ตอนที่แล้วSign in Buddha's palm 76
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSign in Buddha's palm 78

Sign in Buddha's palm 77 อรหันต์ 'ถัวอา' และดวงจิตรู้แจ้งพันปี


Sign in Buddha's palm 77 อรหันต์ 'ถัวอา' และดวงจิตรู้แจ้งพันปี

“น่าสนใจ”

ซูฉินเฝ้าดูอยู่นิ่งๆ แต่ความสนใจกลับเพิ่มพูนขึ้นในจิตใจ

ต้องทราบว่าตอนนี้เขาเป็นถึงอรหันต์ระดับนภาชั้นที่สอง แทบไม่มีสิ่งใดรอดพ้นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาไปได้ เว้นแต่จะมีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกัน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปกปิดเขาได้

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า ประตูหินนี้เป็นฝีมือของอรหันต์สักรูปจากวัดเส้าหลิน”

ซูฉินสงสัย

เขาไม่ได้คิดสงสัยว่าเฉียนขู่จะโกหก

หนึ่งคือเฉียนขู่ไม่มีความกล้าพอ

ประการที่สองเป็นเพราะสถานที่ที่เฉียนขู่อ้างถึงอยู่ภายในวัดเส้าหลิน หากซูฉินต้องการพิสูจน์หา เขาสามารถทำได้ในเวลาไม่นาน

“ดูเหมือนจะยังมีความลับบางอย่างในวัดเส้าหลินที่ข้าไม่รู้...”

ซูฉินถอนหายใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกออกมา

วัดเส้าหลินคือสุดยอดพรรคแห่งยุทธภพที่สืบทอดมรดกมายาวนานนับพันๆ ปี มีอรหันต์จำนวนมากผุดขึ้นที่นี่ หากจะบอกว่าที่นี่ไม่มีภูมิหลังแอบซ่อนอยู่เลย ซูฉินย่อมไม่เชื่อเป็นแน่

“ผู้ทรงสมณศักดิ์ฯ สิ่งที่ข้ากล่าวมานั้นเป็นความจริงแน่นอน...”

'เฉียนขู่'เห็นซูฉินไม่พูดสิ่งใดออกมาเป็นเวลานานก็พาลคิดว่าไม่เชื่อถือคำพูดของตนจึงเริ่มวิตกกังวล

ซูฉินยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำ แล้วพูดออกมาเบาๆ “ข้ารู้แล้วล่ะ งั้นเจ้าจงเป็นผู้นำทางพาข้าติดตามไปดูเดี๋ยวนี้เลย”

ซูฉินสงสัยอย่างมาก ว่าอรหันต์คนใดที่เกี่ยวข้องกับประตูหินบานนั้น

ในไม่ช้า

ด้วยการนำทางของเฉียนขู่ ซูฉินก็เดินทางมาถึงหน้าประตูหิน

“คือที่นี่งั้นรึ?”

ซูฉินมองไปรอบๆ บริเวณนี้คือด้านหลังของเนินเขา มีต้นไม้ขึ้นรกชัฏจนแทบไม่มีศิษย์คนใดเดินมาถึงบริเวณนี้

และประตูหินจากคำบอกเล่าของเฉียนขู่ก็อยู่ในมุมที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร

“นี่คือ...”

ซูฉินระแวดระวัง

“กลุ่มก้อนพลังงานฟ้าดิน?”

ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย

ไม่ว่าจะเป็นตำนานยุทธหรืออรหันต์ พวกเขาได้ก้าวข้ามขอบเขตของวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้นไปแล้ว การฝึกฝนก็ไม่ได้จำกัดอยู่ภายในตนอีกต่อไป แต่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลังฟ้าดินให้มากขึ้น

การก่อตัวเป็นก้อนพลังงานฟ้าดินนี้ก็มาจากการเข้าถึงหลักเกณฑ์พลังฟ้าดินของอรหันต์สักรูปหนึ่ง

การก่อตัวของพลังงานฟ้าดินมีหลายรูปแบบ บางประเภทมีแนวโน้มไปทางการสะกดปราบปราม อย่างเช่น การก่อตัวของพลังงานฟ้าดินในหอคอยสะกดมาร

บางประเภทเป็นรูปแบบที่ชื่นชอบการฆ่าฟัน บางประเภทมีรูปแบบในการซ่อนเร้น

กลุ่มก้อนพลังงานฟ้าดินบนประตูหินตรงหน้านี้คือประเภทซ่อนเร้น

เป็นเพราะกลุ่มก้อนพลังงานอันทรงพลังนี้เองที่ทำให้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินมืดบอดไปชั่วคราว

“ผู้ทรงสมณศักดิ์ฯ ถูกต้องแล้วมันคือที่นี่”

เฉียนขู่ชี้ไปที่ประตูหิน แล้วกระซิบคำแผ่วเบา

“ข้าทราบแล้ว”

ซูฉินก้าวเท้าไปข้างหน้าประตูหิน

“ตรงนี้ใช่ไหมนะ?”

มีวังวนที่ยากจะอธิบายอยู่ด้านในดวงตาของซูฉิน

ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีค่ายกลอันทรงพลังอยู่ที่นี่ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบอีกต่อไป

กึง กึง กึง

ซูฉินยกมือขวา ดันเบาๆ ไปที่ประตูหิน

ทันใดนั้น

ราวกับไปสัมผัสกลไกบางอย่าง

ประตูหินทั้งบานค่อยๆ เลื่อนถอยออกไปอย่างช้าๆ เผยให้เห็นทางเข้าที่มืดมิดภายใน

“ท่านผู้ทรงสมณศักดิ์...”

เฉียนขู่ถึงกับตกตะลึง เขาใช้แรงกายทั้งหมดเพื่อเปิดประตูแต่มันก็ไม่ขยับแม้สักนิด แต่ยามเมื่อซูฉินเพียงแตะเบาๆ มันกลับเปิดออกเองอย่างง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ?

ซูฉินไม่ได้พูดอะไร และเดินไปที่ทางเข้าอย่างไม่รีบร้อน

ด้วยดวงตาแห่งสัจจะทำให้ซูฉินแน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดตรงบริเวณทางเข้าที่คุกคามเขาได้

ซูฉินยังคงเดินต่อไปตามขั้นบันไดหินบริเวณทางเข้า

เฉียนขู่ยืนรออยู่ด้านนอกอย่างเชื่อฟัง ไม่คิดจะติดตามไปเพิ่มความวุ่นวายให้กับซูฉิน

ไม่ช้านาน

หลังจากที่ซูฉินเดินไปตามชั้นหินเขาก็มาถึงห้องลับที่แสนจะว่างโล่ง

มีหนังสืออยู่มากมายหลายเล่ม พระธรรมคัมภีร์จำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ก็ผุพังไปแล้วเหลือเพียงพระคัมภีร์บางส่วนที่ทำจากเปลือกไม้ชนิดพิเศษเท่านั้นที่พอจะอยู่รอดมาได้

“ห้องลับนี้คงอยู่มาอย่างน้อยๆ ก็พันปีได้แล้วกระมัง”

ซูฉินคาดเดาอยู่ในใจขณะที่เดินไปยังส่วนลึกของห้องลับ

ไม่นานนักก็มาถึงทางตัน เห็นร่างภิกษุรูปหนึ่งสวมจีวรสีทองนั่งขัดสมาธิอยู่เงียบๆ

ภิกษุที่สวมจีวรสีทองไม่มีลมหายใจ เห็นได้ชัดว่ามรณภาพไปนานแล้ว

“เขาคืออรหันต์ 'ถัวอา''งั้นรึ?”

หลังจากซูฉินมองดูภิกษุจีวรสีทองอย่างละเอียด สีหน้าเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

อรหันต์ถัวเป็นอรหันต์รูปสุดท้ายของวัดเส้าหลิน เป็นเรื่องปกติที่จะมีรูปวาดเก็บไว้ในวัดเพื่อให้ศิษย์รุ่นหลังได้ชื่นชม

จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีเพียงอรหันต์ถัวเท่านั้น แต่รวมถึงอรหันต์รูปอื่นๆ ที่เคยมีมาในวัดเส้าหลินตั้งแต่ครั้งอดีตอีกด้วย

“อรหันต์'ถัวอา' จากเมื่อเก้าร้อยปีก่อน...”

ความคิดของซูฉินแล่นเร็วจี๋

มีข่าวลืออยู่มากมายภายในวัดเส้าหลินเกี่ยวกับอรหันต์ถัวในฐานะอรหันต์รูปสุดท้ายที่ปราบมารพุทธะจนมรณภาพตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสี่ร้อยปี และฝ่ามือยูไลก็หายสาบสูญไปในเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมข้าไม่เห็นร่างของอรหันต์'ถัวอา'ในวิหารพระสหัสพุทธ ปรากฏว่ามาอยู่ที่นี่นั่นเอง...”

ซูฉินคิดไปมาในหัว

“สถานที่แห่งนี้น่าจะถูกสร้างโดยอรหันต์'ถัวอา'ก่อนที่เขาจะมรณภาพไป และกลุ่มก้อนพลังงานฟ้าดินด้านนอกก็คงเป็นค่ายกลที่เขาทิ้งเอาไว้เช่นกัน”

ซูฉินคิดอยู่ภายในใจตนเอง

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมอรหันต์ถัวจึงไม่ไปที่วิหารพระสหัสพุทธ กลับเลือกห้องลับนี้แทน แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้

“จริงสิ”

“สถานที่แห่งนี้อยู่มานานเป็นพันปีแล้วก็ต้องมี'เต๋าสะสม'พอให้ข้าลงชื่อเข้าใช้ใช่หรือไม่?”

ใจของซูฉินขยับวูบ

บังเอิญพอดีที่วันนี้เขายังไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการลงชื่อเข้าใช้ประจำวัน จึงพึมพำกับตัวเองในใจ

“ระบบ ลงชื่อเข้าใช้!”

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับ 'ดวงจิตรู้แจ้งพันปี']

“ดวงจิตรู้แจ้งพันปี?”

ซูฉินแลดูมีความสุข

ดวงจิตรู้แจ้งเป็นวัตถุมงคลทางพุทธที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง วัดเส้าหลินก่อตั้งมานานหลายพันปีแต่มี'ดวงจิตรู้แจ้ง'ปรากฏขึ้นน้อยเสียยิ่งกว่าจำนวนอรหันต์เสียอีก

ขนาด'ดวงจิตรู้แจ้ง'ธรรมดายังช่วยให้ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งเกิดปัญญารู้แจ้งได้ในทันที ลดโมหะลงไปได้อย่างมาก นับประสาอะไรกับดวงจิตรู้แจ้งพันปีเล่า?

สิบกว่าปีก่อน หากเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินมีดวงจิตรู้แจ้ง ถึงช่วงสุดท้ายในการตัดผ่านจะล้มเหลว เขาก็จะไม่มีทางเกิดอาการธาตุไฟเข้าแทรก

น่าเสียดายที่'ดวงจิตรู้แจ้ง'ชิ้นสุดท้ายได้หายไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน จนป่านนี้ก็ยังหากลับคืนมาไม่ได้

ส่วนดวงจิตรู้แจ้งพันปีนั้น...

ตามบันทึกของวัดเส้าหลิน ดวงจิตรู้แจ้งพันปีมีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้นและไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่ามีดวงจิตรู้แจ้งพันปีอยู่จริงๆ หรือไม่

“ไม่เลวไม่เลว”

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

การลงชื่อแล้วได้รับดวงจิตรู้แจ้งพันปีมา ต่อให้เขากลับออกไปตอนนี้ก็ยังถือว่าได้กำไรเต็มๆ

หลังจากตรวจสอบดวงจิตรู้แจ้งพันปีที่เก็บอยู่ในระบบเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งลงแล้วมองไปที่ร่างของอรหันต์ถัวอีกครั้ง

ในฐานะที่เป็นอรหันต์ กายเนื้อของท่านทรงพลังแข็งแรง แม้จะผ่านมาเป็นพันปีก็ยังรักษารูปลักษณ์อย่างที่เห็นตรงหน้านี้ได้

ซูฉินเหลือบมองไปที่อรหันต์ถัวจากนั้นสายตาจึงตกไปอยู่ที่กำแพงหินด้านหน้าของอรหันต์ถัวอย่างรวดเร็ว

“เอ๋?”

ซูฉินเพียงเลื่อนตามองไปทางกำแพงหิน การแสดงออกทั้งหมดของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับได้เห็นบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด