ตอนที่แล้วตอนที่ 11 ขึ้นและลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 ซื้ออาคารสำนักงาน

ตอนที่ 12 ตั้งบริษัทใหม่


หวังเสี่ยวหวู่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรไปในตอนนี้ เธอทำได้เพียงแค่หันกลับมาและเดินจากไปโดยที่ไม่เต็มใจ

กลับมาที่บ้าน เตวหยูหลาน พอรู้เรื่องนี้ก็โกรธมาก

“ครั้งนี้ยัยแก่นั้นทำเกินไปแล้ว!”

เตวหยูหลาน เดินไปรอบ ๆ พร้อมกับบ่น

“ไม่ได้การแล้วฉันจะโทรไปหาพ่อของเธอ บอกให้เขารีบกลับมา ถ้าตระกูลหวังตกอยู่ในมือของหวังซูครอบครัวของเราจะเป็นยังไงต่อไปละเนี้ย?”

เตวหยูหลาน หยึบโทรศัพท์ด้วยความโกรธและจะกดโทรออก

"แม่อย่า! พ่อเพิ่งหายจากการพักฟื้น อย่ามารบกวนเขาด้วยเรื่องนี้เลย!"

หวังเสี่ยวหวู่กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้า

เตวหยูหลาน วางโทรศัพท์ลง แต่ทว่าเธอก็ยังโกรธอยู่

เธอเหลือบมองไปที่เจียงเป่ยเฉินซึ่งกำลังดูทีวีอยู่ข้างๆ และทันใดนั้นก็โกรธขึ้น เธอรีบคว้ารีโมทและกดปิดทันที: "ดูแกสิ! แกมันไรประโยชน์จริงๆ! เสี่ยวหวู่ถูกทำแบบนี้แกไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ? แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่เราจะเก็บแกไว้เนี้ย! "

หวังเสี่ยวหวู่ มองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน เธออดไม่ได้ที่จะส่ายหัว แม้ว่าสิ่งที่แม่พูดจะแย่ไปหน่อย แต่มันก็คือเรื่องจริง สามีของเธอที่กลับมาช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย

เธอรู้สึกเหนื่อยกับเรื่องนี้

ในเวลานั้น เจียงเป่ยเฉิน ส่ายหัวแล้วเหลือบมองไปที่ หวังเสี่ยวหวู่ และพูดว่า "มันก็แค่บริษัทไม่ใช่หรอ? ก็แค่สร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งแค่นั้นเอง! "

เมื่อได้ยินเจียงเป่ยเฉินพูดนั้นพวกเธอต่างก็ตกตะลึง

"เรื่องไร้สาระ! นายคิดว่าการสร้างบริษัทมันง่ายหรอ?"

"นายมีเงินทุนสำหรับสร้างโรงงานหรอ?"

"มีเงินเช่าตึกอาคารสำนักงานหรอ? "

เตวหยูหลาน มองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน ราวกับว่ากำลังมองดูคนโง่และพูดอย่างเย็นชา: "ความคิดของนายนี่มันบ้าบอจริงๆ ฉันไม่น่าถามนายเลย!"

หวังเสี่ยวหวู่ นั่งเงียบขมวดคิ้วและพูดว่า "แม่ก็อาจจะเป็นไปได้นะ พ่อสร้างแบรนด์ซือหยุ่นมา ทีมงานต่างๆก็ได้รับการดูแลจากฉันพวกเขาน่าจะตามฉันไป ในด้านการผลิตถ้าเราสามารถหาเงินทุนได้เราก็สามารถหาโรงหล่อได้ ที่เหลือก็แค่หาเช่าตึกสำนักงาน! "

เมื่อพูดจบคิ้วของ หวังเสี่ยวหวู่ ก็ค่อยๆคลายออก

หลายปีมานี้เธอตกอยู่ในความหวาดกลัวว่าวันหนึ่ง ซือหยุ่น จะถูกพรากไปจากเธอ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน คุณย่าก็ยังพราก ซือหยุ่นไปจากเธออยู่ดี

เจียงเป่ยเฉิน มองเธออย่างชื่นชม

“เสี่ยวหวู่ บ้าไปแล้วหรอ? ถ้าเธอทำแบบนั้นเท่ากับว่าเธอต้องสู้กับคุณย่าของเธอนะ จะไม่มีทางให้ถอยกลับแล้วนะ!”

เตวหยูหลาน รีบตะโกนด้วยความตื่นตระหนกเธอรู้ว่าหญิงชราโหดร้ายเพียงใด ผู้ที่ต่อต้านหญิงชราในตระกูลหวังจะไม่จบลงด้วยดีอย่างแน่นอน

"แทนที่จะนั่งรอความตาย จะดีกว่าที่จะริเริ่มและกำหนดชะตากรรมด้วยมือของตัวเอง!"

เจียงเป่ยเฉิน กล่าวเบา ๆ สนับสนุนการตัดสินใจของ หวังเสี่ยวหวู่

"เจียงเป่ยเฉิน หุบปาก! เพราะความคิดบ้าๆของแกที่บอก เสี่ยวหวู่ แกอยากจะทำให้ครอบครัวเราพินาส? "

เตวหยูหลาน ต่อว่าเขา

เจียงเป่ยเฉิน ไม่สนใจหันไปหา หวังเสี่ยวหวู่ และพูดว่า "ถ้าเธอมีปัญหา ฉันจะช่วยเธอเอง!"

“ไม่เป็นไรฉันดูแลตัวเองได้!”

หวังเสี่ยวหวู่ ขมวดคิ้ว ในความคิดของเธอผู้ชายคนนี้แค่พูดดีไปเท่านั้น เพราะตัวเขาเองก็ยังไม่มีงานทำเลย แล้วยังจะมายุ่งเรื่องของเธออีก

"ยัยบ้า! แกมันบ้า ไปฟังมันทำไม!"

เตวหยูหลาน นั่งบนโซฟาด้วยความโกรธ

"แม่ฉันตัดสินใจแล้วไม่เกี่ยวกับเขา!"

หลังจากรับรู้ถึงความตั้งใจของ หวังเสี่ยวหวู่ เตวหยูหลาน เห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจกับแผนของ หวังเสี่ยวหวู่ ในการเริ่ม บริษัท ใหม่

สำหรับการจัดตั้ง บริษัท ใหม่หวังเสี่ยวหวู่ ต้องจัดการปัญหาเรื่องเงินทุน การเริ่มต้น บริษัท ใหม่ต้องมีอย่างน้อยสองถึงสามล้านเพื่อที่จะเริ่มต้น ที่เธอคิดคือการกู้จากธนาคาร เธอจึงติดต่อไปที่ธนาคารหลายธนาคาร แต่พวกเขาก็ปฏิเสธโดยทันที สถานการณ์เศรษฐกิจปีนี้ไม่ดีธนาคารทุกที่จึงเข้มงวดมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะขอกู้

“ดูเหมือนว่าต้องขอความช่วยเหลือจากเฉินจื่อเฉา!”

เธอรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้

หลังจากที่ลังเลเธอก็โทรหาเฉินจื่อเฉ่า

เมื่อ หวังเสี่ยวหวู่ โทรศัพท์ เตวหยูหลาน ที่อยู่ใกล้ ๆ เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน และพูดว่า "ในช่วงเวลาวิกฤตเรายังมีคนที่ช่วยเราได้อยู่ จื่อเฉ่าเป็นคนดี เก่งและมีความสารมารถในการบริหาร! "

เฉินจื่อเฉ่า เคยไปที่บ้านตระกูล หวัง หลายครั้งก่อนหน้านี้และทุกครั้งที่เขานำของขวัญระดับไฮเอนด์มาให้มากมาย ที่สำคัญคือเขาเป็นซีอีโอของ บริษัท ตั้งแต่อายุยังน้อยและ เตวหยูหลาน พอใจในตัวเขามาก เธอแทบรอไม่ไหวที่จะให้ หวังเสี่ยวหวู่ และ เจียงเป่ยเฉิน หย่ากับแล้วจากนั้น เธอจะทำให้ เฉินจื่อเฉ่า เป็นลูกเขยของเธอ

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เฉินจื่อเฉ่า กำลังถือขวดไวน์นั่งอยู่คนเดียวในอาคารสำนักงานที่รกร้างเต็มไปด้วยเศษกระดาษ

ในเวลาเพียงสองวัน บริษัท เทคโนโลยีที่กำลังจะเฉิดฉายดุจพระอาทิตย์ขึ้นก็พังทลายลงทันทีเนื่องจากการยกเลิกความร่วมมือของ หรงติ่ง

เขาล้มละลายและเป็นหนี้

คำตอบที่ได้รับจาก หรงติ่ง คือเขาได้ยั่วยุคนที่ไม่ควร เขาใช้สมองอย่างหนักและคิดไม่ตกว่าเขาไปทำให้ใครขุ่นเคือง?

“เฮ้จื่อเฉ่าขอบคุณนายสำหรับเรื่องที่ผ่านมา แต่ฉันมีบ้างอย่างอยากให้นายช่วย ฉันกำลังจะตั้ง บริษัท ใหม่ต้องการเงินทุนเพื่อเริ่มสักหน่อย สัก….สองล้าน!”

หวังเสี่ยวหวู่ ลังเลขณะที่พูดออกไป

เฉินจื่อเฉาได้ยินว่าเป็นหวังซิวหวู่ดวงตาของเป็นประกายทันที แต่เมื่อเขาได้ยินคำว่าสองล้านใบหน้าของเขาก็กระตุกทันที "ขอโทษเสี่ยวหวู่เร็ว ๆ นี้ผมก็มีปัญหาอยู่เหมือนกันดังนั้น ... "

"โอ้? เธอไม่ได้ต้องการเงินสิบล้านหรอ? "

หวังเสี่ยวหวู่ รู้สึกประหม่า เพราะ เฉินจื่อเฉ่า ได้แอบเอาเงินทุนของ หรงติ่ง มาเพื่อช่วยเหลือเธอ หากเรื่องนี้ถูกพบโดย หรงติ่ง เฉินจื่อเฉ่าจะตกที่นั่งลำบาก! "สิบล้าน?"

เฉินจื่อเฉ่ารู้สึกสับสน

หวังเสี่ยวหวู่ รู้สึกประหลาดเธอจึงถามออกไป: "นายไม่ได้เป็คนฉันส่งเช็คสิบล้านนั้นมาเหรอ?"

“เช็คสิบล้าน?”

"จะมีเช็คสิบล้านได้ยังไง! "

เฉินจื่อเฉ่ายิ้มอย่างขมขื่น ถ้าเขามีสิบล้านเขาจะล้มละลายแบบต้อนนี้หรอ

หลังจากที่วางสายแล้วหวังเสี่ยวหวู่ ก็สับสนทันที เช็คนั้นไม่ได้มาจากเฉินจื่อเฉ่า! ถ้าเฉินจื่อเฉ่าแล้วมันเป็นของใคร?

เธอเหลือบมองเจียงเป่ยเฉินโดยไม่รู้ตัว

แต่เธอก็สลัดความคิดทิ้งไปทันที

มันคงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อน่าดู ทหารจะมีเงินเป็นสินล้านได้ยังไง

หลังจากครุ่นคิดอยู่นานหวังเสี่ยวหวู่ ก็ยังคงสับสนและคิดไม่ออกจริงๆ

ยังไงก็ตามตอนนี้เธอต้องแก้ไขปัญหาเรื่องเงินทุนก่อน ไม่งั้นแล้วแผนการตั้ง บริษัท ใหม่ของเธอจะล้มเหลวทันที

หวังเสี่ยวหวู่ รู้สึกทำอะไรไม่ถูก

หากไม่สามารถกู้ยืมได้ วิธีสุดท้ายที่เธอจะคิดออกก็มีแค่วิธีเดียวคือการร่วมลงทุน เธอจึงคิดที่จะเดินทางไป หรงติ่ง เพื่อขอความร่วมมือ ก่อนหน้า หรงติ่ง บอกกับเธอว่าพวกเขามองเห็นศักยภาพของ ซือหยุ่น เธอจึงอยากที่จะทดลองดู

ในที่สุด หวังเสี่ยวหวู่ มาถึง หรงติ่ง เธอได้ไปพูดคุยกับผู้จัดการฝ่ายการลงทุนของ หรงติ่ง เกี่ยวกับแผนการของเธอ แม้ว่าแผนของเธอจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากผู้จัดการโจวก็ขมวดคิ้วทันทีหลังจากที่อ่านมัน

หวังเสี่ยวหวู่ สังเกตสีหน้าและท่าทางของเขาเธอก็รู้สึกได้ทันทีว่า มีโอกาส 80% ที่จะถูกเขาปฏิเสทกลับมา

"ขอโทษนะคุณหวัง"

กรี๊งง! เมื่อผู้จัดการโจวกำลังจะเปิดปากปฏิเสธโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นทันที

"ขอโทษนะ ขอเวลาสักครู่ ขอรับโทรศัพท์ก่อน!"

ผู้จัดการโจวแสดงสีหน้าขอโทษและลุกขึ้นเพื่อรับโทรศัพท์

"โอเคท่านประธาน โอเคโอเคผมเข้าใจแล้ว!"

เมื่อผู้จัดการโจวรับโทรศัพท์ท่ามีเขาแสดงถึงเคารพอย่างมาก หลังจากโทรศัพท์เสร็จแล้วเขาก็เดินกลับมาและยิ้มให้เธอทันที

"ฮ่าๆ คุณหวังผมเพิ่งอ่านแผนเสร็จมันดีมากเลยพวกเรา หรงติ่ง มองเห็นแนวทางเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดีของ บริษัท คุณ!"

“อืม ... คุณโจวคุณโอเค?”

หวังเสี่ยวหวู่ รู้สึกประหลาดใจ

//

//

//

//

รอกันนานไหมครับกลับมาลงเหมือนเดิมแล้วน๊าาาาาา ขอโทดที่หายไปนานนะครับบบบบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด