ตอนที่แล้วChapter 2 – ไล่ตามเหมิงกู้ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 4 – นัดบอด (1) (อ่านฟรี)

Chapter 3 – ในซุปเปอร์มาร์เก็ต (อ่านฟรี)


ในโลกใบนี้มีเหตุการณ์บังเอิญแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย

ยกตัวอย่างเช่นตอนที่เธอไล่ตามเหมิงกู้ เธอไม่แน่ใจว่าเธอรู้สึกกับเขาลึกซึ้งมากน้อยแค่ไหน เธอรู้สึกแค่ว่าเขาเป็นคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ชายที่ดี เป้าหมายที่ดี ผู้สมัครที่ดี บางทีในตอนนั้นเธอให้ความสำคัญว่าจะต้องทำให้สำเร็จจนมองข้ามความรู้สึกของตัวเองไป

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอรู้สึกผิดหวังที่ตัดสินใจบังคับตัวเองให้ทำสิ่งที่ควรทำ สิ่งแปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้น เธอคิดว่าเธอจะเกลียดเหมิงกู้และคงจะลืมเขาได้รวดเร็ว

แต่ปรากฏว่าไม่ใช่

เธอคิดถึงเขามากกว่าตอนที่เธอไล่ตามจีบเขาเสียอีก

เธอไม่เข้าใจว่าหัวใจตัวเองถูกบิดเบือนตั้งแต่เมื่อไหร่? เพียงช่วงเวลาสั้นๆเขาซุ่มซ่อนอยู่ในมุมหนึ่งของจิตใจเธออยู่ตลอดเวลา และเขามักจะปรากฏขึ้นในใจของเธอโดยไม่รู้ตัว เธอมักจะนึกถึงรอยยิ้มของเขาที่มีหลากหลายแบบ รอยยิ้มที่อ่อนโยน รอยยิ้มเยือกเย็น รอยยิ้มซุกซน รอยยิ้มตลก รอยยิ้มไร้อารมณ์ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มเย่อหยิ่ง…รอยยิ้มทั้งหมดของเขามีมากมายและทำให้เขาต่างจากผู้ชายคนอื่น

เธอไม่ได้ไปหาเขาอีกเลย เธอหลบซ่อนตัวและได้แต่คิดถึงรอยยิ้มของเขา

รอยยิ้มของเขาช่างมีเสน่ห์จนหัวใจของเธอเต้นรัวทุกครั้งที่คิดถึงเขา

น่าเสียดายที่เธอจำรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาตอนที่คุยกันไม่ได้ เธอคิดว่าสาเหตุที่เธอจำไม่ได้คือผู้ชายคนนั้นไม่ได้จริงใจต่อเธอ ดังนั้นความทรงจำที่มีรายละเอียดเช่นนั้นจึงไม่สามารถประทับอยู่ในใจเธอได้

เธอไม่แน่ใจว่าหัวใจตัวเองรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง แต่แค่คิดถึงผู้ชายคนนี้ทีไร เธอรู้สึกไม่มีความสุข เธอเฝ้าบอกตัวเองว่าก่อนหน้านี้เธอตัดสินใจผิด และการตั้งเป้าหมายไปที่เหมิงกู้เป็นความผิดพลาด ถึงแม้เขาจะหน้าตาดี มีหน้าที่การงานดี นิสัยก็ดูเหมือนจะดี แต่พวกเธอไม่ได้อยู่ในเส้นทางเดียวกัน นั่นเป็นสาเหตุว่าพวกเธอไม่เหมาะสมกัน ผู้หญิงยุคใหม่ต้องอยู่กับความเป็นจริงไม่ใช่ใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน

เธอไม่ใช่เด็กอีกแล้วและควรมองหาผู้ชายที่จริงจังและจริงใจ เธอควรมองหาผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบเดียวกันกับเธอ ผู้ชายที่จะอยู่กับเธอและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเธอ

วันหนึ่งเฉินโหรวหยูไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและบังเอิญพบเหมิงกู้ เธอตกใจมาก เธออยู่แถวนี้มานานและมาซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้นับครั้งไม่ถ้วน เธอไม่เคยเจอเขาที่นี่มาก่อน หลังจากตัดสินใจที่จะไม่เจอเขาอีก ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่? มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?

เฉินโหรวอยูตัดสินใจทำเป็นมองไม่เห็นเขา

เธอวางบะหมี่แห้งสองซองลงในรถเข็นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบหันหลังและเข็นรถเข็นไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน แม้ว่าเธอจะรีบแค่ไหน แต่ก็ยังเห็นเหมิงกู้ก้มหน้าเลือกสเต็กเนื้อนำเข้าราคาแพง และในรถเข็นของเขาก็มีไข่พรีเมี่ยมสองกล่อง

เธอกับเขามาจากโลกที่ต่างกันจริงๆ

เธอไม่เคยซื้อไข่ในซุปเปอร์มาเก็ต ไข่ในซุปเปอร์มีราคาแพงกว่าไข่ที่วางขายในตลาด ส่วนเนื้อสเต็กนำเข้าเธอเคยอ่านฉลากบนห่อพลาสติกอย่างละเอียด สเต็กเนื้อชิ้นบางๆ เท่ากับค่าอาหารของเธอทั้งสัปดาห์

เช่นนี้แล้วเธออยากขอบคุณพยาบาลเหล่านั้นที่ทำให้เธอตาสว่างว่าเธอแตกต่างจากเขามากขนาดไหน และไม่ต้องเปลืองชีวิตวัยสาวและพลังงานไปอย่างไร้ประโยชน์.....

ขณะที่เธอกำลังเดินด้วยความมึนงง ดูเหมือนรถเข็นของเธอจะชนอะไรบางอย่าง มีเสียงกระแทกดังขึ้น ขณะที่เฉินโหรวหยูเงยหน้าขึ้นมองอย่างคนโง่งม ม้วนกระดาษชำระที่วางซ้อนกันเหมือนเนินเขาก็ตกลงมาบนศีรษะของเธอ

น่าอายจริงๆ!

เฉินโหรวหยูไม่ได้สนใจความเจ็บที่ศีรษะ ปฏิกิริยาแรกคือหันหน้าไปมองจุดที่เหมิงกู้อยู่ เป็นไปตามที่เธอคาด เขาได้ยินเสียงของตกและหันมามองตามเสียง

เธอก้มหน้างุด หลบเลี่ยงสายตาของเขา เธอทำตัวขายหน้าต่อหน้าเขาหลายต่อหลายครั้งและไม่อยากเพิ่มรายการน่าขายหน้านี้เข้าไปอีก

ทุกคนเข้ามาช่วยเธอหยิบม้วนกระดาษชำระขึ้นจากพื้น เธอจึงกลืนไปกับกลุ่มมคนที่เข้ามาช่วย เธอมองไปที่เหมิงกู้อีกครั้งและพบว่าเขาหายไปแล้ว เธอถอนหายใจโล่งอก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ทันเห็นเธอ

กองม้วนกระดาษชำระกลับคืนสู่ที่เดิม เธอจึงเข็นรถเข็นไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินเพื่อที่จะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทันใดนั้นเองเธอเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังก้มลงเก็บกระดาษชำระที่กลิ้งไปด้านข้าง และกระแทกศีรษะของเขาไปที่เอวของหญิงชราโดยไม่ได้ตั้งใจ

การกระแทกนั้นไม่รุนแรง หญิงชราตัวเล็กแต่เสียงไม่ได้เล็กตามรูปร่าง เธอตวาดเด็กน้อยเสียงดัง เด็กน้อยยืนหน้าซื่อฟังหญิงชราตวาด เฉินโหรวหยูเข็นรถเข็นผ่านพวกเขาไป ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เธอไม่เห็นพ่อแม่เด็กอยู่แถวนี้ หญิงชราไม่คลายความโมโหลงแม้แต่น้อย เฉินโหรวหยูเดินไปไม่กี่ก้าวก็หันกลับมา

“ป้าคะ ที่ถูกชนเมื่อกี้ยังเจ็บอยู่ไหมคะ?”

“พูดอะไรของเธอ ลองถูกชนเองสิ! เด็กไม่มีมารยาท เอาตาของแกไปไว้ไหน ห๊า? ไม่รู้พ่อแม่แกสอนมายังไง เอวของฉันเจ็บไปหมดแล้ว!”

“ป้าคะ ป้าคงดูแลตัวเองดีมาก เอวถึงได้นุ่มนิ่มแบบนี้” คำพูดที่เฉินโหรวหยูใช้ทำให้หญิงชรามองเธอด้วยความประหลาดใจ

"หนูกลัวว่าเอวของป้าจะฟกช้ำจากการกระแทก คุณป้าอย่าดุเด็กนะคะ ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูว่าอาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงรึเปล่า ค่าลงทะเบียน 3.50 หยวน หนูจะจ่ายให้ป้าเองค่ะ" ดูสิคนที่สัญจรไปมาคนนี้ใจกว้างมากเธอเปิดกระเป๋าอย่างจริงจังเพื่อควักเงินออกมา

คนในซุปเปอร์มาเก็ตเดินมาดูและเกลี้ยกล่อมหญิงชรา บอกว่าในเมื่อเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากก็ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อหญิงชราเห็นเฉินโหรวหยูควักเงินออกมาจริงๆ เธอก็ขึงตาใส่และเดินจากไป

เธอถอนหายใจและรีบเก็บเงินกลับเข้ากระเป๋า แม้ว่าจำนวนเงินจะไม่มาก แต่การใช้เงินไปกับวิธีการนี้ เธอก็ไม่เต็มใจจริงๆ

เมื่อถึงจุดจ่ายเงิน เธอเลือกเคาน์เตอร์จ่ายเงินที่อยู่มุมสุด ขณะที่เธอกำลังสงสัยว่าเหมิงกู้เลือกซื้อสินค้าระดับไฮเอนด์อะไร ในขณะนี้จู่ๆเอวของเธอก็รัดแน่นขึ้นและมีสัมผัสเบาๆแตะที่เอว

เฉินโหรวหยูหันหลังกลับไปมอง เธอเห็นเหมิงกู้ยืนยิ้มอวดฟันขาวสะอาดให้เธออยู่

“บังเอิญจังเลยนะครับ”

เฉินโหรวหยูพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าและยิ้มให้เขา “ค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ คุณหมอเหมิงก็มาซื้อของเหรอคะ?”

“ครับ ผมมาซื้อของ ไม่ได้มาทำลายกองม้วนกระดาษชำระของใคร”

ไอ้ลูกหมานี่ เขาเห็นทุกอย่างสินะ

ใบหน้าของเฉินโหรวหยูแข็งทื่อ เธอไม่อยากต่อกรกับความเจ้าเล่ห์ของเขาจึงหันหลังกลับ แสร้งทำเป็นตั้งใจต่อคิวจ่ายเงิน

เธอรู้สึกหนักๆที่เอวอีกครั้ง “เฉินโหรวหยู เอวของคุณแข็งจัง”

เธอไม่ได้หันกลับไปมองเขา แต่พูดขึ้นว่า “เอวแข็งก็ดีแล้วนี่คะ”

“สุขภาพของคุณดีขึ้นแล้วสินะ นานแล้วที่ไม่เห็นคุณไปที่โรงพยาบาล”

“ค่ะ จุดเหรินและเส้นลมปราณของฉันไม่ได้ถูกบล็อกแล้ว สุขภาพของฉันก็เลยดีขึ้น เลยไม่ต้องไปอีกแล้วค่ะ”

“ทำไมครั้งก่อนผมไม่รู้เลยว่าคุณเป็นคนตลกขนาดนี้?”

เธอหันกลับมาปั้นหน้าส่งยิ้มให้เขา และอยากจะถามเขาจริงๆว่าเขาสามารถเงียบสักพักได้ไหม เธอไม่ต้องการคุยกับเขา

แต่เหมิงกู้ก็มิได้นำพายังพูดต่อไปว่า “ถ้าวันไหนคุณรู้สึกไม่สบาย อย่าลืมไปหาผมนะ”

“ไม่จำเป็นค่ะ ถึงฉันจะไปโรงพยาบาลแต่จะไม่ไปคลินิกผู้ป่วยนอก ฉันจะไปตรวจสมองแทน”

“ทำไมล่ะ?” จากน้ำเสียงของเขายากที่จะบอกได้ว่าเขากำลังประหลาดใจหรือกำลังหัวเราะ

“ฉันมีปัญหาที่สมองค่ะ แน่นอนย่อมต้องไปตรวจสมอง” เฉินโหรวหยูตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา หึ ถ้าเธอจะไปหาเขาอีก สมองเธอคงตายไปแล้วแน่ๆ

เหมิงกู้ระเบิดเสียงหัวเราะ เฉินโหรวหยูอดถลึงตาใส่เขาไม่ได้

ถึงคิวเธอต้องจ่ายเงินแล้ว เธอรีบหยิบของและจ่ายเงินเสร็จสรรพ จากนั้นหันกลับมาพูดกับเหมิงกู้ว่า “ลาก่อนค่ะคุณหมอเหมิง” จากนั้นก็สะบัดตูดรีบวิ่งออกไปอย่างลืมหายใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมิงกู้ตามมาด้านหลัง

“เฉินโหรวหยู”

เธอแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ขาของเธอสั้นและก้าวของเธอก็ไม่เร็วพอ

เดินไปได้สองสามก้าว เหมิงกู้ก็เดินมาขนาบข้างเธอแล้ว เขายิ้มให้เธอและพูดว่า “เฉินโหรวหยู ผมอยากบอกอะไรคุณหน่อย ถ้าคุณต้องไปตรวจสมองที่โรงพยาบาล มีสองแผนก แผนกแรกคือแผนกศัลยกรรมสมองและแผนกสองคือแผนกประสาทวิทยา แต่คุณบอกว่าสมองของคุณมีปัญหา คุณควรจะไปอีกที่ นั่นก็คือแผนกจิตเวช ค่าลงทะเบียน 3.50 หยวนผมจะจ่ายให้คุณเอง คุณคิดว่าไง”

คิดว่าไงงั้นเหรอ? สิ่งที่เธอคิดคืออยากฟาดหน้าและรอยยิ้มของเขาด้วยบะหมี่ที่ซื้อมา ว่ายังไงล่ะ!!

วันนั้นที่ซุปเปอร์มาเก็ตของเฉินโหรวหยูก็จบลงด้วยความวุ่นวายประการฉะนี้

เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และเอาแต่คิดถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเหมิงกู้ตลอดทั้งวัน เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าผู้ชายคนหนึ่งจะหัวเราะอย่างหยิ่งผยองและหล่อเหลาในเวลาเดียวกันได้ยังไง

ไอ้คนเลว! เธออยากฟาดหน้าเขาจริงๆ

-------------------------------------------------------------

ฝากติดตามเพจแปลนิยายด้วยนะคะ 

ชื่อเพจ BuaElla World นิยายแปลไทย

ลงประจำที่เว็บอักษรเงิน https://aksornngern.com/

         อ่านต่อนิยายได้ที่ 

https://aksornngern.com/details/5

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด