ตอนที่แล้วตอนที่ 14 สวนกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 สั่นสะเทือน

ตอนที่ 15 พลังใหม่


[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 10

[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<การเชื่อมต่อจิตวิญญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

◇◆◇

สายลมพัดอย่างอ่อนโยนราวกับผมถูกโอบกอด

ภาพที่สะท้อนจากทะเลสาบ ไม่มีอะไรนอกจากก็อบลินผิวสีน้ำตาล ความสูงเท่าของผมตอนนี้เท่ากับมนุษย์ผู้ใหญ่ มีรอยสักรูปงูสีแดงไปตามแขน เขาที่งอกยาวและขนสีดำราวกับแผงคอม้าปกคลุมจากต้นคอถึงสะโพก …ความรู้สึกของการกลับไปมีมือ 5 นิ้ว นี่มัน….ก็อบลินจริง ๆ เหรอ?

รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมา …เมื่อผมคิดเช่นนั้น

รูปลักษณ์ของผมสะท้อนมาจากจิตวิญญาณ …แล้วไงล่ะ?

ตอนนี้ผมเริ่มที่จะสวมเสื้อผ้าตามที่ลิลลี่บอก ผมเคยจะเปลือยเกือบตลอดเวลา แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมก็รู้สึกว่ามันน่าอับอาย

อาจเป็นเพราะว่าผมเริ่มที่จะคุ้นเคยกับมนุษย์อีกครั้ง

◆◇◇

หลังจากจัดการผู้นำออร์คที่บุกมาได้ ผมก็พากิกูวออกไปล่า

ที่นั่นผมค้นพบเป้าหมายในการทดสอบร่างกาย

มีออร์คที่ตกอยู่ในกับดักจนไม่สามารถเคลื่อนไหว จากการทดสอบ …ผมสามารถบดขยี้และฉีกออร์คเป็นชิ้น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

เกี่ยวกับนักดาบสาวที่อยู่นอกหมู่บ้าน …โชคดีที่เธอยังมีชีวิตรอด

ไม่ใช่ว่ามันใส่ใจกับรูปลักษณ์ภายนอก แต่ออร์คให้ความสำคัญกับอาหารมากกว่าผู้หญิง

เมื่อพาลิลลี่ที่หมดสติเข้าไปในห้องขัง ผมก็สั่งให้ก็อบลินที่เหลืออยู่เฝ้าเธอไว้

พวกก็อบลินดูจะเชื่อฟังมากขึ้นหลังจากการต่อสู้ที่ผ่านมา แต่จำนวนกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด

จากกลุ่มกว่า 40 ตัว ตอนนี้เหลือก็อบลินที่สามารถต่อสู้ได้เพียง 30 ตัวเท่านั้น

ยังดีที่หลายตัวถูกรักษาโดยเรเชีย เด็ก ๆ และตัวเมียบางส่วนจึงมีชีวิตรอด

หนึ่งในก็อบลินตัวเมียถูกฆ่า เพราะว่าเธอกำลังท้องจึงไม่สามารถวิ่งหนีได้อย่างเต็มที่

เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้อีก ผมต้องฝึกพวกเขามากขึ้น

มนุษย์ที่ถูกขังอยู่ยังปลอดภัย แม้จะดูน่าตลก แต่พวกก็อบลินให้ความสำคัญกับการปกป้องสมบัติมากกว่าผู้หญิง

มอนสเตอร์ก็คือมอนสเตอร์ …พวกเขาคงคิดว่าผมจะดีใจกับสิ่งที่เขาทำ

มนุษย์ที่เป็นเชลยมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น โดยเฉพาะนักดาบสาว ถึงแม้ว่าเธอจะตะโกนใส่ผมอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้เธอดูสงบลงบ้างแล้ว

ความจริงคนที่น่ารำคาญที่สุดคือเรเชีย

คงเป็นเพราะเธอเพิ่งเคยเห็นผมเลื่อนคลาส ทุกครั้งที่เจอหน้า เธอก็ระดมคำถามต่าง ๆ ไม่จบสิ้น

ยิ่งคุยกับเธอมากเท่าไร ผมก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองไม่สามารถหลุดออกจากเสน่ห์ของเธอได้

ผมเคยถามว่าทำไมเธอไม่กลัวผม แต่เธอมองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่าก่อนจะส่ายหัว เห็นได้ชัดว่าผมใส่ใจเธอมากกว่าคนอื่น ๆ

หลังจากที่ทุกอย่างจบลง ผมให้มนุษย์คนอื่น ๆ ทำงานตามที่เขาถนัด

ตอนนี้พลังของผมยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะบุกรุกดินแดนของมนุษย์

ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเพิ่มความแข็งแกร่งต่อไป

◇◆◇

หลังจากนั้น ผมก็ตรวจสอบทักษะใหม่ของผม

[ทักษะ] <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>>

——จำนวนของผู้ใต้บังคับบัญชาเพิ่มขึ้น

——เสน่ห์ต่อเผ่าพันธุ์เดียวกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“เสน่ห์ต่อเผ่าพันธุ์เดียวกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก” แสดงว่าเสน่ห์ต่อก็อบลินเพิ่มเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น

นี่เป็นทักษะที่ไร้ประโยชน์อีกอัน

ผมไม่ได้ชอบก็อบลินตัวเมีย แต่ถ้าเกิดอะไรผิดพลาด มันจะกลายเป็นหายนะแทน

[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->>

คงเป็นเพราะนิ้วมือที่เพิ่มมา มันทำให้ผมเคลื่อนไหวได้ละเอียดยิ่งขึ้น

[ทักษะ] <<การจัดการเวทมนตร์>>

——ตอนนี้สามารถใช้เวทมนตร์ตามแอตทริบิวต์ของคุณได้

การใช้เวทมนตร์คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของต่างโลก

◇◇◆

ผมไม่อยากถามเรเชีย ผมจึงเดินไปหาก็อบลินอาวุโสเผื่อเขาอาจจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ แต่ก็ตามที่คิดไว้ …ก็อบลินก็คือก็อบลิน

——บ้าเอ๊ย!

ช่วยไม่ได้ ดังนั้นผมจึงไปหาเธอ

“สอนข้าเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์”

เมื่อคำพูดเหล่านั้นดังเข้าไปในหูของเรเชีย เธอมองมาที่ผมราวกับว่าเธอคุยกับคนโง่ แน่นอนว่าเธอไม่ได้แสดงสีหน้าเหล่านั้นออกมา แต่ผมสามารถอ่านการแสดงออกที่เล็กน้อยนั่นได้

“คุณต้องรู้ก่อนนะคะว่าเวทมนตร์คือส่วนหนึ่งของโลก มันเป็นพลังจากการคุ้มครองของพระเจ้าและเวทมนตร์เป็นสิ่งตอบแทนสำหรับคำสัญญาของท่าน”

เรเชียพูดอะไรบางอย่าง…

หลังจากนั้นเธอก็เริ่มโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ แต่ผมต้องการแค่ให้เธอสอนมัน

“เอาสั้น ๆ ข้าจะใช้มันได้ยังไง?”

ผมพูดขัดจังหวะเรเชีย

“ใช้คำร่ายเพื่อสร้างมัน เวทมนตร์จะถูกสร้างขึ้นตามจินตนาการและความคิดของคุณค่ะ”

คงจะดีถ้าเธอพูดอย่างนั้นตั้งแต่แรก แต่ผมจะรู้ได้ยังไงว่าต้องเปล่งเสียงอย่างไร?

จินตนาการ…

เมื่อคิดอย่างนั้น ผมอยากจะลองใช้เวทมนตร์อย่างพวกไฟร์บอลหรือบาเรีย

ผมสงสัยว่าเวทย์ของผมจะมีลักษณะเป็นยังไง

ทันใดนั้นก็มีความมืดปกคลุมรอบตัว มันเป็นชุดเกราะสีดำจาง ๆ

“โอ้ว?”

น่าแปลกที่ผมสามารถทำมันได้จริงๆ

“อ…เอ๊ะ-!?”

ตรงกันข้ามกับผม เรเชียที่ปกติทำใบหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา เธอลืมท่าทางดังกล่าวและแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

“ทำไม…คุณถึงใช้มันได้!?”

เรเชียกลายเป็นงุนงงอีกครั้งและเข้ามาถามผมไม่หยุดอีกครั้ง เยี่ยม มันเป็นเพราะเธอเป็นคนสอนไง นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะพูด แต่ผมตัดสินใจจะเก็บมันไว้

“ข้าจะยกเลิกมันได้ยังไง?”

ผมพูดโดยไม่สนใจเรเชียที่น่ารำคาญ

“เปล่งคำร่ายเพื่อยกเลิก….!”

“หืม”

ผมทำตามที่เธอบอก

“ปล่อย”

เมื่อเห็นแบบนั้น ความมืดก็ค่อย ๆ สลายไป

ผมควรจะลองทำหลาย ๆ อย่างเพื่อศึกษาเพิ่มเติม ขณะที่คิดอย่างนั้นเรเชียก็พูดขึ้น

“นี่คือสิ่งที่เกินข้อตกลงไม่ใช่รึไงคะ?”

นั่นเธอกำลังพูดเรื่องอะไร?

“คุณขอให้ฉันสอนการใช้เวทมนตร์ แต่ในสัญญาฉันแค่ต้องรักษาพวกคุณเท่านั้น”

“งั้นเจ้าต้องการอะไร?”

“ฉ - ฉันต้องการอาบน้ำค่ะ”

ผมอาจจะแสดงออกด้วยท่าทางโง่ๆ จนเรเชียต้องพูดอีกครั้งด้วยความโกรธ

“ฉันบอกว่าาาา ฉันต้องการอาบน้ำ!”

ผมจึงเรียกกิก้าเพื่อบอกให้เขาพาเธอออกไป

◆◇◇◆◆◇◇◆

[เลเวล] 10 → 11

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด