ตอนที่แล้วตอนที่ 46 แทงข้างหลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 ข้อผิดพลาดที่ 3

ตอนที่ 47 ย้อมด้วยเงา


ตอนที่ 48 ย้อมด้วยเงา

วินาทีที่อิมพ์ดึงกริชของเขาออกจากหลังของลอร์ดแห่งความหยิ่งทนง อิมพ์ก็รีบวิ่งออกไปที่ประตูตามสองสาวที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลงไปข้างล่าง

และเมื่อเขาตามทั้ง 2 มาทันเขาก็จับคลีเมนไทน์ไว้ด้านขวาแล้วก็อุ้มแซมมี่ไว้ด้วยมือซ้ายพร้อมกับลากพวกเธอวิ่งลงไปด้วยความเร็วสูงสุด  อิมพ์รู้ว่ามือขวาของเขานั้นได้รับบาดเจ็บอยู่แต่มันเพียงแค่ผลจากพลังงานศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เพื่อความมั่นใจว่าเด็กสาวทั้งสองจะอยู่ข้างๆเขาตลอดเวลาเขาจึงต้องทำเช่นนี้

ดูเหมือนว่าแซมมี่จะสับสนเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อิมพ์ไม่สามารถหยุดและอธิบายได้ อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้พวกเขาต้องมุ่งหน้าไปยังปราสาทของลอร์ดแห่งความเกียจคร้านให้ได้ซะก่อน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มุ่งไปยังปราสาทของลอร์ดแห่งความโกรธ เพราะถ้าคำโกหกของอิพ์ได้ผลกับลอร์ดแห่งความหยิ่งทะนงอีกฝ่ายจะต้องกำลังมุ่งหน้าไปยังปราสาทของลอร์ดแห่งความโกรธแน่นอน

หลังจากวิ่งไปสักพักอิมพ์ก็อยู่ในเมืองอสูรที่เต็มไปด้วยอสูรรอบตัวอีกครั้ง แต่ตอนนี้สภาพแวดล้อมของมันเปลี่ยนไปที่นี่มีอสูรจำนวนมากกำลังนอนหลับอยู่ทุกๆที่  ทั้งบนผืนบนพื้น บนเปลญวนและแม้กระทั่งบนผ้าห่มสกปรก

โชคดีที่มีจุดหนึ่งในระยะสายตาของเขาที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ ดังนั้นอิมพ์จึงดึงเด็กผู้หญิงไปที่นั่นแล้วคว้าผ้าห่มที่ยังไม่ได้ใช้แบบสุ่มเพื่อให้พวกเธอซ่อนตัวไว้โดยเฉพาะแซมมี่

และเมื่อพวกเขานั่งอยู่ในตรอกอิมพ์ก็หยุดและรีบดึงผ้าห่มคลุมแซมมี่ซึ่งกำลังหายใจรวยรินร่วมกับคลีเมนไทน์และในช่วงเวลาที่มีโอกาสนี้เธอสวมกอดเด็กสาวอีกคนที่อยู่ข้างๆเธอทันทีพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา

"ข้า...ข้ากลัวจัง ... " แซมมี่พูดเสียงแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆผละออกจากคลีเมนไทน์และมองไปที่อิมพ์ ก่อนหน้านี้ในปราสาทของลอร์ดแห่งความหยิ่งทนงเธอมีสีหน้ารังเกียจกับสิ่งที่อิมพ์กำลังทำ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเข้าใจเจตนาของเขาแล้ว

"ขอบคุณ ... ที่ช่วยข้า ... ที่ช่วยเรา ... " เด็กสาวบอกกับอิมพ์ที่กำลังจ้องกลับมายังเธอช้าๆ "ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเจ้า" หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆหันไปมองรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ จากนั้นอิมพ์ก็มองกลับไปที่แซมมี่และคลีเมนไทน์ก่อนจะยื่นผ้าห่มให้แซมมี่

"ใช้มันคุมตัวของพวกเจ้าไว้ด้วยสิ่งนี้อสูรจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าคือมนุษย์" อิมพ์บอกพวกเขาและแซมมี่ก็พยักหน้าอย่างช้าๆขณะที่เธอหยิบผ้าห่มมาจากเขา แล้วตอนนี้เองเธอก็ไม่สามารถช่วยได้ที่จะมองไปยังมือของอิมพ์ซึ่งฟื้นตัวช้ามากจากการได้รับความเสียหายจากพลังงานศักดิ์สิทธิ์

“อะไร ... เกิดอะไรขึ้น?” แซมมี่ถามอย่างเป็นห่วงและอิมพ์ก็มองไปที่มือของเขาก่อนที่จะดึงหินเวทมนตร์พลังงานศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากใต้ผ้า "เจ้าสิ่งนี้สามารถทำให้อสูรเจ็บปวดได้และเมื่อค่าใช้มันข้าเองก็จะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน" อิมพ์อธิบายอย่างชัดเจนและเลื่อนหินวิเศษกลับเข้าไประหว่างชั้นผ้าก่อนที่แซมมี่จะมองไปที่อิมพ์ด้วยความสับสน

“แต่คุณไม่ใช่อสูรไม่ใช่หรอ?” เธอถามและอิมพ์ก็ค่อยๆพยักหน้าตอบรับ "ข้าคืออสูรและเพราะเด็กน้อยคนนั้น   ... 'นักบวช' ข้าจึงสามารถต้านทานต่อสิ่งที่ทำลายอสูรได้มากกว่าอสูรตัวอื่น ถึงแม้จะไม่สามารถรับมือได้อย่างสมบูรณ์แต่มันก็เพียงพอแล้ว " ด้วยคำอธิบายนั้นอิมพ์ก็สอดมือเข้าไปในกระเป๋าและดึงสมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับลอร์ดออกมาอีกครั้ง เขาพยายามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลอร์ดแห่งความเกียจคร้าน ในขณะที่แซมมี่เพียงแค่คลุมตัวเองอย่างเงียบ ๆ ในผ้าห่มเพื่อให้แน่ใจว่าผิวของเธอถูกซ่อนไว้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ตอนนี้เราจะทำยังไงกันต่อ.. ?” แซมมี่ถามและอิมพ์ก็ค่อยๆยกมือขึ้นชี้ไปที่ปราสาทที่อยู่ห่างออกไปข้างหน้าพวกเขาเพียงครู่เดียวจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นจากหน้าหนังสือและพูดว่า "เราจะไปหาลอร์ดแห่งความเกียจคร้านเพื่อหาตัวลีออนกัน ” เขาอธิบายและแซมมี่ก็มองไปที่อิมพ์อย่างสับสน

“เขาเองก็ถูกลักพาตัวมาด้วยหรอ .. ?” เธอถามก่อนที่อิมพ์จะพยักหน้าช้าๆ "พวกเจ้าทุกคนถูกลักพาตัวไป แต่ว่าเจ้าเงาที่ส่งพวกเจ้าไปนั้นได้ตายไปแล้ว " เขาอธิบายแล้วอิมพ์ก็ปิดหนังสืออีกครั้งก่อนจะหันไปหาเด็กสาวทั้งสอง

"ไปกันเถอะ." อิมพ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและแม้ว่าเด็กผู้หญิงทั้งสองจะเหนื่อยล้ามาก แต่พวกเธอก็พยักหน้าตอบรับ

และในขณะที่พวกเขากำลังเดินทาง อิมพ์ก็ถามบางอย่างที่เขาสงสัยในตอนนี้ "ทำไมเจ้าถึงกำลังกลับการลอร์ดตนนั้นอยู่?" เขาถามและแซมมี่ก็ค่อยๆมองออกไปจากเขา "ลอร์ดของที่นั่นมักจะหยิ่งทะนงในความภาคภูมิใจเสมอเขาจะรับฟังคนที่ก้มหัว " เธออธิบายค่อนข้างชัดเจนว่า "ข้าเพียงแค่กำลังพยายามซื้อเวลาเท่านั้น ถ้าคิดว่านะ... " แซมมี่พูดเสริมเบาๆ ในขณะที่อิมพ์ผงกศีรษะโดยเก็บความรู้นี้ไว้ในใจเผื่อว่าเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ หากเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายได้เขาจะต้องทำบางอย่างเพื่อเอาใจอ*****

“คนอื่นไปไหน .. ?” แซมมี่ก็ถามขึ้น หลังจากนั้นไม่นานอิมพ์ก็อธิบายสถานการณ์อีกเล็กน้อย และหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาอธิบายเด็กสาวก็ยื่นมือมาแนบอกอย่างช้าๆ "ข้าหวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นอะไรนะ... "

"ข้าคิดว่าพวกเขาไม่เป็นอะไรหรอก" เขาตอบกลับ นี่ทำให้แซมมี่หันกลับมามองเขาอย่างงง ๆ

“หมายความว่าไง” เธอถามเขาและอิมพ์ก็รีบบอกคลีเมนไทน์และแซมมี่ว่าเขาหมายถึงอะไร "ข้าคิดว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าใคร ในเมืองนั้นอสูรกับมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน ต่อให้เป็นมนุษย์ตนนั้นจะทรงอำนาจข้าก็ไม่คิดว่าจะมีใครถูกฆ่าหากยังอยู่ในเมืองนั้น "

"จริงเหรอ .. นี่เป็นเรื่องปกติของเมืองนี้งั้นหรอ?"ครีมเอ็นไทร์ถามขณะที่เธอหันหัวไปทางซ้ายเล็กน้อยเพื่อมองไปยังเมือง และอิมพ์ก็พยักหน้า "ข้าคิดว่าอย่างนั้นและเราก็ต้องรีบแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะหายไปอีกครั้งเมื่อคืนนี้จบลง ถ้าเรายังอยู่นอกเมืองอยู่ละก็เราก็คงต้องรออยู่ที่นี่จนกว่าเมืองจะกลับมา" อิมพ์อธิบายและความคิดนั้นดูเหมือนจะทำให้เด็กสาวทั้งสองสั่นสะท้าน

และไม่นานพวกเขาทั้งสามก็ได้เข้ามาใกล้กับปราสาทมากพอ แบบเดียวกับปราสาทอื่นที่นี่มีผู้คุ้มกัน 1 ตนประจำการแต่ดูเหมือนมันกำลังหลับอยู่บนบันได ดูเหมือนว่าเมืองนี้จะซ่อนตัวได้ง่ายที่สุดเพราะทุกคนที่นี่ดูเหมือนจะทำเพียงแค่หลับตลอดเวลาเท่านั้น

ดังนั้นแทนที่จะพาเด็กหญิงเหล่านั้นเดินทางขึ้นไปบนปราสาทกับเขาด้วย เขาจึงบอกให้พวกเธอไปซ่อนตัวอยู่ในจุดที่ใกล้กับปราสาทไว้เพื่อที่จะได้หนีเข้าเมืองได้เร็วที่สุด โชคดีที่ประตูของเมืองอยู่ในระยะที่มองเห็นได้โดยตรง ดังนั้นแม้ว่ามันจะค่อนข้างไกลก็ตามแต่พวกเขาก็สามารถวิ่งตรงไปที่นั่นได้ทันทีหากจำเป็น

"พวกเจ้ารออยู่ที่นี่เดี๋ยวข้ากลับมา" อิมพ์อธิบายให้เด็กหญิงฟังซึ่งทั้งสองก็พยักหน้า จากนั้นก็เริ่มทำตามแผนที่คิดว่าได้ผลดีที่สุดในตอนนี้

ลอร์ดแห่งความเกียจคร้านนั้นแทบไม่เคยตื่นขึ้นมาเลย แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาสามารถตื่นมาได้ทันทีและหากเป็นเช่นนั้นจะต้องไม่เป็นผลดีแน่

ดังนั้นอิมพ์จึงคิดว่าเขาควรจะไปในเส้นทางที่ปลอดภัยและเพียงแค่พยายามใช้สกิล 'ลอบเร้น' ของเขาและด้วยเหตุนี้เขาก็ยังเพิ่มอาวุธลับเข้ามาในแผนการนี้ด้วย

ตอนนี้เขากดหินเวทมนตร์เงาเข้ากับหน้าอกของตัวเองใกล้ๆกับหัวใจ จากนั้นอิมพ์ก็ส่งมานาของเขาผ่านฝ่ามือเข้าไปในหิน จากนั้นไม่นานหินนั้นก็เข้าไปในร่างกายของอิมพ์และเงาก็เริ่มกระจายไปทั่วร่างของเขา อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่อิมพ์หวังให้เกิดขึ้นและในไม่ช้าก็ดูเหมือนว่าความหวังของเขาจะเป็นจริงเพราะเขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสภาพที่แตกต่างไปจากเดิม เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเบาลง รวดเร็วขึ้นและเงียบสงบกว่าเดิม

ทันทีที่เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นกับอิมพ์ การแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงนี้

[ร่างกายของคุณกำลังถูกคุมด้วยเงามืด คุณจะเร็วขึ้น สังเกตได้ยากขึ้นและเสียงที่ออกมาจากเงียบมากขึ้น]

ด้วยการพยักหน้าอย่างพึงพอใจ อิมพ์ก็มองลงไปที่ร่างของเขาอย่างมีความสุขเมื่อเห็นว่าร่างกายของเขาเป็นสีดำและมีหมอกปกคลุมอยู่เหมือนกับร่างของอสูรเงาก่อนหน้านี้

แซมมี่และคลีเมนไทน์เองก็ยังประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น  แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆว่าเขาก็รู้ว่านี่ยังคงเป็นอิมพ์ดังนั้นพวกเธอจึงวางใจลงและด้วยเหตุนี้พวกเธอก็ไม่ได้หวาดกลัวมากเท่ากับก่อนหน้านี้อีกแล้ว

"ข้าจะกลับมาให้เร็วที่สุด "อิมพ์พูดด้วยเสียงของเขาที่แปลกไปจากปกติราวกับว่าเสียงนั้นดังมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะระบุที่มาได้

แต่มีสิ่งหนึ่งที่อิมพ์ไม่รู้อย่างแน่นอนก็คือทำไมเด็กๆถึงต้องถูกส่งไปหาลอร์ดแต่ละคนด้วย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักอีกทั้งยังค่อนข้างดีใจเล็กน้อยด้วย  จนถึงตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างก็ถูกส่งไปหาลอร์ดแต่ละคนและพวกเขาก็ยังอยู่ที่นั่น นั่นทำให้เขาหาเด็กเหล่านั้นเจอและเขาก็หวังว่าเด็กทุกคนจะอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยเหมือนกับคลีเมนไทน์และแซมมี่

เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เขาก็รีบวิ่งขึ้นบันไดและเมื่อเขาไปถึงชั้นบนสุดเขาก็ก้าวเข้าไปในห้องมืดตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้ทั้งหมดจะถูกปกคลุมไปด้วยผ้าห่มและหมอนเพื่อให้ทุกคนสามารถนอนหลับได้ทุกที่ในห้องและที่นี่ก็มีอสูรจำนวนมากนอนหลับอยู่

ผู้คุ้มกันเหล่านี้ไร้ประโยชน์เกินไปไหม ... พวกเขาควรจะปกป้องลอร์ดไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมพวกเขาถึงเอาแต่นอนกัน?

อิมพ์เดินผ่านห้องด้วยความรำคาญและเสียงเล็กน้อยก็ดังขึ้นมาจากผ้าห่มที่อยู่ใต้เท้าของเขา

จากนั้นที่มุมหนึ่งของห้องก็มีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกรงเด็กอยู่ และเด็กคนที่อิมพ์กำลังมองหาก็นอนอยู่บนหลังของมันและหลับอย่างเงียบ ๆ

ช่องว่างระหว่างแท่งนั้นแคบเกินไปที่จะเข้าไปได้  ดังนั้นอิมพ์จึงต้องหากุญแจเพื่อเปิดมัน และนั่นเป็นส่วนที่ค่อนข้างยากที่สุดในตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกหดหู่เล็กน้อยเช่นกันหลังจากใช้มานาเป็นจำนวนมากดังนั้นเขาจึงต้องรีบหามันให้เจอโดยเร็วที่สุดและพาลีออนออกไปก่อนที่จะมีใครตื่น

ดังนั้นอิมพ์จึงเลือกที่จะมองไปยังผู้คุ้มกันที่นอนอยู่ใกล้ๆกรง และก็โชคดีที่ผู้คุ้มกันคนนั้นมีกุญแจอยู่ นี่ทำให้อิมพ์สามารถเปิดกรงได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่ออิมพ์ก้าวเข้าไปในกรงเพื่อพาลีออนออกมาก็มีบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งมันได้ทำลายความเป็นไปได้ทั้งหมดลง

และในที่สุดมันก็เป็นความผิดพลาดของอิมพ์เอง เพราะตอนนี้เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ที่มุมหนึ่งของปราสาทแห่งนี้ก็แห่งนี้ก็หายไปและอิมพ์ก็สามารถมองเห็นที่มาของการระเบิดได้อย่างชัดเจน

มันมาจากปราสาทแห่งความโกรธเกรี้ยว

และในขณะที่อิมพ์กำลังจ้องมองไปยังจุดนั้นซึ่งอยู่ไกลออกไป มุมสายตาของเขาก็ได้มองเห็นอสูรตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่มีน้ำหนักมากกำลังยืนขึ้นและค่อยๆหันหน้ามามองทางอิมพ์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด