉลบไปด้านข้าง ขณะที่การโจมตีของเขาเองยังมุ่งเป้าเข้าสู่หน้าอกของผม

" ร่างกายที่มิอาจถูกล่วงล้ำ (ชิลด์) "

" เสียงขับขานของวิหควายุ (สแลช) "

บทร่ายของเราทับซ้อนกัน ในขณะที่ร่างกายของผมถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำปะทะกับเคียวแห่งสายลม

แรงปะทะทำให้ผมลอยขึ้นเล็กน้อย แต่ผมยังสามารถยืนได้

ผมยันตัวเองเพื่อเตรียมรับโจมตีต่อไป แต่สิ่งที่กลับมาคือเสียงของดรูอิดตัวนั้น

“เจ้าไม่เลวเลย” เขากล่าว

เขาดูเหมือนจะสนุกกับการต่อสู้จากก้นบึ้งของหัวใจ

นั่นเป็นเพราะความมั่นใจของเขา? แต่ผมก็ไม่ลืมมารยาท "เจ้าก็เช่นกัน"

หลังจากการพักผ่อนสั้น ๆ ผมก็วิ่งไปเพื่อลดระยะห่างอีกครั้ง

เขาเป็นแค่ก็อบลินแรร์ เลยอาจจะไม่ทราบเรื่องนี้ แต่วิสัยทัศน์ที่พัฒนาขึ้นจากการกลายเป็นก็อบลินดยุคเป็นสิ่งแตกต่างจากก็อบลินแรร์อย่างสิ้นเชิง ผมไม่ได้พลาดจุดอ่อนเล็กน้อยที่เขาแสดงให้เห็น ดูจากขาที่สั่นเทา …นั่นหลักฐานของความเหนื่อยล้า

โดยไม่หยุดพัก ผมเหวี่ยงดาบและร่ายเวทย์อีกครั้ง

"เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (เอนชานต์) "

เปลวไฟสีดำปกคลุมดาบขณะที่เหวี่ยงมัน ความสามารถทางกายภาพของผมอยู่ไกลเกินกว่าขอบเขตของก็อบลินแรร์มาก

สภาพดรูอิดค่อย ๆ เหนื่อยล้ามากขึ้นทุกครั้งที่เขาร่ายเวทย์

"ขับเคลื่อนสายลม (แอคเซล) ! "

หากการต่อสู้นี้ยังคงดำเนินต่อไป มันจะจบลงด้วยชัยชนะของผม เขาก็รู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงต้องเสี่ยงร่ายเวทย์ที่มีพลังโจมตีที่มากสุด มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาได้รับชัยชนะ

แต่ผมก็ไม่ได้ใจดีพอที่จะให้เขาทำเช่นนั้นง่าย ๆ

ถ้าเขาตอบโต้ได้ไม่ดีพอ ผมคงจะฆ่าเขาที่นี่!

การฟาดฟันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง …ผมไล่ตามดรูอิดที่เพิ่งหายไปอีกครั้ง

"มีอะไรผิดปกติ!? การเคลื่อนไหวของเจ้าดูช้าลงนะ! "ผมล้อเลียนและพยายามยั่วยุดรูอิดที่อยู่ท่ามกลางการโจมตี แต่เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

--- ดูจากความมั่นใจนั่น ผมคงยังไม่สามารถผ่อนคลายได้!

"วายุจงหมุนวน (Wind Cutter) "

เขาพยายามโจมตีผมด้วยใบมีดสายลม และผมก็หลบมันโดยการขยับตัวเพียงครึ่งหนึ่ง ในเวลาเดียวกันเขาก็เร่งความเร็วอีกครั้ง

"ขับเคลื่อนสายลม (แอคเซล) ! "

ทันทีที่เขาก็หายไปจากสายตา ผมฟันดาบไปที่ด้านหลัง ถึงแม้คราวนี้เขาจะหลบการโจมตีนี้ได้อย่างหวุดหวิด แต่ดูจากสภาพที่หอบหายใจนั่น …เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหมดแรง

"เจ้าจะยอมจำนนรึยัง? " ผมถามขณะที่จับดาบไว้แน่น

เขาเพียงแค่หัวเราะตอบ ก่อนจะยกไม้เท้าชี้มาทางผม

--- ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ ผมคงไม่มีทางเลือก!

ผมคงต้องเอาไม้เท้าน่ารำคาญนั่นออกไปก่อน ดังนั้นผมจึงรวบรวมกำลังไปที่ฝ่าเท้าเพื่อพุ่งไปข้างหน้า แต่แล้วในขณะนั้นเอง ผมเห็นดรูอิดกำลังเอาบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุม

ไม่ดีแน่! สัญชาตญาณกำลังเตือนผม

สิ่งที่เขาหยิบออกมาคืออัญมณีสีเงินระยิบระยับ

"ด้วยนามอันสูงส่ง โปรดรับฟังเสียงเรียกของข้า (Kryz) "

ทันทีที่ได้ยิน ผมรีดเร้นกำลังทั้งหมดเพื่อถีบตัวหลบถอยไปด้านหลัง แต่ดรูอิดยังคงใช้ไม้เท้าชี้ไปที่พื้น

"ด้วยนามของท่าน ...เทพเจ้าแห่งสายลม (castor) ! "

ทันใดนั้นก็มีพายุทอร์นาโดที่มีขนาด 4 เมตรก่อตัวขึ้นโดยมีดรูอิดเป็นศูนย์กลาง พายุที่มีรูปร่างเป็นมังกรลอยปกคลุมทั่วท้องฟ้า

เมื่อเห็นการโจมตีนี้ ผมรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่แทรกซึมหยดลงมาที่หลัง

เมื่อมังกรสายลมมองลงมา มีพลังไหลบ่าออกมาจากรอยสักรูปงู มันทำให้ร่างกายผมเต็มไปด้วยพลังเวทย์ ราวกับว่ามันกำลังกระตุ้นให้ผมตอบโต้กับพลังที่อยู่ตรงหน้า

"คงต้องฟันมันทิ้งไปซะ" ผมพูดกับตัวเอง

--- มันเป็นแค่ลมใช่มั้ย?

ผมก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าและพาดดาบไว้ที่ไหล่ จากนั้นรวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมดส่งไปยังดาบ

มังกรสายลมกำลังเปิดปากเพื่อโจมตีมาที่ผม

"เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (เอนชานต์) "

นี่เป็นครั้งที่สามที่ผมร่ายเวทย์นี้ แต่คราวนี้ผมใช้พลังที่มีทั้งหมดจากทุกส่วนของร่างกาย

“โอ๊วววววววว!”

ผลจากการปะทะ …ผมฟันมังกรสายลมขาดเป็นสองท่อน

แต่พายุลูกใหญ่พัดก้อนหินปลิวขึ้นไปปกคลุมวิสัยทัศน์ของผม

มีเสียงของสายลมสะท้อนอยู่ด้านหลังเมฆฝุ่นปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ ก่อนผมจะวาดดาบเพื่อปัดฝุ่นทั้งหมดทิ้งไป

ผมจับดาบอีกครั้งและเฝ้ารอ

" เสียงขับขานของวิหควายุ (สแลช) "

นี่คงเป็นพลังเวทย์เฮือกสุดท้ายที่เขาเหลืออยู่

…แต่เขาพลาด

ผมตอบโต้กับการโจมตีสุดท้ายของเขาอย่างใจเย็น ตาของดรูอิดเปิดกว้างในขณะที่ผมฟัน

เขาไม่เหลือความแข็งแรงใด ๆ ที่จะหลบและกระเด็นลอยไปในอากาศ

ดรูอิดจ้องมองท้องฟ้าขณะที่มันล้มลงกับพื้น ก่อนผมจะเอาดาบพาดไว้ที่คอของเขา

"ข้าไม่คิดเลยว่าการโจมตีสุดท้ายของข้าจะพลาด" เขากล่าว

“ข้าแค่โชคดี” ฉันพูด

"ห๊ะ โชคงั้นเหรอ? " ดรูอิดดูเหมือนจะไม่พอใจ

"ถ้าเจ้าไม่สามารถยอมรับมันได้ งั้นที่เจ้าแพ้คงเป็นเพราะความแตกต่างจากเป้าหมายของเรา" ผมกล่าว

"งั้นเป้าหมายของเจ้าคืออะไร? " เขาถาม

"ความปรารถนาหรืออีกนัยหนึ่ง"

"คงเป็นความทะเยอทะยาน”

ผมรู้ว่าพวกก็อบลินในหมู่บ้านยังฟังอยู่ ผมเลยพูดออกมาดัง ๆ

" ข้ากำลังจะสร้างอาณาจักร อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของก็อบลิน ข้าจะรวบรวมก็อบลินทั้งหมดและสร้างประเทศที่ไม่มีก็อบลินตัวใดถูกกดขี่ ถูกล่า ถูกหมายหัว จงตามข้ามา! ข้าต้องการพลังของพวกเจ้า! "

เขาเพียงแค่หัวเราะ

"อาณาจักรของก็อบลิน นั่นคือเป้าหมายที่เจ้าพูดถึง? ฮ่าฮ่าฮ่า ...ไม่แปลกใจเลยที่ข้าแพ้ "

ดรูอิดปิดตาเงียบ ๆ ก่อนจะหายใจเข้าลึก ๆ

"เอาไปสิ จากนี้ไปทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นของเจ้าแล้ว"

ผมเดินไปหาเรเชีย เธอบุ้ยแก้มของเธอเพื่อตอบกลับ แต่ผมไม่สนใจและกล่าวว่า

"รักษาเขาซะ"

เมื่อดรูอิดค่อย ๆ เปิดตาช้า ๆ และถามผม

"เจ้าจะไว้ชีวิตของข้า? "

ผมตอบกลับไป "ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าว่า ...มันไม่รวมถึงตัวเจ้าเองด้วยเหรอ? "

ดรูอิดจ้องมองมาที่ผมอย่างว่างเปล่า แล้วเขาก็หัวเราะออกมา

◆◇◇◆◆◇◇◆

มีการจัดการกับเวทมนตร์ขั้นสูง [ทักษะ] <<Third Impact>> ได้รับ

ระดับของคุณเพิ่มขึ้น

[เลเวล] 22 → 26

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด