ตอนที่แล้วตอนที่ 9 สิ่งบริสุทธิ์ย่อมย้อมได้ง่าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 จองฮายัน (2)

ตอนที่ 10 จองฮายัน (1)


ลำดับชั้นที่มองไม่เห็นกำลังก่อตัวขึ้น

แม้แต่สัตว์ที่พูดไม่ได้ก็มีการแบ่งชนชั้น มันคงจะไม่แปลก ถ้ามันจะเกิดขึ้นกับสถานการณ์ในตอนนี้

ตราบใดที่นี่เป็นสถานที่มีผู้คนอาศัยอยู่ มันก็เป็นผลลัพธ์ตามธรรมชาติ

“ก่อนอื่น”

ด้านบนสุดของพีระมิดคือชายผู้สร้างสถานที่แห่งนี้อย่างคิมฮยอนซึง

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างการหาที่พักนี้ แต่ผู้คนที่นี่ให้ความไว้วางใจกับคิมฮยอนซึงมาก

แต่ผมก็มีปฏิกิริยาที่คล้ายกัน

แน่นอนว่ามันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติสำหรับคนที่ตกลงไปในดินแดนที่ไม่รู้จักและเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์

ความจริงที่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งเต็มใจที่จะหยิบดาบเพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ทำให้พวกเขาวางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ใจดีอย่างโง่เขลา

ไม่แปลกเลยที่ผู้คนจะชื่นชมเขา

ถัดไปคือลีจีฮเย ผู้หญิงที่มีโชคลาภอย่างไม่คาดคิดจากการอยู่ร่วมกันกับคิมฮยอนซึง

เธอแตกต่างจากคิมฮยอนซึงที่มักจะออกไปข้างนอก เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในที่พักโดยการแจกจ่ายอาหาร ดูแลที่นี่และจัดงานสำคัญอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ‘กลุ่มลีจีฮเย’ ซึ่งมีอำนาจสำคัญ

แน่นอนว่าในขณะที่คิมฮยอนซึงอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่สามารถก้าวก่ายหรือใช้ประโยชน์จากอำนาจที่พวกเขามีอย่างเปิดเผย

แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเขาจากไป

“แล้วพวกเราล่ะพี่?”

“นายสามารถพูดได้ว่าเราอยู่ภายใต้คิมฮยอนซึง เพราะเราต่อสู้และค้นหาอาหาร”

“อืม…”

“เป็นไปได้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่พอใจพวกเรา”

“แต่ก่อนอื่น…”

“แน่นอนว่าตอนแรกพวกเขาจะน่ารักต่อเรา แต่พวกเขาคงไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เหมือนการบอกเป็นนัยว่าเราต้องการเป็นอิสระ ราวกับว่า ‘ไม่ใช่งานของเราที่จะเลี้ยงพวกเขา’ นั่นอาจเป็นฟางเส้นสุดท้าย”

“แต่อาหารส่วนหนึ่งที่พวกเขากินเป็นของเรา พวกเขาต้องขอบคุณเราสิ”

“แน่นอนว่าก็มีคนเช่นนั้น …แต่ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่พยายามจะรักษาอำนาจไว้ แม้พวกเขาจะเป็นเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ ก็ตาม”

“แต่คิมฮยอนซึงคอยตรวจสอบพวกเราอยู่ใช่มั้ย?”

“ไม่ คิมฮยอนซึงไม่คิดว่าสถานที่นี้เป็นของเขาตั้งแต่แรก”

“แล้วใครกันล่ะที่ระวังพวกเรา…?”

“คนที่คิดว่าสถานที่นี้เป็นของพวกเขา”

ไม่ใช่คิมฮยอนซึงที่เสแสร้งทำเป็นปกครอง แต่เป็นลีจีฮเยเป็นที่แสวงหาผลประโยชน์จากเขา

“ผมรู้แล้วว่าพี่หมายถึงอะไร”

“คิมฮยอนซึงเป็นหุ่นเชิดของกลุ่มนี้ ส่วนเธอเป็นคนควบคุมมัน ในตอนแรกคิมฮยอนซึงไม่มีเวลาจัดการกับสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ข้างนอก ในกรณีที่จำเป็นผู้ที่มีพลังคือราชา ใช่ อาหารและที่พักเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก แต่ผู้ที่เข้าใจพวกเขาไม่ใช่คิมฮยอนซึงผู้มีอำนาจ แต่เป็นผู้หญิงคนนั้นที่ดูแลทั้งอาหารและที่พัก”

“พี่หมายถึงลีจีฮเยเหรอ?”

ผมพยักหน้าเล็กน้อย

"ถูกต้อง"

“…”

“ขนมปังก้อนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะชนะใจผู้คน อำนาจถูกสร้างขึ้นโดยการเลือกปฏิบัติ จองฮายันน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ลีจีฮเยไม่ชอบ …นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่เธอถูกแยกออกจากกลุ่ม และถูกส่งไปทำงานที่ยากลำบาก”

“ผมเข้าใจแล้ว แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่ให้ความสนใจกับฮายันมากขนาดนี้?”

“ในอนาคตเราจะต้องจับตาดูเธอให้มากขึ้น”

ปาร์คด็อกกูพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

การเฝ้าดูจองฮายันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

มันเป็นการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นตามนิสัยของลีจีฮเยและจองฮายันด้วย “ความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัว” และ ‘ผู้สนับสนุนที่บริสุทธิ์’

เหมือนกับลีจีฮเย แม้เธอจะเข้าใจผิดก็ไม่เป็นไรเพราะผมต้องการแค่ผลลัพธ์เท่านั้น...

***

“ฮายัน คุณต้องทำงานให้ถูกต้องสิครับ”

" คะ…? "

“ทุกคนทำงานหนักนะฮายัน คุณไม่ใช่คนเดียวที่ลำบาก ในสถานการณ์แห่งนี้พวกเราทุกคนต้องร่วมมือกัน ...หากคุณยังคงมีทัศนคติเช่นนี้ เราคงไม่มีทางเลือกนอกจากลดส่วนแบ่งของคุณนะ”

" ค่ะ…"

“ไม่สำคัญว่าคุณจะพูดว่า ‘ค่ะ’ หรือไม่ …อย่างที่คุณเคยได้ยินมาว่าสิ่งต่าง ๆ ดูไม่ดีนัก การหาอาหารจากที่อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย และเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน หากมีมอนสเตอร์มาในตอนที่คุณฮยอนซึงไม่อยู่ เราจะถูกฆ่า นั่นคือเหตุผลที่การสร้างกำแพงครับ”

" ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันขอโทษจริง ๆ”

“หากคุณไม่อยากถูกไล่ออกไปก็อย่าบ่นและทำงานมากขึ้น สำหรับผู้รอดมาใหม่ในอนาคต มันอาจไม่มีที่ว่างพอสำหรับคุณ”

“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนมาใหม่จึงเห็นแก่ตัว…”

" …ขอโทษค่ะ"

" มันจะไม่เป็นอะไรเลย ถ้าคุณแค่ทำมันให้ถูกต้อง!!”

" ค่ะ ฉ - ฉันเข้าใจแล้ว"

เธอสามารถมองเห็นชายที่พูดอย่างกังวลหันกลับไป

เธอก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว

เธอไม่แน่ใจว่าเธอทำอะไรผิดในใจของเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบสิ่งที่เธอทำ

ไม่ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาไม่ชอบมัน

มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาไม่มีความสุข ผ่านไปสองสามวันแล้วและเธอก็ยังไม่สามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่เธอได้รับ

' งี่เง่า'

เธอมักจะได้ยินคำเช่น "ช้า" หรือ "หอยทาก" แต่เธอเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นแม้ในสถานการณ์เช่นนี้

'มันเจ็บ'

เมื่อมองลงไปเล็กน้อย จะเห็นมืออันมอมแมมของเธอ เล็บของเธอหายไปเกือบหมด มันเจ็บปวด แต่เธอก็เห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน

‘ทุกคนทำงานหนักมาก’

ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออยู่รอด

คุณฮยอนซึง คุณกียองและคุณด็อกกูที่ออกไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมถึงผู้คนที่สร้างกำแพงด้วยที่นี่

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เธอวิ่งหนีไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่แล้ว สถานที่แห่งนี้เปรียบเหมือนกับสวรรค์

ถ้าคุณกียองไม่ช่วยเธอในตอนนั้น เธอคงถูกมอนสเตอร์ฆ่าตาย

ในขณะที่เธอจำได้ว่าเธอเกาะติดเขามาเกือบตลอดทางอย่างไร ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ

นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอใกล้ชิดผู้ชายเช่นนั้น

ในขณะที่เธอนึกถึงความทรงจำนั้นด้วยความงุนงง เธอก็เงยหน้าขึ้นเมื่อกับเสียงที่ดังมาจากข้าง ๆ

“ฮายัน ผมรู้ว่าคุณลำบาก ให้ผมทำมันเองเถอะ”

“อ่า คุณซอกวู”

“ช่วงนี้เขาคงเครียดเกินไป”

“คะ?”

“ครับ คุณฮยอนซึงได้ออกไปข้างนอกบ่อยครั้ง ดังนั้นการสร้างป้อมปราการจึงมีความสำคัญมากและตอนนี้คุณจีฮเยก็คิดแบบเดียวกัน เราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ดังนั้นเราต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ คุณเข้าใจมันใช่มั้ยครับ?”

“ฉ – ฉันเข้าใจค่ะ”

“วันนี้คุณดูอ่อนไหวเป็นพิเศษ อย่างน้อยผมก็คิดว่าคุณเป็นคนทำงานหนักที่สุดที่นี่ …ไว้ผมจะคุยกับเขาในภายหลัง ไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ”

“อ่า…ค่ะ”

“ผมได้ยินว่าเมื่อวานนี้ฮยอนซึงได้อาหารจากจุดเริ่มต้นด้วย”

" จริงเหรอคะ? "

"ใช่ครับ ผมได้ยินมาจากคุณจีฮเยเอง ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องจริง”

“นั่นคงจะทำให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ เลยนะคะ”

ยูซอกวู

เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ

แน่นอนว่านั่นเนื่องมาจากเขาดูแลเธอ แต่ส่วนใหญ่เขาก็แค่อยากคุยกับเธอ

“ยังไงซะ งานนี้คงยากเกินไปสำหรับคุณไม่ใช่เหรอครับ?”

“ค่ะ น- แน่นอนว่ามันยาก แต่คนอื่น ๆ ก็ทำในสิ่งที่ยากกว่าฉัน”

“แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่งานที่ง่ายเลยนะครับ …คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่คุณสามารถแอบโกงได้นิดหน่อย”

“คะ? แต่ฉันไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ตั้งแต่แรก…ฉันโกงไม่ได้ค่ะ แม้แต่คุณซอกวูที่ได้รับบาดเจ็บ คุณก็ยังทำงานกับเรา…”

“ผมต้องดูแลทุกอย่างน่ะครับ ผมเลยไม่ต้องทำอะไรมาก ฮ่าฮ่าฮ่า อันที่จริงผมไม่ค่อยมีปัญหากับเรื่องนี้”

ขณะที่คุยกันเรื่องต่าง ๆ พวกเขาก็มาถึงโต๊ะแจกอาหาร

เธอสามารถเห็นคนสองสามคนที่เข้าแถว

ปาร์คด็อกกูและลีกียองไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็นไปได้ว่าพวกเขาทานอาหารเสร็จแล้วหรือออกไปที่อื่น

'ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขากลับมาจากข้างนอก'

แน่นอนว่าพวกเขาต้องการพักผ่อน

“เข้าแถวและยืนรอนะคะ”

" ค่ะ"

" ครับ"

หลังจากรับอาหารแล้ว พวกเขาก็นั่งลงในจุดที่เหมาะสม เธอสามารถเห็นคนอื่น ๆ ที่มารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารได้

ความคิดชั่ววูบของเธอคือการแอบไปเข้าร่วมกับพวกเขา อย่างไรก็ตามอาจเป็นเพราะความขี้อายของเธอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะพูดคุยหรือออกไปทักทายกับคนอื่นตั้งแต่แรก

“สถานการณ์ตอนนี้คงยากสำหรับพวกเขาเช่นกัน”

" คะ? "

“ผมหมายถึงคนอื่น ๆ น่ะครับ มันยากสำหรับทุกคน ไม่มีใครสามารถดูแลใครได้อีกแล้ว และในกรณีของฮายันที่มาที่นี่ช้า พวกเขาคงอาจจะลังเลใจมากกว่า”

“…ฉัน - ฉันเดาว่าอย่างนั้น ล - และฉันยังไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง…”

“ไม่เลยครับคุณฮายัน คุณทำงานหนักกว่าใคร ๆ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนจะยอมรับและเข้าใจเหมือนที่ผมเป็นในตอนนี้”

“ข- ขอบคุณค่ะที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี”

“โอ้ มันเป็นอะไรเลยครับ ผมแค่อยากจะใกล้ชิดกับฮายันให้มากขึ้น”

“ค่ะ! ฉันก็เหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่ช่วยเหลือฉันเสมอมา”

ตอนนี้เธอคิดได้ เธอได้รับความช่วยเหลือมากมายจากที่นี่

ตั้งแต่เริ่ม เขาเป็นคนแรกที่เข้าหาและสร้างความสัมพันธ์กับเธอ เขาทำให้ชีวิตเธอราบรื่นขึ้นมาก

'ขอบคุณ.'

มันเกิดขึ้นในขณะที่เธอหยิบขนมปังเข้าปาก แต่เธอรู้สึกได้ว่ายูซอกวูกำลังจับมือเธอ

" อ๊ะ…"

เธอพยายามดึงสติกลับมา แต่เขาไม่ยอมปล่อย

เมื่อเธอหันหน้าไป ฮายันเห็นยูซอกวูมองมาที่เธอ

“ป- ปล่อย…”

"อะไรนะครับ? "

“ป - ปล่อยนะคะ ทำไมจู่ ๆ …?”

“แต่ตอนนี้…”

“น - นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง”

เธอมองไปรอบ ๆ อย่างรีบร้อน แต่เธอไม่เห็นใครอยู่ที่นั่น เธอรู้สึกเหมือนว่าดวงตาอันยิ้มแย้มของยูซอกวูเปลี่ยนไปเล็กน้อย

รอยยิ้มของเขาหายไปและท่าทีเยาะเย้ยก็เข้ามาแทนที่

“คุณฮายันครับ”

“คะ?”

“คุณคิดว่าผมช่วยคุณอยู่หรือเปล่า?”

“ค – คุณกำลังพูดถึงอะไรคะ?”

“ถ้าคุณจะเอาอะไรไป คุณก็ต้องตอบแทนพวกเขาด้วย คุณไม่รู้จักจริงๆ เหรอครับ?”

“ค - คุณกำลังพูดอะไร ท - ทำไมคุณถึงทำแบบนี้…”

“คุณรู้มั้ยว่าผมทำเพื่อคุณมากแค่ไหน?”

“ฉ - ฉันไม่รู้เรื่องนี้มากนัก ฉันขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ แต่…”

“…คุณโง่จริง ๆ หรือว่าคุณแค่แกล้งโง่? ผมควรจะกล่าวให้มันตรงกว่านี้มั้ย?”

“ป - ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ อ๊ะ มันเจ็บ มันเจ็บ…”

“ถ้าคุณอยากอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขในอนาคต คุณควรจะดีกับผมนะครับ แค่นี้คุณยังคิดไม่ออกหรือไง?”

แววตาของเขาน่ากลัว เธอไม่เคยเห็นใครมองมาที่เธอด้วยสายตาแบบนี้

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ทำไมสิ่งต่าง ๆ จึงกลายเป็นแบบนี้

แต่สิ่งที่เธอรู้แน่นอน คือเธอต้องการออกไปจากที่นี่

ขณะที่เธอพยายามดึงมือออกไปอย่างหมดหวัง เธอก็ได้ยินเสียงดังจากข้างหลังเธอ

“พี่ชาย ถ้าไม่อยากให้มือของคุณขาด คุณควรปล่อยเธอไปนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด